ตอนนี้อีก 2 เดือนก็จะทำโครงหน้าครบ 1 ปีแล้วค่ะเลยอยากจะมาเล่าเรื่องการทำศัลกรรมของตัวเองให้กับคนที่กำลังหาข้อมูลและมีแพลนที่จะไปทำศัลที่เกาหลีเหมือนเราค่ะ

แรกๆก็แค่ส่องๆดูดีวิวของคนอื่น ทั้งที่ทำในไทย กับไปทำที่เกาหลี และนอกจากดูรีวิวของคนอื่นแล้วออมได้ติดตามงานปรึกษาศัลยกรรมและไปปรึกษากับโรงพยาบาลหลายๆที่ ที่มาจัดงานปรึกษา เพราะเดียวนี้เราสามารถที่จะไปงานปรึกษาศัลยกรรมของโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อปรึกษากับคุณหมอก่อนตัดสินใจได้  แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบโจทย์ออมได้ เลยลองคุยกับคุณเคท เอเจนซี่ Surgery Review ดูจนได้ไปงานปรึกษากับทางโรงพยาบาล Gyalumhan Plastic Surgery ตอนแรกจะตัดสินใจทำที่ไทยแต่พอเปรียบเทียบราคาดู ราคาที่ไทยถ้าทำกับอาจารย์หมอเก่งๆเลยราคาก็แอบสูงอยู่นะ แตกต่างจากเกาหลีไปไม่เท่าไหร่เอง   หลังจากได้ปรึกษากับคุณหมอในงานรึกษาแล้ว รู้สึกว่าคุณหมอเป็นคนละเอียดและเอาใจใส่กับคนไข้มาก ตอบคำถาม และ ร่วมหาแนวทางแก้ไขข้อด้อยและปัญหาบนใบหน้าของเราได้เคลียร์มาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ออมมั่นใจและตัดสินใจที่จะทำกับ ทางโรงพยาบาล Gyalumhan ค่ะ ในงานปรึกษายังมีโปรโมชั่นจากทางโรงพยาบาลอีกเพียบ เลยได้ราคาไม่สูงมาก ทำให้สามารถไปทำได้เลย ขอบคุณ เคทมากที่คอยแนะนำ นอกจากหน้าแล้วยังเหลือเงินไว้ทำตาได้อีกด้วย 


นี่เป็นรูปก่อนผ่าตัดบางคนอาจมองว่าหน้าอยู่เล็กแล้วจะไปทำอีกทำไม แต่ส่วนตัวเรากลับมองว่าตัวเองคางยื่น แล้วก็แอบมีโหนกแก้มแหลมๆหน้าดูเหวี่ยงและตาดูไม่สดใส คนชอบทักว่าเราง่วงทั้งๆที่ เราก็ไม่ได้ง่วงนอน


ปรึกษา Dr. Ahn tae joo (หมออัน) คุณหมอที่ทำตา คุณหมอละเอียดมาก ให้คำแนะนำดีมาก


ปรึกษา Dr. Kim nam ho (หมอคิม) คุณหมอผ่าตัดโครงหน้า 

เราขอแบ่งช่วงการทำศัลยกรรมแบบนี้นะคะ

วันแรกที่ไปถึงเกาหลี มีรถรับส่งจากโรงพยาบาลมารอรับที่สนามบินฟรีด้วยนะคะ แล้วพาเรามาส่งที่โรงพยาบาล ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล มีความรู้สึกว่าที่ Gyalumhun ไม่เหมือนโรงพยาบาลทั่วไปเลยค่ะ ดูเหมือแกลลอรี่รูปภาพมากกว่า ให้ความรู้สึกแบบเพลินๆลืมความกังวล ลืมความตื่นเต้นไปได้นิดหน่อย 555 เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วออมได้ปรึกษา Dr. Ahn Tae Joo (หมออัน) กับ Dr. Kim Nam Ho (หมอคิม) ถ้าเขียนชื่อหมอผิดต้องขอโทษด้วยนะคะ หลังจากปรึกษาคุณหมอทั้งสองท่านเรียบร้อย เราก็ตกลงว่าผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตาในวันนี้เลย วันที่ 8 ตุลาคม 2561 ตรวจร่างกาย ทำ CT Scan ไว้ และ ผ่าตัดโครงหน้า วันที่ 10 ตุลาคม เพราะวันที่ 9 คุณหมอติดคิวผ่าตัด และคุณหมอที่นี่จะผ่าตัดโครงหน้าแค่ช่วงเช้าเท่านั้นเพื่อให้คนไข้ได้พักผ่อนหลังผ่าตัดมากๆ 


หลังผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา 4-5 ชม. ตอนแรกนึกว่าจะบวมจนลืมตาไม่ขึ้นซะอีก


หลังทำตา 1 วัน เราไม่มีอาการเขียวช้ำ แถมยังบวมไม่เยอะด้วย รู้สึกดีคงเป็นเพราะหมออันมือเบา วันนี้ได้พักผ่อน 1 วัน


วันนี้เราไปซื้อของสำหรับไว้ทำอาหารทานเองหลังผ่าตัด ประหยัดแล้วก็คิดว่าจะสับทุกอย่างให้ละเอียดหลังผ่าตัดจะได้ทานได้ง่ายๆ


วันที่ 10 ตุลาคม วันนี้หมอนัดแต่เช้า 08.00 น. พอไปถึงก็เข้าไปปรึกษาหมอ Kim Nam Ho อีกรอบ หลังสรุปได้ว่าเราอยากได้โครงหน้าแบบไหนก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจะมีวิสัญญีแพทย์เข้ามาสอบถามข้อมูลเราอย่างละเอียด จากนั้นพยาบาลก็ฉีดยาอะไรสักอย่างทางสายน้ำเกลือ พาไปห้องผ่าตัดหลังจากนั้นไม่รู้ตัวอีกเลย


ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ชม. พอตื่นมาอีกทีก็สภาพนี้เลยค่ะ เห็นแบบนี้บอกได้เลยนะคะว่าไม่เจ็บอย่างที่คิดไว้ ที่นี่ผ่าตัดแบบไม่มีสายเดรนเลือดนะคะ (ตอนแรกกังวลกับสายเดรนมากมีคนเคยลงไว้ในรีวิวว่าเจ็บมากตอนดึงออก) นี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เราเลือกผ่าที่ Gaylumhun ค่ะ หลังจากตื่นจากการผ่าตัดผ่าตัดเรานอนหลับได้ยาว ไม่ต้องคอยฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง แต่ต้องนอนหมอนสูงนะ พยาบาลบอกจะได้ยุบบวมเร็วๆ


ตื่นมาอีกทีพยาบาลปลุกให้ทานน้ำกับไอศครีม อร่อยอ่ะ ชอบ ไม่คิดว่าจะกินได้


หลังกินเสร็จเราลุกเข้าห้องน้ำได้เอง ไม่มีอาการมึน เวียนหัว หรืออาเจียนใดๆ คืนนี้นอนพักที่รพ. 1 คืน คุณหมอกับพยาบาลคอยเดินมาดูอาการ และถามอาการบ่อยๆ ประทับใจมาก ดูแลดีมาก


นี่คือหน้าตาของยาที่ได้ก่อนออกจากโรงพยาบาลนะคะ จะแบ่งเป็นชุดๆอยู่ในซองเพื่อให้ง่ายต่อการทานยาค่ะ ทานให้หมดนะคะย้ำๆ


ผ่าโครงหน้า 2 วัน ออกจารพ. มาพักผ่อนที่ห้องพักแล้วค่ะ วันนี้ประคบเย็นทั้งวันไม่ออกไปเลย จะได้ยุบบวมไวๆ


วันที่ 3 วันนี้ออกมาเดินเล่นรับลมข้างนอกค่ะ อากาศที่เกาหลีคือดีมาก เดินเยอะๆก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดบวม พยาบาบบอกมาแบบนั้นค่ะ


วันที 4 คุณเคทพาออกมาเดินเล่น ที่วันนี้มาเดินเที่ยวที่หมูบ้านบุกชอนฮันอ๊กค่ะ


ต่อด้วยคลองชองกเยชอน


สุดท้ายจบด้วยการหาของกินที่เมียงดง


วันที่ 5 เริ่มลดบวมลงบ้างแล้วค่ะ เราประคบเย็นทุกวันก่อนนอนเพื่อให้หน้ายุบบวมไวๆ


วันที่ 6 วันนี้แกะเทปพันหน้าแล้วค่ะ ได้เห็นโครงหน้าตัวเองล่ะ หน้ายังดูกลมๆ แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือคางที่สั้นลง และดูไม่ยื่นค่ะ ลืมบอกว่ามีเลเซอร์ลดบวมทำให้ฟรีทุกวัน เราเข้ามาทำทุกวันเพราะอยากให้ลดบวมไวๆ คนที่เคยผ่าตัดบอกว่ามันช่วยได้แต่ที่อื่นไม่ได้ทำทุกวัน (เราถามเค้ามาอีกที)


วันที่ 7 วันนี้เรามาทำเลเซอร์ ลดบวมที่โรงพยาบาลค่ะ ระหว่างรอเลยลองแต่งรูปเปรียบเทียบดู


หลังจากทำเลเซอร์ลดบวมแล้วก็ออกมาทานข้าว หลังจาก 3 วันแรก เราทานอาหารได้ปกตินะคะ แค่ไม่ทานของที่ต้องออกแรงเคี้ยวมากๆเท่านั้นเอง ตอนอยู่เกาหลีเราเดินเยอะมาก ไปเที่ยว ไปดูของ ช๊อปปิ้งตลอด เลยอาจทำให้ยุบบวมได้ไว


วันที่ 8 รอพบคุณหมอเพื่อดูอาการก่อนบินกลับไทยค่ะ เราชอบพนักงานที่นี่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ใจดีมากเราว่าเค้าดูแลคนไข้ดี ชอบคุณปาร์ค กับคุณฮายันมาก น่ารักและดูแลเราดีมาก (ความชอบส่วนตัวนะคะ) เราอยู่เกาหลีทั้งหมด 10 วัน รวมวันที่บินไป-กลับ เพราะมีงานต้องรีบกลับมา


หลังผ่าโครงหน้า 10 วัน มาทำงานได้ปกติ บวมนิดหน่อยแต่ไม่น่าเกลียดถ้าคนไม่รู้ว่าไปทำอะไรก็ไม่สังเกตุเห็น


ผ่านไป 14 วัน แล้วค่ะ โครงหน้าชัดขึ้นเรื่อยๆ คนเริ่มทักเยอะว่าหน้าเปลี่ยน


โครงหน้าครบ 1 เดือนค่ะ


โครงหน้าครบ 3 เดือน


โครงหน้าครบ 4 เดือน


โครงหน้าครบ 7 เดือน


ล่าสุดโครงหน้าตอนนี้ 10 เดือนแล้วค่ะ เรามีแพลนจะไปร้อยไหมและแก้จมูกกับหมออันถ้าโครงหน้าครบ 1 ปี ใครมีทรงจมูกสวยๆเอามาอวดกันหน่อยนะคะ เรายังไม่รู้เลยว่าทรงไหนจะเข้ากับหน้าเราบ้าง  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านรีวิวแรกของเรายังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้สาวๆที่ชื่นชอบการทำศัลยกรรมแบบเราด้วยนะคะ