สวัสดีค่า เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าทำงาน หรือ Tier 2 (General) ที่สหราชอาณาจักรค่ะ
โดยเราเพิ่งจะเรียนจบปตรีที่ใช้วีซ่า Tier 4 (Student) แล้วยื่นขอแบบ Switch เปลี่ยนที่นี่เลย โดยไม่ต้องกลับไทย ซึ่งสามารถสมัครได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนเริ่มทำงาน
ก่อนอธิบายเราอยากจะบอกว่าวิธีการนี้ สำหรับคนที่….
- ได้รับ Offer จากบริษัทในสหราชอาณาจักร และทางบริษัทสามารถ Sponsor และเราได้เงินเดือนมากกว่า 30,000 ปอนด์ต่อปี ถ้าไม่ใช่แบบ Shortage Occupation
- เป็นนักเรียนที่กำลังจะจบ หรือจบการศึกษา และมีวีซ่า Tier 4 ที่ยังไม่หมดอายุในช่วงระหว่างที่ขอ หรือวีซ่าประเภทอื่นๆตามที่เขากำหนดไว้ เช็คที่
https://www.gov.uk/tier-2-general/switch-to-this-visa
- ไม่อยากเสียตังค่าตั๋วไปกลับไทย เพราะยังไงก็ต้องรอรับปริญญา
- ผู้ที่มีความอดทนสูง สามารถรอ Approve ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 8 อาทิตย์ แต่ก็มี Option แบบ Priority, Super Priority สำหรับคนที่ไม่อยากรอนาน ใช้เวลา 5 วันกับ 1 วันทำการ แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็สูงพอควร 500 กับ 800 ปอนด์ตามลำดับ ราคาเปลี่ยนแปลงได้ทุกปีสามารถเช็คที่
https://www.gov.uk/tier-2-general
- ไม่มี Travel Plan ออกนอกสหราชอาณาจักรระหว่างวันที่กดส่ง Application และรอรับ BRP Card เราต้องอยู่ในประเทศ ไม่เช่นนั้น Application ของเราจะ Invalid ไปเลย
สำหรับเราแล้ว Process ถือว่าไม่ได้วุ่นวายมาก เพราะมี Agent จากทางบริษัทช่วยเตรียมและส่งเอกสาร แต่ถือว่าใช้เวลานานพอควร เราไม่สามารถลงขั้นตอนรายละเอียดสมัครได้ เพราะเราไม่ได้เป็นคนส่ง แต่ขั้นตอนโดยรวมจากเว็บไซต์ของรัฐก็จะประมาณนี้
1) เตรียมเอกสาร
> Certificate of Sponsorship ขอที่นายจ้าง แต่อันนี้ Agent เราจัดการให้
> หลักฐาน Knowledge of English - เนื่องจากเราจบปริญญาตรีที่อังกฤษเลยใช้ Transcript อันล่าสุดแทน ถ้ากรณีอื่นต้องมีหลักฐานว่าเราผ่านเกณฑ์ B1
> Personal Savings - ของเราไม่ต้องโชว์เพราะบริษัทสามารถ Sponsor ได้ แต่ในเว็บไซต์ไม่ได้บอกขั้นต่ำว่าเท่าไหร่ แต่น่าจะโชว์ Bank Statement ของ 3 เดือนที่ผ่านมาเหมือนไปขอวีซ่าปกติ
> Tuberculosis test (TB) เนื่องจากเราไม่ได้ออกนอกอังกฤษเลยใน 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากกลับไทยตอนช่วงปิดเทอมไม่กี่เดือน เลยไม่ต้องทำ Test ใหม่ เช็คว่าต้องตรวจใหม่หรือไม่ได้ที่
https://www.gov.uk/tb-test-visa
> Criminal Record Certification - เฉพาะบางสายงาน เช่น Education, Health Care, Social services
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเช็คได้ที่
https://www.gov.uk/tier-2-general/documents-you-must-provide
2) ส่งใบสมัคร
ในจุดนี้ไม่มีอะไรมาก แค่กรอกข้อมูลตาม Form สแกนเอกสารให้เรียบร้อยและเห็นชัดแล้วกดจ่ายเงินส่ง
> ค่า Application จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าเราจะจ่าย Priority service ใหม่ ถ้าเป็นงานแบบ Shortage ราคาจะถูกลงมาหน่อย สามารถเช็คราคาล่าสุดได้ที่
https://www.gov.uk/tier-2-general
> Healthcare Surcharge จ่ายตามจำนวนปีที่อยู่ แต่ราคาจะแพงกว่าถ้าเทียบกับราคานักเรียน ตอนนี้อยู่ที่ 400 ปอนด์ต่อปี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี
https://www.gov.uk/healthcare-immigration-application/how-much-pay
> Biometrics Appointment ต่อไปคือการเลือกว่าเราจะไปทำ Biometrics ที่ไหน เลือก Service Point (UKVCAS) ที่เดินทางสะดวกที่สุด สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน London แล้วอยู่ที่เมืองเล็กๆอาจจะต้องนั่งรถไฟ เดินทางไปหน่อย ส่วนคนที่สมัครแบบ Priority สถานที่อาจจะตัวเลือกน้อยกว่าถ้าเทียบกับแบบธรรมดา เช็คได้ที่เว็บนี้
https://www.ukvcas.co.uk/locations จะเสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 19.20 ปอนด์
Q: UKVCAS ใช่ที่เดียวกันกับ Post Office ที่ให้ทำ Biometrics ตอนทำ BRP หายรึเปล่า?
A: ไม่ใช่ที่เดียวกัน แนะนำให้เช็คจากเว็บไซต์แล้วเช็ค Service Point จะดีที่สุด
Q: ต้องส่ง Passport กับ BRP ตัวจริงไปให้เขาไหม
A: เนื่องจากเค้าปรับปรุงระบบใหม่ เลยไม่ต้องส่งเอกสารตัวจริง ตอนสมัคร แต่จะใช้เช็คและสแกนตอนทำ Biometrics
พอกดสมัครเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ Email confirm Biometrics Appointment
3) Biometrics Appointment
สิ่งที่ต้องเตรียมไป คือ
- Passport
- BRP Card
- Appointment Letter - อันนี้ต้องปริ้นไปนะ เค้าไม่รับแบบโชว์บนมือถือ
- Transcript / University Certificate - สำหรับคนที่ยังไม่ได้สแกนระหว่างส่งใบสมัคร
โดยรวมแล้วคือเตรียมเอกสารให้ครบ เดินทางไปตามนัด แล้วเค้าจะถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือและสแกน Passport BRP เราก็เสร็จละ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที แต่ถ้าคนเยอะจะใช้เวลามากกว่านั้น
4) รอ Approval Decisions
พูดได้เลยว่าต้องอดทนรออย่างเดียว ของเราใช้เวลาประมาณ 7 อาทิตย์นับจากวันที่กดส่ง Application
แต่พอได้ Email แล้วเรายังออกนอกประเทศไม่ได้นะต้องได้ BRP Card ก่อน
5) รอ BRP (Biometric Residence Permit)
BRP Card จะใช้เวลา 7 วันทำการนับจากวันที่เราได้ Approval Email มา แล้วหลังจากนั้นเราสามารถเดินทางไปออกนอกประเทศได้ละ
Tips เพิ่มเติมสำหรับคนที่หางาน
ก่อนไปสัมภาษณ์งานอย่าลืมเช็คด้วยว่าทางบริษัทสามารถรับคนต่างชาติทำงานได้รึไม่ เอาชื่อบริษัท Search ที่
https://www.gov.uk/government/publications/register-of-licensed-sponsors-workers
แล้วก็สามารถ Offer เงินเดือนขั้นต่ำในการยื่นขอวีซ่าได้ด้วย
Tips เพิ่มเติมสำหรับคนที่ได้งานแล้ว
ลองถาม HR ดูว่าทางบริษัทจะช่วยเรื่อง Application Process ได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าแบบน้อยสุด คือเค้าให้แค่ Certificate แล้วที่เหลือเราต้องจัดการเอาเอง แนะนำให้เตรียมค่าใช้จ่ายไว้ด้วย
เพราะบางบริษัทสามารถช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เช่น มี Agency คอยแนะนำกับช่วยเหลือการสมัคร หรือออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้เลย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ เนื่องจากขั้นตอนการทำวีซ่ามีการเปลี่ยนแปลงทุกปี อย่าลืมเช็คบนเว็บไซต์นะคะ
แชร์ประสบการณ์ยื่นทำวีซ่า Tier 2 ใน UK
โดยเราเพิ่งจะเรียนจบปตรีที่ใช้วีซ่า Tier 4 (Student) แล้วยื่นขอแบบ Switch เปลี่ยนที่นี่เลย โดยไม่ต้องกลับไทย ซึ่งสามารถสมัครได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนเริ่มทำงาน
ก่อนอธิบายเราอยากจะบอกว่าวิธีการนี้ สำหรับคนที่….
- ได้รับ Offer จากบริษัทในสหราชอาณาจักร และทางบริษัทสามารถ Sponsor และเราได้เงินเดือนมากกว่า 30,000 ปอนด์ต่อปี ถ้าไม่ใช่แบบ Shortage Occupation
- เป็นนักเรียนที่กำลังจะจบ หรือจบการศึกษา และมีวีซ่า Tier 4 ที่ยังไม่หมดอายุในช่วงระหว่างที่ขอ หรือวีซ่าประเภทอื่นๆตามที่เขากำหนดไว้ เช็คที่ https://www.gov.uk/tier-2-general/switch-to-this-visa
- ไม่อยากเสียตังค่าตั๋วไปกลับไทย เพราะยังไงก็ต้องรอรับปริญญา
- ผู้ที่มีความอดทนสูง สามารถรอ Approve ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 8 อาทิตย์ แต่ก็มี Option แบบ Priority, Super Priority สำหรับคนที่ไม่อยากรอนาน ใช้เวลา 5 วันกับ 1 วันทำการ แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็สูงพอควร 500 กับ 800 ปอนด์ตามลำดับ ราคาเปลี่ยนแปลงได้ทุกปีสามารถเช็คที่ https://www.gov.uk/tier-2-general
- ไม่มี Travel Plan ออกนอกสหราชอาณาจักรระหว่างวันที่กดส่ง Application และรอรับ BRP Card เราต้องอยู่ในประเทศ ไม่เช่นนั้น Application ของเราจะ Invalid ไปเลย
สำหรับเราแล้ว Process ถือว่าไม่ได้วุ่นวายมาก เพราะมี Agent จากทางบริษัทช่วยเตรียมและส่งเอกสาร แต่ถือว่าใช้เวลานานพอควร เราไม่สามารถลงขั้นตอนรายละเอียดสมัครได้ เพราะเราไม่ได้เป็นคนส่ง แต่ขั้นตอนโดยรวมจากเว็บไซต์ของรัฐก็จะประมาณนี้
1) เตรียมเอกสาร
> Certificate of Sponsorship ขอที่นายจ้าง แต่อันนี้ Agent เราจัดการให้
> หลักฐาน Knowledge of English - เนื่องจากเราจบปริญญาตรีที่อังกฤษเลยใช้ Transcript อันล่าสุดแทน ถ้ากรณีอื่นต้องมีหลักฐานว่าเราผ่านเกณฑ์ B1
> Personal Savings - ของเราไม่ต้องโชว์เพราะบริษัทสามารถ Sponsor ได้ แต่ในเว็บไซต์ไม่ได้บอกขั้นต่ำว่าเท่าไหร่ แต่น่าจะโชว์ Bank Statement ของ 3 เดือนที่ผ่านมาเหมือนไปขอวีซ่าปกติ
> Tuberculosis test (TB) เนื่องจากเราไม่ได้ออกนอกอังกฤษเลยใน 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากกลับไทยตอนช่วงปิดเทอมไม่กี่เดือน เลยไม่ต้องทำ Test ใหม่ เช็คว่าต้องตรวจใหม่หรือไม่ได้ที่ https://www.gov.uk/tb-test-visa
> Criminal Record Certification - เฉพาะบางสายงาน เช่น Education, Health Care, Social services
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเช็คได้ที่ https://www.gov.uk/tier-2-general/documents-you-must-provide
2) ส่งใบสมัคร
ในจุดนี้ไม่มีอะไรมาก แค่กรอกข้อมูลตาม Form สแกนเอกสารให้เรียบร้อยและเห็นชัดแล้วกดจ่ายเงินส่ง
> ค่า Application จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าเราจะจ่าย Priority service ใหม่ ถ้าเป็นงานแบบ Shortage ราคาจะถูกลงมาหน่อย สามารถเช็คราคาล่าสุดได้ที่ https://www.gov.uk/tier-2-general
> Healthcare Surcharge จ่ายตามจำนวนปีที่อยู่ แต่ราคาจะแพงกว่าถ้าเทียบกับราคานักเรียน ตอนนี้อยู่ที่ 400 ปอนด์ต่อปี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี https://www.gov.uk/healthcare-immigration-application/how-much-pay
> Biometrics Appointment ต่อไปคือการเลือกว่าเราจะไปทำ Biometrics ที่ไหน เลือก Service Point (UKVCAS) ที่เดินทางสะดวกที่สุด สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน London แล้วอยู่ที่เมืองเล็กๆอาจจะต้องนั่งรถไฟ เดินทางไปหน่อย ส่วนคนที่สมัครแบบ Priority สถานที่อาจจะตัวเลือกน้อยกว่าถ้าเทียบกับแบบธรรมดา เช็คได้ที่เว็บนี้ https://www.ukvcas.co.uk/locations จะเสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 19.20 ปอนด์
Q: UKVCAS ใช่ที่เดียวกันกับ Post Office ที่ให้ทำ Biometrics ตอนทำ BRP หายรึเปล่า?
A: ไม่ใช่ที่เดียวกัน แนะนำให้เช็คจากเว็บไซต์แล้วเช็ค Service Point จะดีที่สุด
Q: ต้องส่ง Passport กับ BRP ตัวจริงไปให้เขาไหม
A: เนื่องจากเค้าปรับปรุงระบบใหม่ เลยไม่ต้องส่งเอกสารตัวจริง ตอนสมัคร แต่จะใช้เช็คและสแกนตอนทำ Biometrics
พอกดสมัครเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ Email confirm Biometrics Appointment
3) Biometrics Appointment
สิ่งที่ต้องเตรียมไป คือ
- Passport
- BRP Card
- Appointment Letter - อันนี้ต้องปริ้นไปนะ เค้าไม่รับแบบโชว์บนมือถือ
- Transcript / University Certificate - สำหรับคนที่ยังไม่ได้สแกนระหว่างส่งใบสมัคร
โดยรวมแล้วคือเตรียมเอกสารให้ครบ เดินทางไปตามนัด แล้วเค้าจะถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือและสแกน Passport BRP เราก็เสร็จละ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที แต่ถ้าคนเยอะจะใช้เวลามากกว่านั้น
4) รอ Approval Decisions
พูดได้เลยว่าต้องอดทนรออย่างเดียว ของเราใช้เวลาประมาณ 7 อาทิตย์นับจากวันที่กดส่ง Application
แต่พอได้ Email แล้วเรายังออกนอกประเทศไม่ได้นะต้องได้ BRP Card ก่อน
5) รอ BRP (Biometric Residence Permit)
BRP Card จะใช้เวลา 7 วันทำการนับจากวันที่เราได้ Approval Email มา แล้วหลังจากนั้นเราสามารถเดินทางไปออกนอกประเทศได้ละ
Tips เพิ่มเติมสำหรับคนที่หางาน
ก่อนไปสัมภาษณ์งานอย่าลืมเช็คด้วยว่าทางบริษัทสามารถรับคนต่างชาติทำงานได้รึไม่ เอาชื่อบริษัท Search ที่ https://www.gov.uk/government/publications/register-of-licensed-sponsors-workers
แล้วก็สามารถ Offer เงินเดือนขั้นต่ำในการยื่นขอวีซ่าได้ด้วย
Tips เพิ่มเติมสำหรับคนที่ได้งานแล้ว
ลองถาม HR ดูว่าทางบริษัทจะช่วยเรื่อง Application Process ได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าแบบน้อยสุด คือเค้าให้แค่ Certificate แล้วที่เหลือเราต้องจัดการเอาเอง แนะนำให้เตรียมค่าใช้จ่ายไว้ด้วย
เพราะบางบริษัทสามารถช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เช่น มี Agency คอยแนะนำกับช่วยเหลือการสมัคร หรือออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้เลย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ เนื่องจากขั้นตอนการทำวีซ่ามีการเปลี่ยนแปลงทุกปี อย่าลืมเช็คบนเว็บไซต์นะคะ