เมื่อไม่นานมนี้ได้มีโอกาสไปลองอาหารชาววังซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จักร้านนี้ ซึ่งบอกตรงๆว่าเราก้ไม่รู้จัก จริงๆเคยขับรถผ่านหลายรอบแล้วละแต่ไม่คิดว่าวังแห่งนี้จะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไป ซึ่งร้านนี้การจองไม่ได้ยากมาค่ะ แต่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น คุณเจ้าหน้าที่บอกว่ามีเพียง 5 โต๊ะเท่านั้นในแต่ลัวัน อาหารก็จะไม่เหมือนกันด้วย ตอนแรกเราจองไว้อาทิตย์นึงแต่ดันไม่สบายเลยขอโทรไปขอเลื่อน คุณพนักงานต้อนรับน่ารักมากค่ะ จำเราได้ด้วยว่าแบบเราไม่สบาย 55 ประทับใจสุด แนะนำให้ไปสักประมาณ 18:00 น. นะคะ วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกนี่เลิศมาก โรแมนติกสุด
ตรงข้ามเป็นวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ยังกะในหนังเลยค่ะที่พระเอกพานางเอกมาดินเนอร์ 555
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining ด้วยนะคะ ไปล่าของกินด้วยกัน ><
Chakrabongse Dining - จักรพงษ์ไดนิ่ง
Michelin Plate - มิชลิน เพลท
วังจักรพงษ์ หรือวังท่าเตียน คฤหาสถ์ขนาดใหญ่บนถนนมหาราชติดกับโรงเรียนราชินีเป็นหนึ่งในวังเก่าแก่ที่ยังมีการใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถทรงโปรดให้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2452 เพื่อประทานให้เป็นที่พักของของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสไตล์อิตาเลียนวิลล่า ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ ด้านนอกมีรั้วรอบขอบชิดและมีกำแพงซ้อนถึงสองชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้านายและผู้อยู่อาศัย ภายในมีเป็นสวนประกอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมายป้องกันการมองเห็นจากภายนอก เข้ามาด้านหน้าจะพบกับตัวอาคารหลักปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของ หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ เดินผ่านสวนเข้ามาจะพบกับสระน้ำขนาดใหญ่ ข้างๆกันมีเรือนไม้สองชั้นถูกจัดให้เป็นที่พักของคุณฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ส่วนหน้าวังที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาถูกจัดสรรค์ให้เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ไม่ไกลกันมากจะเห็นท่าเรือขนาดย่อมที่เคยถูกใช้ให้เป็นท่าเรือส่วนพระองค์ ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นท่าเรือส่วนตัวของโรงแรม และในที่สุดเมื่อเดินมาจนสุดทางจนถึงบริเวณริมเเม่น้ำเจ้าพระยา เราก็จะเห็น Dining Pavillion เป็นศาลาขนาดใหญ่ทรงโปร่งแบบขนมปังขิง บนผนังมีการประดับรูปขาวดำแสดงถึงบ้านเมืองและวิถีชีวิตของประเทศไทยในอดีต ส่วนริมน้ำถูกจัดเป็นโต๊ะอาหารมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างของป้อมวิไชยประสิทธิ์ วัดกัลญาณมิตรวรมหาวิหาร และวิวไฮไลท์ของการมาทานอาหารที่นี่คือวิวของวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ที่เปิดไฟสีส้มสวย เด่นเป็นสง่าริมแม่น้ำยามค่ำคืนอีกด้วย
เนื่องจากที่นี่เป็นไพรเวทไดนิ่ง การมาทานอาหารที่วังจักรพงษ์ “ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น” และจัดรับรองลูกค้าเพียงวันละ 3-5 โต๊ะ โดยต้องจองล่วงหน้าราวๆ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนและไม่รับวอร์คอินเด็ดขาด โดยยามที่เฝ้าประตูจะไม่อนุญาตให้คนนอกที่ไม่มีการจองกับโรงแรมหรือร้านอาหารล่วงหน้าเข้าภายในวังได้เลย ส่วนของอาหารที่นี่เสิร์ฟเป็น Fixed Set Menu แบ่งตามวันอังคารถึงอาทิตย์ (ในกรณีของเราคือเซ็ตเมนูวันเสาร์) ราคา 2,300 บาทต่อคน ยังไม่รวมเครื่องดื่ม โดยจะจัดเสิร์ฟเริ่มจากอาหารว่างสามอย่าง อาหารจานหลักเป็นสำรับแบบไทย ปิดท้ายด้วยขนมหวานและผลไม้รวม อาหารทุกอย่างเป็นตำรับชาววังโบราณจากห้องเครื่องของวังจักรพงษ์เช่นเมนูแกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด เป็นแกงกะหรี่เนื้อเนียน รสนุ่ม มีกลิ่นหอมชนิดที่คนไม่ชอบแกงกะหรี่อย่างเรายังต้องตักทานจนหมด อาจมีบางเมนูที่ถูกปรับเล็กน้อยให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้นเช่นเมนูต้มข่าปลาแซลมอน แต่ยังคงความปราณีต กลิ่นอาย และรสชาติความเป็นไทยอยู่อย่างเต็มเปี่ยม สังเกตุได้จากการม้วนปลาแซลมอนเป็นทรงกลมล้อมต้นข่าก่อนจะนำลงไปต้มกับสมุนไพรทำให้กลิ่นข่าเเทรกถึงเนื้อในของปลาแซลมอน และมีรสชาติกลมกล่อมชนิดเรายกให้เป็นเมนูต้มข่าที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยทานมา ขนมหวานที่นี่ก็ประยุกต์เมนูพื้นบ้านอย่างข้าวเหนียวมะม่วง โดยใช้ข้าวเหนียวมูนห่อด้วยปอเปี๊ยะเเล้วนำไปทอด ทานแล้วเกิดเนื้อสัมผัสที่แปลก แต่อร่อยไม่เหมือนใคร และเพิ่งเคยทานที่นี่เป็นครั้งแรก
กล่าวโดยสรุป ”จักรพงษ์ไดนิ่ง” ถือเป็นห้องอาหารไทยชั้นสูงที่มีความพิถีพิถันเเละความปราณีตเทียบได้กับ Haute Cuisine ของฝรั่งเศส และเป็นห้องอาหารไทยชาววังขนานแท้เพียงไม่กี่แห่งที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยโบราณชั้นสูงในราคาเอื้อมถึง นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศความเป็นส่วนตัว มีความโรแมนติค และเป็นห้องอาหารหนึ่งในห้องอาหารที่เราประทับใจที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว
Saturday Set Menu - วันเสาร์ (2,300/p)
- น้ำอัญชัญมะนาว
Welcome drink
- ทอดมันข้าวโพด
Deep fried corn cake served with peanut and cucumber relish
- สะเต๊ะเนื้อ
Beef satay served with cucumber and peanut relish
- ถุงทองกุ้ง
Deep-fried pastry parcel filled with minced prawn served with plum sauce
- ยำส้มโอ
Thai pomelo salad
- ต้มข่าปลาแซลมอน
Rolled salmon fillet in spicy and sour coconut broth
- แกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด
Yellow curry chicken with Thai cucumber relish
- กุ้งแม่น้ำทอดราดซอสมะขาม
Deep-fried river prawn drizzled with tamarind sauce
- ผัดมะเขือม่วงโหระพา
Stir-fried eggplant with basil
- ผลไม้รวม
Mixed fruit
- ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวมูน เสิร์ฟกับมะม่วงและไอศกรีมกะทิ
Sticky rice spring roll served with mango and Thai coconut ice cream
อาหารตำรับไทยชาววัง รสชาติดี มองเห็นวิวที่สวยที่สุดของโค้งน้ำเจ้าพระยา มีความเป็นส่วนตัวแบะโรแมนติค และเป็นหนึ่งในห้องอาหารที่ประทับใจที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว
ประตูวังยามค่ำคืน ดูลึกลับๆหน่อย
เจอน้องอยู่หน้าประตูเลยจ้า
บรรยากาศภายในร้านโรแมนติกสุดๆ
เมนูของค่ำคืนนี้
น้ำอัญชัญมะนาว
Welcome drink
สำหรับเวลคัมดริ้งค์ที่นี่เสิร์ฟเป็นน้ำอัญชัญมะนาวให้รสเปรี้ยวอ่อนๆสดชื่นและกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี
ข้าวกล้อง
Brown rice
ข้าวกล้องถูกเสิร์ฟมาในกรวยใบตองที่ถูกกลัดมาเป็นอย่างดี หุ้มอีกชั้นด้วยพวงมาลัย นอกจากเรื่องความสวยงามเเล้ว กรวยใบตองยังช่วยให้ข้าวร้อนเท่าๆกันอีกด้วย ตัวข้าวคุณภาพสูง ข้าวเต็มเมล็ดทั้งหมด หุ้งขึ้นหม้อ นุ่มมาก ไม่มีส่วนใดที่แห้งแข็งเลย
- ทอดมันข้าวโพด
Deep fried corn cake served with peanut and cucumber relish
ทอดมันข้าวโพดทอดมากรอบมาก ไม่อมน้ำมัน ข้าวโพดนุ่มมาก สุกเท่ากันหมด ทานแล้วมีกลิ่นหอมข้าวโพด น้ำจิ้มรสหวานทำให้เกิดความต่างของเลเยอร์ความหวานของรสน้ำจิ้มและข้าวโพด อร่อยมาก
- สะเต๊ะเนื้อ
Beef satay served with cucumber and peanut relish
สะเต๊ะเนื้อ แม้จะใช้วัตถุดิบเนื้อเป็นเนื้อธรรมดา ไม่ได้นุ่มมากนัก แต่รสชาติของซอสถั่วลิสงและน้ำอาจาดเข้ากันดีงามมากๆ มีรสหวานครีมของถั่ว มีกลิ่นหอม มีรสหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆของอาจาด เป็นซอสสะเต๊ะที่เพอร์เฟคมากๆ
- ถุงทองกุ้ง
Deep-fried pastry parcel filled with minced prawn served with plum sauce
ถุงทอง อาหารว่างชาววังโบราณ มีแป้งบาง กรอบ จับจีบสวยงามมากๆ เป็นหนึ่งในถุงทองที่ทั้งสวย ทั้งอร่อยที่สุดเท่าที่เคยเห็น ทอดมาไม่อมน้ำมัน ด้านในมีเนื้อกุ้งสับ มีรสหวานธรรมชาติจากเนื้อกุ้ง ทานกับซอสบ๊วยรสหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม ตัดกัน ดีงามสุดๆ
- ยำส้มโอ
Thai pomelo salad
ยำส้มโอสูตรโบราณ เป็นเมนูที่เราสั่งทานเกือบทุกครั้งเมื่อแวะไปร้านอาหารไทยชาววังเพราะเป็นเมนูที่ทานเเล้วช่วยเรียกน้ำย่อยให้อยากอาหารได้ดี วันนี้ทางร้านจัดให้อยู่ในเซ็ตเมนูอยู่เเล้ว ส้มโอคุณภาพสูงถูกคัดมาเป็นอย่างดี มีรสหวาน ทานกับพริกแห้งมีรสเผ็ดอ่อนๆ มีกลิ่นหอมของพริกคั่ว เป็นเมนูที่ไม่พลิกแพลงแต่ทำรสชาติออกมาทุกอย่างลงตัวใช้ได้เลยทีเดียว
- ต้มข่าปลาแซลมอน
Rolled salmon fillet in spicy and sour coconut broth
ตัมข่า ซุปไทยที่ปกติเราไม่เคยชอบเลยแม้แต่ร้านระดับมิชลินไกด์เองก็ตาม เพราะร้านทั่วๆไปจะทำออกมาเลี่ยนหรือมักมีกลิ่นของข่าและกะทิค่อนข้างเเรง แต่สำหรับวันนี้ต้มข่าสูตรโบราณของห้องเครื่องวังจักรพงษ์ มีรสชาติกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ ความครีมมี่ของกะทิไม่เยอะมาก แต่มีกลิ่นและรสของสมุนไพรอื่นๆมาตัด ทีเด็ดคือปลาแซลมอนที่ถูกม้วนพันรอบต้นข่าก่อนจะนำไปต้มทำให้กลิ่นข่าแทรกเข้าไปในเนื้อปลา กลิ่นของข่าและปลาเเซลมอนเข้ากันได้อย่างดี เนื้อปลาก็สุกกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป เป็นร้านแรกเลยจริงๆตั้งเเต่ทานมาหลายร้านที่ทำให้เราชอบเมนูต้มข่าได้
แกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด
Yellow curry chicken with Thai cucumber relish
หนึ่งในจานที่ดีที่สุดในวันนี้ขอยกให้แกงกะหรี่ไก่ เช่นเดียวกับต้มข่า แกงกะหรี่เป็นแกงไทยที่เราชอบน้อยที่สุดในบรรดาแกงทั้งมวลเพราะถ้าทำเครื่องแกงไม่ดีจะมีกลิ่นแรง ไม่บาลานซ์ แต่แกงกะหรี่สูตรต้นเครื่องของวังจักรพงษ์เปลี่ยนความคิดเราไปจนหมดสิ้น เนื้อแกงเนียนละเอียดมากชนิดที่ว่าหากากชิ้นเล็กๆไม่เจอเลย เนื้อสัมผัสนุ่ม ละมุนลิ้น มีกลิ่นหอมสุดๆ โปรตีนหลักคือเนื้อไก่นุ่ม สุกพอดี ทานตัดกับมันฝรั่งที่ใส่มาข้างในลงตัวมากๆ ขอยกให้เป็นหนึ่งในแกงกะหรี่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมา เป็นรองเเค่เพียง Paste ห้องอาหารไทยระดับ 1 ดาวมิชลินที่มีเมนูซิกเนเจอร์คือแกงกะหรี่เป็ดแบบลาว เพียงร้านเดียวเท่านั้น
กุ้งแม่น้ำทอดราดซอสมะขาม
Deep-fried river prawn drizzled with tamarind sauce
กุ้งแม่น้ำขนาดกลางทอดมาจนมีสีเหลือง กรอบนอก นุ่มใน เนื้อกุ้งสุกพอดี ไม่แห้งแข็ง ราดด้วยซอสมะขามข้น รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมของพริกแห้งที่คั่วมาเป็นอย่างดี เป็นเมนูบ้านๆแต่ทำออกมารสชาติดีมากจริงๆ
ผัดมะเขือม่วงโหระพา
Stir-fried eggplant with basil
ผัดมะเขือม่วงที่นี่ดูเผินๆเหมือนจะเป็นผัดผักธรรมดา แต่รสชาติที่ออกมาทำเราทึ่งอยู่เหมือนกัน มะเขือม่วงถูกผัดออกมาพอดี เนื้อด้านในนุ่มแต่ไม่เละ ละมุนมากๆ ทานเเล้วมีกลิ่นหอมของโหระพาเด่นขึ้นจมูก ไม่ฉุน มีรสชาติเข้มข้น บอกตรงๆว่าตอนทานครั้งเเรกนี่ร้องว้าวเลยทีเดียว
- ผลไม้รวม
Mixed fruit
ผลไม้รวมประกอบด้วยองุ่น มะละกอ ฝรั่ง มะม่วงมัน สับปะรด และส้มโอ ทั้งหมดทานเเล้วจะรู้เลยว่าคัดมาอย่างดี สับปะรดอร่อยมาก มะม่วงมันกรอบ แต่ยังคงฉ่ำ ไม่แห้ง ส้มโอหวาน ฉ่ำน้ำ เเตงโมถูกแคะเมล็ดออกจนหมด แกะสลักมาเป็นลวดลายสวยงามสมกับเป็นอาหารชาววังจริงๆ
ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวมูน เสิร์ฟกับมะม่วงและไอศกรีมกะทิ
Sticky rice spring roll served with mango and Thai coconut ice cream
สุดยอดเมนูขนมหวานพื้นบ้านอย่างข้าวเหนียวมะม่วงที่พอถูกนำมาเสิร์ฟแบบชาววังก็มีบูกเล่นโดยการนำข้าวเหนียวมูนไปห่อกับปอเปี๊ยะ จากนั้นทอดจนกรอบ ทานเเล้วจะได้เนื้อสัมผัสที่เเตกต่างของข้าวเหนียวทอดแล
[CR] [CR]รีวีว จักรพงษ์ไดนิ่ง (Chakrabongse Dining)
ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining ด้วยนะคะ ไปล่าของกินด้วยกัน ><
Chakrabongse Dining - จักรพงษ์ไดนิ่ง
Michelin Plate - มิชลิน เพลท
วังจักรพงษ์ หรือวังท่าเตียน คฤหาสถ์ขนาดใหญ่บนถนนมหาราชติดกับโรงเรียนราชินีเป็นหนึ่งในวังเก่าแก่ที่ยังมีการใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถทรงโปรดให้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2452 เพื่อประทานให้เป็นที่พักของของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสไตล์อิตาเลียนวิลล่า ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ ด้านนอกมีรั้วรอบขอบชิดและมีกำแพงซ้อนถึงสองชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้านายและผู้อยู่อาศัย ภายในมีเป็นสวนประกอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมายป้องกันการมองเห็นจากภายนอก เข้ามาด้านหน้าจะพบกับตัวอาคารหลักปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของ หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ เดินผ่านสวนเข้ามาจะพบกับสระน้ำขนาดใหญ่ ข้างๆกันมีเรือนไม้สองชั้นถูกจัดให้เป็นที่พักของคุณฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ส่วนหน้าวังที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาถูกจัดสรรค์ให้เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ไม่ไกลกันมากจะเห็นท่าเรือขนาดย่อมที่เคยถูกใช้ให้เป็นท่าเรือส่วนพระองค์ ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นท่าเรือส่วนตัวของโรงแรม และในที่สุดเมื่อเดินมาจนสุดทางจนถึงบริเวณริมเเม่น้ำเจ้าพระยา เราก็จะเห็น Dining Pavillion เป็นศาลาขนาดใหญ่ทรงโปร่งแบบขนมปังขิง บนผนังมีการประดับรูปขาวดำแสดงถึงบ้านเมืองและวิถีชีวิตของประเทศไทยในอดีต ส่วนริมน้ำถูกจัดเป็นโต๊ะอาหารมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างของป้อมวิไชยประสิทธิ์ วัดกัลญาณมิตรวรมหาวิหาร และวิวไฮไลท์ของการมาทานอาหารที่นี่คือวิวของวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ที่เปิดไฟสีส้มสวย เด่นเป็นสง่าริมแม่น้ำยามค่ำคืนอีกด้วย
เนื่องจากที่นี่เป็นไพรเวทไดนิ่ง การมาทานอาหารที่วังจักรพงษ์ “ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น” และจัดรับรองลูกค้าเพียงวันละ 3-5 โต๊ะ โดยต้องจองล่วงหน้าราวๆ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนและไม่รับวอร์คอินเด็ดขาด โดยยามที่เฝ้าประตูจะไม่อนุญาตให้คนนอกที่ไม่มีการจองกับโรงแรมหรือร้านอาหารล่วงหน้าเข้าภายในวังได้เลย ส่วนของอาหารที่นี่เสิร์ฟเป็น Fixed Set Menu แบ่งตามวันอังคารถึงอาทิตย์ (ในกรณีของเราคือเซ็ตเมนูวันเสาร์) ราคา 2,300 บาทต่อคน ยังไม่รวมเครื่องดื่ม โดยจะจัดเสิร์ฟเริ่มจากอาหารว่างสามอย่าง อาหารจานหลักเป็นสำรับแบบไทย ปิดท้ายด้วยขนมหวานและผลไม้รวม อาหารทุกอย่างเป็นตำรับชาววังโบราณจากห้องเครื่องของวังจักรพงษ์เช่นเมนูแกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด เป็นแกงกะหรี่เนื้อเนียน รสนุ่ม มีกลิ่นหอมชนิดที่คนไม่ชอบแกงกะหรี่อย่างเรายังต้องตักทานจนหมด อาจมีบางเมนูที่ถูกปรับเล็กน้อยให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้นเช่นเมนูต้มข่าปลาแซลมอน แต่ยังคงความปราณีต กลิ่นอาย และรสชาติความเป็นไทยอยู่อย่างเต็มเปี่ยม สังเกตุได้จากการม้วนปลาแซลมอนเป็นทรงกลมล้อมต้นข่าก่อนจะนำลงไปต้มกับสมุนไพรทำให้กลิ่นข่าเเทรกถึงเนื้อในของปลาแซลมอน และมีรสชาติกลมกล่อมชนิดเรายกให้เป็นเมนูต้มข่าที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยทานมา ขนมหวานที่นี่ก็ประยุกต์เมนูพื้นบ้านอย่างข้าวเหนียวมะม่วง โดยใช้ข้าวเหนียวมูนห่อด้วยปอเปี๊ยะเเล้วนำไปทอด ทานแล้วเกิดเนื้อสัมผัสที่แปลก แต่อร่อยไม่เหมือนใคร และเพิ่งเคยทานที่นี่เป็นครั้งแรก
กล่าวโดยสรุป ”จักรพงษ์ไดนิ่ง” ถือเป็นห้องอาหารไทยชั้นสูงที่มีความพิถีพิถันเเละความปราณีตเทียบได้กับ Haute Cuisine ของฝรั่งเศส และเป็นห้องอาหารไทยชาววังขนานแท้เพียงไม่กี่แห่งที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยโบราณชั้นสูงในราคาเอื้อมถึง นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศความเป็นส่วนตัว มีความโรแมนติค และเป็นห้องอาหารหนึ่งในห้องอาหารที่เราประทับใจที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว
Saturday Set Menu - วันเสาร์ (2,300/p)
- น้ำอัญชัญมะนาว
Welcome drink
- ทอดมันข้าวโพด
Deep fried corn cake served with peanut and cucumber relish
- สะเต๊ะเนื้อ
Beef satay served with cucumber and peanut relish
- ถุงทองกุ้ง
Deep-fried pastry parcel filled with minced prawn served with plum sauce
- ยำส้มโอ
Thai pomelo salad
- ต้มข่าปลาแซลมอน
Rolled salmon fillet in spicy and sour coconut broth
- แกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด
Yellow curry chicken with Thai cucumber relish
- กุ้งแม่น้ำทอดราดซอสมะขาม
Deep-fried river prawn drizzled with tamarind sauce
- ผัดมะเขือม่วงโหระพา
Stir-fried eggplant with basil
- ผลไม้รวม
Mixed fruit
- ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวมูน เสิร์ฟกับมะม่วงและไอศกรีมกะทิ
Sticky rice spring roll served with mango and Thai coconut ice cream
อาหารตำรับไทยชาววัง รสชาติดี มองเห็นวิวที่สวยที่สุดของโค้งน้ำเจ้าพระยา มีความเป็นส่วนตัวแบะโรแมนติค และเป็นหนึ่งในห้องอาหารที่ประทับใจที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว
ประตูวังยามค่ำคืน ดูลึกลับๆหน่อย
เจอน้องอยู่หน้าประตูเลยจ้า
บรรยากาศภายในร้านโรแมนติกสุดๆ
เมนูของค่ำคืนนี้
น้ำอัญชัญมะนาว
Welcome drink
สำหรับเวลคัมดริ้งค์ที่นี่เสิร์ฟเป็นน้ำอัญชัญมะนาวให้รสเปรี้ยวอ่อนๆสดชื่นและกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี
ข้าวกล้อง
Brown rice
ข้าวกล้องถูกเสิร์ฟมาในกรวยใบตองที่ถูกกลัดมาเป็นอย่างดี หุ้มอีกชั้นด้วยพวงมาลัย นอกจากเรื่องความสวยงามเเล้ว กรวยใบตองยังช่วยให้ข้าวร้อนเท่าๆกันอีกด้วย ตัวข้าวคุณภาพสูง ข้าวเต็มเมล็ดทั้งหมด หุ้งขึ้นหม้อ นุ่มมาก ไม่มีส่วนใดที่แห้งแข็งเลย
- ทอดมันข้าวโพด
Deep fried corn cake served with peanut and cucumber relish
ทอดมันข้าวโพดทอดมากรอบมาก ไม่อมน้ำมัน ข้าวโพดนุ่มมาก สุกเท่ากันหมด ทานแล้วมีกลิ่นหอมข้าวโพด น้ำจิ้มรสหวานทำให้เกิดความต่างของเลเยอร์ความหวานของรสน้ำจิ้มและข้าวโพด อร่อยมาก
- สะเต๊ะเนื้อ
Beef satay served with cucumber and peanut relish
สะเต๊ะเนื้อ แม้จะใช้วัตถุดิบเนื้อเป็นเนื้อธรรมดา ไม่ได้นุ่มมากนัก แต่รสชาติของซอสถั่วลิสงและน้ำอาจาดเข้ากันดีงามมากๆ มีรสหวานครีมของถั่ว มีกลิ่นหอม มีรสหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆของอาจาด เป็นซอสสะเต๊ะที่เพอร์เฟคมากๆ
- ถุงทองกุ้ง
Deep-fried pastry parcel filled with minced prawn served with plum sauce
ถุงทอง อาหารว่างชาววังโบราณ มีแป้งบาง กรอบ จับจีบสวยงามมากๆ เป็นหนึ่งในถุงทองที่ทั้งสวย ทั้งอร่อยที่สุดเท่าที่เคยเห็น ทอดมาไม่อมน้ำมัน ด้านในมีเนื้อกุ้งสับ มีรสหวานธรรมชาติจากเนื้อกุ้ง ทานกับซอสบ๊วยรสหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม ตัดกัน ดีงามสุดๆ
- ยำส้มโอ
Thai pomelo salad
ยำส้มโอสูตรโบราณ เป็นเมนูที่เราสั่งทานเกือบทุกครั้งเมื่อแวะไปร้านอาหารไทยชาววังเพราะเป็นเมนูที่ทานเเล้วช่วยเรียกน้ำย่อยให้อยากอาหารได้ดี วันนี้ทางร้านจัดให้อยู่ในเซ็ตเมนูอยู่เเล้ว ส้มโอคุณภาพสูงถูกคัดมาเป็นอย่างดี มีรสหวาน ทานกับพริกแห้งมีรสเผ็ดอ่อนๆ มีกลิ่นหอมของพริกคั่ว เป็นเมนูที่ไม่พลิกแพลงแต่ทำรสชาติออกมาทุกอย่างลงตัวใช้ได้เลยทีเดียว
- ต้มข่าปลาแซลมอน
Rolled salmon fillet in spicy and sour coconut broth
ตัมข่า ซุปไทยที่ปกติเราไม่เคยชอบเลยแม้แต่ร้านระดับมิชลินไกด์เองก็ตาม เพราะร้านทั่วๆไปจะทำออกมาเลี่ยนหรือมักมีกลิ่นของข่าและกะทิค่อนข้างเเรง แต่สำหรับวันนี้ต้มข่าสูตรโบราณของห้องเครื่องวังจักรพงษ์ มีรสชาติกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ ความครีมมี่ของกะทิไม่เยอะมาก แต่มีกลิ่นและรสของสมุนไพรอื่นๆมาตัด ทีเด็ดคือปลาแซลมอนที่ถูกม้วนพันรอบต้นข่าก่อนจะนำไปต้มทำให้กลิ่นข่าแทรกเข้าไปในเนื้อปลา กลิ่นของข่าและปลาเเซลมอนเข้ากันได้อย่างดี เนื้อปลาก็สุกกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป เป็นร้านแรกเลยจริงๆตั้งเเต่ทานมาหลายร้านที่ทำให้เราชอบเมนูต้มข่าได้
แกงกะหรี่ไก่-น้ำอาจาด
Yellow curry chicken with Thai cucumber relish
หนึ่งในจานที่ดีที่สุดในวันนี้ขอยกให้แกงกะหรี่ไก่ เช่นเดียวกับต้มข่า แกงกะหรี่เป็นแกงไทยที่เราชอบน้อยที่สุดในบรรดาแกงทั้งมวลเพราะถ้าทำเครื่องแกงไม่ดีจะมีกลิ่นแรง ไม่บาลานซ์ แต่แกงกะหรี่สูตรต้นเครื่องของวังจักรพงษ์เปลี่ยนความคิดเราไปจนหมดสิ้น เนื้อแกงเนียนละเอียดมากชนิดที่ว่าหากากชิ้นเล็กๆไม่เจอเลย เนื้อสัมผัสนุ่ม ละมุนลิ้น มีกลิ่นหอมสุดๆ โปรตีนหลักคือเนื้อไก่นุ่ม สุกพอดี ทานตัดกับมันฝรั่งที่ใส่มาข้างในลงตัวมากๆ ขอยกให้เป็นหนึ่งในแกงกะหรี่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมา เป็นรองเเค่เพียง Paste ห้องอาหารไทยระดับ 1 ดาวมิชลินที่มีเมนูซิกเนเจอร์คือแกงกะหรี่เป็ดแบบลาว เพียงร้านเดียวเท่านั้น
กุ้งแม่น้ำทอดราดซอสมะขาม
Deep-fried river prawn drizzled with tamarind sauce
กุ้งแม่น้ำขนาดกลางทอดมาจนมีสีเหลือง กรอบนอก นุ่มใน เนื้อกุ้งสุกพอดี ไม่แห้งแข็ง ราดด้วยซอสมะขามข้น รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมของพริกแห้งที่คั่วมาเป็นอย่างดี เป็นเมนูบ้านๆแต่ทำออกมารสชาติดีมากจริงๆ
ผัดมะเขือม่วงโหระพา
Stir-fried eggplant with basil
ผัดมะเขือม่วงที่นี่ดูเผินๆเหมือนจะเป็นผัดผักธรรมดา แต่รสชาติที่ออกมาทำเราทึ่งอยู่เหมือนกัน มะเขือม่วงถูกผัดออกมาพอดี เนื้อด้านในนุ่มแต่ไม่เละ ละมุนมากๆ ทานเเล้วมีกลิ่นหอมของโหระพาเด่นขึ้นจมูก ไม่ฉุน มีรสชาติเข้มข้น บอกตรงๆว่าตอนทานครั้งเเรกนี่ร้องว้าวเลยทีเดียว
- ผลไม้รวม
Mixed fruit
ผลไม้รวมประกอบด้วยองุ่น มะละกอ ฝรั่ง มะม่วงมัน สับปะรด และส้มโอ ทั้งหมดทานเเล้วจะรู้เลยว่าคัดมาอย่างดี สับปะรดอร่อยมาก มะม่วงมันกรอบ แต่ยังคงฉ่ำ ไม่แห้ง ส้มโอหวาน ฉ่ำน้ำ เเตงโมถูกแคะเมล็ดออกจนหมด แกะสลักมาเป็นลวดลายสวยงามสมกับเป็นอาหารชาววังจริงๆ
ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวมูน เสิร์ฟกับมะม่วงและไอศกรีมกะทิ
Sticky rice spring roll served with mango and Thai coconut ice cream
สุดยอดเมนูขนมหวานพื้นบ้านอย่างข้าวเหนียวมะม่วงที่พอถูกนำมาเสิร์ฟแบบชาววังก็มีบูกเล่นโดยการนำข้าวเหนียวมูนไปห่อกับปอเปี๊ยะ จากนั้นทอดจนกรอบ ทานเเล้วจะได้เนื้อสัมผัสที่เเตกต่างของข้าวเหนียวทอดแล
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้