▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
Backpack
ปาย
ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก ตอนที่ 1
กลับมารีวิวอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน รอบนี้เป็นการมาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวของตนเองในทริปตระเวนเดี่ยวเที่ยวเมืองสามหมอกกัน วันหยุดยาว ๆ ต่อกัน 5 วันเปลี่ยนจากทริปเที่ยวต่างประเทศมาเป็นเที่ยวในประเทศดีกว่า...
โดยในทริปนี้จะเป็นการเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองที่ได้ชื่อว่ามีหมอกมาให้ชมทั้ง 3 ฤดู ส่วนหมอกอะไรนั้นก็แล้วแต่ว่าท่านจะไปเยือนในช่วงเดือนใด สำหรับกระทู้ตอนแรกของทริปนี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์เที่ยวในวันที่ 1 - 2 นะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปรู้จักทริปการเดินทางของผมกันก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย
วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า
วันที่ 3 : เที่ยวย่านรอบนอกเมืองปาย
วันที่ 4 : เทื่ยวย่านเมืองแม่ฮ่องสอน
วันที่ 5 : เดินทางกลับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย
รอบนี้เวลาเที่ยวมีจำกัดเลยนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงเชียงใหม่ แล้วต่อรถตู้ไปอำเภอปายกัน แค่นี้ก็ปาไปจะเต็มวันแล้ว เพราะต้องเสียเวลารอเครื่อง และต่อรถกันอีก
มาช่วงหน้าฝนเข้าพรรษาก็ดีไปอย่าง มองภูเขาทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้สีเขียวไปหมด รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลย
นั่งรถแดงจากสนามบินให้ไปส่งที่อาเขต เพื่อต่อรถตู้ของบริษัทเปรมประชาไปเมืองปาย
แนะนำว่าถ้าใครจะนั่งรถตู้ของบริษัทเปรมประชาจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนหรือปาย ควรติดต่อจองที่นั่งและรอบเวลาวิ่งของรถตู้ก่อนออกเดินทางนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนผมที่ต้องไปรอรถเป็นชั่วโมงที่อาเขต เพราะรอบที่จะใกล้ออกมีคนจองเต็มแล้ว และรถตู้ของบริษัทนี้ยังมีบริการรับส่งผู้โดยสารจากอาเขตไปสนามบินด้วยนะครับ โดยเสียค่าบริการเพิ่มอีก 50 บาท แต่สะดวกและรวดเร็วดี ไม่ต้องไปโบกรถแดงให้เมื่อยตุ้ม
ตารางรอบรถตู้วิ่งเชียงใหม่ - ปาย - แม่ฮ่องสอน โพสไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวปายหรือแม่ฮ่องสอน
รถตู้ใช้เวลาวิ่งจากเชียงใหม่ถึงปาย ประมาณ 3 ชั่วโมง ราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 150 บาท กว่าจะถึงปายได้ก็จะใกล้มืดแล้ว
เลยหารถมอเตอร์ไซค์เช่าขี่เที่ยวและเดินเล่นถนนคนเดินพร้อมหาอะไรทานก่อนเข้าที่พักรึกัน
ถนนคนเดินที่นี่จะมีทุกวัน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปายจะเป็นฝรั่งนะครับ มีจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นนิดหน่อย ส่วนพี่ไทยเราก็มีพอหอมปากหอมคอ ไม่หนาแน่นเท่าฝรั่งมังค่าเค้า รู้สึกที่นี่จะฮ้อตฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวฝรั่งแบบแบล็คแพ็คนะ
ถนนคนเดินที่นี่จะไม่ยาวมาก น่าจะยาวสัก 700 เมตรได้ ถนนคนเดินที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็น จะคึกคักมากช่วง 1 - 2 ทุ่ม และจะเลิกราว ๆ 4 ทุ่มได้ ตลอดทางถนนคนเดินก็จะมีรถเข็นและร้านขายอาหารมากมายราคาไม่แพงเท่าที่คิด มีร้านขายของที่ระลึก กระเป๋าผ้า เสื้อยืดสกรีนลายเมืองปาย และร้านขายทัวร์ไปเที่ยว day Trip รอบเมืองปาย หรือครึ่งวันที่ถ้ำลอด และ day Trip ไปแม่ฮ่องสอน แต่มาช่วงหน้าฝนเป็น Low Season day Trip ไปแม่ฮ่องสอนจะไม่มีขายนะครับ เพราะแม่ฮ่องสอนฮิตแค่ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปกัน ฝรั่งเค้าไม่สนนะ ฝรั่งชอบแอดเวนเจอร์ที่ถ้ำลอดหรือไปเที่ยวรอบเมืองปายมากกว่า และส่วนใหญ่ฝรั่งจะนิยมเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวมากกว่าซื้อ day trip
หาอะไรทานและเดินเล่นถนนคนเดินเสร็จก็ไปเช็คอินที่พักที่จองมา ที่พักเป็นรีสอร์ทเงียบสงบอยู่นอกเมือง ที่ชอบที่นี่เพราะเป็นบ้านพัก 1 หลังเลย ห้องกว้างขวางดีมีอาหารเช้าและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม คืนละ 700 กว่าบาท เป็นอันจบภารกิจวันแรกของทริป
วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ทแล้ว วันนี้ขี่รถออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปเที่ยวย่านปางมะผ้ากัน
ปางมะผ้าอยู่ห่างจากปายไปราว 40 ก.ม.ได้ ขี่รถยามเช้าวิว 2 ข้างถนนสวยดี ป่าเป็นสีเขียวต้นไม้เขียวชอุ่มรู้สึกสดชื่น สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด เป้าหมายแรกอยากไปชมวิวบ้านจ่าโบ แหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวดอยกิ่วลม เลยขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย
ดอยกิ่วลมเป็นจุดชมวิวบนยอดภูเขาที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างอำเภปายกับอำเภอปางมะผ้า มองเห็นวิวทะเลภูเขาสีเขียวได้สุดลูกหูลูกตา รถราที่วิ่งผ่านจุดนี้ส่วนใหญ่มักแวะพักรถเพื่อชมวิวและถ่ายรูปกัน
มาถึงก็สาย ๆ แล้ว แต่คนก็ทยอยมาถ่ายรูปที่ป้ายจุดชมวิวกันไม่ขาดสาย วันนี้ท้องฟ้าดูมีเมฆมาก ครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่วิวก็ยังคงแจ่มดีเหมือนภูเขาเรียงรายทอดตัวไปเป็นแนวได้ชัดเจน
ผมจอดแวะพักรถและถ่ายรูปราวครึ่งชั่วโมงได้ก็ขี่รถต่อไปยังปางมะผ้า ระหว่างทางฝนเริ่มตกปอย ๆ เลยถือโอกาสแวะพักจอดดื่มชาที่ร้านกาแฟสวย ๆ ริมทางรึกัน
ร้านกาแฟที่นี่บรรยากาศดี หน้าร้านติดถนน ข้างในมีสวนหย่อมตกแต่งสวยงามและติดลำธารด้านหลัง แถมร้านกาแฟนี้ยังเปิดเป็นที่พักแบบรีสอร์ทและมีร้านอาหารในตัวด้วย ที่พักอิงแอบธรรมชาติดีดูเงียบสงบ ราคาคืนละ 900 บาท เสียแต่อยู่ไกลเมืองไปหน่อย ส่วนราคาเครื่องดื่มก็ไม่แพงราคาทั่วไปตามที่เค้าขายกัน
หลังฝนหยุดตก ผมก็ขี่รถต่อไปยังจุดชมวิวบ้านจ่าโบ จุดชมวิวนี้จะอยู่เลยตัวอำเภอปางมะผ้าไปราว 10 ก.ม. ขี่รถไปตามทางหลวงสาย 1095 เรื่อย ๆ ทางไปแม่ฮ่องสอน จะเจอป้ายบอกทางให้แยกขวาเข้าไปบ้านจ่าโบอีก 6 ก.ม. ก็จะถึงจุดชมวิวบ้านจ่าโบ ไม่ต้องว่าจะหลงเพราะมีป้ายบอกตรงทางแยกชัดเจน
มาถึงตรงร้านกาแฟเด็กดอยและร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาตามภาพนี้แสดงว่ามาถึงแล้วไม่ผิดที่แน่ ๆ เพราะจะมีรถจอดเรียงรายตรงริมถนนบริเวณจุดชมวิวและฝั่งตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่หนาแน่น
จุดชมวิวบ้านจ่าโบเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแชร์ภาพต่อ ๆ กันในโลกโซเชียล ทำให้ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนชมกันไม่ขาดสาย มาแล้วเราไม่เหงาแน่นอน
ผมมาชมจุดชมวิวนี้ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว แต่วันนี้แดดไม่ค่อยมี วิวภูเขาเลยเห็นได้ชัดกระจ่างตา ที่นี่มีสะพานเดินไม้เล็ก ๆ และระเบียงไม้ยื่นออกไปตรงจุดชมวิวให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ กับวิวแจ่มได้สบาย ๆ หากใครอยากดูวิวทะเลหมอกและท้องฟ้าเปลี่ยนสียามเช้า ฝั่งตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก็เห็นมีบ้านพักสไตล์โฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยวในราคาไม่แพงนะ
มาถึงใกล้เที่ยงผมเองก็ไม่พลาดสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้ทานกัน ไปนั่งห้อยขาทานก๋วยเตี๋ยวพร้อมชมวิวทะเลภูเขากันแบบฟิน ๆ เหมือนคนอื่นบ้าง รสชาติก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็ใช้ได้ราคาปกติไม่แพง ลูกค้าหนาแน่นเหมือนกันแต่แม่ค้าก็ทำไวดีนะ รอไม่นานก็ได้ทานแล้ว