ยิ้มได้ภายใน 45 นาที

สายตาซ้ายสั้น 900 ตาขวาสั้น 950

แว่นตาที่ใส่ปัจจุบัน ซ้ายขวา 900 ตัดมามากกว่า 8 ปี

จะใส่คอนแทคเลนส์แบบ Soft Lens มากกว่า 19 ปี

ลองไปตรวจเพื่อจะทำเลสิคเพื่อเซฟค่าใช้จ่าย

ไปตรวจที่ รพ.กลาง

แต่เครื่องมือที่มีเพียง Lasik Femto กับ PRK

ความละเอียดของเครื่องไม่มากพอที่จะทำให้ค่าสายตาของคนที่สั้น 900 ลดลงได้หมด

ลักษณะดวงตาของคนปกติ

จะเป็นทรงกลม

จุดตกกระทบของแสงที่เข้าไปในลูกตา

จะส่งเข้าไปในจอประสาทตา

แปลงค่าด้วยสมอง

แต่คนที่สายตาสั้นมาก

จุดตกกระทบเพี้ยนไป

ทรงลูกตาเป็นทรงรักบี้

วิธีการทำเลสิค

คือการเจียเนื้อกระจกตา

ให้จุดตกกระทบของแสง

ตรงพิกัด

น้ำตาจะหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นในลูกตา

หากทรงของลูกตาไม่กลม

ก็ไม่สามารถไหลเวียนในดวงตาได้

สำหรับผมที่สายตาสั้นมาก

ต้องเจียเนื้อกระจกตาจนผิดรูป

ทำให้น้ำตาไหลเวียนไม่ได้

หากจะเลือกทำวิธีเลสิค พีอาร์เค

ก็ทำได้แต่เหลือค่าสายตาไว้ 200-300 เพื่อรักษาทรงของลูกตาไว้

ทางทีมแพทย์เลยแนะนำว่าอาจจะต้องใส่แว่น

หรือ

Relex Smile คืออีกวิธีเพราะเป็นเครื่องมือใหม่

ที่สามารถตั้งค่าให้ทำการเจียกระจกตาได้ละเอียดกว่า

ตัวเลือกที่ได้

TRSC ราคาประมาณ 1xx,xxx บาท

ศูนย์เลสิค ท๊อปเจริญ 99,000 บาท

รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า 85,000 บาท

ตัวเลือกที่สามใกล้บ้านและราคาต่ำสุด

ถูกและดีมีจริงมั้ย

ตรวจวันแรกก็มีค่าใช้จ่าย 1,200 บาท

มีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดค่าสายตา สุขภาพดวงตา 

ปริมาณน้ำตา

สิ่งที่ต้องลุ้นว่า สุขภาพดวงตาสามารถทำวิธีนี้ได้หรือไม่

เตรียมตัวด้วยการใส่แว่นให้นานที่สุดก่อนที่จะมาตรวจ

เพื่อให้ตาปรับความชุ่มชื้นและจุดโฟกัสของดวงตานิ่งที่สุด

หากใส่คอนแทคเลนส์จะทำให้ทั้งสองค่าผิดเพี้ยน

ผลตรวจออกมา คุณหมออ่านกราฟ

แล้วก็จะแนะนำผลข้างเคียงที่จะเกิดหลังทำ

แสงสว่างเวลามองดวงไฟเวลากลางคืนจะฟุ้ง

ตาจะแห้งต้องหมั่นหยอดน้ำตาเทียม

อีกประเด็นที่สำคัญ

สำหรับคนที่อายุ 36  ขึ้นไป

ปกติช่วงอายุ 40 สายตายาวจะออกอาการให้เห็น

ทางเลือกในการเลือกค่าสายตามี 2 ทาง

แบบแรก ขอค่าสายตาที่เห็นชัดทั้งสองข้าง

แบบสอง ค่าสายตาข้างที่ไม่ถนัดให้คงค่าสายตาสั้นเล็กน้อย 50-100

เผื่อช่วงอายุที่สายตายาวเริ่มออกอาการ ก็จะเป็นระยะที่พอดี

ทั้งหมอและผู้ช่วยจะแนะนำแบบหลัง

เพราะเห็นคนไข้หลายคนที่ทำได้พอถึงช่วงอายุ

ก็ยืดระยะเวลาที่อาการสายตายาวเริ่มมีผลต่อการอ่านหนังสือ

ก่อนเลือกเจ้าหน้าที่จะให้ลองใส่แว่นทั้งสองแบบ

เพื่อให้ตัดสินใจก่อน ว่าแบบไหนที่คนไข้พอใจ

ในวันที่ตรวจ หลังจากที่คุยและแนะนำเรียบร้อย

ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ก็ดูตารางนัดคิว

จากวันที่ 10 กรกฏาคม นัดทำวันที่ 1 สิงหาคม

เวลาบ่าย 2 คือเวลานัด

เข้าไปตรวจวัดค่าสายตาอีกครั้ง

และทำการเช็คว่าเลือกวิธี Full Range หรือ Mono เพื่อเหลือค่าสายตาข้างนึง

ปกติแล้วจากที่ค่าสายตาด้านขวาที่ไม่ถนัดสั้นมากกว่า

กับแว่นและคอนแทคเลนส์ใส่เท่ากันทั้งสองข้าง

เลยไม่รู้สึกแปลกแตกต่างจากปัจจุบัน

เลยเลือกแบบ Mono

หลังจากยืนยันก็จะมีเอกสารให้กรอกเพื่อรับทราบ

เจ้าหน้าที่จะให้ทานยาลดความเครียด

แล้วก็เริ่มหยอดยาฆ่าเชื้อและยาชา

ระหว่างนั่งเงยหน้าหลับตารอยาออกฤทธิ์

หมอก็มานั่งข้างๆ อธิบายขั้นตอนที่จะเกิดขึ้น

เริ่มจากจะมีเจ้าหน้าที่พาไปใส่เสื้อคลุม

พาเข้าห้องผ่าตัด จะหยอดยาชาเพิ่มอีกครั้ง

ใส่หมวกคลุมผมเก็บเส้นผมและติดผ้าเทป

ซีลไม่ให้น้ำเกลือที่จะต้องฉีดเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาเลอะ

ขั้นตอนต่อไปคือนอนราบที่เตียง

จัดตำแหน่งท่านอนให้ตรงกับระดับที่ทีมงานหมอทำงานได้สะดวก

มีสติ๊กเกอร์มาปิดที่หน้า

หมอจะบอกให้มองลงเพื่อกรีดเว้นที่ช่องดวงตา

เลี่ยงไม่ให้โดนตาดำ

เมื่อเหลือที่ช่องดวงตาทั้งสองข้าง

จะเร่ิมจากตาขวาก่อน

เครื่องมือที่ใช้คือชุดที่จะถ่างดวงตาไม่ให้หนังตาปิด

พยายามให้มองตรงจุดใดจุดหนึ่งอย่ากลิ้งกลอกตา

เวลานั้นจะหยอดยาชาเพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่ายาออกฤทธิ์

แล้วจะเข็นเข้าเครื่อง

จะเห็นเครื่องเป็นจุดเล็กๆ กลมเข้ามาใกล้ๆ ดวงตา

จ้องไปที่จุดไฟสีเขียว เครื่องทำงาน

จุดเขียวจะค่อยๆหายไปและกลายเป็นจุดขาว

และภาพทั้งหมดก็กลายเป็นสีขาว

เหมือนเวลาเราหลับตา

ที่เราจะเห็นสีดำแต่ก็จะเห็นลายลูกน้ำในตาเราเป็นสีแดงหรือขุ่นๆ

แต่ภาพในตอนนี้คือสีขาวแทนที่ทั้งหมด

ตรงนี้จะยากเล็กน้อยสำหรับคนไข้ในการหาจุดโฟกัส

ผมใช้วิธีผ่อนลมหายใจยาวๆ ช้าๆ เข้าออก

เพื่อตั้งสมาธิมองไปที่จุดเดียวค้างไว้

ช่วงเวลานี้ใช้เวลาแค่ 1 นาที

พอเสร็จเรียบร้อยก็จะดึงตัวออกมาที่เดิม

ทำการฉีดน้ำเกลือและทำอะไรซักอย่าง ที่ผมไม่แน่ใจ

และหมอบอกว่า ตาขวาเสร็จแล้ว

ต่อไปทำตาซ้าย

ตาซ้ายมักจะมีอาการชัดกว่าตาขวาเสมอ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนใหญ่คนไข้บอกว่าจะมีอาการ

ผมคิดว่าเพราะรู้ขั้นตอนที่ทำตาขวาไปแล้ว

ฤทธิ์ยาชาตาซ้ายน่าจะเริ่มหมด

ทำให้เริ่มมีความรู้สึก

และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อหมอลงมือเตรียมตาข้างซ้าย

คนไข้บอกหมอเพื่อให้เพิ่มยาชาได้

และยาชายิ่งเยอะ ยิ่งดี

หากยังมีความรู้สึกตรงจุดนี้

เดี๋ยวอีก 15 นาทต่อจากนี้มันจะทรมาน

เลยขอยาชาเพิ่มจนแน่ใจว่าไม่มีอาการ

และขั้นตอนทุกอย่างก็ซ้ำเดิมเหมือนด้านขวา

ระยะเวลารวมไม่น่าจะเกิน 30 นาที

เมื่อทำเสร็จก็เดินออกจากห้อง

เปลี่ยนชุด และทีมงานก็จะเอาฝาครอบตามาปิดตาทั้งสองข้าง ภาพที่เห็นในตอนแรก

เหมือนเวลาที่เราถอดแว่นตาเดิน

ทุกอย่างไม่ชัด แต่รู้ว่าวัตถุข้างหน้าเป็นอะไร

เดินได้มองไม่ชัดเลย

สิ่งที่กังวลคือ เสร็จแล้วจริงหรอมันจะค่อยๆ ชัดขึ้นจริงๆ เหรอ

เดินไปเพื่อชำระเงินที่เค้าท์เตอร์และรับยา

ได้ยาหยอดตาแก้อักเสบและน้ำตาเทียมสองกล่อง

ภาพที่เห็นยังไม่ชัด

แต่ภายในสองชั่วโมง

จะค่อยๆอ่านตัวหนังสือใหญ่ๆ

ตามป้ายต่างๆ

เริ่มเห็นรายละเอียดสีหน้าคนรอบข้าง

มองเห็นวัตถุที่เลือนลางชัดเจนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งที่ต้องดูแล

ระวังกระทบดวงตาเพราะแผลยังไม่สนิท

งดให้น้ำเข้าตา

เลี่ยงความเสี่ยงอื่นๆ

หยอดตาสม่ำเสมอ

ไม่มีอาการเจ็บจนทนไม่ได้

มีแค่อาการเหมือนเศษฝุ่นเข้าตา

หยอดยาแก้อักเสบเวลาที่มีอาการเคือง

ผ่านมา 9 ชั่วโมง

สามารถเปิดคอมพิมพ์บทความนี้ได้

ขอบคุณคุณหมอ แพทย์หญิง ณัฐธิดา นิ่มวรพันธ์ุ และทีมงานศูนย์เลสิค รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าทุกท่าน