"ดำรงค์ พิเดช"ชี้ รีสอร์ตพปชร.จัดสัมมนา บุกรุกป่า ยกจริยธรรม ไม่ควรใช้
"ดำรงค์ พิเดช" ชี้ รีสอร์ตที่พปชร.จัดสัมมนาโดนคดีบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ตนเองเคยนำกำลังเข้าไปจับตั้งแต่ปี 2555 ยกจริยธรรม นักการเมืองหรือส.ส. หากรู้อยู่แล้ว ก็ไม่ควรเข้าไปใช้สถานที่
วันที่ 23 ก.ค. นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการจัดสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่รีสอร์ต "88 การ์มองเต้” อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเคยถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดี ในข้อหาบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ว่า รีสอร์ตแห่งนี้ ในสมัยที่ตัวเองเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เข้าไปจับกุมตั้งแต่ปี 2555 และทราบว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอัยการ และทางเจ้าของขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง ดังนั้น เมื่อศาลยังไม่ตัดสิน ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้ยังสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อยู่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ผ่านมาแล้ว 7 ปี น่าจะจบไปนานแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า เชื่อว่า ถ้าเจ้าของบริสุทธิ์ คดีนี้น่าจะจบไปแล้วแต่ยังมีการดึงเกมอยู่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็น่าจะรู้ว่า เป็นเรื่องของนักการเมือง พรรคการเมือง จึงไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ในแง่ของจริยธรรม ส.ส. ก็ไม่ควรเข้าไปใช้ เพราะรู้ว่าที่แห่งนี้มีคดีความอยู่ ควรจะเลือกไปที่อื่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/1620885
เอาละสิ เมื่อจริยธรรมเป็นแบบนี้ แล้วคนอย่าง "ดำรงค์ พิเดช" จะมองหน้าติด และจะยกมือสนับสนุนให้ไปต่อดีไหมละเนี่ย?
"ดำรงค์ พิเดช"ชี้ รีสอร์ตพปชร.จัดสัมมนา บุกรุกป่า ยกจริยธรรม ไม่ควรใช้
"ดำรงค์ พิเดช" ชี้ รีสอร์ตที่พปชร.จัดสัมมนาโดนคดีบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ตนเองเคยนำกำลังเข้าไปจับตั้งแต่ปี 2555 ยกจริยธรรม นักการเมืองหรือส.ส. หากรู้อยู่แล้ว ก็ไม่ควรเข้าไปใช้สถานที่
วันที่ 23 ก.ค. นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการจัดสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่รีสอร์ต "88 การ์มองเต้” อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเคยถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดี ในข้อหาบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ว่า รีสอร์ตแห่งนี้ ในสมัยที่ตัวเองเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เข้าไปจับกุมตั้งแต่ปี 2555 และทราบว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอัยการ และทางเจ้าของขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง ดังนั้น เมื่อศาลยังไม่ตัดสิน ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้ยังสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อยู่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ผ่านมาแล้ว 7 ปี น่าจะจบไปนานแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า เชื่อว่า ถ้าเจ้าของบริสุทธิ์ คดีนี้น่าจะจบไปแล้วแต่ยังมีการดึงเกมอยู่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็น่าจะรู้ว่า เป็นเรื่องของนักการเมือง พรรคการเมือง จึงไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ในแง่ของจริยธรรม ส.ส. ก็ไม่ควรเข้าไปใช้ เพราะรู้ว่าที่แห่งนี้มีคดีความอยู่ ควรจะเลือกไปที่อื่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/1620885
เอาละสิ เมื่อจริยธรรมเป็นแบบนี้ แล้วคนอย่าง "ดำรงค์ พิเดช" จะมองหน้าติด และจะยกมือสนับสนุนให้ไปต่อดีไหมละเนี่ย?