สวัสดิ์ดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการไปเที่ยวกาญจนบุรี ฉบับคนมีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวสำหรับทริปนี้เราต้องประหยัดกันนิดนึง ทั้งเรื่องของเวลาและเงิน 555 เนื่องจากเรามีเวลาแค่ 2 วัน และงบค่อนข้างน้อยเพราะอาทิตย์ก่อนเราพึ่งบินไปเที่ยวทะเลมา ทริปนี้ค่อนข้างจะเที่ยวน้อยหน่อยเน้นเฉพาะสถานที่ที่อยู่ใกล้ๆตัวเมือง แล้วก็ตรงไปที่พักเลย
  มาเริ่มกันเลยค่ะ เราเดินทางจากเชียงใหม่โดยรถบัส มีรถตรงจากเชียงใหม่-กาญจนบุรีเลย ที่เลือกวิธีนี้เพราะต้องการประหยัดเงิน แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถนานๆแนะนำให้นั้งเครื่องไปลงกรุงเทพ และต่อรถจากกรุงเทพไปกาญจนบุรี จะประหยัดเวลาไปได้หลายชั่วโมงเลย เราเลือกรอบรถ 20.00 น. คือเลิกงานปุ๊บก็ไปขึ้นรถเลย อาศัยนอนบนรถเอา
  เราเลือก VIP เพราะจะได้นอนสบายๆไปถึงก็เที่ยวเลย ราคา 865 บาท เบาะบนรถนั้งสบาย มีขนม น้ำอัดลม น้ำเปล่า แจกบนรถ และระหว่างทางก็แวะให้ลงไปรับประทานอาหารได้ มีคูปองให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง เราโชคร้ายนิดนึงคือรถเสียระหว่างทาง เสียเวลาไปชั่วโมงกว่าเลย 
 
  และในที่สุดก็มาถึงช้ากว่าเวลาที่คาดกาลไว้นิดหน่อย พอมาถึงปุ๊บก็กูเกิลเลยจ๊ะว่ามีที่ไหนอยู่ใกล้บางๆ (ลืมบอกไปว่าทริปนี้ไม่ได้แพลนอะไรไว้เลยมาด้นสดเอา) สรุปคือที่อยู่ใกล้สุดก็คือ สะพานแควใหญ่ และพิพิธภัณฑ์สงคราม โอเคไปสองที่นี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่ ประเด็นคือไปไงละ? เดินถามรถรอบๆขนส่งราคาก็จะมีตั้งแต่แพงยันถูก 80-200 บาท สรุปคือไปตุ๊กตุ๊กจ้า 80 บาท เนื่องจากไม่เคยมาและราคานี้คือไปกัน 2 คน คนละ 40 บาท สำหรับเราคือโอเคไปกันเลย
  ถือว่านั้งรถชมบรรยากาศยามเช้าในเมืองไปเลย ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็มาถึง ช่วงที่เรามาถึงก็ 08.20 น. คิดว่าคงไม่ค่อยมีคนที่ไหนได้คนเต็มสะพานเลยจ้า
  ขอเล่านิดนึงนะพอเที่ยวเสร็จเราก็กลับมาหาข้อมูลของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถูกสร้างขึ้นโดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น การก่อสร้างใช้เวลาเพียงหนึ่งปี ก่อนจะถูกระเบิดทิ้งจากกองบินสัมพันธมิตรจนสะพานช่วงกลางพังถล่มลงมา ต่อมาภายหลังสงครามโลกยุติลง รัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อจากอังกฤษ แล้วบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ ปัจจุบันสะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการยกย่องให้เป็น "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" 
  เดินชมรอบๆสะพานเสร็จก็ไปที่ต่อไปเลยจ้า หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ไม่ไกลจากสะพานแควใหญ่เดินไปประมาณ 150 เมตรก็ถึง มีค่าเข้านะ 50 บาท 
  พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยสงคราม เพื่อจัดแสดงให้เห็นสิ่งที่หลงเหลือไว้ โดยจัดแสดงเป็นหอศิลป​์ และพิพิธภัณฑ์สงคราม ด้านนอกอาคาร จะได้เห็นซากรถจักรไอน้ำ ส่วนด้านในมีภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์​สงคราม อาวุธ และหลักฐานทางประวัติศาตร์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สงครามระหว่างไทยกับพม่า มีของสะสมต่างๆ เช่นดาบ ลูกระเบิด เงินโบราณ ยานพาหนะของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ เรือ และหุ่นจำลองสามมิติ แสดงภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งเชลยศึกถูกเกณฑ์ไปสร้างทางรถไฟ รวมถึงความเป็นอยู่ของเชลยศึก และจุดแรกของการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ทำด้วยไม้ ก่อนที่จะย้ายไปยังที่ปัจจุบัน มาเที่ยวครั้งนี้เหมือนมาเรียนประวัติศาสตร์ ความรู้แน่นๆไปเลย 
  คิดว่าวันนี้คงได้เที่ยวแค่นี้ เราก็เดินทางกลับไปที่ขนส่งเพื่อจะเดินทางต่อไปที่พัก ขากลับจากสะพานเราเลือกเดินออกมาถนนใหญ่และโบกรถสองแถวเอาเพราะถามชาวบ้านแถวนั้นแล้วว่าจะกลับไปขนส่งยังไง เดินออกมา 500 เมตร โบกรถเอาเลยจ้า จะบอกว่าค่ารถขากลับคนละ 15 บาทเอง เมื่อเช้าคือด้วยความรีบเลยเลือกเอาความสบาย พอมาถึงขนส่งเราก็นั่งรถไปที่พักเลยจ้า นั้งรถที่เขียนว่าไปท่ากระดาน รถสีฟ้า เค้าจะไปส่งในที่พักเลยจ้า ที่พักที่เราจองไว้ คือ LAKE HEAVEN RESORT 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ราคาที่จขกท.จองไว้คือห้องละ 2700 บาท หาร 2 คนละ 1350 บาท ราคานี้คือรวมอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
 นั้งรถมาประมาณชัวโมงกว่าๆก็มาถึงที่พัก เสียค่ารถคนละ 60 บาทเอง
  เข้าสู่ช่วงรีวิวที่พัก ที่พักจะแบ่งออกไป 2 ที่คือ แพริมน้ำ กับบ้านพักบนบก เราเลือกบนบกเพราะกลัวเมาหัว ในส่วนที่พักบนบกก็จะมีสระว่ายน้ำให้เล่นด้วยนะ 
  ห้องพักสะอาด กว้างดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พนักงานต้อนรับบริการดีมาก ถือว่าผ่านเหมาะสมกับราคา มาถึงก็เกือบบ่ายโมงแล้วก็ลงไปทานอาหารที่ครัว ครัวอยู่ที่แพริมน้ำนะจ๊ะ กินข้าวไปโคลงเคลงไปมึนหัวดี
  เติมพลังเสร็จเราก็กลับขึ้นไปเตรียมตัวลงมาเล่นน้ำด้านล่าง มีเครื่องเล่น*--ให้เล่นมากมายตามรูปเลย ที่ชอบและมันส์สุดก็คือสไลเดอร์ โอ้โห้ต้องบอกเลยว่าเสียวสุดๆ ตอนลงมาหัวใจแทบหยุดเต้น แต่น่าเสียดายเค้าปิดให้เล่นสไลเดอร์ตอน 18.00 น.
  อีกกิจกรรมของรีสอร์ทที่จองไว้ก็คือ ล่องแพเปียก เค้าจะพาคุณชมวิวท่ามกลางเขื่อนศรีนครินทร์ ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น และปล่อยให้เล่นน้ำ ราคา 100 บาท สำหรับการล่องแพเปียก วันที่เราไปมีให้บรกิการ 2 รอบ คือ 16.00 17.00 น. เราไปตอน 17.00 น. กลับมาก็เกือบ 18.30 น. เครื่องก็ปิดให้บริการหมดแล้ว 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คหสต. เราไม่ค่อยอินเท่าไรอะใช้เวลานานหลายชั่วโมง เต็ม 10 ให้ 5 วิวสวยจริง แต่ค่อนข้างน่าเบื่อ
  รูปที่ไม่ได้ใส่เครดิตเราเอามาจากเพจของรีสอร์ทนะ หลังจากเล่นน้ำเสร็จเราก็มาทานอาหารเย็นที่จองไว้ (เราสามารถจองอาหารที่ห้องอาหารไว้ได้ และนัดเวลาที่เราจะมาทานไว้ มาถึงจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ) อาหารราคาค่อนข้างแพงแต่ก็อร่อยสมราคา ส่วนอาหารเช้าก็มีให้เลือกมากมายถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไป ทริปนี้ก็จะสั้นๆเน้นพักผ่อน
  สำหรับทริปนี้ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ เราใช้เวลา 2 วัน 1 คืน และเงินอีก 3500 บาท (รวมค่ากิน ค่าที่พัก ค่ารถ และค่าเครื่องขากลับ) 
ขอฝากเพจเราไว้ด้วยนะ https://www.facebook.com/TripspleFTravels