[CR] La Mer ใช้แล้วรัก ไม่ต้องรอให้ถึงหลัก 4

ไม่ใช่แค่อากาศที่ร้อนระอุแตะ 40° แต่อายุก็เช่นกัน การดูแลตัวเองโดยเฉพาะผิวหน้าในวัยใกล้หลัก 4 เลยเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนอยู่ไม่น้อย แต่ทว่ามันคุ้มค่า บอกเลยว่า.. ยอม

ว่ากันด้วยสภาพผิวกันก่อน ด้วยพื้นฐานเป็นคนผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ใช้ชีวิตแบบองค์รวม รวมทุกองค์ประกอบที่ทำให้เกิดริ้วรอย ดื่มน้ำน้อย นอนดึก เช้าแห้งบ่ายมัน เดี๋ยวแอร์เดี๋ยวแดด  เมื่อผิวแห้งพังดั่งทะเลทรายซาฮาร่า มาเจอความอัศจรรย์ของสาหร่ายใต้ทะเลลึกจาก La Mer เหมือนเจอเนื้อคู่ที่ใช่ และพอใช้แล้วเห็นความแตกต่างเท่านั้นแหละ ตามมาเรื่อยๆ เลยลูกเอ๋ย


แน่นอนว่าตัวแรกจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก

Créme de La Mer
60ml.
ครีมในตำนานที่หลายๆ คนก็ต้องเริ่มจากกระปุกนี้ (เคยลองกระปุกเล็กแต่ใช้ผิดวิธี สรุปไม่ได้ผล) ผ่านไปหลายปีกลับมาลองสูตร Original ใหม่อีกที ถึงเก็ทว่าเพราะเนื้อครีมที่เข้มข้นอัดแน่นมากจึงต้องวอร์มให้ละลายก่อน คราวนี้ใช้ถูกวิธีเป๊ะๆ ตามสูตร วอร์มครีมบนนิ้วมือให้ละลายเป็นเนื้อเงาๆ ใสๆ แตะๆ ทั่วใบหน้าจะรู้สึกเหมือนมีละอองน้ำเคลือบอยู่บนผิวเบาๆ เปลี่ยนผิวที่เคยแห้งกร้านให้นุ่ม ชุ่มชื้น หลังล้างหน้ารู้สึกเลยว่าผิวเนียน ลื่นขึ้น ละเอียดขึ้น พอผิวชุ่มชื่นอะไรๆ มันก็ดี 555 ช่วยฟื้นฟูผิวทุกปัญหายกเว้นเรื่องความขาว แถมยังใช้ได้นานมากขนาด 60 ml. ใช้มาจะปีแล้วเอาจริง



The Regenerating Serum
30ml.
หลังจากใช้ Créme de La Mer ไปสักระยะแล้วดีต่อใจและใบหน้า ก็มาโดน Serum ของ La Mer ต่อเพื่อแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยที่สะสมไว้เยอะจนนับไม่ถ้วน ลงเอยที่ The Regenerating Serum ขวดเงาแว้บสวยงามสมราคา เนื้อเซรั่มค่อนข้างข้น กลิ่นออกจะทะยิ้มหน่อยไม่เหม็นไม่หอม หลังจากใช้ไปได้แค่ 2 เดือนกว่าๆ ก็ใกล้หมดแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงค่อยมาสังเกตว่าริ้วรอยลึกตรงร่องแก้มมันจางลงชัดเจนมาก เวลาหุบยิ้มไม่ทิ้งเส้นยาวๆ ให้เห็นเหมือนแต่ก่อน แอบคิดว่าริ้วรอยส่วนอื่นที่มีจนนับไม่ถ้วนก็คงจางลงไปด้วยละมั๊ง สรุปว่า The Regenerating Serum ขวดแรกแลกกับร่องแก้มที่หายไป มันคุ้มค่าม้ากมาก แต่หมดเร็วจริงอะไรจริง ถามว่าจะซื้อต่อไหมนี่ยังทำใจไม่ได้เลย



The Treatment Lotion
150ml.
เพื่อการดูแลผิวอย่างครบขั้นตอน ประจวบกับน้ำตบขวดเก่าหมดพอดี ก็ได้มาซึ่ง The Treatment Lotion ใช้ครั้งแรกก็ชอบเลย ใจง่ายเก่ง เนื้อสัมผัสกึ่งเจล กึ่งน้ำ มีความหนืดๆ หน่อย ด้วยส่วนผสมของน้ำหมักสาหร่าย (Miracle Broth) ที่เข้มข้นเนื้อ Lotion เค้าเลยไม่ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่า ใช้ประมาณ 3-4 หยดกดเบาๆ ทั่วใบหน้า ผิวก็ชุ่มชื้น สดใส เฟรชขึ้นทันที ขวดนี้ใช้มาข้ามปีแล้วคุ้มไหม
 
น้ำตบเอย เซรั่มเอย มอสเจอร์ไรเซอร์เอย
ครบ 3 ขั้นตอนบำรุงผิวแล้ว
แต่ความพอใจไม่หยุดอยู่แค่นั้น!
เมื่อผิวดีขึ้นเรื่อยๆ
4
5
6
จึงตามมา



The Revitalizing Hydrating Serum
30ml.
เมื่อผิวหน้ากลับมาชุ่มชื้นแล้ว ก็เติมน้ำเพิ่มความฉ่ำวาวให้ผิวกันต่อ ฉ่ำให้สุดแล้วหยุดที่ The Revitalizing Hydrating Serum เป็น Pre-serum ที่ได้ Tester เป็นของแถมมาจากครั้งก่อน เนื้อเป็นเจลสีเขียวกลิ่นหอมอ่อนๆ คืนเดียวรู้เรื่อง ผิวนุ่มจริงอะไรจริง หลังจากหลอดกระจิ๋วหลิวหมดก็วนกลับไปเคาน์เตอร์อีกแล้ว ใช้แค่กลางคืน 2 ปั๊มก่อนนอน ตื่นมาหน้านุ่มฟูอิ่มน้ำ อุปทานไปเองไหมไม่แน่ใจ มันสดใสอิ่มเอิบมากขึ้น รู้สึกว่าผิวดูเด็กลง 555  กลายเป็นลูกรักยืน 1 บนโต๊ะเครื่องแป้งไปเลย



The Renewal Oil
15ml.
ต่อกันรัวๆ ที่ขวดนี้ได้มาด้วยความคัน จากการอ่านรีวิวแล้วมีความหวังลึกๆ ว่าจะช่วยปรับสมดุลย์น้ำและน้ำมัน Renew ผิวใหม่ให้กับสาววัยใกล้เลข 4  ทาสการตลาดแบบเรานี้ไม่รอช้ากดขนาดเดินทาง 15 ml. จากเว็ปมาให้หายอยาก นอกจากนี้ คุณสมบัติรอบด้านมาก สามารถนำไปเบลนด์กับผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น ผสมกับรองพื้นให้เกลี่ยง่ายขึ้น ผสมกับบอดี้โลชั่นให้บริเวณผิวที่แห้งกร้านอย่างมือ ข้อศอก หัวเข่านุ่มขึ้น หรือบำรุงผมให้นุ่มสวยเงางาม แต่เราจะไม่ใช้แบบนั้นแน่ ..เพราะมันเปลือง เวลาใช้ต้องเขย่าให้ส่วนผสมที่แยกชั้นเข้ากันก่อนแล้วค่อยดูดออยด์ขึ้นมา เอาเข้าจริงขวดนี้ไม่ได้ใช้บ่อย กลัวหมด ใช้กลางคืนในวันที่ผิวแห้งพังมากๆ หรือก่อนแต่งหน้าในวันที่อยากให้ผิวดูโกลว ใช้หยดเดียวก็ได้ความดิวอี้ เปล่งประกายเรวืองรวอง



The Eye Concentrate
15ml.
มาถึงลูกคนเล็ก The Eye Concentrate ที่ไม่ทันได้ถ่ายรูปหมู่กับใครเค้าเพราะได้มาทีหลังสุด กับสุดยอดอายครีมในตำนานอีกเช่นกัน ที่มาพร้อมกับ Silver-Tipped Applicator หัวไม้ขีดเล็กๆ เย็นๆ ที่เป็นอุปกรณ์ในการนวด และผลักเนื้อครีมเข้าไปบำรุงผิวรอบดวงตาที่อิดโรย ปราศจากโบท๊อกมาแรมปี ให้ฝดใฝ ผ่อนคลาย เท่าที่ใช้มารู้สึกว่าผิวรอบดวงตาดูชุ่มชื้นขึ้น แต่ยังใช้ไม่นานพอที่จะเห็นผลเรื่องความตึงยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย ก็ต้องดูกันต่อไป

เสียดายที่ไม่ได้เก็บรูป Before ไว้เพราะไม่ได้กะจะเขียนรีวิว ข้ามมาผิวปัจจุบันเลยละกัน
 
ผิวก่อนลงสกินแคร์


ผิวหลังลงสกินแคร์ทั้ง 6 ชิ้น มีความชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่กองอยู่บนหน้า เหมือนว่าส่วนผสมดีๆ มันซึมลงไปซ่อมแซมใต้ผิวเราได้หมด ซึมลึก ซึมเร็ว ทิ้งความเงาบางๆ ไว้บนผิวหน้าแค่เล็กน้อย


ใครที่อยากเผยผิวลงสกินแคร์แล้วออกจากบ้านเลยก็ยังได้
แต่ขอแต่งหน้าดีกว่า 555


ไม่คิดว่าจะมาไกลกับ La Mer ขนาดนี้ รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้สมคอนเซ็ปต์ Beauty Begins and Ends with La Mer ผิวสวยครบจบที่ลาแมร์

ติดตามเรื่องอื่นๆ ต่อได้ใน https://www.facebook.com/momterestblog
ชื่อสินค้า:   La mer
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่