“ การเดินป่า คือการบำเพ็ญเพียรทางจิตอย่างหนึ่ง ”
ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมเมือง ชีวิตแต่ละวันที่ต้องใช้อย่างเร่งรีบ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา ต่างคนต่างจ้องตาอยู่กับสังคมออนไลน์ น้อยคนนักที่จะทักทายคนแปลกหน้าในสังคมออฟไลน์
เราต่างมีตัวตนในโลกโซเชียล อัพเดทชีวิตซึ่งกันและกันผ่านเฟซบุค ไอจี ไลน์ หรือช่องทางอื่น ๆ แต่หลายครั้ง พื้นที่ส่วนตัวเหล่านั้นทำให้ตัวตนเราหล่นหาย เพราะมันไม่ใช่พื้นที่ให้ความเป็นส่วนตัว แต่มันคือพื้นที่สาธารณะที่ให้เราโชว์ตัวเสียมากกว่า
หลายครั้ง เราเลือกที่จะออกเดินทางไกลเพื่อตามหาตัวตนที่หล่นหาย ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ไปในที่ว่าง ๆ ให้ความคิดได้ล่องลอยไปไกล สมองได้ปลอดโปร่ง ปอดได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ไปในที่ที่ใครต่อใครต่างพากันพูดว่า จะไปทำไมให้ลำบาก ไปเพื่อตามหาบางอย่างที่ตกค้างอยู่ในใจ
สิ่งใดกันหรือที่ทำให้คนทุ่มเทแรงกายแรงใจแบกดิน แบกปูน แบกกระเบื้องเดินข้ามเขาหลายกิโลไปทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในใจ ทั้งหมดทั้งมวลอาจจะเป็นเพราะคำเดียวใช่หรือไม่ คำว่า...
“ ศรัทธา ”
.....................................................................................................
กรกฏาคม 2562, 26
เราออกเดินทางกันในคืนวันศุกร์ที่เป็นวันหยุดยาว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจราจรในกรุงเทพฯเป็นอัมพาตแค่ไหน กว่าสมาชิกจะครบทีม ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางตอน 3 ทุ่มกว่า ๆ กับระยะทาง 632 กิโลเมตรมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ.ตาก
กรกฎาคม 2562, 27
หมอกฟุ้งยามเช้ากล่าวต้อนรับเรา แวะซื้อของสดกันที่ตลาดริมเมย เราก็มาทานข้าวเช้ากันที่ร้านค้าทางขึ้นอช.แม่เมย ได้เข้าห้องน้ำ พักยืดเส้นยืดสาย รถตู้ก็พาเราฝ่าโค้ง และทางชัน 11 กิโลเมตรมุ่งตรงสู่ตัวอช. ที่เราเปลี่ยนชุด ล้างหน้า แปรงฟัง ก่อนจะขนเป้ ขนสิ่งของเปลี่ยนขึ้นรถกระบะ มุ่งตรงสู่ " วัดป่าเกร๊ะคี " จุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นสู่เขาแห่งศรัทธา
รถกระบะขนเหล่าของและนักเดินทางมุ่งหน้าต่อไปอีกเกือบ 20 กิโลเมตร ทางเป็นทางปูนสลับกับทางลูกรัง ผ่านเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน เด็ก ๆ วิ่งเล่น ออกมาโบกมือบ๊ายบายพวกเรา ผ่านลำธาร ผ่านป่า
เส้นทางค่อนข้างขรุขระ เหมือนนั่งอยู่บนเครื่องเล่น กระเด้งกระดอน ผ่านน้ำตกแม่ระเมิงที่ตั้งอยู่ริมถนนเลย ผ่านจุดชมวิวม่อนครูบาใส ม่อนพูนสุดา ม่อนกิ่วลม ก่อนจะมาสิ้นสุดตรงโรงเรียนบ้านแม่อมกิ ทางรถสิ้นสุดลงที่ตรงนี้ ต่อจากนี้คือจุดเริ่มต้นของทางเดินเท้า เส้นทางที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา
กระชับเป้ขึ้นป่า ดึงถุงกันทากให้ตึง (แม้แหล่งข่าวจะบอกว่าที่นี่ทากน้อยมาก แต่แบกมาแล้ว ก็จงใส่ต่อไป) เราก็พร้อมก้าวแรกออกไป ระยะแรกเป็นการเดินเข้าป่าแบบชิว ๆ เลียบสันเขาไปเรื่อย ๆ
จนมาถึงจุดที่มีน้ำไหล เริ่มหันมองหน้ากันว่าต้องข้ามตรงนี้ไปเหรอ ไมได้เตรียมตัวมาสำหรับเปียกเลย มองหน้าซื่อ ๆ ของพี่ลูกหาบที่บอกเราอย่างจริงใจว่าตรงนี้แหละ เราก็ต้องก้มหน้ายอมรับ ข้ามลำน้ำกันไป แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะพี่ลูกหาบได้นำทางเราขึ้นย้อนสายน้ำขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อนคนนึงที่ระวังรองเท้าเปียกเต็มที่ทำตาโต แต่นั่นเป็นหนทางเดียวที่เราจะไปได้ เพราะฉะนั้น ลุยไปด้วยกัน ได้เล่นน้ำตกสมใจ พอถามพี่ลูกหาบว่านี่น้ำตกชื่ออะไร พี่ก็หัวเราะ และยิ้มแห้ง ๆ บอกว่านี่ไม่ใช่น้ำตก แต่บังเอิญว่าน้ำเยอะเลยไหลจะชุ่มฉ่ำกันไปทีเดียว เรานี่ดวงมากับฝนจริง ๆ
ผ่านด่านน้ำไหล แล้วเราจะเจอกับบันไดปูนทอดยาวขึ้นไป มีป้ายบอกจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นสู่สวรรค์ 6 ชั้นสู่ “ วัดป่าเกร๊ะคีพระธาตุเลอกวาเดาะ ”
แต่ละขั้นที่ก้าวเดินขึ้นไปคือทางชัน นับถือใจคนที่ขึ้นมาสร้างจริง ๆ แต่ละด่านที่ผ่านไปจะมีป้ายไม้สลักชื่อสวรรค์แต่ละชั้น เราเดินกันไป พักกันไป หอบไป คึกไป ท่ามกลางสายฝนทีตกพรำเหมือนไม่มีวันหยุด
จนเช้าสู่ชั่วโมงที่ 2 ของการเดินก็เริ่มอยู่ตัว มาแวะพักทานเสบียงมื้อกลางวันที่พกมาด้วยที่ด่าน จุดชมวิวอมก๋อย ที่ยังสงสัยถึงตอนนี้ว่า ทำไมอมก๋อยมาอยู่ที่นี่ได้ ทั้งที่เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
นั่งกินข้าวรับลมเย็นกันสักพัก เราก็ออกเดินทางต่อ ระยะทางที่เป็นบันไดปูนสิ้นสุดลงแล้ว ตอนที่ต้องปีนขึ้นหินสูงชันสู่เนินหนึ่ง เราจะพบกันจุดชมวิวที่ทำให้รู้ว่าเรามาไกลกันมากแล้ว มองลงไปแทบไม่เห็นหมู่บ้านแล้ว เห็นแต่เมฆลอยต่ำ และเนินต่อเนินที่สูงทอดยาวไป
เป็นภาพที่สวยงาม และติดตามาก ๆ อากาศก็ดีงามมาก ๆ เช่นกัน
เก็บแรงพักกันสักพักเราก็ลงเนิน เพื่อมุ่งสู่อีกเนินหนึ่ง เนินสุดท้ายก่อนถึงจุดกางเต๊นท์ น้ำตาจะไหลเมื่อถึงแล้ว เวลาที่ใช้ไปเกือบ 3 ชั่วโมง กับระยะทาง 5 กิโลเมตรกว่า ๆ
บริเวณจุดตั้งแคมป์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ ระฆัง และกลองให้เราได้ตีสักการะ
รับของจากลูกหาบ กางเต๊นท์กันเสร็จ เราก็ออกเดินสำรวจ เมื่อมองทอดยาวออกไป พระเจดีย์สีทองตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น แต่ระยะทางที่จะไปถึงทั้งยาวไกล และปกคลุมด้วยหมอกหนา เรากลับมาปรึกษากันที่เต๊นท์ ก่อนจะตัดสินใจ ลองเดินลงไปดูกัน ไกลเท่าที่จะไปได้ แต่ภาพเจดีย์ในม่านหมอกที่ลอยฟุ้ง เมื่อลมพัดพา เท่านั้นก็สวยงามและมีมนต์ขลังมาก ๆ แล้ว
เรายืนอยู่กันตรงจุดประดิษฐานพระพุทธรูปนานเนิ่นนาน ก่อนหมอกจะเปิดให้เห็นเขาบ้าง
และแสงตะวันก็ไม่เคยรอใคร เราตัดสินใจเดินลงก่อนที่ขากลับแสงจะหมด พอลงเนินไปนิดนึงจะเจอกับอีกเนินหนึ่ง ช่วงที่ไปเป็นช่วงวันหยุดยาว จึงเจอคนมาเที่ยวเยอะมาก ๆ ทำให้ที่กางเต๊นท์มีจำกัด บางคนจึงมากางเต๊นท์บนเนินนี้แทน เลยเนินไปจะเป็นจุดที่มีชื่อว่า “ หุบเหวนายพรานตกนรก ” แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ทางชันมาก มีเชือกให้เราโหนตัวลงไป เดินต่อไปอีกหน่อยจะเป็นสันเขาแคบ ๆ ที่สองข้างเป็นเหว ใครกลัวความสูงต้องไม่มอง
เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอกับก้อนหินที่ตั้งได้อย่างถูกที่ เบื้องหลังคือภาพขุนเขาตระหง่านตระการตามาก ๆ ถัดจากนั้นคือทางลงที่ชันดิ่งลง และเป็นเหว มองไปไกล ๆ จะเจอกับสันเขาอีกลูก และเนินอีกลูกก่อนที่จะไปถึงพระธาตุ แต่เราไม่ได้ไปต่อ เพราะสภาพร่างกายตอนนั้นไม่พร้อมมาก ๆ ส่งเพื่อนคนหนึ่งไปเป็นตัวแทนกลุ่ม เราได้ยืนมองชื่นชมอยู่ตรงนี้ก็สุขใจแล้ว
ปีนกลับมาสู่จุดกางเต๊นท์ ล้อมวงทำกับข้าวตอนเย็น ฝนที่ตกเมื่อตอนบ่ายก็กลับมาตกอีกครั้ง แต่มื้อเย็นมื้อนั้นก็เป็นมื้อที่อร่อยอีกมื้อนึงในชีวิต ได้นั่งมองหน้ากัน พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราว ยิ่งดึกน้ำค้างยิ่งลง หมอกก็ลงหนาทึบ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเข้านอนที่เร็วที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ก่อนจะหลับฝันถึงวันพรุ่งนี้
[CR] ^^^ขุนเขาแห่งศรัทธา...เลอกวาเดาะ^^^ In the mood of mist
ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมเมือง ชีวิตแต่ละวันที่ต้องใช้อย่างเร่งรีบ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา ต่างคนต่างจ้องตาอยู่กับสังคมออนไลน์ น้อยคนนักที่จะทักทายคนแปลกหน้าในสังคมออฟไลน์
เราต่างมีตัวตนในโลกโซเชียล อัพเดทชีวิตซึ่งกันและกันผ่านเฟซบุค ไอจี ไลน์ หรือช่องทางอื่น ๆ แต่หลายครั้ง พื้นที่ส่วนตัวเหล่านั้นทำให้ตัวตนเราหล่นหาย เพราะมันไม่ใช่พื้นที่ให้ความเป็นส่วนตัว แต่มันคือพื้นที่สาธารณะที่ให้เราโชว์ตัวเสียมากกว่า
สิ่งใดกันหรือที่ทำให้คนทุ่มเทแรงกายแรงใจแบกดิน แบกปูน แบกกระเบื้องเดินข้ามเขาหลายกิโลไปทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในใจ ทั้งหมดทั้งมวลอาจจะเป็นเพราะคำเดียวใช่หรือไม่ คำว่า...
เราออกเดินทางกันในคืนวันศุกร์ที่เป็นวันหยุดยาว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจราจรในกรุงเทพฯเป็นอัมพาตแค่ไหน กว่าสมาชิกจะครบทีม ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางตอน 3 ทุ่มกว่า ๆ กับระยะทาง 632 กิโลเมตรมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ.ตาก
กรกฎาคม 2562, 27
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้