ไม่ว่าจะออกไปจังหวัดไหน ก็จะมีประเด็นต้องแก้รัฐธรรมนูญ
คือสงสัยว่า เขาอยากแก้ในส่วนไหน
ไม่รู้จริงๆ ว่าส่วนที่จะแก้ไขมันไม่เป็นธรรมไม่เท่าเทียมกันระหว่างนักการเมือง
หรือประชาชนเสียผลประโยชน์อย่างไร
ส่วนตัวมองว่าอยากเห็นพรรคนี้
ชูประเด็นคอรัปชันมากกว่า
คอรัปชันตั้งแต่การเลือกตั้ง
เช่นการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง แน่นอนหาก
นักการเมืองได้ควักทุนตั้งแต่แจกเงินชาวบ้านแล้วอย่างในเขตได้ 30,000 เสียง
เขาจ่ายไปคนละ 200 บาท=6,000,000
บาท แล้วรวมค่าป้าย รถหาเสียงอีกเดือนนึงก็คงหลายแสนบาทถ้ารถหลายคัน
ถึงมีนายทุนพรรค หรือหัวหน้าพรรคจ่ายให้ก็ต้องไปหาวิธีถอนทุนคืนอย่ดี
หรือจะมีใครตั้งใจเข้าไปเพื่อพัฒนาประเทศหรือเขตของตนเองโดยไม่สนใจเงินที่ลงทุนไป
ถ้าคอรัปชันลดลง ประเทศไทยเราคงพัฒนาไปได้ดีกว่านี้
เคยรับเหมางานกับหน่วยงานรัฐย่อยๆแล้วต้องเสีย% ให้ถึงได้งาน บางทีประมูลงานได้ แต่นายขอให้ลูกน้องของทีมตัวเองเอางานนั้นไป เปิดซองก่อนเวลาก็มี
มันรู้สึกเฟล ทำได้แค่ปีเศษๆ
เลิกเลย คือไม่ว่าใครมาเป็นนายก ข้าราชการประจำหรือบริษัท เอกชน
ก็กินเนียน ๆกันเหมือนเดิม
ในเคสการ เลือกตั้ง เลือกเมื่อไหร่เห็นเขามาแจกเงิน หัวคะแนนก็คนรู้จักกันอีก
คือมันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่ชอบแบบนี้แต่ก็ต้องรับ
ถ่ายรูปอัดเสียงแจ้งความ
ก็คงไม่ได้อยู่ดีแน่ๆ😅
ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยาบายเรื่องต้านทุจริต มีหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้สถานศึกษานำไปสอนในรร.ตั้งแต่อนุบาลถึงม.6 ระดับอาชีวก็มี หลักสูตรสำหรับโค้ช วิทยากร
ทหาร ตำรวจก็มี
แต่หากไม่ติดตามอย่างเข้มงวด
หรือในรร. ไม่นำไปปฏิบัติจริง
สอนติวแต่ onet
ก็คงเหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์
อยากให้ทุกพรรค
ไม่เฉพาะรัฐบาล ช่วยกันผลักดัน
เรื่องการทุจริตคอรัปชั่นจริง
ให้ถือเป็นเรื่องใหญ่
มากกว่ามาโจมตีหรือแขวะกันรายวัน
ลงไปพื้นที่ที่ชาวบ้านเขาเดือดร้อนหรือมีปัญหาและรับฟัง
ไม่ใช่นั่งมโนเอง หรือฟังจากแค่บางกลุ่มแล้วนำเสนอในสภา หรือแค่จะเถียงกันด้วยเรื่องหยุมหยิม
ทำไมพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงบางพรรค ถึงมุ่งมั่นจะแก้ไขแต่รัฐธรรมนูญ
คือสงสัยว่า เขาอยากแก้ในส่วนไหน
ไม่รู้จริงๆ ว่าส่วนที่จะแก้ไขมันไม่เป็นธรรมไม่เท่าเทียมกันระหว่างนักการเมือง
หรือประชาชนเสียผลประโยชน์อย่างไร
ส่วนตัวมองว่าอยากเห็นพรรคนี้
ชูประเด็นคอรัปชันมากกว่า
คอรัปชันตั้งแต่การเลือกตั้ง
เช่นการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง แน่นอนหาก
นักการเมืองได้ควักทุนตั้งแต่แจกเงินชาวบ้านแล้วอย่างในเขตได้ 30,000 เสียง
เขาจ่ายไปคนละ 200 บาท=6,000,000
บาท แล้วรวมค่าป้าย รถหาเสียงอีกเดือนนึงก็คงหลายแสนบาทถ้ารถหลายคัน
ถึงมีนายทุนพรรค หรือหัวหน้าพรรคจ่ายให้ก็ต้องไปหาวิธีถอนทุนคืนอย่ดี
หรือจะมีใครตั้งใจเข้าไปเพื่อพัฒนาประเทศหรือเขตของตนเองโดยไม่สนใจเงินที่ลงทุนไป
ถ้าคอรัปชันลดลง ประเทศไทยเราคงพัฒนาไปได้ดีกว่านี้
เคยรับเหมางานกับหน่วยงานรัฐย่อยๆแล้วต้องเสีย% ให้ถึงได้งาน บางทีประมูลงานได้ แต่นายขอให้ลูกน้องของทีมตัวเองเอางานนั้นไป เปิดซองก่อนเวลาก็มี
มันรู้สึกเฟล ทำได้แค่ปีเศษๆ
เลิกเลย คือไม่ว่าใครมาเป็นนายก ข้าราชการประจำหรือบริษัท เอกชน
ก็กินเนียน ๆกันเหมือนเดิม
ในเคสการ เลือกตั้ง เลือกเมื่อไหร่เห็นเขามาแจกเงิน หัวคะแนนก็คนรู้จักกันอีก
คือมันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่ชอบแบบนี้แต่ก็ต้องรับ
ถ่ายรูปอัดเสียงแจ้งความ
ก็คงไม่ได้อยู่ดีแน่ๆ😅
ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยาบายเรื่องต้านทุจริต มีหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้สถานศึกษานำไปสอนในรร.ตั้งแต่อนุบาลถึงม.6 ระดับอาชีวก็มี หลักสูตรสำหรับโค้ช วิทยากร
ทหาร ตำรวจก็มี
แต่หากไม่ติดตามอย่างเข้มงวด
หรือในรร. ไม่นำไปปฏิบัติจริง
สอนติวแต่ onet
ก็คงเหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์
อยากให้ทุกพรรค
ไม่เฉพาะรัฐบาล ช่วยกันผลักดัน
เรื่องการทุจริตคอรัปชั่นจริง
ให้ถือเป็นเรื่องใหญ่
มากกว่ามาโจมตีหรือแขวะกันรายวัน
ลงไปพื้นที่ที่ชาวบ้านเขาเดือดร้อนหรือมีปัญหาและรับฟัง
ไม่ใช่นั่งมโนเอง หรือฟังจากแค่บางกลุ่มแล้วนำเสนอในสภา หรือแค่จะเถียงกันด้วยเรื่องหยุมหยิม