ลดความอ้วนอย่างยั่งยืน ด้วยงบเพียงน้อยนิด

ลดความอ้วนแบบยั่งยืนในวัย 30+ ฉันทำได้คุณก็ต้องทำได้ 93 >> สู่ 84 ภายใน 3 เดือน นิดๆ

แนะนำตัวก่อนเลยคือเป็นคนรูปร่างใหญ่มาตลอด สูง 162 เซนติเมตร น้ำหนักน้อยสุดที่จำได้คงจะ 69 กิโลกรัม ซึ่งนั้นคือเรื่องเมื่อ 10กว่าปีมาแล้ว #ยิ่งพูดก็ยิ่งช้ำในทรวง เพี้ยนมองบน

ส่วนน้ำหนักเยอะสุดเลยคือ 93 กิโลกรัม

กินเก่ง หาของกินเก่ง เมาเก่ง กลับแกล้มต้องมี น้ำหวานต้องมา ชาไข่มุกขาดไม่ได้  บุ่ปเฟ่ ชาบูนี่ขาประจำ ยิ่งตอนมีแฟนใหม่ๆ กินอาหารอร่อย ล่าของกินทุกคืน

ชั่ง นน.ล่าสุด เฮ้#@*&....93 หัวใจแทบวายแล้วเริ่มพิจารณามองสภาพตัวเอง เหมือนคนท้องใกล้คลอด

ตอนนอนแฟนบอกกรนเสียงดังมาก ทำไรนิดหน่อยก็เหนื่อย ปวดขาตลอดเพราะ นน เยอะ ขาก็แบกรับแทบจะไม่ไหวแล้ว ตรวจสุขภาพที่ทำงานล่าสุด ความดัน เบาหวาน กำลังจะถามหา😬😬 ผลออกมานี่เครียดมาก ยิ่งเครียดยิ่งกิน #กินแก้เครียดจ้าาาา

เอาละเริ่มปฏิวัติตัวเองซะใหม่ งดอาหารเย็นตั้งแต่ 6 โมงเย็นนี่จะไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำ คือดื่มน้ำวันละ 2-3 ขวด 1.5ml (น้ำขวดใหญ่) **การคำนวนน้ำที่ควรดื่มง่ายๆ คือ 20กิโล/น้ำ 1 ml
หึๆๆ 2 อาทิตย์ผ่านไปโครตทรมาน แต่พยายามชั่ง นน ทุกๆ วัน พอเราเห็นตัวเลขที่ลดลงเราจะมีกำลังใจลด ช่วงแรกลงไป 3 กิโล ภายใน 2 สัปดาห์ คือปลื่มมมาก ทำต่อมาจนครบ 1 เดือน จาก 93>90 อ้าวเห้ย!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า???

อย่าเพิ่งด่าจ้าาา เหตุผลคือ เรากินเยอะมาตลอด พอเราอด ร่างกายจะโหยจนทำให้ นน. ลงเร็ว ที่เห็น 2 สป ลง 3 กิโล นั้นคือคำเตือนว่า ถ้ากินตะบะแตกช่วงนี้มันจะเด้งขึ้นมาเท่าตัว แต่ถ้าเราทำไปเรื่อย มันจะอยุ่ตัวแค่นั้น นี่คือการลดที่ถูกต้อง 3km/month ไม่โย้ ไม่ย้วยแน่นวลล✌🏻

ก้าวเข้าสู่เดือนที่สอง 45 วันผ่านไป เห้ยแกร!!! 90 คงที่ว่ะ เอาไงดีว่ะ🤔🤔

ระหว่างที่คิดว่าเอาไงดีก็เดินคิดไปเรื่อยๆ จนเดินมา 4 กิโลเมตร โทรศัพท์ก็แจ้งเตือนว่า "ยินดีด้วยวันนี้คุณเดินได้ถึงเป้ามายที่วางไว้ 256 kcal" ออกกำลังกาย!!🏃‍♀️🏃‍♀️
ไม่นะฉันเกียดการออกกำลังกาย!!!
ก็เลยหันหน้าเข้าหาการ fasting


เด๋วมาต่อนะ!!!!....จะหาภาพปลากรอบมาให้ด้วย

#EP.1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่