เรื่องสั้น....รักสามเศร้า...7





ที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นเฟื่องฟ้าของโรงเรียน บูม อาร์ แก็บ และเพื่อนผู้หญิงอีกสองคน นั่งรอโต้งที่กำลังสอบวิชาสุดท้ายของปลายภาคเรียนแรกยังไม่เสร็จ

ถ้าหมดเวลาสอบของวิชาสุดท้ายนี้ก็แค่บ่ายสามโมงครึ่งเอง ทั้งห้าคนตกลงกันว่าจะไปฉลองปิดเทอมกันที่ไหนสักที่ ต่างคนต่างเสนอสถานที่ๆดีที่สุด ส่วนโต้งหมดสิทธิ์ออกความคิดเห็น เพราะออกมาช้ากว่าใครเขา

พวกผู้หญิงออกความคิดเห็นว่าไปกินหมูกระทะบ้านบูมดีกว่าใกล้ดี แต่บูมเสนอว่าไปเล่นน้ำเขื่อนกันดีกว่า ไปหาอะไรกินกันที่นู่น เล่นน้ำไปด้วย

“อาร์ว่าไง” บูมถาม

“ไปไหนก็ไป ได้หมดแก็บล่ะเสนอมาดิไปไหน”

“แล้วแต่เพื่อนเลยขอรับ” แก็บสายแล้วแต่เพื่อนทุกเรื่อง ไปไหนไปกันอยู่แล้ว

“ไอ้โต้งมันจะสอบเอาสายสะพายหรือยังไงเนี่ย”

เพื่อนผู้หญิงอีกคนบ่น ที่นานแล้วก็ยังไม่ออกมาสักที เพื่อนๆทยอยออกมากันหมดแล้ว ไม่นานโต้งก็เดินออกมาจากห้อง เดินมุ่งตรงมาทางบูมและเพื่อนนั่งอยู่

เหมือนจะเป็นคนรองสุดท้ายที่เดินออกมาจากห้องสอบ หลังจากโต้งเดินออกมาได้แป๊บเดียว เพื่อนอีกคนก็เดินตามออกมา แล้วครูประจำห้องสอบก็เดินถือข้อสอบตามออกมาด้วย

วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเทอมแรก นักเรียนที่สอบเสร็จบางคนก็ทยอยพากันกลับ ส่วนบางห้องก็ยังสอบไม่เสร็จ และมีหลายคนที่จับกลุ่มกันพากันไปฉลองวันปิดภาคเรียนแรกเหมือนกลุ่มบูม

โต้งเดินหน้ามุ้ยมาหาเพื่อน ทำข้อสอบไม่ได้เลย ทั้งที่ก็อ่านมา ถ้าเราไม่ได้อ่านแล้วเดามันจะง่ายกว่าที่เราอ่านมาแล้วจำไม่ได้ เพราะจิตใต้สำนึกมันไม่อยากเดา

“เป็นไงโต้ง สอบได้มั้ยออกมาเกือบคนสุดท้ายเชียว” อาร์ถามเมื่อเห็นสีหน้าของโต้งเครียด

“เหมือนอาร์เมื่อวานเลย อ่านมาแต่จำไม่ได้”

“เอาหน่าไอ้โต้ง สอบผ่านไปแล้วก็ผ่านไป เดียววันนี้เราไปผ่อนคลายกัน” แก็บเดินไปชวนคอโต้ง ปลอบใจให้หายเศร้า

“พวกเราจะไปไหนกันตกลง”

“พวกเราตกลงกันว่าจะไปเขื่อนกัน” บูมตอบ

เมื่อรวมตัวกันครบแล้ว ก็พากันเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทาง แล้วพากันเดินไปยังโรงจอดรถมอเตอร์ไซต์ของโรงเรียน

ระหว่างนั้นก็มีการประกาสเสียงตามสายของผู้อำนวยการดังไปทั้วโรงเรียน เรื่องการปิดภาคเรียนแรกของปีนี้

“เนื่องจากวันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้าย นักเรียนหลายคนอาจจะวางแผนกันไปเที่ยวฉลองวันปิดเทอม

ครูอยากจะฝากนักเรียนถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย ระมัดระวังตัวเอง อย่ามัวแต่เล่นสนุก รีบกลับบ้านไปหาพ่อแม่ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ เจอกันเปิดเทอมภาคเรียนหน้า...”

บูมกับเพื่อนๆหยุดฟังที่ผู้อำนวยการประกาศ ฟังแล้วก็ไม่ได้อะไรเลย นึกว่าจะพูดอะไร ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้แค่นักเรียนไปฉลองกันแค่นั้น

จากนั้นบูมกับแก็บและเพื่อนผู้หญิงอีกหนึ่งคนก็พากันเดินเข้าไปเอารถ ส่วนอีกสามคนรออยู่ข้างนอก

โต้งกับแก็บนั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์ไปด้วยกัน เพื่อนผู้หญิงอีกสองคนไปด้วยกัน ส่วนอาร์ไปกับบูม มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว บูมจะให้อาร์ไปซ้อนกับคนอื่นได้ยังไง

โต้งออกตัวนำไปก่อน ตามด้วยคันที่สองเป็นของเพื่อนผู้หญิง ส่วนบูมเป็นคันที่สาม บูมขับรถไม่รีบอยากใช้เวลาตรงนี้ให้นานที่สุด

รถมอเตอร์ไซต์สามคันเคลื่อนตัวออกจากบริเวณโรงเรียน มุ่งหน้าไปยังอีกอำเภอเพื่อไปเขื่อนที่ว่านั้นระยะทางไม่ไกลขับรถแค่ชั้วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว

บูมขับรถออกจากตัวเมืองอย่างไม่เร่งรีบ ขับตามไหล่ทางมาเรื่อยๆ จากถนนสี่เลนก็กลายมาเป็นสองเลนเมื่อเคลื่อนออกจากตัวเมืองได้สักพัก

“อาร์จับดีๆนะจะพาแว๊น”

“ไม่ต้องเลย อันตรายอาร์กลัว”

“กอดเอวบูมดิอาร์ ทำอะไรแบบนั้นเดียวก็ตกรถ ฮ่าๆ”

อาร์นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซบูมเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่มันก็ยังไม่ชิน เอามือสองข้างจับเสื้อนักเรียนบูมไว้ ไม่กล้ากอดเต็มๆมือ

บูมบังคับมอเตอร์ไซต์ข้างหนึ่ง  เอามือข้างซ้ายแกะมืออาร์ที่จับเสื้อตัวเองอยู่ออก เอามากอดเอวตัวเองไว้ แล้วหันไปยิ้มให้อาร์ จากนั้นอาร์ก็กอดเอวบูมเต็มๆสองมือ แต่บูมก็ยังไม่ปล่อยมือตัวเอง กุมมืออาร์ไว้อยู่อย่างนั้น

“ขับสองมือเลยบูม อันตราย”

“โอเค แต่อาร์ต้องกอดเอวบูมไว้นะ”

“อือ”

สองคนขับรถไปเรื่อยไม่เร่งรีบอะไร แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มข้างทางแป๊บเดียวก็เดินทางต่อ สักพักก็มาถึงเขื่อนที่ว่า พอเอารถเข้ามาจอดก็เห็นเพื่อนสี่คนยืนรอแล้ว และเหมือนจะรอนานด้วย ดูจากหน้าแก็บแล้วก็จะเซ็งน่าดูที่ต้องรอบูมกับอาร์

“กว่าจะถึงนะสองคนน่ะ ขับจีบกันอยู่ได้” แก็บบ่นให้เพื่อนทั้งสองคน

“เองไม่มีแฟน เองไม่เข้าใจหรอก”

“เองมีแฟนแล้วเหรอโต้ง สวยมั้ยวะ”

“ไม่มี๊”

“แน่ๆ ทำไมต้องทำเสียงสูงด้วย ใคร! บอกข้ามาดีๆเลยนะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ห้องไหน โรงเรียนเราป่าว”

คู่กัดประจำกลุ่มแต่รักกันกลมเกลียวดี ทั้งหกคนลงไปจองแพรกลางน้ำ แต่ละหลังจะให้เช่าเป็นชั่วโมง พร้อมสั่งของกินต่างหาก

ที่เขื่อนตอนนี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวที่อื่นเลย มองไปรอบๆเห็นแต่ชุดนักเรียนเต็มไปหมด พอมองดีๆ คนนี้ทำไมหน้าคุ้น คนนั้นก็คุ้นห้องห้านี่ แพหลังนู้นห้องเก้านี่ ถัดไปอีกเอ้าแพกลุ่มเอวาห้องเรานี่ อืม! มีแต่โรงเรียนตัวเองทั้งนั้น

ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะวันนี้เป็นวันปิดภาคเรียนของโรงเรียนบูม และไม่ใช่แค่โรงเรียนบูมที่ทำแบบนี้ โรงเรียนที่อื่นหากปิดเทอม ก็จะพากันมาแบบนี้เช่นกัน

บางครั้งสองโรงเรียนปิดเทอมพร้อมกัน มาฉลองที่เดียวกัน มีเรื่องชกต่อยกันก็มี ส่วนภาพเหตุการณ์วันนี้ที่มีแต่นักเรียนมาเที่ยว แม่ค้าพ่อค้าแถวนี้เห็นจนชินตาแล้ว และรู้ทันทีว่าคงเป็นวันปิดเทอมแล้วแน่นอน

ที่แพของบูมสั่งปลาเผาสองตัว ส้มตำสองครก และยำปูม้า กุ้งเผาอีกถาด ทั้งหกคนลงขันกันซื้อ พร้อมเบียร์อีกสี่ห้าขวด น้ำอัดลมอีกสองขวด

“เอาอาร์สักแก้ว” โต้งรินเบียร์ใส่แก้วพลาสติกยื่นให้อาร์

“ไม่ต้องเลย อาร์กินน้ำอัดลม” บูมแย่งเอาแก้วเบียร์จากโต้ง มากินแทน

“แหม๋ไอ้บูม ทำไมอาร์จะกินไม่ได้ ทำเป็นหวง ทำเป็นหวง” โต้งแซวบูม แต่ก็ไม่อะไร

“อาร์กินไม่ได้โว้ย ข้ากินได้คนเดียว”

“ บูมอย่ากินเยอะนะเดี๋ยวขับรถกลับไม่ได้” อาร์มองค้อนบูม ที่เห็นยกไปหลายแก้วแล้ว

“ อาร์ขับไง”

“ยังไงก็ห้ามกินเยอะ”

“ครับผม!!”

เสียงบูมตอบกลับที่ตอนนี้จะออกยานๆหน่อยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ พร้อมกับเอามือไปจับคางอาร์เบาๆ เพื่อนๆหัวเราะเฮฮา ชอบใจการแกล้งอาร์ของบูม

แต่เบียร์แค่นี้ไม่สามารถทำอะไรบูมได้หรอก แค่แกล้งอาร์ไปอย่างนั้นเอง พอกินอิ่มนั่งเอนหลังย่อยสักพัก แก็บก็ชวนเล่นน้ำ

แต่พวกผู้หญิงใส่กระโปรงนักเรียนจะเล่นได้ไง ก็ต้องลำบากเปลืองเงินซื้อกางเกงเปลี่ยนเล่นน้ำ พอคิดดูอีกทีไม่เล่นดีกว่าให้พวกผู้ชายเล่นไปเลย เดี๋ยวนั่งเล่นรอบนแพ

แต่บูมอยากให้อาร์ลงไปเล่นน้ำด้วย จึงเดินไปซื้อกางเกงขาสั้นให้อาร์เปลี่ยนลงเล่นน้ำ ที่เขื่อนก็จะมีห่วงยางให้เช่า และเสื้อผ้า หมวก แว่นตา รองเท้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ

สรุปเพื่อนผู้หญิงสองคนไม่ลงไปเล่นน้ำด้วยนั่งรอบนแพร ส่วนโต้งกับแก็บเช่าห่วงยางเล่นด้วยกัน บูมกับอาร์ก็เช่าห่วงยางเล่นด้วยกัน

แก็บกับโต้งพากันลากห่วงยางไปเล่นใกล้ๆสาวๆอีกกลุ่ม ไปจีบสาวตามนิสัยเจ้าชู้ขี้เล่นของสองคน ส่วนบูมกับอาร์ลากห่วงยางไปเล่นอีกที่หนึ่งแต่ก็ไม่ไกลกันมากนัก

บูมให้อาร์นั่งบนห่วงยางแล้วตัวเองก็เป็นคนจับห่วงยางไว้ไม่ให้คว่ำ ในบริเวณรอบๆก็มีเพื่อนๆอีกหลายคู่เช่นกัน ที่จีบกันกลางแม่น้ำ

บางคู่ก็มาด้วยกันอยู่แล้ว บางคู่ก็มาเจอกันวันนี้ เป็นคู่รักที่เกิดขึ้นใหม่ท่ามกลางสายน้ำ แต่หลังจากกลับไปวันนี้จะติดต่อกันหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง

บูมลากอาร์ออกมาห่างจากกลุ่มของเพื่อนๆ แต่ไม่เกินแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ๆกั้นเขตไว้ ห้ามนักท่องเที่ยวลงมาลึกเกินแนวนี้ เพราะมันเป็นช่วงน้ำลึกมาก เดี๋ยวจะเกิดอันตราย

จากที่อาร์นั่งอยู่บนห่วงยาง ตอนนี้กระโดดลงมาเกาะห่วงยางข้างในแล้ว บูมก็มุดเข้าไปในห่วงยางด้วย สองคนอยู่ในวงห่วงยางด้วยกัน ความสูงของห่วงที่โดนเป่าลมให้พองขึ้นก็พอจะบังสองคนไม่ให้คนอื่นเห็นว่าทำอะไรกันภายในห่วงยางได้

ตอนนี้บูมอยู่ในห่วงยางกับอาร์ ระดับน้ำตอนนี้อยู่ที่ระดับหน้าอก ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันแค่มิลเดียว บูมสอดมือลงไปใต้น้ำดึงอาร์เข้ามากอด จากนั้นก็หยิบมืออาร์ให้มากอดตัวเองเช่นกัน

บูมค่อยๆโน้มหน้าให้ปากของตัวเองอยู่ในระดับเดียวกันกับปากของอาร์ เพื่อต้องการที่จะจูบกับอาร์
ปากของบูมแตะปากอาร์ได้ไม่ถึงสองวิ อาร์ตกใจจึงเบือนนหน้าที และปล่อยมือที่กอดเอวบูมอยู่ยกมาปิดปากตัวเองไว้

บูมมองหน้าอาร์ทำสายตาดุอาร์เล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือตัวเองมาจับมืออาร์ลงไปกอดเอวตัวเองอีก

“อาร์บูมขอนะ ไม่ต้องกลัวบูมขอแค่นี้จริงๆ”

“แต่อาร์...” อาร์ไม่พูดต่อแต่ทำสีหน้ากังวลออกมาแทน

“นะอาร์ บูมขอ”

อาร์พยักหน้าให้บูม จากนั้นบูมก็บรรจงจูบลงบนปากอาร์เบาๆ ดื่มด่ำกับจูบรสหวานที่คบกันมาสองปียังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้มีโอกาสได้สัมผัสสักที จูบของครั้งแรกมันชั่งละมุน นุ่ม ไม่ตะกุกตะกักเลยไหลลื่นได้ตลอดเวลา เหมือนคนที่ชำนาญแล้ว ไม่เหมือนคนพึ่งเคยทำครั้งแรกเลยสักนิด

มือที่กอดเอวอาร์อยู่ใต้น้ำก็เลื่อนขึ้นมาข้างบนหน้าอกของอาร์ สองมือขย้ำลงบนเนินอกเบาๆ เหมือนเกรงว่าคนตรงหน้าจะเจ็บ

อาร์ตกใจกำลังจะผละตัวออก แต่ไม่ทันบูมกอดไว้ก่อน เหมือนแม่กวางน้อยที่กำลังถูกเสือขย้ำ ฉีกเนื้อกินเป็นชิ้นๆ ที่จะกระดุกกระดิกไม่ได้เลย ปากก็บรรจงจูบไปพร้อมมือที่ขย้ำเนินอกไป

นานเท่าไหร่ไม่รู้สองคนต้องหลุดออกจากภวังค์แห่งความสุข เพราะโต้งเดินมายกห่วงยางของบูมขึ้น

“เฮ้ย ทำไรว่ะ”

“ไอ้โต้ง!! แกมาไม่ให้สุ่มให้เสียงข้าตกใจหมด”

สองคนผละออกจากกันทันเวลาพอดี คนที่เขินหน้าแดงเห็นจะเป็นอาร์มากกว่า

“ฮันแน่ๆ ข้ารู้ข้าเห็น”

“ไม่ต้องมาพูดเลย ไอ้เพื่อนบ้านิ”

“เอ่อๆ ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจหน่า แต่จะมาบอกว่ากลับกันได้แล้ว เย็นมากแล้ว พวกเพื่อนผู้หญิงอยากกลับกันแล้ว”

พอโต้งพูดอาร์ก็นึกขึ้นได้พอดี นี่เย็นมากแล้ว กว่าจะกลับไปถึงบ้านก็เลยเวลาเลิกเรียนแล้ว พ่อแม่อาร์จะว่าอะไรมั้ยนะ สีหน้าอาร์เริ่มมีแววกังวลอีกครั้ง

“เอ่อๆ เดี๋ยวพวกข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนรอแป๊บเดี๋ยว”

บูมพาอาร์ไปเปลี่ยนใส่ชุดนักเรียนในห้องน้ำที่ทางเจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยว ครั้งละห้าบาท เมื่อทุกคนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกลับบ้าน

ทุกคนตกลงกันว่าจะไปส่งอาร์ก่อน เพราะห่วงอาร์กว่าใครๆ เพื่อนทุกคนรู้ว่าพ่อแม่อาร์หวงมาก ใครซ้อนกับใครขากลับก็ซ้อนกับคนนั้นเหมือนเดิม

ระหว่างทางขากลับบูมต้องขับทำเวลานิดนึง เพราะจะขับกินลมชมวิวแบบขามาไม่ได้ กลับถึงบ้านช้าเดี๋ยวอาร์จะโดนพ่อแม่ดุได้ แต่ก็ไม่ได้ขับเร็วมาก เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย

ตลอดทางอาร์นั่งเงียบไม่พูดอะไร จนบูมไม่สบายใจอาร์คิดอะไรอยู่ กลัวพ่อแม่บ่นที่กลับบ้านช้า หรือคิดเรื่องวันนี้ที่เขื่อน

“อาร์คิดอะไรอยู่เหรอ กลัวพ่อแม่ว่าเหรอ”

บูมหันหน้ามาถามอาร์แป๊บเดียว ก็หันกลับมามองทางข้างหน้าอีก ด้วยเสียงลมขณะขับรถทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างลำบาก เวลาคุยอาร์ต้องเอาหน้าไปใกล้ๆ บูมถึงจะได้ยิน

“ป่าว”

“แล้วทำไมเงียบอ่ะ หรือคิดถึงเรื่องที่อยู่เขื่อนวันนี้เหรอ”

“ป่าว”

อาร์ยังคงปฏิเสธบูมเหมือนเดิม อาร์ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากเรื่องไหนกันแน่ ระหว่างเรื่องวันนี้ที่เขื่อน หรือเรื่องกลัวโดนพ่อแม่ดุที่กลับบ้านช้า

บูมปล่อยมือข้างซ้ายของตัวเอง ขับรถด้วยมือขวาข้างเดียว เอามือเข้ามากุมมืออาร์ที่ตอนนี้กอดเอวตัวเองอยู่

“อาร์ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกังวลทุกเรื่องเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นบูมจะช่วยอาร์เอง”

จากนั้นอาร์ก็กอดเอวบูมแน่นขึ้น เป็นสัญญาณว่าอาร์รับทราบและเชื่อใจบูม แล้วบูมก็ปล่อยมือตัวเองออกจากมืออาร์ มาขับรถสองมือเหมือนเดิม แล้วขับรถมุ่งหน้าไปทางบ้านอาร์ เพื่อไปส่งอาร์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่