ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก ตอนที่ 2




                            ทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก  ตอนที่ 2  จะเป็นการเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวในวันที่ 3  ของทริปนี้ โดยขี่รถตระเวนไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณอำเภอปาย   ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับทริปการเดินทางของผมในครั้งนี้ก่อนนะครับ

                           วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย

                           วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า

                           วันที่ 3 : เที่ยวย่านรอบนอกเมืองปาย

                          วันที่ 4 : เทื่ยวย่านเมืองแม่ฮ่องสอน

                          วันที่ 5 : เดินทางกลับ

วันที่ 3 : เที่ยวย่านรอบนอกเมืองปาย

                          วันนี้ตื่นแต่เช้าตี  5  ครึ่ง  ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชม  จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล  ซึ่งห่างจากรีสอร์ทที่พักไปไม่ไกลมาก  

 
                        ขี่รถไปถึงท้องฟ้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนสี  นักท่องเที่ยวต่างทยอยเดินขึ้นเนินเขามายังจุดชมวิวนี้  โดยค่าเข้าชมจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลจะเสียค่าเข้าชม  20  บาท  และในจุดนี้ยังมีขายชาร้อนให้จิบยามเช้าพร้อมหมั่นโถวด้วย


                           แม้จะเป็นช่วงหน้าฝนแต่ก็ยังมีทะเลหมอกให้ชื่นชมกันไม่ผิดหวัง  ถึงแม้ทะเลหมอกจะไม่ได้อลังการเท่ากับช่วงหน้าหนาวก็ตาม  อากาศยามเช้าที่นี่สดชื่นและวิวสวยน่าชมจริง ๆ   บริเวณรอบ ๆ จุดชมวิวก็มีบ้านดินสไตล์จีนฮ่อให้ถ่ายรูปกัน  มีร้านขายชาและของที่ระลึกให้เลือกซื้อเป็นของฝากกันด้วย


                           เดินลงจากจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลมาหน่อย  ตรงทางเดินลงก็วิวปังไม่แพ้จุดด้านบนเลย  ผมเลยอดใจถ่ายรูปไม่ไหว  ถ่ายรูปสักหน่อย แชะ แชะ แชะ !


               เดินลงมาจากจุดจอดรถอีกหน่อยก็มีจุดชมวิวศาลาหมื่นลี้ให้เราได้ชมกัน  จุดนี้เข้าชมฟรี  มีศาลายื่นลงไปจากเนินให้ได้ถ่ายรูปวิวทะเลหมอกกัน แถมมีชิงช้าชาวเขาเป็นแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูปด้วย  

                       ผมเฝ้าถ่ายรูปจนพระอาทิตย์ส่องแสงแรงทะลุหมอกจนเพลินไปเลย  เห็นว่าแดดแรงมากแล้ว  นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางกลับกัน  ผมก็ขี่รถต่อไปชม  หมู่บ้านสันติชล  ที่อยู่ด้านล่างของทางขึ้นทะเลหมอกหยุนไหล  ที่ขี่รถผ่านมาตอนแรก     


                       หมู่บ้านสันติชลที่อยู่ตรงทางขึ้นจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลเป็นหมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายจีนฮ่อ  ผมมาชมยามเช้าก็มีแต่นักท่องเที่ยวขับรถผ่านไม่ได้แวะเข้ามาชม  เพราะร้านค้าที่นี่ยังไม่เปิดให้บริการ   หมู่บ้านสันติชลจะสร้างเป็นบ้านดินแบบจีนฮ่อมีการตกแต่งสไตล์แบบจีน ๆ พร้อมสวนดอกไม้สวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมไปถ่ายรูปกัน   จากจุดนี้เราจะมองเห็นเนินเขาด้านหลังหมู่บ้านเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลที่เพิ่งขี่รถขึ้นไปมาได้อย่างชัดเจน

                         การเข้าชมหมู่บ้านสันติชลนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมนะครับ  แต่จุดจอดรถหายากหน่อยเพราะตั้งอยู่ริมถนนแคบ ๆ ทางขึ้นไปจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล    หลังชมหมู่บ้านสันติชลแล้วผมก็ขี่รถไปเที่ยวชม  วัดน้ำฮู  กันต่อ


                          วัดน้ำฮูเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งของเมืองปาย  โดยเจดีย์สีทองด้านหลังวิหารของวัดเชื่อว่าเป็นที่บรรจุพระอัฐิและพระเกศาของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา  พระพี่นางของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช   ตามตำนานกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้อัญเชิญพระอัฐและพระเกศาของพระนางหลังจากพระพี่นางได้สละชีพลงที่เมืองหงสาวดี  นำกลับมาบรรจุที่เจดีย์ของวัดน้ำฮูแห่งนี้   แท้จริงจะเป็นประการใดก็ไม่อาจทราบได้

                                 มาชมวัดนี้ยามเช้า  ไหว้พระทำบุญได้สงบดีเพราะยังไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านเข้ามาชมวัดแต่อย่างใด  ผมชอบนะบรรยากาศการเที่ยวชมแบบนี้ให้รู้สึกถึงการได้ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้ไปสัมผัสจริง ๆ                              

                      หลังชมวัดน้ำฮูแล้ว   ผมก็กลับไปรับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท  ก่อนเตรียมตัวไปตระเวนเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวย่านตอนใต้ของเมืองปายต่อทั้งวัน   จุดหมายต่อไปที่ผมขี่รถไปชมจุดแรกก็คือ  Coffee  in Love



                             Coffee  in  Love  เป็นจุดแวะถ่ายรูปบ้านสไตล์อังกฤษสีเหลืองสวย ๆ   ที่นี่ยังเปิดบริการเป็นบ้านพักแบบครอบครัว พร้อมมีบริการขายเครื่องดื่มกาแฟให้กับนักท่องเที่ยวด้วย   จุดแวะถ่ายรูปนี้เห็นได้ง่ายเพราะตั้งอยู่ริมถนนทางตอนใต้ของเมืองปายทางไปเชียงใหม่ 


                            บริเวณบ้านพักสีเหลืองก็ตกแต่งสวยได้สวยงาม  วิวด้านหลังของบ้านก็มองเห็นภูเขาเป็นฉากหลังไกล ๆ ให้ความรู้สึกฟินดี


                            จากจุดนี้ผมขี่รถไปต่อไปชมแหล่งท่องเที่ยวย่านน้ำตกแพมบก   โดยจุดแรกไปชม  แผ่นดินแยก  โดยแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้นักท่องเที่นยวเข้าชมฟรีไม่เสียค่าเข้าชม  แถมมีบริการน้ำกระเจี๊ยบให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วยนะครับ


                         จากจุดจอดรถเดินขึ้นเนินไปไม่ไกลราว  300  เมตรได้  จะมีทางวิบากลงไปชมแผ่นดินแยก   ลักษณะเป็นหน้าผาดินที่แยกออกจากกันเกิดจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก  ซึ่งเพิ่งเกิดมาไม่นานราว 10  ปีได้จากป้ายข้อมูลที่บอกไว้   นับเป็นปรากฏการณ์แปลกตาทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชมของเมืองปาย   โดยแหล่งท่องเที่ยวนี้ยังอยู่ระหว่างทางไปน้ำตกแพมบกอีกด้วย  สะดวกในการเที่ยวต่อเนื่องไปด้วยกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่