▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
อุทยานแห่งชาติ
เที่ยวภูเขา
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
เที่ยวไทย
ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
พักยกจากการเขียนกระทู้ตะลุยเดี่ยวเที่ยวในอาเซียนมาเขียนเล่าประสบการณ์การขี่รถตระเวนเที่ยวทั่วไทยกันต่อดีกว่า รอบนี้ขอเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เขียนค้างต่อในจบในทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเมืองสามหมอก ตอนที่ 3 อันเป็นตอนสุดท้ายของการจบซีรี่ย์นี้นะครับ โดยในตอนนี้จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวของผมในวันที่ 4 - 5 ซึ่งผมจะเดินทางไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในย่านตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และต่อด้วยการเดินทางกลับ วันท้าย ๆ นี้ผมไม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวชม เนื่องจากระยะเวลาไม่เหมาะและมีสถานที่เที่ยวหลายแห่งต้องเก็บให้หมดในวันสุดท้าย ดังนั้นการเที่ยวในวันที่ 4 นี้จึงเป็นการจ้างเหมารถยนต์ให้ขับพาผมไปตระเวนเที่ยวในเมืองแม่ฮ่องสอนนะครับ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับทริปการเดินทางของผมในครั้งนี้ก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - ปาย และเดินเที่ยวถนนคนเดินเมืองปาย
วันที่ 2 : เที่ยวย่านปางมะผ้า
วันที่ 3 : เที่ยวย่านรอบนอกเมืองปาย
วันที่ 4 : เทื่ยวย่านเมืองแม่ฮ่องสอน
วันที่ 5 : เดินทางกลับ
วันที่ 4 : เทื่ยวย่านเมืองแม่ฮ่องสอน
วันนี้พี่คนขับรถพาผมเที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอนมารับผมที่รีสอร์ทที่พักราวตี 4 กว่า ออกเดินทางไปที่หมายแรกคือ ปางอุ๋ง
ใช้เวลาเดินทางราวเกือบ 2 ชั่วโมง
มาถึงเช้า ๆ ที่ปางอุ๋งที่นี่อากาศดีแต่ท้องฟ้าดูอึมครึม พี่คนขับเล่าให้ฟังว่าที่ปางอุ๋งเช้า ๆ จะเป็นแบบนี้ตลอด ต้องสาย ๆ หรือเที่ยง ๆ จึงจะฟ้าเปิดมีแดดส่องลงมา
มาถึงที่นี่ราว 6 โมงกว่าก็มีนักท่องเที่ยวมาชมเหมือนผมเพียงคันเดียวที่เจอ เพราะบรรยากาศปางอุ๋งช่วงนี้ไม่สวยเอาซะเลย ไม่ใช่ฤดูหนาวช่วง Hight Season ทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำปางตองถูกปล่อยให้ชาวบ้านด้านล่างเอาไปใช้ทำเกษตรกรรมกัน ปริมาณน้ำที่เหือดแห้งน้ำเหลือน้อยจึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ลดความงามไปอย่างเห็นได้ชัด ไหนจะไม่มีแสงส่องมากระทบที่ผิวน้ำและไอหมอกที่ลอยเหนือน้ำเหมือนที่เค้าถ่ายรูปกันก็ไม่เห็น ปางอุ๋งยามนี้จึงไม่สวยเอาเสียเลย ดังนั้นถ้าใครจะมาเที่ยวปางอุ๋งนอกฤดูกาลท่องเที่ยวแบบนี้เผื่อใจไว้สักหน่อย
ปกติถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวฤดูการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถขับรถเข้ามาถึงด้านในตรงอ่างเก็บน้ำได้ เพราะทางอุทยานได้เข้ามาจัดระเบียบพื้นที่ให้ เนื่องจากถนนด้านในคับแคบ และพื้นที่มีจำกัด ทางการเค้าจะให้นักท่องเที่ยวจอดรถด้านนอกตรงหมู่บ้านแล้วมีรถบริการรับส่งนักท่องเที่ยวเข้ามาด้านในแทน มาจากกระแสความดังของที่นี่จากภาพถ่ายปางอุ๋งที่แชร์ต่อกันในโลกโซเชียลทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลกันมานอนพักแรมและเที่ยวชมที่นี่กันล้นหลามโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ๆ ในฤดูหนาว
นอกจากนี้ ทางอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อยังได้ผนวกพื้นที่ปางอุ๋งเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน ดังนั้นถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูหนาวจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าชมด้วยนะครับ
ที่นี่มีบ้านพักให้บริการหลังสีขาวในภาพนั่นแหละ หรือจะมากางเต้นท์ชิล ๆ ริมอ่างเก็บน้ำก็ได้นะครับ เห็นพี่คนขับรถบอกผมว่า ช่วงเทศกาลหน้าหนาวชาวบ้านที่อยู่ตรงปากทางเข้าปางอุ๋งจะตั้งแผงร้านค้าขายอาหารของกินเล่นกันมากมาย และเปิดให้บริการบ้านพักบริเวณนั้นด้วย เรียกว่ามาถึงที่นี่แล้วไม่ต้องกลัวว่าที่พักจะเต็ม กางเต้นท์ได้หลายจุด เสียแต่ห้องน้ำอาจมีไม่เพียงพอนะครับ
ต่อมาเดินทางไปชม บ้านรักไทย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปางอุ๋งมากนัก ดังนั้นการมาเที่ยวโซนแถวปางอุ๋ง เราสามารถแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กันได้อย่างบ้านรักไทย พระตำหนักปางตอง ภูโคลน น้ำตกผาเสื่อ และสะพานไม้ซูตองเป้
ไฮไลท์ของการมาเที่ยวบ้านรักไทย คือ มาถ่ายภาพบรรยากาศวิวทะเลสาบของหมู่บ้านรักไทย ชุมชนจีนฮ่อที่ตั้งบ้านเรือนรายล้อมรอบทะเลสาบแห่งนี้
ที่นี่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มขายสไลต์อาหารจีนยูนนานให้เรารับประทานได้ นั่งชิมอาหารจิบชาไปริมทะเลสาบพร้อมเสพวิว
ไปก็ได้ เห็นมีอยู่หลายร้านเหมือนกัน แต่ร้านลีไวน์รักไทยจะตกแต่งเก๋ไก๋ดูน่านั่งกว่าใครเพื่อน
และอีกสิ่งอย่างที่นักท่องเที่ยวชอบก็คือ การมาถ่ายรูปไร่ชากับบ้านดินของลีไวน์รักไทยรีสอร์ท ที่นี่เราสามารถมานอนพักได้แต่เห็นว่าที่พักจองยากเหมือนกันนะเพราะคิวยาว ถ้าใครสนใจควรจองเนิ่น ๆ สัก 3 - 4 เดือน ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลเนี่ยจองยาวเกินครึ่งปีเลย
เราสามารถถ่ายรูปไร่ชาที่ปลูกลดหลั่นจากเนินเขาลงมาโดยมีบ้านดินเป็นฉากประกอบ หรือจะเก็บชาไปถ่ายรูปเซลฟี่ไปก็ได้ เห็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาพักที่นี่ก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปตอนเก็บชาได้ เค้ามาตะกร้าใส่ใบชาวางให้บริการเสริมถ่ายรูปได้ฟรี ๆ แต่จะมีเชือกกั้นห้ามเราเข้าไปในโซนของบ้านพักที่เค้าจัดไว้ให้แขกที่มาพักเท่านั้น
ใกล้ ๆ กับไร่ชาจะมีป้อมปราการแบบจีนให้เราขึ้นไปถ่ายรูปเล่นและสามารถชมวิวทะเลสาบจากจุดนี้ได้สวย
แม้จะเป็นเวลา 8 โมงครึ่งแล้ว แต่ท้องฟ้าที่บ้านรักไทยก็ยังปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกเนื่องจากเมื่อคืนที่นี่ฝนตก จึงทำให้บรรยากาศตอนเช้าดูอึมครึมไปหมด ต่อมาผมแวะไปชม น้ำตกผาเสื่อ ที่อยู่ระหว่างทางจากที่นี่ลงไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
น้ำตกผาเสื่อสามารถเที่ยวชมได้ง่ายเพราะตั้งอยู่ใกล้กับถนนทางไปปางอุ๋งและบ้านรักไทยอยู่แล้ว สามารถแวะได้ทั้งขาขึ้นหรือขาลงแล้วแต่เจ้าของทริปจะสะดวกอย่างไง เนื่องจากที่นี่เป็นเขตอุทยานแห้งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ เราต้องเสียเงินค่าเข้าชม และตั๋วเข้าชมนี้สามารถใช้เข้าชมถ้ำปลาได้ในวันเดียวกันด้วย
จากจุดจอดรถเดินลงไปดูน้ำตกไม่ไกล บันไดทางลงทำเป็นทางปูนกว้างเดินสะดวก
ผมมาชมน้ำตกแห่งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วห่างจากครั้งแรกไป 20 ปี ที่นี่ยังคงเหมือนเดิม ธรรมชาติยังคงงดงามเสมอ มาชมน้ำตกแห่งนี้ช่วงกรีนซีซั่น ดูต้นไม้ในป่าสีเขียวขจีสบายตาไปหมด น้ำก็ไหลแรงเป็นสายน้ำสีขาวที่ตกลงมาจากหน้าผาเบื้องหน้า