หวัดดีค่าาาา เพื่อนๆ พันทิปทุกคน วันนี้เราก็จะมารีวิว Creme de La Mer ที่เราได้รับจากกิจกรรมที่ La Mer ร่วมกับ Pantip นะคะ หลังจากที่ได้ทดลองใช้เป็นเวลากว่า 2 เดือนเต็มนะคะ
รับน้องมาแล้ววว
ตัวครีมไซส์จริงมีไม้พายตักครีมมาให้ด้วย เพื่อเลี่ยงการสัมผัสครีมโดยตรงจากมือ คือดีมาก
สภาพผิวของเรา
- ผิวมันขาดน้ำ
- มีสิวบ้าง แต่ไม่เยอะ
- มีรอยดำรอยแดงจากสิว ค่อนข้างชัด
- มีร่องแก้มบ้าง ไม่ค่อยมีปัญหาริ้วรอย
นี่คือภาพก่อนที่จะใช้จริงจังนะคะ สังเกตได้ว่ารอยสิวที่คางหนักหน่วงมากๆ T__T
ฟีลลิ่งเมื่อได้ใช้ Creme de La Mer แบบจริงจัง จะบอกว่า รู้สึกดีมากค่ะ คือสำหรับเรา เราคิดว่าครีมตัวนี้เป็นเหมือนครีมสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งเลย ส่วนตัวเราคิดว่า ไม่ได้มีคุณสมบัติที่เด่นมากในเรื่องผิวขาวกระจ่างใส หรือลดรอยฝ้ากระได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่เหมือนเป็นการใช้ทุกวัน เพื่อให้ผิวหน้าของเราเนี่ยแข็งแรงมากขึ้น พร้อมที่จะแต่งหน้า แต่งหน้าติดขึ้น ผิวชุ่มมากกกก แถมรอยสิวแอบก็จางลงด้วยนะคะ
เอาจริงๆ ตอนแรกก็แอบกังวลค่ะว่า ตัวครีมหนักมาก (เพราะเนื้อครีม rich จริงๆ) จะอุดตันไหม บอกเลยค่ะว่า ถ้าเราใช้ถูกวิธี (ซึ่งต้องตักครีมออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ แล้ววอร์มเนื้อครีมที่มือก่อน ค่อยๆ กดลงไปลนใบหน้า) มันจะเกิดการอุดตันได้น้อย คือปกติแล้วคนเราก็ต้องมีสิวอุดตันกันบ้างใช่ไหมคะ จากการแต่งหน้าบ้าง จากมลภาวะบ้าง หลายสาเหตุรวมกัน แต่เรารู้สึกว่าเจ้าตัว Creme de La Mer ตัวนี้ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าเราอุดตันเพิ่ม แถมพอใช้ไปตอนก่อนนอน ยังตื่นมาด้วยสภาพที่หน้าไม่มันด้วย
อีกสิ่งนึงที่ชอบมากคือ ปกติเราจะเป็นคนหน้ามันมาก แต่เรากลับลองของ ด้วยการใช้เจ้าตัวนี้ลงก่อนลงครีมกันแดด แล้วก็แต่งหน้าตามปกติ สรุปคือ ครีมตัวนี้ไม่ได้ทำให้หน้าเรามันเพิ่มเลยค่ะ เราปลาบปลื้มมากๆ ซึ้งใจ T__T
เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่า หลังจากใช้ไปได้ 1 เดือนแล้วจะเกิดอะไรขึ้นค่า
สภาพแสงอาจจะต่างกันนะคะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่ารอยกรรมที่คางนั้นจางลงเยอะมาก! รูปนี้ขอแอบทาลิปนิดนึง แต่ไม่ได้ลงแป้ง รองพื้น หรือเบคอัพเบสใดๆ เลยค่ะ สังเกตจากรอยกระได้เลยยย
ปลื้มมากกก และนี่คือรูปที่เราเพิ่งถ่ายล่าสุดค่ะ
รอยที่คางจางลงมากแล้ววว แสบสังเกตว่ารูขุมขนไม่ค่อยบานเท่ารูปแรกแล้ว 5555
จะเห็นได้ชัดเลยว่ารอยดำที่คาง ที่เกิดจางสิวจางลงมากๆ ส่วนรอยกระ ไม่ได้จางลงค่ะ 5555 อันนี้เข้าใจนะ เพราะกระมันรักษายากกว่ามาก และต้องใช้ครีมหรือเลเซอร์ที่รักษาแบบตรงจุด ซึ่งทางเราก็ไม่ได้กังวลกับการมีกระบนใบหน้าเท่าไหร่ค่ะ
สรุป
ชอบฟีลลิ่งของครีมมากค่ะ กลิ่น เนื้อสัมผัส luxury มาก รวมไปถึงแพคเกจด้วย ผู้ดีเหมาะสมแก่ราคามาก เหมือนเป็นครีมสามัญประจำโต๊ะ ครีม everyday ที่ต้องใช้ทุกวัน ทุกคืน คิดอะไรไม่ออกบอก Creme de La Mer แต่ราคาก็แพงมากเช่นกัน เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่มีงบพอที่จะซื้อขนาดใหญ่ 60ml ขนาดกลาง 30ml ก็ยังโอเคอยู่นะคะ เพราะครีมใช้ได้นานมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เยอะเลยค่ะ
ขอบคุณทาง ppantip.com แล้วก็ La Mer มากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้เราได้ประสบการณ์อีกระดับในการดูแลผิว คราวนี้ที่โต๊ะเครื่องแป้งของเรา อาจจะมี serum งอกขึ้นมาอีกขวด ก็เป็นได้ ^__^
[SR] Review: Creme de La Mer ครีมเทพราคาแรง ครีมสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งของสาวๆ หลายบ้าน
รับน้องมาแล้ววว
ตัวครีมไซส์จริงมีไม้พายตักครีมมาให้ด้วย เพื่อเลี่ยงการสัมผัสครีมโดยตรงจากมือ คือดีมาก
สภาพผิวของเรา
- ผิวมันขาดน้ำ
- มีสิวบ้าง แต่ไม่เยอะ
- มีรอยดำรอยแดงจากสิว ค่อนข้างชัด
- มีร่องแก้มบ้าง ไม่ค่อยมีปัญหาริ้วรอย
นี่คือภาพก่อนที่จะใช้จริงจังนะคะ สังเกตได้ว่ารอยสิวที่คางหนักหน่วงมากๆ T__T
ฟีลลิ่งเมื่อได้ใช้ Creme de La Mer แบบจริงจัง จะบอกว่า รู้สึกดีมากค่ะ คือสำหรับเรา เราคิดว่าครีมตัวนี้เป็นเหมือนครีมสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งเลย ส่วนตัวเราคิดว่า ไม่ได้มีคุณสมบัติที่เด่นมากในเรื่องผิวขาวกระจ่างใส หรือลดรอยฝ้ากระได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่เหมือนเป็นการใช้ทุกวัน เพื่อให้ผิวหน้าของเราเนี่ยแข็งแรงมากขึ้น พร้อมที่จะแต่งหน้า แต่งหน้าติดขึ้น ผิวชุ่มมากกกก แถมรอยสิวแอบก็จางลงด้วยนะคะ
เอาจริงๆ ตอนแรกก็แอบกังวลค่ะว่า ตัวครีมหนักมาก (เพราะเนื้อครีม rich จริงๆ) จะอุดตันไหม บอกเลยค่ะว่า ถ้าเราใช้ถูกวิธี (ซึ่งต้องตักครีมออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ แล้ววอร์มเนื้อครีมที่มือก่อน ค่อยๆ กดลงไปลนใบหน้า) มันจะเกิดการอุดตันได้น้อย คือปกติแล้วคนเราก็ต้องมีสิวอุดตันกันบ้างใช่ไหมคะ จากการแต่งหน้าบ้าง จากมลภาวะบ้าง หลายสาเหตุรวมกัน แต่เรารู้สึกว่าเจ้าตัว Creme de La Mer ตัวนี้ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าเราอุดตันเพิ่ม แถมพอใช้ไปตอนก่อนนอน ยังตื่นมาด้วยสภาพที่หน้าไม่มันด้วย
อีกสิ่งนึงที่ชอบมากคือ ปกติเราจะเป็นคนหน้ามันมาก แต่เรากลับลองของ ด้วยการใช้เจ้าตัวนี้ลงก่อนลงครีมกันแดด แล้วก็แต่งหน้าตามปกติ สรุปคือ ครีมตัวนี้ไม่ได้ทำให้หน้าเรามันเพิ่มเลยค่ะ เราปลาบปลื้มมากๆ ซึ้งใจ T__T
เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่า หลังจากใช้ไปได้ 1 เดือนแล้วจะเกิดอะไรขึ้นค่า
สภาพแสงอาจจะต่างกันนะคะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่ารอยกรรมที่คางนั้นจางลงเยอะมาก! รูปนี้ขอแอบทาลิปนิดนึง แต่ไม่ได้ลงแป้ง รองพื้น หรือเบคอัพเบสใดๆ เลยค่ะ สังเกตจากรอยกระได้เลยยย
ปลื้มมากกก และนี่คือรูปที่เราเพิ่งถ่ายล่าสุดค่ะ
รอยที่คางจางลงมากแล้ววว แสบสังเกตว่ารูขุมขนไม่ค่อยบานเท่ารูปแรกแล้ว 5555
จะเห็นได้ชัดเลยว่ารอยดำที่คาง ที่เกิดจางสิวจางลงมากๆ ส่วนรอยกระ ไม่ได้จางลงค่ะ 5555 อันนี้เข้าใจนะ เพราะกระมันรักษายากกว่ามาก และต้องใช้ครีมหรือเลเซอร์ที่รักษาแบบตรงจุด ซึ่งทางเราก็ไม่ได้กังวลกับการมีกระบนใบหน้าเท่าไหร่ค่ะ
สรุป
ชอบฟีลลิ่งของครีมมากค่ะ กลิ่น เนื้อสัมผัส luxury มาก รวมไปถึงแพคเกจด้วย ผู้ดีเหมาะสมแก่ราคามาก เหมือนเป็นครีมสามัญประจำโต๊ะ ครีม everyday ที่ต้องใช้ทุกวัน ทุกคืน คิดอะไรไม่ออกบอก Creme de La Mer แต่ราคาก็แพงมากเช่นกัน เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่มีงบพอที่จะซื้อขนาดใหญ่ 60ml ขนาดกลาง 30ml ก็ยังโอเคอยู่นะคะ เพราะครีมใช้ได้นานมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เยอะเลยค่ะ
ขอบคุณทาง ppantip.com แล้วก็ La Mer มากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้เราได้ประสบการณ์อีกระดับในการดูแลผิว คราวนี้ที่โต๊ะเครื่องแป้งของเรา อาจจะมี serum งอกขึ้นมาอีกขวด ก็เป็นได้ ^__^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้