การทดลองสร้างตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งสัตว์ต่อยอดวิจัย'สเต็มเซลล์'

                                                                                  
ครึ่งคนครึ่งสัตว์อย่าง เซนทอร์ ท่อนบนเป็นมนุษย์ และท่อนล่างเป็นม้า มิโนทอร์ ครึ่งคนครึ่งกระทิง หรือแม้แต่ แพน ครึ่งคนครึ่งแพะ มักปรากฏให้เห็นบ่อยในเทพนิยายและภาพยนตร์แนวแฟนตาซี ซึ่งตัวละครเหล่านี้อาจจะมีจริงในโลกอนาคต  ในปี 2554 นักวิจัยอังกฤษกำลังยื่นข้อเสนอขอกฎหมายใหม่ที่จะอนุญาตให้มีการผสมผสานระหว่างเซลล์ของคนกับสัตว์ได้ แต่ชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ได้มาในคราบของเทพเจ้าเหมือนในเทพนิยายแต่จะกลายเป็นเพียง 'หนูทดลอง' ที่ใช้ในห้องทดลองเท่านั้น

กลุ่มนักวิจัยชาวอังกฤษเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดกฎหมายหรือระเบียบใหม่ อนุญาตให้นำยีนหรือพันธุกรรมของมนุษย์ใส่เข้าไปในสัตว์ได้เพื่อจุดประสงค์ด้านการวิจัย แต่ควรจะมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาตรวจสอบการทดลองอีกครั้ง เพราะการทดลองผสมผสานดีเอ็นเอ หรือรหัสพันธุกรรมของสัตว์กับมนุษย์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอาจล่อแหลมต่อสังคม

แม้จะฟังดูเหมือนฉากในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ลูกครึ่งมนุษย์กับสัตว์ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก อย่างน้อยที่สุด ในแง่ของยีนหรือเซลล์ เฉพาะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีการทดลองตัดต่อยีนของหนูเพื่อให้แสดงโรคเลือดไหลไม่หยุดของมนุษย์ รวมไปถึงตัดต่อวัวเพื่อให้ผลิตนมแบบนมมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีการนำดีเอ็นเอของมนุษย์ใส่ในหนูทดลองเพื่อศึกษามะเร็งและโรคอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง มีบางการทดลองที่แปลกมาก เช่น การนำไข่มนุษย์ไปฝากในท้องสัตว์ หรือการฉีดเซลล์สมองมนุษย์เข้าไปในสมองหนูเพื่อปรับเปลี่ยนสมอง หรือทำให้มีเสียงพูดและแสดงสีหน้าได้แบบมนุษย์

การทดลองเหล่านี้ไม่ได้ให้แต่ความแปลกใหม่ แต่ยังมีประโยชน์ ซึ่งนำไปสู่ความเป็นไปได้ในการทดลองทางคลินิกในการบำบัดด้วยการใช้สเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นแบบ

ศ.มาร์ติน บ๊อบโรว์ ด้านเวชพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ กล่าวว่า คนจะเริ่มวิตกเมื่อไปแตะเรื่องของสมอง หรือเซลล์สืบพันธุ์ โดยอาจารย์มาร์ตินเป็นผู้นำทีมตรวจสอบการวิจัยสร้างสัตว์ที่มีใบหน้าเหมือนมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องโด่งดังและจุดประเด็นถกเถียงกันในอังกฤษตั้งแต่ 3 ปีก่อน

ซึ่งในแผนการทดลองจะสร้างเอ็มบริโอหรือตัวอ่อนมนุษย์ด้วยนิวเคลียสที่สกัดมาจากไข่ของวัว โดยมีเป้าหมายที่จะสร้าง สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นแบบ ชนิดใหม่ที่ใช้รักษาโรคได้หลากหลาย เซลล์ดังกล่าวมีเปอร์เซ็นต์ความเป็นมนุษย์ 99.9 และอีก 0.1 เปอร์เซ็นต์เป็นสัตว์
(Cr.http://www.neutron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=2073&Itemid=4)


                                                                                     
 Hybrid human – ครึ่งมนุษย์ครึ่งไก่

                                                                                       เสต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์
งานทดลองที่ราวกับถอดแบบมาจากหนังไซไฟเกรด B ถูกเปิดเผยในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature เมื่อนักวิทยาศาสตร์ในนครนิวยอร์กสร้างตัวอ่อนครึ่งมนุษย์ครึ่งไก่ออกมาในการทดลอง เป็นกรณีที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และหลายคนรับไม่ได้

คณะนักวิจัยนำโดย ดร.อาลี ไบรแวนลู ประจำมหาวิทยาลัยร็อกกีเฟลเลอร์ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระบุถึงเป้าหมายของการทดลองปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เข้าไปในลูกไก่ที่เริ่มสร้างอวัยวะว่าต้องการหาข้อมูลให้มากขึ้นว่า – “เซลล์ผันสู่การเป็นตัวอ่อนในครรภ์ได้อย่างไร เพื่อจะได้หาวิธีรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในช่วงพัฒนาการ”

นักวิจัยได้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ของมนุษย์ที่เลี้ยงไว้ในจานเพาะเชื้อ กับเซลล์ตัวอ่อนไก่ นับเป็นครั้งแรกที่มีการสังเกต “การจัดการของเซลล์” ระหว่างเซลล์ต่างสายพันธุ์ ดร.อาลี เผยว่า “ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังเซลล์ผสมเข้าระหว่างกันไปยังมดลูก”

อย่างไรก็ตามกฎหมายของสหรัฐ ห้ามใช้การทดลองตัวอ่อนมนุษย์ที่มีอายุเกิน 14 วันขึ้นไปแล้ว พอดีกับช่วงเวลาที่เซลล์ในการทดลองครั้งนี้ค่อยๆกลายเป็นรูปร่างขึ้นมา และแม้ว่าตามหลักจริยธรรมมีข้อจำกัดการทดลองตัวอ่อนมนุษย์ไว้อยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงจะไม่รู้เลยว่ามีนักวิจัยทดลองไปถึงไหนแล้ว ทั้งนี้ตัวอ่อนของไก่นั้นพัฒนาได้เร็วกว่าตัวอ่อนของมนุษย์ โดยตัวอ่อนไก่ที่มีอายุ 12 ชั่วโมง จะเทียบเท่าตัวอ่อนมนุษย์ที่มีอายุ 14 วัน

(จากซ้ายไปขวา เซลล์ของมนุษย์เริ่มการเจริญเติบโต เริ่มสร้างรากฐาน – เริ่มสร้างกระดูกสันหลัง – เริ่มสร้างมีระบบประสาท ทำให้เห็นว่า หลังจากที่นำเสต็มเซลล์ของไก่เข้าไปผสมกับสเต็มเซลล์ของมนุษย์แล้ว มันสามารถเจริญเติบโตได้จริง!)
โดยดร.ไบรเวนลู ได้ใช้วิธีเพาะตัวอ่อนมนุษย์จากสเต็มเซลล์ก่อนแล้วจึงใส่เข้าไปในตัวอ่อนไก่ เพื่อให้เซลล์ไก่สร้างสมองและระบบประสาทที่สองขึ้นมา ซึ่งดร.ท่านนี้กล่าวว่า ไม่เพียงสิ่งนี้จะมีชีวิตเท่านั้นยังทำให้โครสร้างที่จัดเรียงสวยงามเติบโตขึ้นอีกด้วย
(Cr.https://www.flagfrog.com/hybrid-human-chicken/)

Hybrid human - ครึ่งมนุษย์ครึ่งหมู

นักวิทยาศาสตร์สหรัฐพยายามปลูกถ่ายอวัยวะมนุษย์ในหมู โดยจะใช้วิธีฉีดสเต็มเซลล์มนุษย์ลงไปในตัวอ่อนหมู เพื่อให้เกิดตัวอ่อนระหว่างคนและหมูที่เรียกว่าไคมีรา โดยตัวอ่อนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอวัยวะมนุษย์ให้ผู้คนทั่วโลก

โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากยูนิเวอร์ซิตี ออฟ แคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า แม่หมูนั้นจะมีลักษณะและพฤติกรรมเหมือนหมูปกติทั่วไป แต่อวัยวะหนึ่งในร่างกายจะประกอบด้วยเซลล์ของมนุษย์ ทั้งนี้ ตัวอ่อนไคมีราระหว่างคนและหมูนี้ จะพัฒนาขึ้นใน 28 วันหลังจากที่แม่หมูตั้งท้อง ซึ่งนักวิจัยจะนำเนื้อเยื่อดังกล่าวมาทำการวิเคราะห์ต่อไป โดยนักวิจัยหวังว่าตัวอ่อนหมูนี้จะมีการพัฒนาอย่างปกติ และคาดหวังว่าตับอ่อนจะมีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์และสามารถปลูกถ่ายได้

เว็ปไซต์ต่างประเทศเผยแพร่เรื่องราวน่าทึ่ง เมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถ สร้างลูกผสม ครึ่งหมูครึ่งมนุษย์ ได้สำเร็จแล้ว นับว่าเป็นเรื่องราวที่ดีอย่างยิ่ง ทั้งนี้เหล่านักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า โปรเจคต์ที่ทำขึ้นมา จะช่วยหยุดปัญหาการขาดแคลนบริจาคอวัยวะมนุษย์ และทุกปีที่ผ่านทำให้มีคนเสียชีวิตโดยที่ไม่ได้รับการบริจาคอวัยวะ จากนั้นพวกตนจึงต้องพัฒนาอวัยวะภายในร่างกายของสัตว์อื่นที่ไม่ใช่มนุษย์แทนขึ้น และพวกตนก็เริ่มจะสร้างความสำเร็จขึ้นแล้ว เมื่อพวกเขาทดลองกรองเลือดของมนุษย์ ผ่านเข้าปอดหมูได้สำเร็จ

นักวิทยาศาสตร์เรียกเทคนิคนี้ว่า CRISPR เป็นระบบภูมิคุ้มกันของแบคทีเรีย ในการกำจัดสายดีเอ็นเอที่แปลกปลอม โดยการนำมาใช้กำจัดสิ่งแปลกปลอมในหมูที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ออกไปได้ ทั้งนี้ภายภาคหน้าผู้ป่วยไม่ต้องรอรับบริจาคอวัยวะอีกต่อไป หากคุณยอมรับที่จะใช้อวัยวะของหมูแทน
(Cr.https://www.tsood.com/contents/3004737)

ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดมนุษย์เข้าไปในหนู

รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติให้นักวิทยาศาสตร์ทดลองเลี้ยงตัวอ่อนสัตว์ที่มีอวัยวะบางส่วนเป็นเซลล์ของมนุษย์ได้แล้ว หลังจากที่สั่งระงับไปเมื่อหลายปีก่อน โดยคราวนี้ได้เห็นชอบให้ตัวอ่อน "ครึ่งคนครึ่งสัตว์" สามารถเติบโตจนครบกำหนดคลอดและลืมตาดูโลกได้ด้วย

หลังจากที่ต้องรอคอยมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี ในที่สุดทางการญี่ปุ่นก็ได้อนุมัติให้ ดร.ฮิโรมิซึ นากาอุจิ นักวิจัยด้านเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ประจำมหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของสหรัฐฯ เดินหน้าทำการทดลองปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากมนุษย์เข้าไปในตัวอ่อนของหนูได้ เพื่อหาหนทางสร้างอวัยวะอะไหล่ที่มีคุณภาพสำหรับการรักษาโรคในมนุษย์

ก่อนหน้านี้ การทดลองในลักษณะดังกล่าวถูกทางการญี่ปุ่นสั่งระงับไปในปี 2014 ด้วยเหตุผลที่ว่าอาจเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ทางจริยธรรม เนื่องจากหมิ่นเหม่ต่อการสร้างสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งคนและสัตว์ขึ้นมา ในหลายประเทศทั่วโลกได้สั่งห้ามทำการทดลองนี้เช่นกัน บางแห่งอนุญาตเพียงให้ตัวอ่อนเติบโตได้ระยะหนึ่งก่อนจะต้องทำลายทิ้ง

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางการญี่ปุ่นได้ประกาศให้การทดลองดังกล่าวเป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งอนุญาตให้ปลูกถ่ายตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งสัตว์ไปไว้ในครรภ์ของสัตว์ที่เป็นแม่อุ้มบุญ จนเติบโตครบตามกำหนดและคลอดออกมาได้อีกด้วย โดยมีเงื่อนไขว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาจะต้องมีเซลล์สมองที่เป็นเซลล์ของมนุษย์ไม่เกิน 30% เท่านั้น

ดร. นากาอุจิ กล่าวกับหนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่นว่า "เพื่อความเข้าใจอันดีและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับสาธารณชน เราจะยังไม่เดินหน้าสร้างตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งสัตว์ให้ได้ในทันที แต่จะทำการวิจัยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสานต่องานที่ทิ้งค้างไว้เมื่อหลายปีก่อนเป็นอันดับแรก"

จะมีการใช้เซลล์ต้นกำเนิดชนิด IPS จากมนุษย์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ถูกทำให้มีศักยภาพในการเติบโตเป็นอวัยวะได้หลากหลายประเภท โดยฉีดเข้าไปในตัวอ่อนของหนูที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมจนไม่สามารถสร้างตับอ่อนของตัวเองได้ ทีมวิจัยของ ดร.นากาอุจิคาดว่า ตัวอ่อนหนูจะนำเซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์ไปใช้ และสร้างตับอ่อนที่เป็นเซลล์ของมนุษย์ขึ้นแทนที่ในร่างกาย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการทดลองสร้างตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งสัตว์หลายครั้งกับสัตว์หลากหลายชนิด เช่น หมู แกะ และไก่ โดยมีเป้าหมายในการผลิตอวัยวะอะไหล่เพื่อใช้รักษาโรคในมนุษย์เช่นกัน แต่ปัญหาทางจริยธรรมที่กังวลกันก็คือ อาจไม่สามารถควบคุมสัดส่วนการแพร่กระจายและลักษณะการเติบโตของเซลล์มนุษย์ในตัวอ่อนสัตว์ได้ ทั้งยังมีคำถามว่าหากสมองของตัวอ่อนมีเซลล์มนุษย์ในสัดส่วนสูง จะถือว่าสิ่งมีชีวิตนั้นมีความเป็นมนุษย์สูงตามไปด้วยหรือไม่
ดร. นากาอุจิให้คำมั่นว่า "เราจะพยายามเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เซลล์มนุษย์จะคงอยู่ในตัวสัตว์เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ไม่มีการถ่ายทอดต่อไปยังลูกหลานรุ่นหลัง และเทคนิคพิเศษที่เราใช้จะควบคุมให้เกิดการสร้างอวัยวะที่ต้องการเท่านั้น หากมีเซลล์ของมนุษย์ไปพัฒนาขึ้นที่สมองของตัวอ่อนสัตว์เกิน 30% เราจะหยุดการทดลองทันที"
(Cr.https://www.bbc.com/thai/thailand-49162106)


 Hybrid human มนุษย์ - วัว 

นักวิทยาศาสตร์ผู้ดีสร้างความฮือฮา สร้างตัวอ่อนพันธุ์ผสมมนุษย์-วัว ได้เป็นครั้งแรก เตรียมพัฒนาเพื่อสกัดเซลล์ต้นแบบจากตัวอ่อนสองพันธุ์ โหมโรงก่อนกฏหมายใหม่ไฟเขียวให้ลุยพัฒนาได้เต็มตัว 

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลของอังกฤษ ได้สร้างตัวอ่อนผสมระหว่างมนุษย์และสัตว์ ได้เป็นครั้งแรกของประเทศ จากการฉีดดีเอ็นเอที่สกัดจากเซลล์ผิวหนังมนุษย์ ฝังเข้ายังไข่ของวัวที่มีการถอดวัตถุพันธุกรรมที่ถือเป็นหัวใจการตัวกระตุ้นการมีชีวิตออก โดยตัวอ่อนดังกล่าวขณะนี้มีอายุได้ 3 วันแล้ว 

ขณะที่นายจอหน เบิร์น หัวหน้าคณะวิจัยเปิดเผยว่า งานวิจัยครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมายและกำลังดำเนินไปอย่างละเอียดรอบคอบในห้องทดลอง โดยทีมวิจัยจะพัฒนาตัวอ่อนดังกล่าวอย่างจำกัด ใช้ระยะเวลาเพียง 6 วัน โดยจะไม่มีการนำไปปลูกถ่ายในมนุษย์ และหวังที่จะสกลัดเซลล์ต้นแบบดังกล่าวออกมาศึกษา รายงานระบุว่า สำหรับการวิจัยนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานด้านตัวอ่อนและการเจริญพันธ์มนุษย์ และมีขึ้นก่อนที่จะมีการผ่านกฎหมายใหม่ที่จะไฟเขียวการสร้างเซลล์ต้นแบบพันธุ์ผสมสามารถเดินหน้าพัฒนาต่อไป
(Cr.https://palungjit.org/threads/สร้างตัวอ่อนพันธ์ผสม-มนุษย์-วัว-เป็นครั้งแรก.265991/)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่