เมื่อวันเสาร์ เอาทีวีLED แอลจี 42 นิ้ว อายุเกินระยะประกัน จำไม่ได้ว่าซื้อเมื่อใด แต่ไม่น่าจะเกิน 3-4ปี
เป็นทีวีที่ไม่ได้เปิดทุกวัน เพราะอยู่ในห้องรับแขก
มีอาการหน้าจอดับ แต่มีเสียง
เข้าดูในยูทูป มีวิธีการซ่อม เห็นแล้วก็คิดว่า ไม่ยากเลย เพราะเกิดจาก LED Black Light เสื่อม
ส่งศุนย์ก็คงไม่แพง ศูนย์ทดลองเปิดทีวี ก็พบว่า มีภาพเลือนราง
แล้วก็แจ้งผมว่า วันอังคารจะแจ้งราคาค่าซ่อม และก็บอกว่าถ้าไม่ซ่อมก็จะมีราคาค่าเปิดเครื่อง 428 บาท
พอเช้าวันนี้ 8.34 น. ก็มีช่างที่ศูนย์โทรมา แจ้งว่าต้องเปลี่ยนทั้งแผง Black Light ราคาค่าแผง 4พันกว่า

?????? สตั้นท์ไปเลยครับ จากที่คิดว่า น่าจะพันต้นๆ กลายเป็นสี่พันกว่า ????????

ผมก็คุยกับช่างว่า ซ่อมแบบในยูทูปไม่ได้หรือ ช่างบอกว่า ซ่อมแบบนั้น อีกไม่กี่เดือนก็ต้องซ่อมอีก
(ซึ่งผมมองว่าไม่ใช่ ทีวีหลายเครื่อง ที่มีอายุทนทานนานหลายปี หลอด LED ไม่ใช่ว่าจะเสียทุก 2-3ปี)

ผมบอกช่างไปว่า ผมยอมเสี่ยงที่จะซ่อมเป็นตัวๆ แต่ช่างบอกว่า ทางบริษัท ส่งอะไหล่ให้เป็นแผง ๆ เท่านั้น
(ถ้ามีคนเปลี่ยน แสดงว่า ในศูนย์คงต้องมีแผง LED เก่าที่ถอดจากลูกค้าอยู่ สามารถเอามาใช้งานต่อได้ ไม่กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิค)

ผมบอกอีกว่า ผมเคยซ่อมเครื่องซักผ้าฝาหน้ากับศูนย์แอลจี ช่างที่ศูนย์มา ก็ตรวจเช็คว่าแผงวงจร มีปุ่มกดเสีย
ก็จัดการบัดกรี เปลี่ยนตรงนั้น แล้วผมก็แฮปปี้กับการซ่อมแบบนั้น จนเอาไปเชียร์ให้หลายคนเลือกซื้อ ในพันทิปนี้ก็มี ดูย้อนหลังไเ้

แต่ถ้าทีวีเป็นแบบนี้ คงไม่สนับสนุนให้ใครซื้อหรอกครับ
ทีวียี่ห้อนี้ ตอนขายในประเทศที่เจริญแล้ว รับประกีน 3 ปี แต่
พอขายในไทย ให้ประกันแค่ 1 ปี เท่านั้น
คงหวังกำไรจากอะไหล่งานซ่อมด้วย

สิ่งที่ผู้บริหารควรปรับปรุงศูนย์บริการ
หากว่าไม่เปลี่ยนนโยบายเรื่องการเปลี่ยนอะไหล่ยก Part
ก็คือ เมื่อจนท.แรกรับเครื่องเปิดเครื่องแล้วพบอาการนี้
ควรบอกลูกค้าทันทีว่า มีค่าแผง 32 นิ้ว ราคาเท่าไร 40 นิ้วราคาเท่าไร
ลูกค้าจะได้ตัดสินใจในทันที
ไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าน้ำมันรถเพื่อไปยกเครื่องคืน
เพื่อเอาไปซ่อมที่อื่น

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน

ป.ล.ขอคำแนะนำ ร้านรับซ่อมอาการนี้ทีครับ ขอที่รอรับได้เลยยิ่งดี (กทม)