เริ่มสายตาสั้นมาตั้งแต่ขึ้นม.1 ค่ะ เริ่มรู้ตัวตอนนั่งในห้องเรียน หลังๆห้องแล้วอ่านกระดานไม่เห็น หลังย้ายโต๊ะมานั่งด้านหน้าๆ คุณครูเลยแนะนำให้ไปวัดสายตา ก็ได้ค่าสายตาสั้นที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆๆ และสายตาก็สั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี วัดสายตากับร้านแว่นตลอดค่ะ ไม่เคยตรวจวัดค่าสายตากับแพทย์เฉพาะทาง ใส่แว่นจนถึงอายุ 21 ก็เริ่มเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ อีก เกือบ 10+ปี รวมๆแล้วใส่แว่น และคอนแทคเลนส์ เป็นระยะเวลา 20 กว่าปี
จนในที่สุดสายตาก็คงที่ ข้างซ้าย ที่ 1100 และข้างขวา 950 มาได้ 2-3ปี
ก็เลยตัดสินใจทำเลซิก เพื่อให้การมองเห็นเหมือนคนปกติ ทั่วไป เลยศึกษาข้อมูล ก็ได้ประมาณราคา คร่าวๆ คือ ที่โรงพยาบาล ศิริราช 60,000 โรงพยาบาลกลาง 3-40,000 บาท (เพราะค่าสายตาสั้นมาก เลยต้องใช้วิธี ilasix) ก็ได้โทรติดต่อ ทั้งสองโรงพยาบาลเพื่อนัดคิวตรวจและคิว ทำเลซิก แต่โดนปฏิเสธเคส เพราะสายตาสั้นเยอะ และคุณพยาบาล ให้คำแนะนำดีมากค่ะ แนะนำ ว่าไม่ควรทำเพราะจะเหลือค่าสายตา อยู่ทำได้ไม่หมด หากทำแล้วยังต้อง ใส่แว่นสายตาจะไม่ดีเพราะกระจกตาที่บางลง และการรวมแสง กระจายแสงจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อกระจกตาในภายหลัง (เช่นเป็นต้อเนื้อ หรือหากเป็นโรคกระจกตาในภายหลัง กระจกตาที่บางลงจะทำให้การรักษา เหลือทางเลือกไม่เยอะ แนะนำให้เปลี่ยนเลนส์เทียมแทนการทำเลซิก) แต่ไม่สะดวกทำเลนส์เทียมค่ะ ด้วยราคาที่แพงกว่ามาก 130,000-200,000 และต้องรอคิวนัดตรวจ นัดทำ โรงพยาบาลวัดไร่ขิงก็โทรติดต่อไม่ได้เลยค่ะ เลยเบนเข็มไปที่เอกชน แทน
ได้ไปตรวจที่ ตึกอื้อจื้อเหลียง ก่อนค่ะ ชอบเทคโนโลยีของเค้าที่เป็น ตัวใหม่ โดยไม่เสียเนื้อกระจกตาเท่าแบบเดิม ด้วยวิธี ReLex โดยใช้ Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตาเป็นเลนส์ในเนื้อกระจกตา และนำเลนส์นั้นออกผ่านแผลเล็ก เพื่อปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม โดยมีหลักการเดียวกันกับการผ่าตัดด้วยวิธี LASIK ----> แต่หลังการตรวจวัดค่าสายตาแล้วพบคุณหมอ ไม่สามารถทำได้เพราะจากการตรวจสแกนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วลักษณะตาผิดปกติ คล้ายจะเป็นโรคกระจกตาย้วย ทำเลซิกไม่ได้ เปลี่ยน เลนส์ไม่ได้ เพราะ ช่องด้านหน้ากระจกตากว้างไม่พอ (ควรกว้างที่ 25-30 คร่าวๆค่ะ จำได้ไม่แน่นอน ของจขก. 28- งงหน่อยๆ แต่ทางจนท.แจ้งว่ากว้างไม่พอ แต่ตอนนั้นกังวลกับ โรคกระกระจกตามากกว่า ) โดยทาง ศูนย์แจ้งว่าให้กลับมาตรวจอีกครั้ง โดยเว้นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง
พอดีนัดตรวจไว้ หลายที่ค่ะ ทั้งศิริราช (อีก 3 วันให้หลัง) และ เลเซอร์วิชั่น(วันรุ่งขึ้น) เลยตัดสินใจไปดู Second opinion ของคุณหมออีกท่าน ที่ เลเซอร์วิชั่น พอดี ได้คิวตรวจกับคุณหมอมือหนึ่ง เป็นอาจารย์แพทย์และมีประสบการณ์ด้านกระจกตา มายาวนานทีเดียวค่ะ) หลังจากตรวจเสร็จตามขั้นตอนได้เจอคุณหมอตอนบ่าย เลยแจ้งคุณหมอไปว่า ไปตรวจมาแล้วเมื่อวานคล้ายว่าจะเป็นกระจกตาย้อย เลยอยากคอนเฟริมกับคุณหมออีกที เพราะถ้าเป็นโรคกระจกตาย้อย จะเป็นข้อห้ามของการทำเลซิก ----> อดทำเลซิกแน่ๆค่ะ และยังได้นอยด์กับ ความเสี่ยงจะมีโอกาสตาบอดโดยไม่มีการรักษาอีก
คุณหมอตรวจด้วยที่วัดสายตา ด้วยมือ (ประสบการณ์ล้วนๆค่ะ) แล้วแจ้งว่า ไม่ได้เป็นโรคกระจกตาย้วย ทำเลซิกได้ เหตุที่อาจวินิจฉัยคลาดเคลื่นอาจมาจากกระจกตาแห้ง จากการนอนน้อย ก็เป็นไปได้ค่ะ ----> ขอบคุณ พระ จริงๆค่ะ ที่ไม่ได้เป็น หลังจากโดนวินิจฉัยว่าเป็น ค่อนข้างกังวล เพราะเป็นโรคที่ยังไม่มีทางรักษาในปัจจุบัน และมีโอกาส โรคเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ และสายตาอาจเสียการมองเห็นได้ในอนาคต ต้องใส่แว่นอย่างเดียว ด้วยเป็นคนสายตาสั้นเยอะมาก จะสูญเสียความมั่นใจทุกครั้งที่ใส่แว่นสายตา หนามาก)
หลังจากตรวจกับคุณหมอเสร็จ คุณหมอแจ้งว่าทำได้ แต่ ทำได้แค่ครั้งเดียว จะไม่มีการเติม เพิ่ม ได้ในภายหลัง เพราะกระจกตาจะค่อนข้างบาง หลังทำเสร็จ อาจจะเหลือค่าสายตาข้างซ้ายบ้าง แต่ข้างขวาจะหมด ก็เลยตัดสินใจทำค่ะ
ได้เป็นคิวแรกในวันนั้นเอง ก็ค่อนข้างตื่นเต้นและกลัวว่าจะทำไม่ได้ เพราะต้องโฟกัสการมอง ไปที่จุดแดงหรือเขียว .... กลัวถ้าไม่โฟกัสพอหลังทำแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ขอเมาท์ ตอนทำ มีช่วงหนึ่งที่การมองเห็นเหมือนภาพโทรทัศน์ ที่ไม่มีสัญญาณ แบบมัน ซ่าๆๆๆ ไปเลยค่ะ พยายามโฟกัส แต่ตามันก็มีหลุกหลิกจนคุณหมอ บอกพยายามมองนิ่งๆๆ ตาซ้าย กรอกไปมา ค่ะ ตาขวาดีขึ้นนิดหนึ่ง ขณะทำ รู้สึกกลัวจน รู้สึกได้ว่าขมในคอทีเดียวค่ะ
แต่คุณหมอใจดีค่ะ ไม่ดุไม่ว่า แต่พยายามบอกให้มองนิ่งๆไปที่จุดแดงและ เขียว
พอทำเสร็จ ก็ได้ที่ครอบตา มองผ่านรูมองเห็นนาฬิกาด้วยค่ะ ปกติไม่เห็น คืนนั้นก็พยายามนอนหลับอย่างเดียวไม่ใช้สายตาเลยค่ะ
งดสระผมล้างหน้า ทาครีม แต่งหน้า บริเวณรอบดวงตา เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปิดที่ครอบตาตอนนอน 1 สัปดาห์ หยอดตา ด้วยยา1 สัปดาห์
ใส่แว่น กันแดด ตลอดระยะเวลาที่ออกข้างนอกค่ะ
งด เล่นน้ำสระ 2 สัปดาห์ งดเล่นน้ำทะเล 1 เดือน ห้ามกิจกรรมโลดโผนด้วยค่ะ
ตอนนี้ เกือบสองเดือนแล้วค่ะ การตรวจวัดสายตา หลังทำที่ 1 สัปดาห์ (เป็น 0 ค่ะ การมองเห็น 20/20) กระจกตาข้างซ้ายเหลือ 280 และ ข้างขวา 310 ไม่มีผลแทรกซ้อนหลังทำเลยค่ะ โชคดีมากไม่มีปัญหา การมองแสง ตอนกลางคืน หรือตาแห้ง ( หยอดน้ำตาเทียมเยอะมากช่วง 1 สัปดาห์- 1เดือนแรกค่ะ ใช้ไป 3 กล่องด้วยกันค่ะ ซื้อน้ำตาเทียมได้ จาก watson )หลังทำเลซิก ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ ที่สามารถมองเห็น ได้หลังตื่นนอนตอนเช้าโดยไม่มัวอีกต่อไป ตอนแรกๆ มีความรู้สึกเหมือนลืมๆ ขาดๆอะไรไปหลังอาบน้ำก่อนนอน เพราะปกติจะต้องถอดคอนแทคเลนส์และจะมองไม่เห็น
ประทับใจและพึงพอใจกับผลการรักษา ค่ะ
[CR] มาเล่า ประสบการณ์ทำ เลซิก ด้วยค่าสายตาสั้น กว่า1000
จนในที่สุดสายตาก็คงที่ ข้างซ้าย ที่ 1100 และข้างขวา 950 มาได้ 2-3ปี
ก็เลยตัดสินใจทำเลซิก เพื่อให้การมองเห็นเหมือนคนปกติ ทั่วไป เลยศึกษาข้อมูล ก็ได้ประมาณราคา คร่าวๆ คือ ที่โรงพยาบาล ศิริราช 60,000 โรงพยาบาลกลาง 3-40,000 บาท (เพราะค่าสายตาสั้นมาก เลยต้องใช้วิธี ilasix) ก็ได้โทรติดต่อ ทั้งสองโรงพยาบาลเพื่อนัดคิวตรวจและคิว ทำเลซิก แต่โดนปฏิเสธเคส เพราะสายตาสั้นเยอะ และคุณพยาบาล ให้คำแนะนำดีมากค่ะ แนะนำ ว่าไม่ควรทำเพราะจะเหลือค่าสายตา อยู่ทำได้ไม่หมด หากทำแล้วยังต้อง ใส่แว่นสายตาจะไม่ดีเพราะกระจกตาที่บางลง และการรวมแสง กระจายแสงจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อกระจกตาในภายหลัง (เช่นเป็นต้อเนื้อ หรือหากเป็นโรคกระจกตาในภายหลัง กระจกตาที่บางลงจะทำให้การรักษา เหลือทางเลือกไม่เยอะ แนะนำให้เปลี่ยนเลนส์เทียมแทนการทำเลซิก) แต่ไม่สะดวกทำเลนส์เทียมค่ะ ด้วยราคาที่แพงกว่ามาก 130,000-200,000 และต้องรอคิวนัดตรวจ นัดทำ โรงพยาบาลวัดไร่ขิงก็โทรติดต่อไม่ได้เลยค่ะ เลยเบนเข็มไปที่เอกชน แทน
ได้ไปตรวจที่ ตึกอื้อจื้อเหลียง ก่อนค่ะ ชอบเทคโนโลยีของเค้าที่เป็น ตัวใหม่ โดยไม่เสียเนื้อกระจกตาเท่าแบบเดิม ด้วยวิธี ReLex โดยใช้ Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตาเป็นเลนส์ในเนื้อกระจกตา และนำเลนส์นั้นออกผ่านแผลเล็ก เพื่อปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม โดยมีหลักการเดียวกันกับการผ่าตัดด้วยวิธี LASIK ----> แต่หลังการตรวจวัดค่าสายตาแล้วพบคุณหมอ ไม่สามารถทำได้เพราะจากการตรวจสแกนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วลักษณะตาผิดปกติ คล้ายจะเป็นโรคกระจกตาย้วย ทำเลซิกไม่ได้ เปลี่ยน เลนส์ไม่ได้ เพราะ ช่องด้านหน้ากระจกตากว้างไม่พอ (ควรกว้างที่ 25-30 คร่าวๆค่ะ จำได้ไม่แน่นอน ของจขก. 28- งงหน่อยๆ แต่ทางจนท.แจ้งว่ากว้างไม่พอ แต่ตอนนั้นกังวลกับ โรคกระกระจกตามากกว่า ) โดยทาง ศูนย์แจ้งว่าให้กลับมาตรวจอีกครั้ง โดยเว้นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง
พอดีนัดตรวจไว้ หลายที่ค่ะ ทั้งศิริราช (อีก 3 วันให้หลัง) และ เลเซอร์วิชั่น(วันรุ่งขึ้น) เลยตัดสินใจไปดู Second opinion ของคุณหมออีกท่าน ที่ เลเซอร์วิชั่น พอดี ได้คิวตรวจกับคุณหมอมือหนึ่ง เป็นอาจารย์แพทย์และมีประสบการณ์ด้านกระจกตา มายาวนานทีเดียวค่ะ) หลังจากตรวจเสร็จตามขั้นตอนได้เจอคุณหมอตอนบ่าย เลยแจ้งคุณหมอไปว่า ไปตรวจมาแล้วเมื่อวานคล้ายว่าจะเป็นกระจกตาย้อย เลยอยากคอนเฟริมกับคุณหมออีกที เพราะถ้าเป็นโรคกระจกตาย้อย จะเป็นข้อห้ามของการทำเลซิก ----> อดทำเลซิกแน่ๆค่ะ และยังได้นอยด์กับ ความเสี่ยงจะมีโอกาสตาบอดโดยไม่มีการรักษาอีก
คุณหมอตรวจด้วยที่วัดสายตา ด้วยมือ (ประสบการณ์ล้วนๆค่ะ) แล้วแจ้งว่า ไม่ได้เป็นโรคกระจกตาย้วย ทำเลซิกได้ เหตุที่อาจวินิจฉัยคลาดเคลื่นอาจมาจากกระจกตาแห้ง จากการนอนน้อย ก็เป็นไปได้ค่ะ ----> ขอบคุณ พระ จริงๆค่ะ ที่ไม่ได้เป็น หลังจากโดนวินิจฉัยว่าเป็น ค่อนข้างกังวล เพราะเป็นโรคที่ยังไม่มีทางรักษาในปัจจุบัน และมีโอกาส โรคเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ และสายตาอาจเสียการมองเห็นได้ในอนาคต ต้องใส่แว่นอย่างเดียว ด้วยเป็นคนสายตาสั้นเยอะมาก จะสูญเสียความมั่นใจทุกครั้งที่ใส่แว่นสายตา หนามาก)
หลังจากตรวจกับคุณหมอเสร็จ คุณหมอแจ้งว่าทำได้ แต่ ทำได้แค่ครั้งเดียว จะไม่มีการเติม เพิ่ม ได้ในภายหลัง เพราะกระจกตาจะค่อนข้างบาง หลังทำเสร็จ อาจจะเหลือค่าสายตาข้างซ้ายบ้าง แต่ข้างขวาจะหมด ก็เลยตัดสินใจทำค่ะ
ได้เป็นคิวแรกในวันนั้นเอง ก็ค่อนข้างตื่นเต้นและกลัวว่าจะทำไม่ได้ เพราะต้องโฟกัสการมอง ไปที่จุดแดงหรือเขียว .... กลัวถ้าไม่โฟกัสพอหลังทำแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ขอเมาท์ ตอนทำ มีช่วงหนึ่งที่การมองเห็นเหมือนภาพโทรทัศน์ ที่ไม่มีสัญญาณ แบบมัน ซ่าๆๆๆ ไปเลยค่ะ พยายามโฟกัส แต่ตามันก็มีหลุกหลิกจนคุณหมอ บอกพยายามมองนิ่งๆๆ ตาซ้าย กรอกไปมา ค่ะ ตาขวาดีขึ้นนิดหนึ่ง ขณะทำ รู้สึกกลัวจน รู้สึกได้ว่าขมในคอทีเดียวค่ะ
แต่คุณหมอใจดีค่ะ ไม่ดุไม่ว่า แต่พยายามบอกให้มองนิ่งๆไปที่จุดแดงและ เขียว
พอทำเสร็จ ก็ได้ที่ครอบตา มองผ่านรูมองเห็นนาฬิกาด้วยค่ะ ปกติไม่เห็น คืนนั้นก็พยายามนอนหลับอย่างเดียวไม่ใช้สายตาเลยค่ะ
งดสระผมล้างหน้า ทาครีม แต่งหน้า บริเวณรอบดวงตา เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปิดที่ครอบตาตอนนอน 1 สัปดาห์ หยอดตา ด้วยยา1 สัปดาห์
ใส่แว่น กันแดด ตลอดระยะเวลาที่ออกข้างนอกค่ะ
งด เล่นน้ำสระ 2 สัปดาห์ งดเล่นน้ำทะเล 1 เดือน ห้ามกิจกรรมโลดโผนด้วยค่ะ
ตอนนี้ เกือบสองเดือนแล้วค่ะ การตรวจวัดสายตา หลังทำที่ 1 สัปดาห์ (เป็น 0 ค่ะ การมองเห็น 20/20) กระจกตาข้างซ้ายเหลือ 280 และ ข้างขวา 310 ไม่มีผลแทรกซ้อนหลังทำเลยค่ะ โชคดีมากไม่มีปัญหา การมองแสง ตอนกลางคืน หรือตาแห้ง ( หยอดน้ำตาเทียมเยอะมากช่วง 1 สัปดาห์- 1เดือนแรกค่ะ ใช้ไป 3 กล่องด้วยกันค่ะ ซื้อน้ำตาเทียมได้ จาก watson )หลังทำเลซิก ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ ที่สามารถมองเห็น ได้หลังตื่นนอนตอนเช้าโดยไม่มัวอีกต่อไป ตอนแรกๆ มีความรู้สึกเหมือนลืมๆ ขาดๆอะไรไปหลังอาบน้ำก่อนนอน เพราะปกติจะต้องถอดคอนแทคเลนส์และจะมองไม่เห็น
ประทับใจและพึงพอใจกับผลการรักษา ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น