สัตตานัง จาก "คึกฤทธิ์กถา สาวกทุพภาษิต"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่านคึกฤทธิ์ผู้กล่าวว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมของพระศาสดาแล้ว แต่มิได้ทำตนเป็นมรรคานุคา กลับแสดงธรรมอธิบายธรรมเอง บทความนี้ ข้าพเจ้าผู้ไม่รู้ทั่วถึงธรรมอันลึกซึ้ง ประณีตของพระศาสดา ทำได้แต่เพียงเข้าเฝ้าพระองค์ผ่านพระไตรปิฎกเท่านั้น จะขอถามท่านคึกฤทธิ์ว่า “สัตตานัง” ของท่าน คืออะไร ท่านไปเอาที่ไหนมาอธิบายให้สาวกฟังเป็นตุเป็นตะ
ท่านอธิบายว่า สิ่งที่ไปเกิดคือ สัตตานัง และอธิบายว่า สัตตานังคือสัตว์ที่เกาะขันธ์ห้าแล้วไปเกิด ท่านเอาที่ไหนมา
ความจริงของพระสูตรนี้ ปรารภด้วยเรื่องพระสาติ กล่าวต่อชาวบ้านว่า ตนรู้ทั่วถึงธรรมพระตถาคต พระสาติแสดงต่อชาวบ้านว่า วิญญาณเป็นผู้ไปเกิด พระพุทธเจ้าจึงเรียกพระสาติมาพบ แล้วถามว่าจริงหรือ พระสาติตอบว่าจริงพระเจ้าข้า พระพุทธองค์จึงทรงสอบสวนความรู้ของพระสาติ ด้วยคำถามดังนี้
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรสาติ วิญญาณนั้นเป็นอย่างไร?
สาติภิกษุทูลว่า สภาวะที่พูดได้ รับรู้ได้ ย่อมเสวยวิบากของกรรมทั้งหลาย ทั้งส่วนดี
ทั้งส่วนชั่วในที่นั้นๆ นั่นเป็นวิญญาณ.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรโมฆบุรุษ เธอรู้ธรรมอย่างนี้ที่เราแสดงแก่ใครเล่า
ดูกรโมฆบุรุษ วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี
ดูกรโมฆบุรุษ ก็เมื่อเป็นดังนั้น เธอกล่าวตู่เราด้วยขุดตนเสียด้วย จะประสพบาปมิใช่บุญมากด้วย เพราะทิฏฐิที่ตนถือชั่วแล้ว
ดูกรโมฆบุรุษก็ความเห็นนั้นของเธอ จักเป็นไปเพื่อโทษไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน./ พุทธพจน์
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
พระพุทธองค์ ทรงติเตียนพระสาติที่ตัดทอนถ้อยคำของพระองค์ไปสอนแก่ชาวบ้าน โดยตัดไปแต่เพียงคำว่า วิญญาณไปเกิด แต่ไม่ได้นำเอาคำสอนเรื่องปัจจัยที่ประชุมลงในวิญญาณนั้นไปสอนด้วย (ปฏิจสมุปบาท) ดังคำตรัสว่า "ดูกรโมฆบุรุษ วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี "
ต่อมาท่านคึกฤทธิ์อ่านพระพุทธพจน์นี้แล้วไม่เข้าใจ จึงได้สอนลูกศิษย์ลูกหาว่า สัตว์ที่จับขันธ์ห้านั่นหล่ะไปเกิด สัตว์ที่จับขันธ์ห้าคืออะไร ท่านคึกฤทธิ์ไม่ได้อธิบายให้ลูกศิษย์เข้าใจ แต่จบความงงของลูกศิษย์ด้วยคำว่า "สัตตานัง" ง่ายดีแล้วให้ลูกศิษย์จำวาทะกรรมว่า "สัตตานังเป็นผู้ไปเกิด" แบบผิดๆ
ที่มาข้อความ http://watnaprapong.blogspot.com/2014/11/blog-post_12.html
สัตตานัง จาก "คึกฤทธิ์กถา สาวกทุพภาษิต"
ท่านคึกฤทธิ์ผู้กล่าวว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมของพระศาสดาแล้ว แต่มิได้ทำตนเป็นมรรคานุคา กลับแสดงธรรมอธิบายธรรมเอง บทความนี้ ข้าพเจ้าผู้ไม่รู้ทั่วถึงธรรมอันลึกซึ้ง ประณีตของพระศาสดา ทำได้แต่เพียงเข้าเฝ้าพระองค์ผ่านพระไตรปิฎกเท่านั้น จะขอถามท่านคึกฤทธิ์ว่า “สัตตานัง” ของท่าน คืออะไร ท่านไปเอาที่ไหนมาอธิบายให้สาวกฟังเป็นตุเป็นตะ
ท่านอธิบายว่า สิ่งที่ไปเกิดคือ สัตตานัง และอธิบายว่า สัตตานังคือสัตว์ที่เกาะขันธ์ห้าแล้วไปเกิด ท่านเอาที่ไหนมา
ความจริงของพระสูตรนี้ ปรารภด้วยเรื่องพระสาติ กล่าวต่อชาวบ้านว่า ตนรู้ทั่วถึงธรรมพระตถาคต พระสาติแสดงต่อชาวบ้านว่า วิญญาณเป็นผู้ไปเกิด พระพุทธเจ้าจึงเรียกพระสาติมาพบ แล้วถามว่าจริงหรือ พระสาติตอบว่าจริงพระเจ้าข้า พระพุทธองค์จึงทรงสอบสวนความรู้ของพระสาติ ด้วยคำถามดังนี้
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรสาติ วิญญาณนั้นเป็นอย่างไร?
สาติภิกษุทูลว่า สภาวะที่พูดได้ รับรู้ได้ ย่อมเสวยวิบากของกรรมทั้งหลาย ทั้งส่วนดี
ทั้งส่วนชั่วในที่นั้นๆ นั่นเป็นวิญญาณ.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรโมฆบุรุษ เธอรู้ธรรมอย่างนี้ที่เราแสดงแก่ใครเล่า
ดูกรโมฆบุรุษ วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี
ดูกรโมฆบุรุษ ก็เมื่อเป็นดังนั้น เธอกล่าวตู่เราด้วยขุดตนเสียด้วย จะประสพบาปมิใช่บุญมากด้วย เพราะทิฏฐิที่ตนถือชั่วแล้ว
ดูกรโมฆบุรุษก็ความเห็นนั้นของเธอ จักเป็นไปเพื่อโทษไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน./ พุทธพจน์
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
พระพุทธองค์ ทรงติเตียนพระสาติที่ตัดทอนถ้อยคำของพระองค์ไปสอนแก่ชาวบ้าน โดยตัดไปแต่เพียงคำว่า วิญญาณไปเกิด แต่ไม่ได้นำเอาคำสอนเรื่องปัจจัยที่ประชุมลงในวิญญาณนั้นไปสอนด้วย (ปฏิจสมุปบาท) ดังคำตรัสว่า "ดูกรโมฆบุรุษ วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี "
ต่อมาท่านคึกฤทธิ์อ่านพระพุทธพจน์นี้แล้วไม่เข้าใจ จึงได้สอนลูกศิษย์ลูกหาว่า สัตว์ที่จับขันธ์ห้านั่นหล่ะไปเกิด สัตว์ที่จับขันธ์ห้าคืออะไร ท่านคึกฤทธิ์ไม่ได้อธิบายให้ลูกศิษย์เข้าใจ แต่จบความงงของลูกศิษย์ด้วยคำว่า "สัตตานัง" ง่ายดีแล้วให้ลูกศิษย์จำวาทะกรรมว่า "สัตตานังเป็นผู้ไปเกิด" แบบผิดๆ
ที่มาข้อความ http://watnaprapong.blogspot.com/2014/11/blog-post_12.html