[CR] รีวิวศัลยกรรมเกาหลีให้เป็นโรเซ่!! ทำโครงหน้า 3 จุดที่เกาหลี!! ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ออกเที่ยวได้สบายๆ

     สวัสดีค่ะทุกคน หัวเราะ
     แนะนำตัวสักหน่อย ชื่อดารัณ อายุ 25 ปีค่ะ ส่วนตัวเป็นติ่งเกาหลีขั้นสุดนะคะ ตามอยู่วงเดียวก็คือวง...การเกาหลีค่ะ555 ทุกคนเคยเป็นกันบ้างไหมเวลาดูไอดอลที่เราชอบ เราก็อยากสวยอยากดูดีแบบพวกเขา อยากดูแลตัวเองให้ปังปูริเย้บ้าง ก็มานั่งดูหน้าตัวเอง เอ้ะ มีตรงไหนที่มันสามารถสวยขึ้นได้อีกบ้างนะ ก็ตกลงกับตัวเองได้ว่า โครงหน้าเนี่ยแหละที่ฉันยังไม่ชอบ อยากปรับสักหน่อยให้แบบหวานๆ ถ้าพูดเรื่องศัลยกรรมก็ต้องนึกถึงเกาหลีเป็นที่แรกจริงไหมคะ? เราก็เลยตัดสินใจครั้งใหญ่ เอาละ! บินไปทุบหน้ากัน!      
  มาเริ่มจากจุดเริ่มต้นนะคะ เราต้องหาเอเจนซี่ที่ถูกจริตก่อนเราก็คุยหลายที่ทั้งเอเจนซี่ของโรงพยาบาลเอง และหลายที่ในไทย สรุปก็จบที่ SR surgery review ได้เจอพี่เคท ก็คือให้ข้อมูลครบและทีมจะดูแลเราตั้งแต่ถึง-จนกลับจากเกาหลีเลยค่ะ ใครที่กลัวการไปเกาหลีสามารถทักหาพี่เคทที่เฟสบุ๊คหรือไลน์ SR surgery review ได้เลยชีวิตจะง่ายขึ้นมาก
    
  ปัญหาบนหน้าของรัณคือกรามที่ใหญ่และสองข้างไม่เท่ากัน เวลาถ่ายหน้าจะต้องแต่งรูปเอาหน้าเข้าสักนิดถึงจะรู้สึกว่าพอใจ ลงรูปได้ ก็เลยปรึกษาเอเจนซี่ว่าอยากได้โครงหน้าหวานๆ แบบโรเซ่ Blackpink จะต้องทำกับคุณหมอคนไหนดีขอแบบฝีมือฉ่ำๆ สุดท้ายก็ได้คุณหมอ Kim Nam Ho โรงพยาบาล Seoulface21 ด้วยความที่เห็นผลงานคุณหมอแล้วรู้สึกว่า สวยมากตรงสเปค และคุณหมอก็เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงหน้าโดยเฉพาะ เลยไม่รอช้า รีบหาวันและจองคิวกับคุณเคทเลยค่ะ
 และแล้วก็ถึงวันบิน✈️
   บินลัดฟ้ามาถึงเกาหลีเรียบร้อย ไม่ต้องเครียดเรื่องการไปกลับสนามบินเพราะมีคนจากเอเจนซี่มารับมาส่งที่โรงแรมแบบเลิศๆ วันนี้จะเข้าพบคุณหมอเป็นครั้งแรก หลังจากเก็บของที่โรงแรมเรียบร้อย รัณก็เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียวค่ะโรงพยาบาลจะลงสถานี Gangnam ทางออก1 ขึ้นมาปุ๊บเจอโรงพยาบาลเลย เดินทางง่ายมากๆ พอเจอคุณหมอก็คือเฟรนลี่มากๆ พี่ๆพยาบาลก็ใจดี ให้ขนมเรามากิน จนเราหายตื่นเต้นเลย555 
คุณหมอก็แนะนำทำรายการดังนี้ค่ะ
1.ยุบโหนก แผลด้านหน้าหูสองข้าง
2.ตัดกราม แผลด้านในปาก
3.ฉีดไขมันหน้าผาก ดูดไขมันมาจากบริเวณหน้าท้อง (เลือกจุดที่อยากให้เอาไขมันไปได้ค่ะ)
4.ร้อยไหมละลายบริเวณกรอบหน้า
   ตอนแรกนึกว่าต้องทำคางด้วย แต่หลังจากปรึกษาคุณหมอก็บอกว่าคางสวยแล้ว ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร แอบเขินนิดๆ คุณหมอเอาโครงหน้าเราเทียบกับโครงหน้าของโรเซ่ให้เห็นชัดๆกันไปเลยว่าต่างกันตรงไหนบ้าง (ขณะพูดคุย มีพี่ล่ามจากเอเจนซี่คอยแปลตลอด ไม่งั้นงงตายแน่ๆ555)
หลังจากคุยเรียบร้อย เราก็มาตรวจร่างกายอย่างละเอียด ตั้งแต่ ตรวจเลือด, CT scan ใบหน้า, X-ray, ตรวจคลื่นหัวใจ อุปกรณ์ทุกอย่างสะอาด พี่ๆพยาบาลทำงานเร็วและโปรมากเลย เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูปใบหน้า ไว้เปรียบเทียบก่อนและหลังทำกันค่ะ
   เสร็จภารกิจวันแรกเดินทางกลับโรงแรมกันคะ รัณจะผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ เวลา 7:30 แต่เช้าเลยห้ามแต่งหน้า ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ เล็บต้องไม่ทาสีนะคะ และใส่เสื้อมีกระดุมมาค่ะ เพื่อใส่กลับได้สะดวก 
   แจ้งก่อนว่ารัณจองโรงแรมอยู่เกาหลีทั้งหมด 10 วัน เนื่องจากหลังผ่า 1 อาทิตย์ เราอยากตัดไหมและเช็คหน้ากับคุณหมอ ช่วงที่อยู่ที่นี้ก็สามารถเดินทางมาฉายแสง อบออกซิเจนเพื่อลดบวมได้ทุกวันอีกด้วย ช่วงที่มาเป็นเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะยังหนาวมากอยู่นะคะ ประมาณ 0-10 องศา เราคิดว่าหนาวๆดี หน้าจะได้ชาๆ ไม่เจ็บ555
วันผ่าตัด ~
   มาถึงกันตั้งแต่ 7 โมง เอาของมาวางห้องพักกันค่ะ จะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน ตอนแรกก็คิดว่าทำไมนอนน้อยจังจะลุกไหวแล้วหรอ แต่สรุปก็คือเดินตัวปลิวเลยค่ะหลังจากหมดฤทธิ์ยาสลบ555(อย่าพึ่งสปอยอนาคตสี้) ก่อนผ่าตัดความตื่นเต้นสูงมากค่ะ กลัวก็กลัวแต่ต้องทำจิตทำใจให้สงบที่สุดค่ะ พอใกล้ถึงเวลาก็ทำการล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อเป็นของโรงพยาบาล และไปพบคุณหมอ คุยแผนในวันนี้อีกครั้ง ก่อนเริ่มผ่าตัดค่ะ
เอาละทุกคน ไปผ่าตัดกัน! ... 4 ชั่วโมงผ่านไป 
ออกมาละค้าทุกคน ตอนผ่าตัดไม่รู้เรื่องเลยนะคะ ฝันเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาก ว่ากำลังไปเรียนต่อที่ต่างประเทศค่ะ ลืมไปเลยว่าตัวเองมาศัลยกรรม พอตื่นขึ้นมา เสียงพยาบาลและพี่ล่ามดังมากกระตุ้นให้เราไม่นอนต่อ ไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือปวดเลยนะคะเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดยังแรงอยู่ ตอนนั้นง่วงมาก แต่ต้องพยายามลืมตาตลอด เราพูดคุยได้ทันทีเลย มีดอกไม้ให้กำลังใจจากพี่ๆเอเจนซี่ด้วย
แค่แป๊ปเดียว คุณหมอก็เข้ามาดูผ้าพันแผลต่างๆ และบอกว่าการผ่าตัดสำเร็จตรงตามแผนที่วางไว้ทุกอย่างค่ะ พี่พยาบาลเอากระดูกมาให้ดูด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันเคยอยู่ในร่างกายเรามาก่อนตั้ง 25 ปีแหนะ ของที่ได้จากโรงพยาบาลก็คือ น้ำยาบ้วนปากขวดใหญ่ ยาหลังอาหารจัดเป็นชุดให้สวยงาม ที่ประคบเย็น ทิชชู่เปียก ผ้ารัดหน้า สำคัญมาก หลังจากทานอะไรก็ตามต้องบ้วนปากตามเสมอ ตอนนี้อ้าปากได้น้อยมาก ยังกินได้แค่นม โปรตีนเชค ไอศกรีมที่ละลายแล้วนะคะ
วันนี้นอนที่โรงพยาบาล เวลาประมาณตี1 ยาแก้ปวดเริ่มหมดฤทธิ์ เริ่มรู้สึกปวดที่หน้าข้างซ้ายค่ะ จนนอนไม่ได้ ต้องเรียกพี่พยาบาลมาฉีดยาให้ คืนแรกหลับๆตื่นๆทั้งคืน หายใจก็ยากค่ะ เพราะว่าปากบวมมาก จมูกก็ตันเพราะมีน้ำมูกปนเลือดเยอะ ทรมานมากเลย  พยายามเดินเยอะๆ ภายในห้องก็ช่วยได้เยอะค่ะ ทำให้โฟกัสกับอาการปวดได้น้อยลง
วันที่ 1 หลังผ่าตัด
เดินทางกลับโรงแรมตั้งแต่เช้า พอตื่นมา อาการปวดก็หายไปแล้วค่ะ มื้อเช้าดื่มนมสารอาหารที่ได้จากโรงพยาบาลนะคะและก็บ้วนปากให้เรียบร้อย ประคบเย็นบ่อยๆเพื่อให้ยุบไวๆค่ะ พี่พยาบาลพาไปสระผม และคุณหมอเอาผ้าพันหน้าออก แต่ยังมีเทปบนหน้าอยู่น้า รู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะเลย เสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมค่ะ
วันที่ 2 หลังผ่าตัด
หน้าบวมมากขึ้นเมื่อคืนตอนนอนและศีรษะอยู่ในท่าเดิมนานๆ มีสะดุ้งตื่นเพราะอาการปวดที่หน้าข้างซ้ายนิดหน่อยค่ะแต่ก็นอนต่อได้ไม่หลับๆตื่นๆแบบคืนแรก เช้านี้ยังต้องทานอาหารนิ่มๆอย่างพุดดิ้งและนมอยู่ค่ะ แต่สามารถออกไปเที่ยวได้แล้วดีใจมาก ระหว่างวันไม่มีอาการปวดเลยค่ะแต่เวลาเดินจะรู้สึกตึงๆที่หน้าท้องบริเวณแผลที่ดูดไขมันไปนิดหน่อย ถ้ากางเกงไม่รัดโดนก็จะเดินได้สบายๆค่ะ
ก่อนหมดวัน รัณไม่ลืมที่จะเดินทางไปฉายแสงและอบออกซิเจนที่โรงพยาบาลค่ะ จะได้หายบวมไวๆ
วันที่ 3 หลังผ่าตัด
หน้าวันที่ 3-5 จะบวมสุดๆและค่อยๆลดลงค่ะ ช่วงนี้ต้องอดทนไม่หัวเราะหน้าตัวเองนะคะ เพราะว่ามันตลกมากๆเลย Updateการทานอาหารวันที่สาม ก็ยังเปิดปากได้น้อยนะคะ แต่มากกว่าเมื่อวาน เคี้ยวของเหนียวไม่ได้ ยังต้องทานซุปอยู่ค่ะ วันนี้จะเริ่มรู้สึกหิวมาก อยากทานอะไรที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ ความทรมานจากการหิวจะถึงแค่วันนี้ค่ะ หลังจากนี้ก็คือเริ่มจัดหนักได้มากขึ้น 
 ยังไม่ลืมที่จะไปเที่ยวนะคะทุกคน ตอนนี้แผลที่หน้าอาการปวดแทบไม่เหลือเลย แผลที่ท้องก็เริ่มดีขึ้น ตึงนิดหน่อยแต่ไม่เจ็บแล้วค่ะ
วันที่ 4 หลังผ่าตัด
มีรอยช้ำใต้ตาเล็กน้อย และยังบวมอยู่ค่ะ อาหารที่ทานเริ่มเป็นชิ้นมากขึ้น เริ่มจากสปาเก็ตตี้ รัณเอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เริ่มเคี้ยวได้ แต่ยังทานช้า ต้องใจเย็นๆมากๆๆค่ะ ของหวานก็เริ่มทานคุกกี้นิ่มได้ ไม่ต้องทานแต่นมกับโปรตีนแล้ว
วันที่ 5 หลังผ่าตัด
วันนี้กินอาหารอร่อยขึ้นมากเลยนะคะ อาการช้ำก็ลดลง อาการปวดไม่เหลือเลยทั้งหน้าและที่ท้อง เราทานข้าวต้มได้เร็วขึ้นมาก แต่ก็ยังช้ากว่าช่วงก่อนทำศัลยกรรม รีวิวข้าวต้มเกาหลีเล็กน้อยจะบอกอร่อยมากๆๆเลยค่ะ มันมีกลิ่นหอมที่ไม่มีที่บ้านเรา ขนาดชิ้นของเนื้อสับก็เล็กกำลังดี ทานง่ายมากๆเลย ของหวานก็พัฒนาจากคุกกี้นิ่มเป็นเค้กแล้วนะคะ ไม่มีซึมที่อดอาหารแน่นอน เรากินดุมาก55
วันที่ 6 หลังผ่าตัด
 ใกล้ครบ 1 อาทิตย์แล้วพรุ่งนี้ก็ตัดไหมแล้วค่ะ จะบอกว่าเรากินได้เก่งขึ้นมากๆ แทบจะปกติเลย แต่หมูย่างกับเนื้อย่างยังเหนียวไปสำหรับเรา ยังทานไม่ได้นะคะแต่ไก่ทอด ข้าวผัด ขนมปัง จัดหนักไปเลยค่ะ สภาพร่างกายก็ดีมากๆ เดินเที่ยวได้ปกติเลยวันนี้มีความสุขมาก
 วันที่ 7 หลังผ่าตัด (ตัดไหมแล้ว)
 เราเอาเทปบนหน้าออกทั้งหมดแล้วนะคะอ้าปากได้กว้างขึ้นเลยแต่ยังต้องบริหารปากอยู่นะ เพื่อไม่ให้เกิดพังผืดค่ะ หลังจากไปCT scan เพื่อเปรียบเทียบหน้าก่อนหลัง ผลก็ทำให้เราอึ้งเลยค่ะ เพราะมันสวยยันกระดูกของจริงเลยค่ะทุกคน
ถ้ายุบเมื่อไหร่ รับรองว่าสวยสมใจแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้ได้เวลากลับบ้านแล้วน้าคุณดารัณ ✈️
   
ตอนที่กลับบ้านการใช้ชีวิตก็ปกติเลยค่ะ แต่เพิ่มเติมการบริหารปากสม่ำเสมอ และต้องดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดเสมอ พี่เคทก็จะคอยตามอาการและทักถามสารทุกข์สุกดิบตลอด ไม่โดนทิ้งหลังกลับมาแล้วนะจ้ะ เอาละ..ทุกคนคงอยากเห็นหน้าหลังจากทำมา 2 เดือนแล้วละเนอะ งั้นไม่ให้เสียเวลา เรามาดูกัน!
ทาดา!
    จะบอกว่าถูกใจมากกกกก ทุกคนทักว่าหน้าหวานขึ้นมากเลยค่ะ ยิ่งfeedbackรอบข้างดี เราก็ยิ่งแฮปปี้มากก ไม่เสียดายเงินที่เสียไปเลย แต่หน้ายังไม่ยุบสุดๆนะคะ จะยังยุบได้อีกถึงเดือนที่ 6 เลย 
 
    ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ อยากได้คำแนะนำตรงไหน comment ไว้ได้เลยนะคะจะพยายามตอบทั้งหมดเลย และหากมีข้อผิดพลาดในการรีวิวประการใดก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนที่กำลังลังเลกับการไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีได้คำตอบกับตัวเองน้าขอให้ทุกคนมีความสุขและโชคดีค่า

ชื่อสินค้า:   ศัลยกรรมเกาหลี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่