ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก ตอนที่ 1







                         กลับมารีวิวอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน รอบนี้เป็นการมาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวของตนเองในทริปตระเวนเดี่ยวเที่ยวเมืองสามหมอกกัน วันหยุดยาว ๆ ต่อกัน 5 วันเปลี่ยนจากทริปเที่ยวต่างประเทศมาเป็นเที่ยวในประเทศดีกว่า...

                         โดยในทริปนี้จะเป็นการเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองที่ได้ชื่อว่ามีหมอกมาให้ชมทั้ง 3 ฤดู ส่วนหมอกอะไรนั้นก็แล้วแต่ว่าท่านจะไปเยือนในช่วงเดือนใด สำหรับกระทู้ตอนแรกของทริปนี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์เที่ยวในวันที่ 1 - 2 นะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปรู้จักทริปการเดินทางของผมกันก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร

วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย

วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า

วันที่ 3 : เที่ยวย่านรอบนอกเมืองปาย

วันที่ 4 : เทื่ยวย่านเมืองแม่ฮ่องสอน

วันที่ 5 : เดินทางกลับ

วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย

                        รอบนี้เวลาเที่ยวมีจำกัดเลยนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงเชียงใหม่  แล้วต่อรถตู้ไปอำเภอปายกัน แค่นี้ก็ปาไปจะเต็มวันแล้ว เพราะต้องเสียเวลารอเครื่อง และต่อรถกันอีก





มาช่วงหน้าฝนเข้าพรรษาก็ดีไปอย่าง มองภูเขาทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้สีเขียวไปหมด รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลย

นั่งรถแดงจากสนามบินให้ไปส่งที่อาเขต เพื่อต่อรถตู้ของบริษัทเปรมประชาไปเมืองปาย



                        แนะนำว่าถ้าใครจะนั่งรถตู้ของบริษัทเปรมประชาจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนหรือปาย ควรติดต่อจองที่นั่งและรอบเวลาวิ่งของรถตู้ก่อนออกเดินทางนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนผมที่ต้องไปรอรถเป็นชั่วโมงที่อาเขต เพราะรอบที่จะใกล้ออกมีคนจองเต็มแล้ว และรถตู้ของบริษัทนี้ยังมีบริการรับส่งผู้โดยสารจากอาเขตไปสนามบินด้วยนะครับ โดยเสียค่าบริการเพิ่มอีก 50 บาท แต่สะดวกและรวดเร็วดี ไม่ต้องไปโบกรถแดงให้เมื่อยตุ้ม



ตารางรอบรถตู้วิ่งเชียงใหม่ - ปาย - แม่ฮ่องสอน โพสไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวปายหรือแม่ฮ่องสอน



รถตู้ใช้เวลาวิ่งจากเชียงใหม่ถึงปาย ประมาณ 3 ชั่วโมง ราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 150 บาท กว่าจะถึงปายได้ก็จะใกล้มืดแล้ว

เลยหารถมอเตอร์ไซค์เช่าขี่เที่ยวและเดินเล่นถนนคนเดินพร้อมหาอะไรทานก่อนเข้าที่พักรึกัน





                         ถนนคนเดินที่นี่จะมีทุกวัน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปายจะเป็นฝรั่งนะครับ มีจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นนิดหน่อย ส่วนพี่ไทยเราก็มีพอหอมปากหอมคอ ไม่หนาแน่นเท่าฝรั่งมังค่าเค้า รู้สึกที่นี่จะฮ้อตฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวฝรั่งแบบแบล็คแพ็คนะ




                          ถนนคนเดินที่นี่จะไม่ยาวมาก น่าจะยาวสัก 700 เมตรได้ ถนนคนเดินที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็น จะคึกคักมากช่วง 1 - 2 ทุ่ม และจะเลิกราว ๆ 4 ทุ่มได้ ตลอดทางถนนคนเดินก็จะมีรถเข็นและร้านขายอาหารมากมายราคาไม่แพงเท่าที่คิด มีร้านขายของที่ระลึก กระเป๋าผ้า เสื้อยืดสกรีนลายเมืองปาย และร้านขายทัวร์ไปเที่ยว day Trip รอบเมืองปาย หรือครึ่งวันที่ถ้ำลอด และ day Trip ไปแม่ฮ่องสอน แต่มาช่วงหน้าฝนเป็น Low Season day Trip ไปแม่ฮ่องสอนจะไม่มีขายนะครับ เพราะแม่ฮ่องสอนฮิตแค่ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปกัน ฝรั่งเค้าไม่สนนะ ฝรั่งชอบแอดเวนเจอร์ที่ถ้ำลอดหรือไปเที่ยวรอบเมืองปายมากกว่า และส่วนใหญ่ฝรั่งจะนิยมเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวมากกว่าซื้อ day trip




                          หาอะไรทานและเดินเล่นถนนคนเดินเสร็จก็ไปเช็คอินที่พักที่จองมา ที่พักเป็นรีสอร์ทเงียบสงบอยู่นอกเมือง ที่ชอบที่นี่เพราะเป็นบ้านพัก 1 หลังเลย ห้องกว้างขวางดีมีอาหารเช้าและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม คืนละ 700 กว่าบาท เป็นอันจบภารกิจวันแรกของทริป



วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ทแล้ว วันนี้ขี่รถออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปเที่ยวย่านปางมะผ้ากัน



                         ปางมะผ้าอยู่ห่างจากปายไปราว 40 ก.ม.ได้   ขี่รถยามเช้าวิว 2 ข้างถนนสวยดี ป่าเป็นสีเขียวต้นไม้เขียวชอุ่มรู้สึกสดชื่น สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด เป้าหมายแรกอยากไปชมวิวบ้านจ่าโบ แหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวดอยกิ่วลม เลยขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย



                          ดอยกิ่วลมเป็นจุดชมวิวบนยอดภูเขาที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างอำเภปายกับอำเภอปางมะผ้า มองเห็นวิวทะเลภูเขาสีเขียวได้สุดลูกหูลูกตา รถราที่วิ่งผ่านจุดนี้ส่วนใหญ่มักแวะพักรถเพื่อชมวิวและถ่ายรูปกัน





                          มาถึงก็สาย ๆ แล้ว  แต่คนก็ทยอยมาถ่ายรูปที่ป้ายจุดชมวิวกันไม่ขาดสาย วันนี้ท้องฟ้าดูมีเมฆมาก ครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่วิวก็ยังคงแจ่มดีเหมือนภูเขาเรียงรายทอดตัวไปเป็นแนวได้ชัดเจน






                           ผมจอดแวะพักรถและถ่ายรูปราวครึ่งชั่วโมงได้ก็ขี่รถต่อไปยังปางมะผ้า ระหว่างทางฝนเริ่มตกปอย ๆ เลยถือโอกาสแวะพักจอดดื่มชาที่ร้านกาแฟสวย ๆ ริมทางรึกัน






                             ร้านกาแฟที่นี่บรรยากาศดี   หน้าร้านติดถนน   ข้างในมีสวนหย่อมตกแต่งสวยงามและติดลำธารด้านหลัง แถมร้านกาแฟนี้ยังเปิดเป็นที่พักแบบรีสอร์ทและมีร้านอาหารในตัวด้วย ที่พักอิงแอบธรรมชาติดีดูเงียบสงบ ราคาคืนละ 900 บาท เสียแต่อยู่ไกลเมืองไปหน่อย ส่วนราคาเครื่องดื่มก็ไม่แพงราคาทั่วไปตามที่เค้าขายกัน






                               หลังฝนหยุดตก ผมก็ขี่รถต่อไปยังจุดชมวิวบ้านจ่าโบ จุดชมวิวนี้จะอยู่เลยตัวอำเภอปางมะผ้าไปราว 10 ก.ม. ขี่รถไปตามทางหลวงสาย 1095 เรื่อย ๆ ทางไปแม่ฮ่องสอน จะเจอป้ายบอกทางให้แยกขวาเข้าไปบ้านจ่าโบอีก 6 ก.ม. ก็จะถึงจุดชมวิวบ้านจ่าโบ ไม่ต้องว่าจะหลงเพราะมีป้ายบอกตรงทางแยกชัดเจน



                                มาถึงตรงร้านกาแฟเด็กดอยและร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาตามภาพนี้แสดงว่ามาถึงแล้วไม่ผิดที่แน่ ๆ เพราะจะมีรถจอดเรียงรายตรงริมถนนบริเวณจุดชมวิวและฝั่งตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่หนาแน่น



                                 จุดชมวิวบ้านจ่าโบเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแชร์ภาพต่อ ๆ กันในโลกโซเชียล ทำให้ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนชมกันไม่ขาดสาย มาแล้วเราไม่เหงาแน่นอน

                                  ผมมาชมจุดชมวิวนี้ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว แต่วันนี้แดดไม่ค่อยมี วิวภูเขาเลยเห็นได้ชัดกระจ่างตา ที่นี่มีสะพานเดินไม้เล็ก ๆ และระเบียงไม้ยื่นออกไปตรงจุดชมวิวให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ กับวิวแจ่มได้สบาย ๆ หากใครอยากดูวิวทะเลหมอกและท้องฟ้าเปลี่ยนสียามเช้า ฝั่งตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก็เห็นมีบ้านพักสไตล์โฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยวในราคาไม่แพงนะ



                                   มาถึงใกล้เที่ยงผมเองก็ไม่พลาดสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้ทานกัน ไปนั่งห้อยขาทานก๋วยเตี๋ยวพร้อมชมวิวทะเลภูเขากันแบบฟิน ๆ เหมือนคนอื่นบ้าง รสชาติก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็ใช้ได้ราคาปกติไม่แพง ลูกค้าหนาแน่นเหมือนกันแต่แม่ค้าก็ทำไวดีนะ รอไม่นานก็ได้ทานแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่