คึกคัก คึกคัก กับปักกิ่ง 3 วัน 2 คืน เที่ยวไปกินไปนั่งคาเฟ่เรื่อย
ทริป ปักกิ่ง 3 วัน 2 คืน “ไปเรื่อยด้วยกัน” ขอมุ่งหน้าพาไปเที่ยวเมืองหลวงของดินแดนมังกรอย่าง ปักกิ่ง ในเวลาสั้นๆ 3 วัน 2 คืน แพลนเที่ยวแบบชิวๆสบายๆ แวะจุดท่องเที่ยวสำคัญ (ป.ล. ไม่มีกำแพงเมืองจีนในสถานที่ท่องเที่ยวเรานะ เราขอเปิดเผยความลับก่อนเลย) เหนื่อยก็มุ่งหน้าเข้าคาเฟ่เรื่อยๆ
เฮ้ย มันดีและสนุกกว่าที่คิดนะ!
เราเคยไปลงเรียนคอร์สภาษาจีนที่ปักกิ่งและไปเที่ยวจีนอีกหลายทีตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยเลยที่จะได้กลับไปปักกิ่ง พอคราวนี้สรุปตัดสินใจจะไปเมืองนี้อีก ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้ย้อนกลับไปที่นี่อีกครั้ง บางคนอาจจะไม่ค่อยพิศมัยเมืองจีนนัก และแน่ละปัญหาเรื่องภาษาก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่นักท่องเที่ยวบางคนอาจจะไม่ค่อยอยากไป แต่เมืองจีนคือประเทศสีสันโดยเฉพาะของทวีปเอเชียเลยน้า ความหลากหลายของวัฒนธรรมยุโรปที่พยายามแทรกตัวเข้ามาเองและที่รัฐบาลจีนเอาความศิวิไลย์เข้ามาเอง ผสมกับความเป็นเอกลักษณ์จีนที่ยังไงก็ปิดไม่มิด มันก็เป็นเสน่ห์ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่เอาความเก่ามาคอนทราสกับความนำสมัยเหมือนกัน
เรามองว่าเป็นความสนุกของการเดินทางที่จะไม่พบไม่เจอที่บ้านเมืองอื่นแน่ๆ เที่ยวจีน เราว่าเที่ยวได้ไม่ยาก และเมืองจีนมีอะไรดีๆอีกเยอะที่เรายังอยากกลับไปค้นหา ว่าแล้วไปเที่ยวกันดีกว่า อยากรู้ปักกิ่งวันวานกับวันนี้จะเติบโตไปขนาดไหนแล้ว ไปกันค่ะ
Itinerary plan
Budget
VISA
เราใช้ agency ช่วยขอวีซ่าท่องเที่ยวจีนให้ เราเลือกวีซ่าท่องเที่ยว เข้า 1 เที่ยว ราคาทั้งหมดรวมทั้งรูปถ่าย 2,xxx บาทค่ะ สะดวกมาก แค่ส่งพาสปอร์ต รูปถ่าย และกรอกข้อมูลการเดินทาง แล้วส่งเอกสารไปกับบริษัท รอ 4 วันทำการก็ได้วีซ่าและพาสปอร์ตแล้วค่ะ สะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางไปขอวีซ่าเองมากๆ
Transportation
ทั้งปักกิ่งเราใช้บริการ taxi จากแอป didi (คล้ายๆ grab บ้านเรา) และเดินเท้า แต่จริงๆแล้วเพื่อนๆสามารถใช้บริการรถใต้ดินกันได้นะ เพราะรถใต้ดินที่นี่ถึงแทบทุกพื้นที่เลย แล้วเดินเท้าต่อเอาหน่อย ส่วนพวกเราเลือก taxi เพราะทริปนี้ขี้เกียจค่ะ 555 จบเนอะ
Accommodation
ทริปนี้เราใช้บริการพักโรงแรม สองแห่งสำหรับสองคืน คืนแรกพวกเราเลือกพักแถว Qianmen ใกล้ๆจตุรัสเทียนอันเมินกัน เพราะกะว่าจะเที่ยวแถวนี้ ส่วนอีกคืนไปพักโรงแรมแถว sanlitun กันค่ะ ซึ่งได้รับ ranking ว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองปักกิ่งเลยนะ เราชอบมากเลย ทำไมนะหรอ? เดี๋ยวมาติดตามกันคะ
SIM / Social media
เราใน SIM-2-FLY ของ AIS เหมือนเดิมค่ะ เรามีซิมอยู่หลาย (ใช้ไปหลายทริป คอยเติมเงินรักษาสภาพซิมเอาไว้) พอจะไปก็แค่เติมเงินตามแพจเกจที่จะใช้ เท่านี้ก็ไม่ขาดการติดต่อกับเมืองไทยเลยค่ะ สะดวกมากจริงๆ ถ้าเราไปซื้อซิมหรือใช้ wifi ฟรีของโรงแรมก็ไม่อาจจะเล่น Facebook หรือบางเวบได้นะ เพราะทางจีนเค้าบลอคเอาไว้ แต่ถ้าเอาซิมจากไทยไปหายห่วงเลยจ้ะ
Money exchange
มีหลากหลายทางเลือกให้เพื่อนๆเลือกเลยค่ะ
1. ใช้ app alipay และ wechat คือสะดวกที่สุด
2. บัตรเดบิต/เครดิต/Travel card ให้ชัวร์ๆบัตรต้องมีสัญลักษณ์ unionpay
3.เงินสด เราแลกไปแบบหลักพันบาท กับร้านแลกเงินสีส้ม (เรทตอนเดือน7/2019 1Yuan = 4.49THB ค่ะ)
Day 01 : (Tianan’men – Forbidden City – Qianmen)
ไฟลท์เรามาถึงกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน ตั้งแต่เช้า เรานั่ง airport express (Y25 ต่อคน) 20 นาทีเข้าเมืองมาลงที่สถานที่ Dongzhimen แล้วใช้ didi เรียกรถไปโรงแรมแถว Qianmen ใกล้ๆTianan’men กันก่อนเพราะพวกเราจะเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรม แล้วหาข้าวเช้าแบบจัดหนักกันก่อนไปเที่ยวค่ะ
Airport express เชื่อมต่อระหว่าง terminal 2 และ terminal3 และ เข้าตัวเมืองปักกิ่ง โดยจะจอด 2 สถานีคือ Sanyuanqiao หรือ Dongzhimen
Deyuan Roast Duck (德缘烤鸭店)
📍 : 57 Dashilar Xi Dajie Xicheng district
⏰ : 10.00am-2.00pm, 4.30-9.00pm ทุกวัน
ร้านอาหารจีนที่ได้รับการโหวตว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่อง “เป็ดปักกิ่ง” คนท้องถิ่นชอบมากินร้านนี้ เราเลยมาลองกันก่อนเลย มื้อแรกของทริป มาปักกิ่งก็ต้องกินเป็ดปักกิ่งสิ…ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
มื้อนี้เราสั่งเป็ดปักกิ่งเต็มตัว 1 และน้ำซุปมะเขือเทศไข่เอาไว้ซดล้างความมันจากเป็ดกันสักหน่อย
เป็ดปักกิ่งที่นี่จะต่างจากเมืองไทยคือ นอกจากจะกินหนังแล้ว ยังมีส่วนของหนังติดเนื้อ และเนื้อล้วน แยกมาต่างหากด้วย
เป็ดปักกิ่งสามสไตล์ ห่อกับแป้ง จิ้มกับซอส ใส่แตงกวา และหอมเพิ่มตามใจเลย
Soloist Coffee Co.
📍 : Yangmeizhu Byway, Xicheng Qu, Beijing
⏰ : 11:30am-8.00pm
กินอาหารคารเสร็จ ขอกาแฟสักแก้วแถวนี้ก่อนจะไปตะลุยเมืองปักกิ่งกันนะคะ เราแวะไปที่ร้านกาแฟ Soloist Coffee Co.
ร้านบรรยากาศดี น่านั่งมาก ได้รับการรีวิวจาก timeout ด้วยนะร้านนี้
ร้านกาแฟย่าน Hutong บ้านจีนเก่าคลาสิคที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยร้านค้าพวกสตูดิโอศิลปิน
Tian’anmen Square (天安门)
📍 : Dongcheng, Beijing
ถ้าพูดถึงเมืองปักกิ่งทุกคนจะนึกถึง “จตุรัสเทียนอันเมิน” ในหัวอย่างแน่นอน เพราะจตุรัสนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์และสถานที่รวมประวัติศาสตร์ตลอดหลายช่วงอายุที่ผ่านมาของเมืองปักกิ่งเลยทีเดียว
“จตุรัสเทียนอันเมิน” สามารถบรรจุคนได้ถึง 1 ล้านคน ถือว่าเป็นจตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จตุรัสเทียนอันเมินเป็นจุดศูนย์กลางล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น พระราชวังต้องห้าม หอรำลึกประธานเหมา อนุสาวรีย์วีรชนใจกลางจัตุรัส มหาศาลาประชาคม และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีน
ตรงข้ามกับจตุรัสนั้นเป็นทางเข้า พระราชวังต้องห้าม
Forbidden City (紫禁城)
📍 : 4 Jingshan Front St, Dongcheng Qu, Beijing
⏰ : 8:30am-4:30pm/5.00pm
🎫 : ค่าเข้าชมพระราชวังอยู่ที่ Y60 ต่อคน
และอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่มาเมืองปักกิ่งแล้วทุกคนจะต้องมา เป็นีท่ไหนไม่ได้นอกจาก “พระราชวังต้องห้าม หรือหรือพระราชวังกู้กง” แห่งนี้นั้นเอง
พระราชวังกู้กงตั้งอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่ง และเป็นพระราชวังหลวงที่สำคัญของราชวงศ์ประเทศจีน
เราข้ามจากจตุรัสเทียนอันเมิน ไปที่พระราชวังกู้กงกันค่ะ ทางเข้าประตูเทียนอันเมิน (ทิศเหนือ)
รูปท่านประธานเหมาติดอยู่เด่นเป็นสง่า
ตั๋วเข้าชมพระราชวังสามารถซื้อบัตรเข้าชมจาก wechat ใช้สแกน QR code ด้านหน้ากันได้เลย ส่วนใครที่สแกนแล้วไม่ผ่าน ไม่มีเนท สามารถซื้อตั๋วกับพนักงานที่เคาเตอร์ขวามือได้ค่ะ
สะพานหินอ่อนภายในพระราชวัง ที่แกะสลักลวดลายสวยงาม
พระราชวังนี้มีขนาดใหญ่ถึง 450 ไร่และ UNSECO ประกาศให้เป็น หนึ่งในมรดกโลก “the largest collection of preserved ancient wooden structures in the world.”
Jinshan Park สวนจิ่งซาน
ด้านหลังของพระราชวังกู้กงจะมีทางออก มองไปเห็น Jinshan Park สวนจิ่งซาน อยู่ตรงข้ามกับพระราชวังต้องห้าม เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่จะมองเห็นผังของพระราชวังอย่างชัดเจน
(ต่อกันคอมเม้นล่างน้า)
[CR] [CR] [GoaroundwithYou] รีวิว "Beijing Story" - คึกคักคึกคักกับปักกิ่ง 3 วัน 2 คืน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้