สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเข้ามาอ่าน...สามารถอ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี่น่ะครับ
https://ppantip.com/topic/39128195
สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเข้ามาอ่าน...สามารถอ่านตอนที่ 2 ได้ที่นี่น่ะครับ
https://ppantip.com/topic/39130361
สวัสดีจร้าาาาาาา...เช้าวันที่ 3 ของฮานอยครับ....หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว....เราก็ออกเดินชมเมืองกันครับ....โดยแผนของวันนี้คือเดินชมเมืองไปเรื่อยๆจนถึง....ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake), สะพานแสงอาทิตย์ (The Huc Bridge) และ วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple ซึ่งยังคงใช้เส้นทางเดิมในการไปยังตลาดด่งซ่วนเหมือนเดิมครับ...เพราะกลางวันจะเป็นตลาดขายเสื้อผ้า...ส่วนกลางคืนจะเป็นอาหาร ของที่ระลึก เสื้อผ้าต่างๆครับ...ขณะกำลังเดินชมเมืองอยู่นั้นสายตาก็เหลือไปเห็นกลุ่มจักรยานกลุ่มใหญ่....น่าจะเป็นกลุ่มขาแรงของฮานอยครับ
เค้าเห็นเราชอบจักรยานก็เข้าใจในทันทีครับว่าเป็นนักปั่นเหมือนกัน...ขอแชะภาพถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยครับ...มานครศรีธรรมราชเมื่อไหร่จะต้อนรับให้เต็มที่เลยครับ...อิอิ
นี่จะเป็นตลาดด่งซ่วนครับ...บริเวณหน้าตลาดตอนกลางคืนจะเป็นตลาดค่ำ...แต่ตอนกลางวันจะขายเสื้อผ้าต่างๆครับ
หลังออกจากตลาดก็มุ่งหน้าไปเรื่อยๆครับ...ตามระหว่างทางมีแม่ค้าขายของด้วยจักรยานมากมายครับ...นี่ก็ขายดอกไม้สีสันสวยงามมากครับ
นี่ก็แม่ค้าขายปลาสดๆครับ...แล่กันเลือดกระจายกันตรงนั้นเลย...บรื้อออออ ไปดีกว่า
และเหมือนอย่างที่เคยบอกครับว่า....บ้านชาวเวียดนามจะเป็นอาคารพาณิชย์ทรงสูง...หากแต่ว่าหน้าบ้านค่อนข้างแคบครับ ประมาณ 3 เมตรได้....อันนี้จะเป็นเหมือนการเจาะเสาเข็มภายในตัวตึกที่แคบๆน่ะครับ...ดูเอาจากเครื่องมือครับ
ในตัวเมืองฮานอยมีสถานที่ถ่ายภาพสวยๆมากมายเลยครับ...ในสไตล์แบบวินเทจ โบราณๆหน่อยครับ...
ร้านสังสรรค์กาแฟ น้ำอ้อย กันแต่เช้าเลยครับ
แม่ค้าผลไม้ก็ขายกันโดยใช้รถจักรยาน...ตั้งขายริมทางอย่างนี้ทั่วทั้งเมืองเลยครับ
มีขนมหน้าตาน่าอร่อยมากมายเลยครับ....อยากจะกินมากเลยครับแต่เมียที่เคารพรักห้ามไว้ครับ....บอกว่าตอนนี้ก็อ้วนเป็นหมูแล้วยังจะกินอีก...T_T...ทีหลังเค้าไม่พาไปเที่ยวไหนแล้ว...ฮือๆๆๆๆๆๆ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) ครับ....ซึ่งตามตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิจักรพรรดิเล เหล่ย (Le Loi) ได้รับดาบวิเศษจากสวรรค์และใช้ดาบนั้นต่อสู้กับกองทัพจีนจนได้รับเอกราช หลังจากนั้น วันหนึ่ง จักรพรรดิได้ลงเรือล่องไปในทะเลสาบพร้อมกับดาบ มีเต่ายักษ์ขึ้นมารับดาบวิเศษแล้วดำลงสู่ใต้น้ำหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบกลางเมืองฮานอย...
เก๊กหน้าหล่อสุดชีวิตได้แค่นี้ครับ
เ
ทำปากจู๋คู่กัน
เมียจ๋า...เสือน่ะจ๊ะไม่ใช่แมวววววววว...เกาคางซะเสียสถาบันเสือหมดนิ่
เสือน่ากลัวจังเลย...อย่ากินผมเลยน่ะครับ...ไปกินเมียก่อนเถอะอิ่มไปเป็นเดือนเลย...อิอิ
ซึ่งบริเวณด้านหน้านี้มีสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากครับ...คือจะมีคุณครูพากลุ่มนักเรียนประถมตัวเล็กๆ...กลุ่มล่ะประมาณ 5-6 คนจะเข้าไปสอบถามพูดคุยกันชาวต่างชาติ...ถามถึงความรู้สึกในการมาท่องเที่ยว....โดยใช้ภาษาง่ายๆในการสื่อสาร...โดยทุกคนก็เต็มใจพูดคุยกับเด็กๆเหล่านั้นด้วยความเอ็นดูทุกคนเลยครับ....ผมว่าเป็นการฝึกฝนภาษาที่ดีมากๆเลยครับ
ซ
แล้วหลังจากผ่านซุ้มประตูเข้าไป....ก็จะเจอกับสะพานแสงอาทิตย์ (The Huc Bridge) เพื่อพาเราข้ามไปยัง วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple คนค่อนข้างเยอะมากเลยครับ....หนุ่มสาว คนสูงอายุ ครอบครัว ต่างพากันมาพักผ่อนที่นี่ครับ
ข้างหลังนี้คือ วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple ครับซึ่งมีค่าตั๋วเข้าชม 40,000 ด่อง (55.-)/คน.....ซึ่งตามประวัติศาสต์แล้วข้างในจะมีตะพาบน้ำตัวที่ว่ายน้ำขึ้นมารับดาบ...ที่กษัตรย์ของเวียดนามได้คืนดาบให้ไปครับ....จึงเรียกว่าทะเลสาบคืนดาบยังจำกันได้น่ะครับ
บรรยากาศริมทะเลสาบ...ซึ่งเปรียบเสมือนสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนสำหรับชาวฮานอย...ทั้งคู่หนุ่มสาว ทั้งครอบครับ ทั้งผู้สูงอายุ นักท่องเที่ยว...ต่างมาเดินเล่นพักผ่อน สูดบรรยากาศที่แสนสบายริมทะเลสาบ....เค้าปิดถนนกันทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อให้ชาวเมืองได้ออกมาสันทนาการกันข้างนอก
เดินมารอบทะเลสาบเรื่อยๆก็จะเจอกับอนุเสารีย์...เอิ่มมมม..เอ่ออ.ออออ.อ.อ.อ....คือ ลืมแล้วครับจำไม่ได้แล้วขอโต๊ดคร้าบบบบบบ
และก็จะมีอนุเสารีย์ king Le Thai(อนุสาวรีย์ผู้สร้างประเทศเวียดนาม)....แต่ภาพที่ถ่ายมาเสียน่ะครับเลยเหลือแต่ภาพนี้
จะมีร้านอาหารหรูๆหน่อย สำหรับนักท่องเที่ยว...
ปิดถนนไม่ให้รถวิ่งครับ...แต่ให้เด็กมีกิจกรรมขี่รถกัน...5555
แล้วเราก็ เดินมุ่งหน้าตรงไปยังสามแยกแล้วเลี้ยวขวากลับมา แล้วเดินไปจนเจออีกสามแยก
หลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายระยะทางประมาณ 1 กม. จะได้เจอกับ
โบสถ์เซ็นต์โจเซฟ (St Joseph Cathedral) โบสถ์คาทอลิคขนาดใหญ่
ข้างในเค้าทำพิธีสวดมนต์กันอยู่ครับ...เลยถ่ายภาพไกลๆมาได้แค่นี้ครับ...แต่ข้างในสวยงามมากเลยครับ
หลังจากเดินกันมาทั้งวันจนเหนื่อยแล้ว...เราก็แวะกิน KFC ของเวียดนามดูบ้างครับ...ว่ามีเมนูอะไรแตกต่างจากบ้านเมืองเราบ้าง
ของผมเหมือนข้าวหน้าไก่ผัดซีอิ้วครับ...พอกินได้แต่ไม่ค่อยอร่อยครับเลี่ยนๆๆ
เจอแม่ค้าขายผลไม้อีกแล้วครับ...
อันนี้ครับเหมือนหมูยอทอดเลย...ไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน...แต่จำได้ว่าอันนึงประมาณ 20 บาทครับ...อร่อยให้เต็มร้อยเลยครับ
ผลไม้สดสีสันสวยงามขายตลอดเส้นทางเดินครับ
ร้านอาหารของเค้าก็จะมีอาหารเหมือนร้านข้าวราดแกงบ้านเราน่ะครับ....แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแนวจีนๆ...แบบผัดๆ ทอดๆ มันๆน่ะครับไม่ค่อยมีเผ็ด
สีแดงๆเผ็ดสุดก็มีรสชาดเหมือนกับแกงมัสมั่นครับ....แต่ว่าเวลาสั่งเค้าจะไม่ตักราดจานมาให้...เค้าจะแยกเป็นกับข้าวเป็นถ้วยๆ...สั่งกับข้าวมา 3 อย่าง ข้าวสวย 2 จาน ราคาประมาณ 250 บาทไทย....ความรู้สึกเหมือนเลือดซึมๆที่หัวนิดๆครับ....อิอิ
เครื่องปรุงของเค้าแทบทุกร้านครับ....จะเป็นน้ำปลาใส่พริกเม็ดใหญ่ๆ ไม่ค่อยเผ็ด...กับส้มจี๊ดเพิ่มความเปรี้ยวครับ ไม่มีมะนาวน่ะครับ
กินกันเสร็จก็เดินชมตลาดสดยามค่ำคืน...เหมือนๆตลาดสดตามต่างจังหวัดบ้านเราครับ
ทั้งผัก ทั้งผลไม้ ปะปนกันไปครับ
อ้อ !!!!!....อีกอย่างนึงครับ ผมว่าต้นกำเนิดขนมจีนต้องมาจากเวียดนามแน่ๆ...เพราะว่าแทบทุกมื้อ ทุกร้านจะมีเส้นขนมจีน...กินกันแทนข้าวสวยเลยครับ
สุดท้ายนี้ก่อนนอนขอทานขนมหวานกันก่อนครับ.....เพื่อจะได้กลับไปนอนฝันหวานถึงทริปหน้า...ว่าจะมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองไหนอีก...ไว้เจอกันน่ะครับเพื่อนๆทุกคน....บ๊าย บาย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
**** พาเมียตะลุยเวียดนาม...ฮานอยที่รัก...^__^ (ตอนที่ 3..ตอนสุดท้าย) ****
สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเข้ามาอ่าน...สามารถอ่านตอนที่ 2 ได้ที่นี่น่ะครับ https://ppantip.com/topic/39130361
สวัสดีจร้าาาาาาา...เช้าวันที่ 3 ของฮานอยครับ....หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว....เราก็ออกเดินชมเมืองกันครับ....โดยแผนของวันนี้คือเดินชมเมืองไปเรื่อยๆจนถึง....ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake), สะพานแสงอาทิตย์ (The Huc Bridge) และ วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple ซึ่งยังคงใช้เส้นทางเดิมในการไปยังตลาดด่งซ่วนเหมือนเดิมครับ...เพราะกลางวันจะเป็นตลาดขายเสื้อผ้า...ส่วนกลางคืนจะเป็นอาหาร ของที่ระลึก เสื้อผ้าต่างๆครับ...ขณะกำลังเดินชมเมืองอยู่นั้นสายตาก็เหลือไปเห็นกลุ่มจักรยานกลุ่มใหญ่....น่าจะเป็นกลุ่มขาแรงของฮานอยครับ
เค้าเห็นเราชอบจักรยานก็เข้าใจในทันทีครับว่าเป็นนักปั่นเหมือนกัน...ขอแชะภาพถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยครับ...มานครศรีธรรมราชเมื่อไหร่จะต้อนรับให้เต็มที่เลยครับ...อิอิ
นี่จะเป็นตลาดด่งซ่วนครับ...บริเวณหน้าตลาดตอนกลางคืนจะเป็นตลาดค่ำ...แต่ตอนกลางวันจะขายเสื้อผ้าต่างๆครับ
หลังออกจากตลาดก็มุ่งหน้าไปเรื่อยๆครับ...ตามระหว่างทางมีแม่ค้าขายของด้วยจักรยานมากมายครับ...นี่ก็ขายดอกไม้สีสันสวยงามมากครับ
นี่ก็แม่ค้าขายปลาสดๆครับ...แล่กันเลือดกระจายกันตรงนั้นเลย...บรื้อออออ ไปดีกว่า
และเหมือนอย่างที่เคยบอกครับว่า....บ้านชาวเวียดนามจะเป็นอาคารพาณิชย์ทรงสูง...หากแต่ว่าหน้าบ้านค่อนข้างแคบครับ ประมาณ 3 เมตรได้....อันนี้จะเป็นเหมือนการเจาะเสาเข็มภายในตัวตึกที่แคบๆน่ะครับ...ดูเอาจากเครื่องมือครับ
ในตัวเมืองฮานอยมีสถานที่ถ่ายภาพสวยๆมากมายเลยครับ...ในสไตล์แบบวินเทจ โบราณๆหน่อยครับ...
ร้านสังสรรค์กาแฟ น้ำอ้อย กันแต่เช้าเลยครับ
แม่ค้าผลไม้ก็ขายกันโดยใช้รถจักรยาน...ตั้งขายริมทางอย่างนี้ทั่วทั้งเมืองเลยครับ
มีขนมหน้าตาน่าอร่อยมากมายเลยครับ....อยากจะกินมากเลยครับแต่เมียที่เคารพรักห้ามไว้ครับ....บอกว่าตอนนี้ก็อ้วนเป็นหมูแล้วยังจะกินอีก...T_T...ทีหลังเค้าไม่พาไปเที่ยวไหนแล้ว...ฮือๆๆๆๆๆๆ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) ครับ....ซึ่งตามตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิจักรพรรดิเล เหล่ย (Le Loi) ได้รับดาบวิเศษจากสวรรค์และใช้ดาบนั้นต่อสู้กับกองทัพจีนจนได้รับเอกราช หลังจากนั้น วันหนึ่ง จักรพรรดิได้ลงเรือล่องไปในทะเลสาบพร้อมกับดาบ มีเต่ายักษ์ขึ้นมารับดาบวิเศษแล้วดำลงสู่ใต้น้ำหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบกลางเมืองฮานอย...
เก๊กหน้าหล่อสุดชีวิตได้แค่นี้ครับ
เ
ทำปากจู๋คู่กัน
เมียจ๋า...เสือน่ะจ๊ะไม่ใช่แมวววววววว...เกาคางซะเสียสถาบันเสือหมดนิ่
เสือน่ากลัวจังเลย...อย่ากินผมเลยน่ะครับ...ไปกินเมียก่อนเถอะอิ่มไปเป็นเดือนเลย...อิอิ
ซึ่งบริเวณด้านหน้านี้มีสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากครับ...คือจะมีคุณครูพากลุ่มนักเรียนประถมตัวเล็กๆ...กลุ่มล่ะประมาณ 5-6 คนจะเข้าไปสอบถามพูดคุยกันชาวต่างชาติ...ถามถึงความรู้สึกในการมาท่องเที่ยว....โดยใช้ภาษาง่ายๆในการสื่อสาร...โดยทุกคนก็เต็มใจพูดคุยกับเด็กๆเหล่านั้นด้วยความเอ็นดูทุกคนเลยครับ....ผมว่าเป็นการฝึกฝนภาษาที่ดีมากๆเลยครับ
ซ
แล้วหลังจากผ่านซุ้มประตูเข้าไป....ก็จะเจอกับสะพานแสงอาทิตย์ (The Huc Bridge) เพื่อพาเราข้ามไปยัง วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple คนค่อนข้างเยอะมากเลยครับ....หนุ่มสาว คนสูงอายุ ครอบครัว ต่างพากันมาพักผ่อนที่นี่ครับ
ข้างหลังนี้คือ วัดหงอนเซิน Ngoc Son Temple ครับซึ่งมีค่าตั๋วเข้าชม 40,000 ด่อง (55.-)/คน.....ซึ่งตามประวัติศาสต์แล้วข้างในจะมีตะพาบน้ำตัวที่ว่ายน้ำขึ้นมารับดาบ...ที่กษัตรย์ของเวียดนามได้คืนดาบให้ไปครับ....จึงเรียกว่าทะเลสาบคืนดาบยังจำกันได้น่ะครับ
บรรยากาศริมทะเลสาบ...ซึ่งเปรียบเสมือนสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนสำหรับชาวฮานอย...ทั้งคู่หนุ่มสาว ทั้งครอบครับ ทั้งผู้สูงอายุ นักท่องเที่ยว...ต่างมาเดินเล่นพักผ่อน สูดบรรยากาศที่แสนสบายริมทะเลสาบ....เค้าปิดถนนกันทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อให้ชาวเมืองได้ออกมาสันทนาการกันข้างนอก
เดินมารอบทะเลสาบเรื่อยๆก็จะเจอกับอนุเสารีย์...เอิ่มมมม..เอ่ออ.ออออ.อ.อ.อ....คือ ลืมแล้วครับจำไม่ได้แล้วขอโต๊ดคร้าบบบบบบ
และก็จะมีอนุเสารีย์ king Le Thai(อนุสาวรีย์ผู้สร้างประเทศเวียดนาม)....แต่ภาพที่ถ่ายมาเสียน่ะครับเลยเหลือแต่ภาพนี้
จะมีร้านอาหารหรูๆหน่อย สำหรับนักท่องเที่ยว...
ปิดถนนไม่ให้รถวิ่งครับ...แต่ให้เด็กมีกิจกรรมขี่รถกัน...5555
แล้วเราก็ เดินมุ่งหน้าตรงไปยังสามแยกแล้วเลี้ยวขวากลับมา แล้วเดินไปจนเจออีกสามแยก
หลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายระยะทางประมาณ 1 กม. จะได้เจอกับ
โบสถ์เซ็นต์โจเซฟ (St Joseph Cathedral) โบสถ์คาทอลิคขนาดใหญ่
ข้างในเค้าทำพิธีสวดมนต์กันอยู่ครับ...เลยถ่ายภาพไกลๆมาได้แค่นี้ครับ...แต่ข้างในสวยงามมากเลยครับ
หลังจากเดินกันมาทั้งวันจนเหนื่อยแล้ว...เราก็แวะกิน KFC ของเวียดนามดูบ้างครับ...ว่ามีเมนูอะไรแตกต่างจากบ้านเมืองเราบ้าง
ของผมเหมือนข้าวหน้าไก่ผัดซีอิ้วครับ...พอกินได้แต่ไม่ค่อยอร่อยครับเลี่ยนๆๆ
เจอแม่ค้าขายผลไม้อีกแล้วครับ...
อันนี้ครับเหมือนหมูยอทอดเลย...ไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน...แต่จำได้ว่าอันนึงประมาณ 20 บาทครับ...อร่อยให้เต็มร้อยเลยครับ
ผลไม้สดสีสันสวยงามขายตลอดเส้นทางเดินครับ
ร้านอาหารของเค้าก็จะมีอาหารเหมือนร้านข้าวราดแกงบ้านเราน่ะครับ....แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแนวจีนๆ...แบบผัดๆ ทอดๆ มันๆน่ะครับไม่ค่อยมีเผ็ด
สีแดงๆเผ็ดสุดก็มีรสชาดเหมือนกับแกงมัสมั่นครับ....แต่ว่าเวลาสั่งเค้าจะไม่ตักราดจานมาให้...เค้าจะแยกเป็นกับข้าวเป็นถ้วยๆ...สั่งกับข้าวมา 3 อย่าง ข้าวสวย 2 จาน ราคาประมาณ 250 บาทไทย....ความรู้สึกเหมือนเลือดซึมๆที่หัวนิดๆครับ....อิอิ
เครื่องปรุงของเค้าแทบทุกร้านครับ....จะเป็นน้ำปลาใส่พริกเม็ดใหญ่ๆ ไม่ค่อยเผ็ด...กับส้มจี๊ดเพิ่มความเปรี้ยวครับ ไม่มีมะนาวน่ะครับ
กินกันเสร็จก็เดินชมตลาดสดยามค่ำคืน...เหมือนๆตลาดสดตามต่างจังหวัดบ้านเราครับ
ทั้งผัก ทั้งผลไม้ ปะปนกันไปครับ
อ้อ !!!!!....อีกอย่างนึงครับ ผมว่าต้นกำเนิดขนมจีนต้องมาจากเวียดนามแน่ๆ...เพราะว่าแทบทุกมื้อ ทุกร้านจะมีเส้นขนมจีน...กินกันแทนข้าวสวยเลยครับ
สุดท้ายนี้ก่อนนอนขอทานขนมหวานกันก่อนครับ.....เพื่อจะได้กลับไปนอนฝันหวานถึงทริปหน้า...ว่าจะมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองไหนอีก...ไว้เจอกันน่ะครับเพื่อนๆทุกคน....บ๊าย บาย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ