‘ซินจ่าว’ สวัสดีค่ะ ทักทายกันเป็นภาษาเวียดนามแบบนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าคราวนี้ไปเที่ยวไหน เป้าหมายของเราอยู่ที่
นาขั้นบันไดใน ‘ซาปา’ ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่ ‘ฟานซีปัน’ แม่น้ำและทิวเขาอันงดงามแห่งเมือง ‘จ่างอาน’
ตั๋วพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม ไปลุยกันเลยค่ะ
วันที่ 1_16-ต.ค.-2561 [ซินจ่าว ฮานอย]
เราจองตั๋วสายการบินแอร์เอเชียไป-กลับราคา 3,932 บาท เดินทางจาก ‘สนามบินดอนเมือง’ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ก็มาถึง ‘สนามบินฮานอย (Noi Bai International Airport)’ แล้ว
เดินออกมาด้านหน้าเพื่อขึ้นรถเมล์สาย 86 ค่าโดยสารตลอดสาย 35,000 ดอง (50 บาท)
เพื่อเดินทางต่อไปยัง ‘สถานีรถไฟฮานอย (Hanoi railway station)’
นั่งเพลินๆสัปหงกไปมาก็ถึงแล้ว ไม่ต้องกลัวเลยป้ายนะคะเพราะรถเมล์จะสุดสายที่สถานีรถไฟพอดี
ถึงแล้วเข้ามาด้านในสถานีเพื่อจองตั๋วรถไฟไปเมืองซาปา โดยเราต้องลงที่ ‘สถานีลาวไก (Lao Cai Station)’
เลือกจองเตียงล่างราคา 415,000 ดอง (590 บาท) รถไฟออกเวลา 21.35 น. เอากระเป๋าฝากไว้ที่สถานีราคา 16,000 ดอง (25 บาท)
เพื่อความสะดวกในการเดินเที่ยวชมเมืองฮานอย
ระหว่างเดินออกมาจากสถานี ได้กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล เราทำตามเสียงเรียกร้องของพุงตามกลิ่นไปอย่างไวเลยค่ะ
สั่ง ‘Buncha’ มา 1 ชุด ลักษณะเป็นหมูย่างอยู่ในน้ำซุปหวานๆ ทานกับเส้นหมี่นุ่ม แกล้มด้วยผักนานาชนิดราคา 28,000 ดอง (40 บาท)
เราทานไปคำแรกถึงกับต้องอุทานเป็นภาษาเวียดนามเลยว่า ‘งอนหลำ’ แปลว่า อร่อยมากค่ะ
อิ่มแล้วได้เวลานอน เดี๋ยวๆ เราเดินต่อมายัง ‘สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s Mausoleum)’
ที่นี่เป็นสถานที่เก็บศพของท่านโฮจิมินห์อดีตประธานาธิบดีอันเป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม
ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสบาดิงห์ ด้านหลังมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่น และบ้านที่สร้างบนเสาสูง
ซึ่งเชื่อกันว่าที่นี่เคยเป็นบ้านพักของของท่านโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
ถัดมาคือ ‘โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St.Joseph Cathedral)’ ตั้งอยู่บน ‘ถนนยาจุง (Nha Chung)’ เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิค
ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองฮานอยเลย
ใกล้กันคือ ‘ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake)’ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่า
หากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ มีชื่อเรียกว่า ‘ทาพรัว (Thap Rua) หรือ หอคอยเต่า’
บนเกาะขนาดเล็กทางด้านเหนือของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม ยังเป็นที่ตั้งของ ‘วัดหง็อกเซิน ( Ngoc Son หรือ วัดเนินหยก)’
มี ‘สะพานเทฮุก (The Huc)’ หรือ ‘สะพานแสงอาทิตย์’ สีแดงสดเชื่อมระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก
ก่อนข้ามสะพานไปชมวัดต้องซื้อตั๋วก่อนนะคะราคา 30,000 ดอง (40 บาท)
ภายในตอนนี้สามารถเข้าชมได้บางจุดเพราะทางวัดกำลังทำการบูรณะอยู่ ส่วนภายนอกของวัดนั้นก็ชมสังกะสีกันไป สะอื้น
เดินไปมาได้เวลาอาหารเย็นกันแล้วเราแวะทานที่ ‘Huyen Dung Restaurant’ อาหารนี่ชี้ตามรูปเลยราคา 69,000 ดอง (100 บาท)
ในใจนี่กะเอาให้คุ้ม เป็นข้าวผัดโปะมาด้วยน่องไก่ชิ้นโตมีไข่ดาวมาให้ด้วย บางทีไม่ต้องคุ้มก็ได้นะ
ทานไปในใจก็คิดถึงพริกน้ำปลามาก ถ้าพกมาสักถ้วยก็คงจะดีไม่น้อย
เดินเล่นจนสมควรแก่เวลาแล้ว เราเดินกลับมายังสถานีรถไฟฮานอยอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไฟกัน
ปู๊นๆ รถไฟมาแล้วค่ะ ระหว่างทางเราเดินผ่านตู้รถไฟ มองเห็นแต่ละห้องสวยงามมาก
มีดอกไม้ น้ำ ขนมจัดวางให้อย่างดี ไหนห้องเรานะ ตื่นเต้นๆ
แอ่นแอนแอ๊น! ถึงแล้วค่ะ ไหนน้ำไหนขนมไหนดอกไม้
สอบถามจึงได้ใจความว่าตู้ขบวนสวยๆที่เราผ่านมานั้นส่วนมากผ่านการจองจากบริษัทเอเจนซี่ทัวร์
ส่วนเรานั้นอย่าให้แซด รีบนอนดีกว่า กระซิกๆ
[CR] รีวิว ‘เวียดนาม-ฮานอย-ซาปา-ฟานซิปัน-จ่างอาน’ 7 วัน 6 คืน [หลงทางเสียเวลา หลงซาปาเสียการทรงตัว]
นาขั้นบันไดใน ‘ซาปา’ ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่ ‘ฟานซีปัน’ แม่น้ำและทิวเขาอันงดงามแห่งเมือง ‘จ่างอาน’
ตั๋วพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม ไปลุยกันเลยค่ะ
วันที่ 1_16-ต.ค.-2561 [ซินจ่าว ฮานอย]
เราจองตั๋วสายการบินแอร์เอเชียไป-กลับราคา 3,932 บาท เดินทางจาก ‘สนามบินดอนเมือง’ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ก็มาถึง ‘สนามบินฮานอย (Noi Bai International Airport)’ แล้ว
เดินออกมาด้านหน้าเพื่อขึ้นรถเมล์สาย 86 ค่าโดยสารตลอดสาย 35,000 ดอง (50 บาท)
เพื่อเดินทางต่อไปยัง ‘สถานีรถไฟฮานอย (Hanoi railway station)’
นั่งเพลินๆสัปหงกไปมาก็ถึงแล้ว ไม่ต้องกลัวเลยป้ายนะคะเพราะรถเมล์จะสุดสายที่สถานีรถไฟพอดี
ถึงแล้วเข้ามาด้านในสถานีเพื่อจองตั๋วรถไฟไปเมืองซาปา โดยเราต้องลงที่ ‘สถานีลาวไก (Lao Cai Station)’
เลือกจองเตียงล่างราคา 415,000 ดอง (590 บาท) รถไฟออกเวลา 21.35 น. เอากระเป๋าฝากไว้ที่สถานีราคา 16,000 ดอง (25 บาท)
เพื่อความสะดวกในการเดินเที่ยวชมเมืองฮานอย
ระหว่างเดินออกมาจากสถานี ได้กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล เราทำตามเสียงเรียกร้องของพุงตามกลิ่นไปอย่างไวเลยค่ะ
สั่ง ‘Buncha’ มา 1 ชุด ลักษณะเป็นหมูย่างอยู่ในน้ำซุปหวานๆ ทานกับเส้นหมี่นุ่ม แกล้มด้วยผักนานาชนิดราคา 28,000 ดอง (40 บาท)
เราทานไปคำแรกถึงกับต้องอุทานเป็นภาษาเวียดนามเลยว่า ‘งอนหลำ’ แปลว่า อร่อยมากค่ะ
อิ่มแล้วได้เวลานอน เดี๋ยวๆ เราเดินต่อมายัง ‘สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s Mausoleum)’
ที่นี่เป็นสถานที่เก็บศพของท่านโฮจิมินห์อดีตประธานาธิบดีอันเป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม
ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสบาดิงห์ ด้านหลังมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่น และบ้านที่สร้างบนเสาสูง
ซึ่งเชื่อกันว่าที่นี่เคยเป็นบ้านพักของของท่านโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
ถัดมาคือ ‘โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St.Joseph Cathedral)’ ตั้งอยู่บน ‘ถนนยาจุง (Nha Chung)’ เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิค
ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองฮานอยเลย
ใกล้กันคือ ‘ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake)’ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่า
หากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ มีชื่อเรียกว่า ‘ทาพรัว (Thap Rua) หรือ หอคอยเต่า’
บนเกาะขนาดเล็กทางด้านเหนือของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม ยังเป็นที่ตั้งของ ‘วัดหง็อกเซิน ( Ngoc Son หรือ วัดเนินหยก)’
มี ‘สะพานเทฮุก (The Huc)’ หรือ ‘สะพานแสงอาทิตย์’ สีแดงสดเชื่อมระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก
ก่อนข้ามสะพานไปชมวัดต้องซื้อตั๋วก่อนนะคะราคา 30,000 ดอง (40 บาท)
ภายในตอนนี้สามารถเข้าชมได้บางจุดเพราะทางวัดกำลังทำการบูรณะอยู่ ส่วนภายนอกของวัดนั้นก็ชมสังกะสีกันไป สะอื้น
เดินไปมาได้เวลาอาหารเย็นกันแล้วเราแวะทานที่ ‘Huyen Dung Restaurant’ อาหารนี่ชี้ตามรูปเลยราคา 69,000 ดอง (100 บาท)
ในใจนี่กะเอาให้คุ้ม เป็นข้าวผัดโปะมาด้วยน่องไก่ชิ้นโตมีไข่ดาวมาให้ด้วย บางทีไม่ต้องคุ้มก็ได้นะ
ทานไปในใจก็คิดถึงพริกน้ำปลามาก ถ้าพกมาสักถ้วยก็คงจะดีไม่น้อย
เดินเล่นจนสมควรแก่เวลาแล้ว เราเดินกลับมายังสถานีรถไฟฮานอยอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไฟกัน
ปู๊นๆ รถไฟมาแล้วค่ะ ระหว่างทางเราเดินผ่านตู้รถไฟ มองเห็นแต่ละห้องสวยงามมาก
มีดอกไม้ น้ำ ขนมจัดวางให้อย่างดี ไหนห้องเรานะ ตื่นเต้นๆ
แอ่นแอนแอ๊น! ถึงแล้วค่ะ ไหนน้ำไหนขนมไหนดอกไม้
สอบถามจึงได้ใจความว่าตู้ขบวนสวยๆที่เราผ่านมานั้นส่วนมากผ่านการจองจากบริษัทเอเจนซี่ทัวร์
ส่วนเรานั้นอย่าให้แซด รีบนอนดีกว่า กระซิกๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้