ปิดเทอมแล้วไปเที่ยวกัน!! ข้อความไลน์กลุ่มเด้งขึ้นมาหลังจากเงียบหายไปนาน
ชื่อสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยก็ถูกโหวตขึ้นเรื่อยๆ จนมีเพื่อนเสนอขึ้นมาว่า"กาญจนบุรีดิน่าสนใจ"
เราก็ตกลงตามนั้นเลยรีบฟิกวันมาเลยว่าจะไปวันไหน ไลน์กลุ่มมี 13 คน คุยไปคุยมามีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 3 คน -,,-

ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 10-11 มิถุนายน 2558 คะ แต่เพิ่งมาลองทำรีวิวจริงจัง เป็นกระทู้แรกแปลกๆยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
เราไปทั้งหมด 2 วัน 1 คืนคะ แบกเป้หนึ่งใบกับกล้องที่ใช้คือ Canon 70D อีก 1 ตัวคะ

เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

เรามาขึ้นรถตู้ที่ขนส่งหมอชิต มาถึงเวลาประมาณตี 4.40 ค่ะ ตั้งใจจะออกเดินทางให้ทันรอบแรกคือรอบตี 5
ปรากฎว่ามาถึงก่อนเวลาก็จริงค่ะ แต่รถตู้เต็มแล้ว(เต็มเร็วมาก) เลยต้องซื้อรอบต่อไปคือรอบ 6 โมงเช้า
ใช้เวลารอทั้งหมดที่มีให้เป็นประโยชน์คือนั่งหลับรอ
ราคารถตู้ หมอชิต-กาญฯ อยู่ที่ คนละ 120 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาน 2.30 ชั่วโมง

รถตู้จะเข้ามาจอดที่ บขส.กาญฯ เราจองที่พักของ The For Rest Resort อยู่ไกลจากตัวเมืองกาญประมาน 100 กว่า กม.
แต่เราตั้งใจจะเที่ยวไปเรื่อยๆแล้วค่อยเข้าที่พัก ด้วยความที่เราไม่เคยมาที่นี่และไม่รู้ว่ามีที่ไหนควรจะไปก่อนไปหลัง
ที่นี่ก็จะมีบริการเหมารถสองแถวเที่ยว โดยค่าบริการก็คิตามที่เราจะไป

เราเลยใช้บริการเหมารถสองแถวเที่ยวระหว่างทางค่ะ โดยค่าบริการเหมาตั้งแต่ในตัวเมืองกาญไปส่งถึงที่พักเลย
ระยะทาง100กว่ากิโล อยู่ที่ 1,200 บาท หารกันสามคนอยู่ที่คนละ 400 บาท
สำหรับเราถือว่าราคาพอรับได้ เพราะค่ารถตู้ไปที่พักก็ 115 บาทแล้ว เพิ่มอีก 200 กว่าบาทเราก็จะได้เที่ยวไปเรื่อยๆ
แล้วก็เหมือนมีไก๊ส่วนตัวเลยค่ะ (คุณลุงใจดีมาก)

ถ้ามาหลายคนเหมารถแบบนี้ก็จะคุ้มหน่อย แล้วราคาก็จะถูกกว่านี้ด้วย

ที่แรกที่ลุงจะพาไปก็คือ"พิพิธภัณฑ์สงคราม อักษะ และ เชลยศึก"
เป็นแห่งแรกที่จัดแสดงและถ่ายทอดเรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ด้านนอกแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของกองทัพญี่ปุ่น ดาบ อาวุธปืน ซากระเบิดที่พบเจอหลังจากสงคราม
เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 8.00 น.-18.00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 20 บาทคะ

เดินทางต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึง"สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าช้าอังกฤษ" หรือ "สุสานฝรั่ง"
เป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เพื่อรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดเวลา 8.00 - 17.00 น.

จากนั้นเดินทางต่ออีกประมาณ 4 กม. ก็ถึง "สะพานข้ามแม่น้ำแคว"
ถือเป็นป็นไฮไลท์และถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรีก็ว่าได้

ภาพบรรยากาศแม่น้ำแควสองฝั่งจากบนสะพาน

ที่นี่ก็จะมีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควรค่ะ ทั้งชาวไทยแล้วก็ทั้งชาวต่างชาติเลย

เราพักกินข้าวกันแถวๆสะพานข้ามแม่น้ำแคว จะมีตลาดอยู่ กินอาหารจานเดียวธรรมดาเลยคะ ราคาอยู่ที่ 50 บาท
แล้วก็ถ่ายรูปเล่นที่สะพานกันจนคิดว่ามากพอแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ

ระยะทางก็จะเริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราจะเริ่มออกจากตัวเมืองกาญฯกันแล้ว

เราชอบเก็บบรรยากาศระหว่างการเดินทางมากๆ บรรยากาศข้างทางดีมาก

ที่ต่อไปคือ "น้ำตกไทรโยคน้อย" ห่างจากตัวเมืองกาญฯประมาณ 60 กม.

น้ำตกไทรโยคน้อยเหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนมีร้านค้าอยู่ขายอาหารเครื่องดื่มพร้อม
น้ำตกด้านบนมีปลาอยู่ด้วยเล็กน้อย เราเลยนั่งเล่นกันที่นี่ประมาน 1 ชั่วโมงค่ะ

ฝั่งตรงข้ามของน้ำตกไทรโยคน้อยก็จะมีร้านของฝากเยอะมาก อยู่ติดริมถนนสายหลักเลย

หลังจากนั่งพักผ่อนแล้วก็ต้องออกเดินทางต่อค่ะ จุดหมายต่อไปคือ "พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด"

ด้านในแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งส่วนที่เป็นนิทรรศการภาพถ่าย
สไลด์ มัลติมีเดีย การจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ของเชลยศึกสงคราม
รวมถืงการเปิดให้เข้าชมสถานที่จริงบริเวณช่องเขาขาดที่เป็นเส้นทางการสร้างรถไฟสู่ประเทศพม่า

หลังจากชมพิพิธภัณฑ์แล้วเราก็จะเดินทางไปที่พักกันเลยค่ะ

เราพักที่ * The For Rest Resort * เลือกห้อง 3 เตียง ราคาอยู่ที่คนละ 1,000 บาท
(เดือนพค-กย มีโปร 1,000บาท/ท่าน ยกเว้นวันเสาร์ และ วันหยุดยาว (วันหยุกนักขัตฤกษ์)

สำหรับการเดินทางมารีสอร์ทสำหรับคนที่ไม่เหมารถแบบพวกเราก็สามารถมาได้ 2 วิธี คือ
1.ต่อรถเมย์ สายกาญจนบุรี- สังขละบุรีค่ะ (สีแดง) ที่บขส.กาญฯ ใช้เวลาเดินทางประมาน 2.30-3.00 ชม. แล้วแต่การจอดรับรายทาง
2.ขึ้นรถตู้ สายกาญจนบุรี- สังขละบุรี ใช้เวลาประมาน 1.30 ชม ราคา 115 บาท
(บอกคนขับว่าลง บ้านแก่งจอ หรือสังเกตทางซ้ายมือ กิโลเมตรที่ 163 ของทางหลวงหมายเลข 323 ค่ะ)
ลงรถแล้วก็โทรแจ้งทางรีสอร์ทจะจัดคนเข้าไปรับที่หน้าปากทางค่ะ

v v ฝั่งตรงข้ามที่ลงรถเมย์หรือรถตู้ค่ะ v v

ถึงแล้ว The For Rest Resort *

ทางลงไปที่พักค่ะ

นี่คือแพใหญ่ที่เราจะไปกันวันนี้ วันนี้แพออกเวลา 15.30 น.

บริเวณล็อบบี้ค่ะ ระหว่างรอเช็คอินอีกครึ่งชั่วโมง แล้วข้าวก็ย่อยไปหมดแล้ว
กลัวว่าจะไม่มีแรงลอยน้ำคะ เลยจัดมาม่าคัพไป 1 ราคากระป๋องละ 20 บาท น้ำดื่มขวดละ 10 บาทคะ

ภาพบรรยากาศห้องพักฝั่งของเราคะ บริเวณหน้าห้องทุกห้องจะมีเปลทุกห้อง น่ารักมาก

หลังจากเช็คอินแล้วเราก็นอนพักเหนื่อยในห้องรอเวลาไปล่องแพกัน
พอมาถึงที่แพคนก็เยอะพอสมควรเลยค่ะ ได้ชูชีพมาก็ให้เจ้าหน้าที่เขาใส่ให้ดีที่สุด
เขาจะปรับสายให้แน่นบริเวณลำตัว เพราะเวลาลอยน้ำจะได้ไม่ดันขึ้นคอมากค่ะ
ล่องแพกันเลยยยยยยย

เราจะล่องแพทวนกระแสน้ำขึ้นไปประมาน 2 กิโลเมตรคะ เมื่อถึงจุดที่ต้องลงน้ำเรือก็จะจอดให้เราโดดน้ำแล้วก็ลอยตัวกลับที่พักค่ะ

เพื่อนร่วมทางของเรา

น้ำเย็นสบายมาก ตอนแรกคิดว่ามันไกลค่ะแต่พอลอยตัวตามกระแสน้ำมาเรื่อยๆก็ไม่ไกลอย่างที่คิด
พอใกล้ๆถึงที่พักก็อยากจะให้ไกลกว่านี้ด้วยซ้ำ เพลินดี

พอลอยตัวถึงที่พักเลยคิดว่าจะไปว่ายน้ำกันต่อค่ะเพราะไหนๆก็เปียกแล้ว
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบเกลือ ถ้าจะมาว่ายน้ำอย่าลืมเตรียมชุดว่ายน้ำมาด้วยนะ