วันที่ 1
นั่งเครื่องบินจากกทม.7.50 ไปลงอุบล 8.55 ค่าตั๋วไปกลับ 2 คน 2080 ฿ จองผ่านแอ๊ฟรวมค่าที่พัก 1 คืนที่ be my guest ในตัวเมืองเป็น 2258 ฿ สรุปค่าที่พักห้อง delux เตียงคู่ 2 คนแค่ 178 บาทเองค่ะ จองเครื่องพร้อมที่พักนี่ดีจุง
เครื่องเลทนิดหน่อยไปถึงอุบลประมาณ 9.30
ออกประตูสนามบินเลี้ยวซ้ายไปเช่ารถที่บู๊ท hertz โดยซื้อคูปองล่วงหน้าจากเวปมาแล้ว เราเช่ายาริส วันละ 640 ฿ (ราคาหน้าคูปอง 730 ฿) เช่าเป็นแบบ no deduct + รถหาย + ยาง เพราะขับไกลกลัวจะไปขีดอะไรข้างทางและเผื่อยางแบนยางแตกระหว่างทางด้วย เวลาเช่าเริ่ม 8 กค. 9.50 เช่า 2 วันคืนเลทได้ 4 ชม. คือคืน 10 กค.13.50 พนง.รูดบัตรเครดิตแบบ authorize (ไม่ใช่ sale) วงเงิน 10,000 ฿ ซึ่งจะได้คืนใน 14 วัน พนง.ให้ดูว่ารถเติมน้ำมันมาเต็ม จากนั้นชี้ & บันทึกรอยขีดข่วนรอบคันในเอกสารแล้ว พนง.ให้สำเนากับเราและบอกให้เติมน้ำมัน 91, 95 เต็มก่อนคืนรถ ได้รถสภาพใหม่ดีตามที่ขอไว้กับคอลเซ็นเตอร์ตอนโทรจอง km ประมาณ 30000 เบาะหลังมีรอยจากการใช้งานหลายมือบ้าง
ใบบันทึกรอยขีดข่วนรอบคัน
1.วัดป่าสว่างวีรวงศ์
วัดนี้ไม่ได้แพลนไว้แต่เห็นป้ายและเคยเห็นรูปวัดเลยอยากแวะชม ก็งามและสงบสมกับเป็นวัดป่าจริงๆ เข้าจากถนนใหญ่ไม่ลึกด้วย เสียดายไม่ได้เดินทั่วเพราะต้องขับรถอีกไกล
2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ค่าเข้าคนทั่วไป 30 ฿ ค่ารถเข้า 40 ฿ ผู้สูงอายุเข้าฟรี
2.1 เสาเฉลียง อยู่ซ้ายมือแรกหลังผ่านด่าน
เดินขึ้นมาจุดชมวิวจะเจอ ลานหินแตก มองลงไป ลึกและแคบ น่ากลัว ไม่กล้ายืนใกล้ๆกลัวพลาด
2.2 ศาลารับเสด็จ คือทางเลี้ยวซ้ายหลังผ่านเสาเฉลียง พอไปถึงจะไปเจอทางลงไปชมภาพเขียนสีจุดที่ 4 ด้วย เผื่อถ้าขี้เกียจเดินจากจุดที่ 1ก็สามารถขับรถมาที่จุดที่ 4 เลยก็ได้
2.3 จากด่านอุทยานถ้าตรงโลดมาเลยก็จะเจอสำนักงานอุทยานและเป็นจุดเริ่มต้นเดินชมภาพเขียนสีจุดที่ 1-4 ซึ่งน่าจะใช้เวลาเดิน 2-3 ชม. แต่คุณแม่เดินไหวแค่จุดที่ 1 ก็เลยไม่ได้ดูภาพเขียนจุดที่ 2 ที่เป็นไฮไลท์
3.น้ำตกสร้อยสวรรค์
สามารถใช้บัตรจากอช.ผาแต้มมาผ่านด่านได้เลย จากด่านต้องเดินทางราบ 500 ม. (เดินตรงมาและโค้งมาทางขวา) และเดินลงบันไดอีก150 ม.ถึงจะถึงน้ำตก ตอนนี้น้ำน้อยเพราะปีนี้แล้งมาก เห็นน้ำตกอยู่ลิบๆ
4.น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)
ที่จอดรถใกล้ทางลงและเดินลงนิดเดียวก็ถึง น้ำน้อยตามสภาพ
5.หาดชมดาว
ไปถึงจะมีเด็กน้อยมาเป็นไกด์มาหาที่รถและบอกจะพาเดินชมตามแก่งหิน แต่วันนี้น้ำขึ้นเลยเดินได้ไม่ไกล น้องไกด์ชื่อลอร่า อายุแค่ 7 ขวบ ถือว่าคล่องสำหรับอายุแค่นี้ พาชมเสร็จก็ให้ค่าขนมน้องเป็นสินน้ำใจเล็กน้อย เด็กแถวนี้เก่งหาเงินเองได้ตั้งแต่อายุเท่านี้
แวะกินข้าวร้านข้างทาง
ข้าวไข่เจียว = 30 ฿
ลาบเป็ด = 70 ฿
น้ำแดง = 15 ฿
6.บ้านสวนณัฐชนา
เข้าที่พักประมาณ 6 โมงเย็น ตามสไตล์เข้าห้องเร็ว ออกเช้า จองห้องพัก 2 คนไม่รวมอาหารเช้า 500 ฿ เราเลือกแบบนี้เพราะกะจะออกแต่เช้าแต่ถ้าเลือกรวมอาหารเช้า (ข้าวต้ม) จะราคา 600 ฿ วันนี้ไม่มีแขกเจ้าอื่นพักเลยคุณณัฐชนาเลยจัดให้เราพักห้อง 3 คนที่ปกติราคา 900 ฿ รวมอาหารเช้า (เตียงคู่ 1 เตียงเดี่ยว 1) ตามรูป
เราเอาของเข้าห้องแล้ว แกบอกเพิ่งเปิดร้านกาแฟเลยไปอุดหนุนซะหน่อย ร้านก็อยู่หน้าบ้านสวนนี่เอง สั่งโกโก้ร้อนถ้วยละ 30 ฿ แกบอกไม่ได้เรียนทำเมนูร้อนมา เลยรสชาติอ่อนไปหน่อย โกโก้ไม่เข้มข้น แต่คิดว่าร้านกาแฟน่าจะไปได้ดีช่วงที่ที่พักเป็นโลวซีซั่น เพราะมีเด็กนักเรียนเข้ามากิน 4-5 คน ห้องพักโอเคแต่ห้องน้ำไม่โอเคเพราะไม่แยกโซนเปียก/แห้ง ที่นี่ห่างจากสามพันโบก 10 โล
รูปจากเพจบ้านสวนณัฐชนา
วันที่ 2
ออกจากบ้านสวน 6.00 ตอนแรกกะจะออก 5.30 แต่เราออกเลท
7.สามพันโบก
ไปตามกูเกิ้ลเห็นมี 2 ทางคือตรงไปกับแยกไปทางขวา กูเกิลบอกให้เลี้ยวทางขวาตามป้าย "เส้นทางลัดสามพันโบก" ก็เลยลองไปตามกูเกิล เป็นถนนลูกรัง 2-3 กม.ไปถึงปรากฎว่า เพิ่งรู้จากลุงผู้ดูแลว่าตรงนี้เป็นโซนที่พักและลานกางเต๊นท์ของเจ๊ดา ญาติคุณณัฐชนา (ก็แปลกที่เมื่อวานตอนเข้าพักที่บ้านสวนณัฐชนา เราบอกว่าจะไปสามพันโบกวันนี้ คุณณัฐชนา ก็ไม่ได้เล่าถึงตรงนี้ให้ฟัง) ตรงจุดนี้เสียค่าจอดรถ 20 ฿ สามารถเดินลงสามพันโบกได้เลยแต่ถ้าเราเลือกทางที่ให้ตรงไป จะสำหรับคนต้องการลงเรือ ซึ่งจะต้องจอดรถไว้และขึ้นรถคันละ 200 ฿ เพื่อไปลงเรือลำละ 500 ฿ (หาคนหารกันได้)
วันนี้น้ำเยอะลุงคนดูแลที่ของเจ๊ดาเลยได้แค่พาเดินชมริมๆและนั่งชมวิวน้ำโขงกันเล็กน้อย เริ่มหิวข้าวเลยกล่าวอำลาลุงขอขอบคุณที่มาต้อนรับและอธิบายอย่างดีค่ะ
8.กินข้าวร้านอาหารตามสั่ง
เป็นร้านข้างทางหลังออกมาซัก 15 นาที เพราะแถวทางที่ออกมาช่วงแรกๆไม่มีร้านอาหารเลย หิวมาก ลืมถ่ายรูปเลย มื้อนี้
ข้าวผัดไก่ไข่ดาว 40x2 = 80 ฿ ออกหวานและมันไปหน่อย
ต้มยำรวมมิตร (ไก่บ้าน ปลาหมึก เห็ด) = 80 ฿ อันนี้อร่อย
กาแฟ3อิน1 = 10 ฿
ผัวเมียเจ้าของร้านใจดีมาก เห็นเราถามถึงต้นไม้ที่เห็นเขาปลูกตรงสวนครัว เขาก็รีบกุลีกุจอจะหาทั้งดินผสมขี้วัวและต้นกล้าเล็กๆจะให้เรา แต่พอดีไม่มีต้นกล้าเล็กๆ เขาเลยท่าทางผิดหวังที่พูดว่าจะให้ แต่หาไม่ได้ แต่แค่นี้เราก็รู้สึกขอบคุณในน้ำใจเขามากๆค่ะ
9.ราชธานีอโศก
ขับทางยาวจากสามพันโบกมานี่เลย ตอนใกล้ถึงกูเกิลพาหลงในซอยไปหน่อย ตลกที่มีรถหลงมาทางเดียวกันเลย เพราะเห็นเขาเลี้ยวผิดและยูเทินกลับเหมือนเรา 2 ครั้ง คงฟังจากอากู๋เหมือนกัน
กินข้าวกลางวันเป็นอาหารปลอดสารพิษ ราคาถูก
ส้มตำ = 30 ฿
น้ำมะพร้าว = 25 ฿
และซื้อน้ำมาไว้กินตามทางด้วย
น้ำสมุนไพรช่วยระบาย = 10 ฿
น้ำชาเขียว= 10 ฿
น้ำโกโก้ = 10 ฿
กาแฟนมถั่วเหลือง = 10 ฿
เพิ่งรู้ว่าที่นี่จะมีน้ำท่วมเป็นบางปี คนที่นี่ เขาจะปลูกบ้านยกสูงไว้บนเรือกัน พอน้ำท่วมเขาก็จะมีเรือเล็กไว้พายกันบนถนนเลย
10.สวนอุทยานอ.ธงชนะ พรหมมิ ตอนแรกกะจะไปศึกษาดูงาน ไลน์มาถามก่อนจะมาว่าเข้าไปศึกษาดูงานได้ไหม เขาก็ตอบว่ามาได้เลยค่ะ เลยไม่รู้ว่าเราไลน์ไปถึงใครกันแน่ ไม่ได้ตามข่าว ปรากฎว่าอ.ไม่ได้ดูแลที่นี่แล้วเลยอยู่แป๊บเดียวกลับ
11.วัดหนองป่าพง
มีคนแต่งชุดขาวมาปฏิบัติธรรม เดินจงกรมเป็นแถวยาวอยู่ในวัด มีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ชาในวัด ได้ไปกราบหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ชาด้วย รู้สึกขนลุกเหมือนองค์จริงในรูปมากๆ
12.วัดป่านานาชาติ
ข้างในบรรยากาศเงียบสงบ สมกับเป็นวัดป่า มีทั้งฆราวาสและฝรั่งนุ่งห่มขาวเพื่อเตรียมจะบวช ได้เดินดูนิดหน่อยเพราะเย็นแล้ว 16.30
13.สะพานข้ามทุ่งขัวฮักขัวแพง
อยู่วัดบ้านโนนบอน อ.วารินชำราบ เป็นสะพานไม้ไผ่ข้ามทุ่งนา ไปวัดอีกฝั่งได้ เห็นวิวทุ่งนายามเย็น
14.เข้าที่พัก be my guest
ไปถึงก่อน 6 โมงเย็น ลานจอดรถเล็กไปหน่อย จอดได้แค่ 5-6 คัน เป็นอพาทเม้นเล็กๆแต่สะอาดดี เราแจ้งขอเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่ (มีแค่ห้องเดียว) ไว้ก่อนแล้ว ก็จ่ายเพิ่ม 50 ฿ ห้องนี้จะอยู่ชั้นล่างเลย เปิดม่านไปก็เห็นลานจอดรถ ที่ดีงามคือห้องน้ำแยกโซนเปียก/แห้ง ที่นี่ให้การ์ดมาสำหรับรูดเปิดประตูอพาทเม้น ค่ามัดจำการ์ด 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ๊าคืนการ์ด เข้าห้องพักแล้วแม่ให้ช่วยกันกินน้ำสมุนไพรช่วยระบายคนละครึ่งแก้ว เพราะแม่ท้องผูก ปรากฎว่ากลางคืนยันเช้า แม่ลูกเวียนกันเข้าห้องน้ำกันคนละ 3-4 รอบ เข็ดมากๆเพราะมันระบายแบบมวนท้องนี่สิ ถ้าระบายเฉยๆยังรับได้ วันหลังจะไม่กินอีกแล้ว เข็ดขยาดสุดๆ แทนที่จะได้นอนหลับยาวๆ นี่เดี๋ยวปวดท้องลุกเข้าห้องน้ำหลายรอบเลย
รูปจากเพจ be my guest อุบล
วันที่ 3
ออกจากที่พัก 6.30 น.
15.กินข้าวเช้าที่สามชัยกาแฟสาขาตลาดสันติสุข (รู้สึกร้านนี้จะมี 3 สาขา แต่สาขานี้ใกล้ที่พักที่สุด)
ไข่กะทะกับขนมปัง = 40 ฿
ช้าวต้มปลา = 45 ฿
ในตลาดสันติสุข บรรยากาศคึกคัก ของขายเยอะ คนก็มาซื้อเยอะ
16.ขัวน้อยบ้านชีทวน
ห่างไป 20 กว่าโลแต่ในเมืองมีแต่วัดเลยออกไปเลาะตามขอบนอกก่อน ที่นี่จะเป็นสะพานคอนกรีต และยาวกว่าขัวฮักขัวแพง พอเดินจากจุดจอดรถข้ามสะพานไปถึงถนนอีกฝั่งหนึ่งแล้วปรากฏว่ากว้างกว่าฝั่งที่เราจอดเยอะเลย รู้งี้เอารถมาจอดฝั่งนี้ดีกว่า
17.สวนพฤกษศาสตร์ดงฟ้าห่วน (ป่าในเมือง)
อันนี้ไม่ได้แพลนไว้แต่เห็นป้ายตอนระหว่างไปบ้านชีทวน และขากลับต้องผ่านทางนี้ เลยขอจัดซักหน่อย อากู๋ไม่รู้จัก ต้องขับไปตามป้าย "ป่าในเมือง"
เล่นชิงช้าย้อนวัยเด็กสนุก ลมเย็นดี
รถจี๊ปรุ่นเก๋ากึ้กสมัยเริ่มบุกเบิกทำสวนใหม่ๆ
บรรยากาศร่มรื่นดี ไม่มีคนเลย จนท.บอกคนจะมาออกกำลังกายตอนเย็นกัน
18.วัดพระธาตุหนองบัว
ช่างกำลังแกะสลักเทียนพรรษาพอดี เราไปก่อนงานไม่กี่วัน
ที่วัดให้ลองทำเทียนเองด้วย ตอนจุ่มน้ำให้เทียนหลุดออกจากแม่พิมพ์ต้องเขย่าๆ หมุนๆ แรงๆถึงจะหลุด
[img]
https://f.ptcdn.info/008/065/000/puobe7faiMeESf3Jx1
[CR] เช่ารถพาแม่เที่ยวอุบล3วัน2คืนเดือนก.ค.62
นั่งเครื่องบินจากกทม.7.50 ไปลงอุบล 8.55 ค่าตั๋วไปกลับ 2 คน 2080 ฿ จองผ่านแอ๊ฟรวมค่าที่พัก 1 คืนที่ be my guest ในตัวเมืองเป็น 2258 ฿ สรุปค่าที่พักห้อง delux เตียงคู่ 2 คนแค่ 178 บาทเองค่ะ จองเครื่องพร้อมที่พักนี่ดีจุง เครื่องเลทนิดหน่อยไปถึงอุบลประมาณ 9.30
ออกประตูสนามบินเลี้ยวซ้ายไปเช่ารถที่บู๊ท hertz โดยซื้อคูปองล่วงหน้าจากเวปมาแล้ว เราเช่ายาริส วันละ 640 ฿ (ราคาหน้าคูปอง 730 ฿) เช่าเป็นแบบ no deduct + รถหาย + ยาง เพราะขับไกลกลัวจะไปขีดอะไรข้างทางและเผื่อยางแบนยางแตกระหว่างทางด้วย เวลาเช่าเริ่ม 8 กค. 9.50 เช่า 2 วันคืนเลทได้ 4 ชม. คือคืน 10 กค.13.50 พนง.รูดบัตรเครดิตแบบ authorize (ไม่ใช่ sale) วงเงิน 10,000 ฿ ซึ่งจะได้คืนใน 14 วัน พนง.ให้ดูว่ารถเติมน้ำมันมาเต็ม จากนั้นชี้ & บันทึกรอยขีดข่วนรอบคันในเอกสารแล้ว พนง.ให้สำเนากับเราและบอกให้เติมน้ำมัน 91, 95 เต็มก่อนคืนรถ ได้รถสภาพใหม่ดีตามที่ขอไว้กับคอลเซ็นเตอร์ตอนโทรจอง km ประมาณ 30000 เบาะหลังมีรอยจากการใช้งานหลายมือบ้าง
ใบบันทึกรอยขีดข่วนรอบคัน
1.วัดป่าสว่างวีรวงศ์
วัดนี้ไม่ได้แพลนไว้แต่เห็นป้ายและเคยเห็นรูปวัดเลยอยากแวะชม ก็งามและสงบสมกับเป็นวัดป่าจริงๆ เข้าจากถนนใหญ่ไม่ลึกด้วย เสียดายไม่ได้เดินทั่วเพราะต้องขับรถอีกไกล
2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ค่าเข้าคนทั่วไป 30 ฿ ค่ารถเข้า 40 ฿ ผู้สูงอายุเข้าฟรี
2.1 เสาเฉลียง อยู่ซ้ายมือแรกหลังผ่านด่าน
เดินขึ้นมาจุดชมวิวจะเจอ ลานหินแตก มองลงไป ลึกและแคบ น่ากลัว ไม่กล้ายืนใกล้ๆกลัวพลาด
2.2 ศาลารับเสด็จ คือทางเลี้ยวซ้ายหลังผ่านเสาเฉลียง พอไปถึงจะไปเจอทางลงไปชมภาพเขียนสีจุดที่ 4 ด้วย เผื่อถ้าขี้เกียจเดินจากจุดที่ 1ก็สามารถขับรถมาที่จุดที่ 4 เลยก็ได้
2.3 จากด่านอุทยานถ้าตรงโลดมาเลยก็จะเจอสำนักงานอุทยานและเป็นจุดเริ่มต้นเดินชมภาพเขียนสีจุดที่ 1-4 ซึ่งน่าจะใช้เวลาเดิน 2-3 ชม. แต่คุณแม่เดินไหวแค่จุดที่ 1 ก็เลยไม่ได้ดูภาพเขียนจุดที่ 2 ที่เป็นไฮไลท์
3.น้ำตกสร้อยสวรรค์
สามารถใช้บัตรจากอช.ผาแต้มมาผ่านด่านได้เลย จากด่านต้องเดินทางราบ 500 ม. (เดินตรงมาและโค้งมาทางขวา) และเดินลงบันไดอีก150 ม.ถึงจะถึงน้ำตก ตอนนี้น้ำน้อยเพราะปีนี้แล้งมาก เห็นน้ำตกอยู่ลิบๆ
4.น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)
ที่จอดรถใกล้ทางลงและเดินลงนิดเดียวก็ถึง น้ำน้อยตามสภาพ
5.หาดชมดาว
ไปถึงจะมีเด็กน้อยมาเป็นไกด์มาหาที่รถและบอกจะพาเดินชมตามแก่งหิน แต่วันนี้น้ำขึ้นเลยเดินได้ไม่ไกล น้องไกด์ชื่อลอร่า อายุแค่ 7 ขวบ ถือว่าคล่องสำหรับอายุแค่นี้ พาชมเสร็จก็ให้ค่าขนมน้องเป็นสินน้ำใจเล็กน้อย เด็กแถวนี้เก่งหาเงินเองได้ตั้งแต่อายุเท่านี้
แวะกินข้าวร้านข้างทาง
ข้าวไข่เจียว = 30 ฿
ลาบเป็ด = 70 ฿
น้ำแดง = 15 ฿
6.บ้านสวนณัฐชนา
เข้าที่พักประมาณ 6 โมงเย็น ตามสไตล์เข้าห้องเร็ว ออกเช้า จองห้องพัก 2 คนไม่รวมอาหารเช้า 500 ฿ เราเลือกแบบนี้เพราะกะจะออกแต่เช้าแต่ถ้าเลือกรวมอาหารเช้า (ข้าวต้ม) จะราคา 600 ฿ วันนี้ไม่มีแขกเจ้าอื่นพักเลยคุณณัฐชนาเลยจัดให้เราพักห้อง 3 คนที่ปกติราคา 900 ฿ รวมอาหารเช้า (เตียงคู่ 1 เตียงเดี่ยว 1) ตามรูป
เราเอาของเข้าห้องแล้ว แกบอกเพิ่งเปิดร้านกาแฟเลยไปอุดหนุนซะหน่อย ร้านก็อยู่หน้าบ้านสวนนี่เอง สั่งโกโก้ร้อนถ้วยละ 30 ฿ แกบอกไม่ได้เรียนทำเมนูร้อนมา เลยรสชาติอ่อนไปหน่อย โกโก้ไม่เข้มข้น แต่คิดว่าร้านกาแฟน่าจะไปได้ดีช่วงที่ที่พักเป็นโลวซีซั่น เพราะมีเด็กนักเรียนเข้ามากิน 4-5 คน ห้องพักโอเคแต่ห้องน้ำไม่โอเคเพราะไม่แยกโซนเปียก/แห้ง ที่นี่ห่างจากสามพันโบก 10 โล
รูปจากเพจบ้านสวนณัฐชนา
วันที่ 2
ออกจากบ้านสวน 6.00 ตอนแรกกะจะออก 5.30 แต่เราออกเลท
7.สามพันโบก
ไปตามกูเกิ้ลเห็นมี 2 ทางคือตรงไปกับแยกไปทางขวา กูเกิลบอกให้เลี้ยวทางขวาตามป้าย "เส้นทางลัดสามพันโบก" ก็เลยลองไปตามกูเกิล เป็นถนนลูกรัง 2-3 กม.ไปถึงปรากฎว่า เพิ่งรู้จากลุงผู้ดูแลว่าตรงนี้เป็นโซนที่พักและลานกางเต๊นท์ของเจ๊ดา ญาติคุณณัฐชนา (ก็แปลกที่เมื่อวานตอนเข้าพักที่บ้านสวนณัฐชนา เราบอกว่าจะไปสามพันโบกวันนี้ คุณณัฐชนา ก็ไม่ได้เล่าถึงตรงนี้ให้ฟัง) ตรงจุดนี้เสียค่าจอดรถ 20 ฿ สามารถเดินลงสามพันโบกได้เลยแต่ถ้าเราเลือกทางที่ให้ตรงไป จะสำหรับคนต้องการลงเรือ ซึ่งจะต้องจอดรถไว้และขึ้นรถคันละ 200 ฿ เพื่อไปลงเรือลำละ 500 ฿ (หาคนหารกันได้)
วันนี้น้ำเยอะลุงคนดูแลที่ของเจ๊ดาเลยได้แค่พาเดินชมริมๆและนั่งชมวิวน้ำโขงกันเล็กน้อย เริ่มหิวข้าวเลยกล่าวอำลาลุงขอขอบคุณที่มาต้อนรับและอธิบายอย่างดีค่ะ
8.กินข้าวร้านอาหารตามสั่ง
เป็นร้านข้างทางหลังออกมาซัก 15 นาที เพราะแถวทางที่ออกมาช่วงแรกๆไม่มีร้านอาหารเลย หิวมาก ลืมถ่ายรูปเลย มื้อนี้
ข้าวผัดไก่ไข่ดาว 40x2 = 80 ฿ ออกหวานและมันไปหน่อย
ต้มยำรวมมิตร (ไก่บ้าน ปลาหมึก เห็ด) = 80 ฿ อันนี้อร่อย
กาแฟ3อิน1 = 10 ฿
ผัวเมียเจ้าของร้านใจดีมาก เห็นเราถามถึงต้นไม้ที่เห็นเขาปลูกตรงสวนครัว เขาก็รีบกุลีกุจอจะหาทั้งดินผสมขี้วัวและต้นกล้าเล็กๆจะให้เรา แต่พอดีไม่มีต้นกล้าเล็กๆ เขาเลยท่าทางผิดหวังที่พูดว่าจะให้ แต่หาไม่ได้ แต่แค่นี้เราก็รู้สึกขอบคุณในน้ำใจเขามากๆค่ะ
9.ราชธานีอโศก
ขับทางยาวจากสามพันโบกมานี่เลย ตอนใกล้ถึงกูเกิลพาหลงในซอยไปหน่อย ตลกที่มีรถหลงมาทางเดียวกันเลย เพราะเห็นเขาเลี้ยวผิดและยูเทินกลับเหมือนเรา 2 ครั้ง คงฟังจากอากู๋เหมือนกัน
กินข้าวกลางวันเป็นอาหารปลอดสารพิษ ราคาถูก
ส้มตำ = 30 ฿
น้ำมะพร้าว = 25 ฿
และซื้อน้ำมาไว้กินตามทางด้วย
น้ำสมุนไพรช่วยระบาย = 10 ฿
น้ำชาเขียว= 10 ฿
น้ำโกโก้ = 10 ฿
กาแฟนมถั่วเหลือง = 10 ฿
เพิ่งรู้ว่าที่นี่จะมีน้ำท่วมเป็นบางปี คนที่นี่ เขาจะปลูกบ้านยกสูงไว้บนเรือกัน พอน้ำท่วมเขาก็จะมีเรือเล็กไว้พายกันบนถนนเลย
10.สวนอุทยานอ.ธงชนะ พรหมมิ ตอนแรกกะจะไปศึกษาดูงาน ไลน์มาถามก่อนจะมาว่าเข้าไปศึกษาดูงานได้ไหม เขาก็ตอบว่ามาได้เลยค่ะ เลยไม่รู้ว่าเราไลน์ไปถึงใครกันแน่ ไม่ได้ตามข่าว ปรากฎว่าอ.ไม่ได้ดูแลที่นี่แล้วเลยอยู่แป๊บเดียวกลับ
11.วัดหนองป่าพง
มีคนแต่งชุดขาวมาปฏิบัติธรรม เดินจงกรมเป็นแถวยาวอยู่ในวัด มีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ชาในวัด ได้ไปกราบหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ชาด้วย รู้สึกขนลุกเหมือนองค์จริงในรูปมากๆ
12.วัดป่านานาชาติ
ข้างในบรรยากาศเงียบสงบ สมกับเป็นวัดป่า มีทั้งฆราวาสและฝรั่งนุ่งห่มขาวเพื่อเตรียมจะบวช ได้เดินดูนิดหน่อยเพราะเย็นแล้ว 16.30
13.สะพานข้ามทุ่งขัวฮักขัวแพง
อยู่วัดบ้านโนนบอน อ.วารินชำราบ เป็นสะพานไม้ไผ่ข้ามทุ่งนา ไปวัดอีกฝั่งได้ เห็นวิวทุ่งนายามเย็น
14.เข้าที่พัก be my guest
ไปถึงก่อน 6 โมงเย็น ลานจอดรถเล็กไปหน่อย จอดได้แค่ 5-6 คัน เป็นอพาทเม้นเล็กๆแต่สะอาดดี เราแจ้งขอเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่ (มีแค่ห้องเดียว) ไว้ก่อนแล้ว ก็จ่ายเพิ่ม 50 ฿ ห้องนี้จะอยู่ชั้นล่างเลย เปิดม่านไปก็เห็นลานจอดรถ ที่ดีงามคือห้องน้ำแยกโซนเปียก/แห้ง ที่นี่ให้การ์ดมาสำหรับรูดเปิดประตูอพาทเม้น ค่ามัดจำการ์ด 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ๊าคืนการ์ด เข้าห้องพักแล้วแม่ให้ช่วยกันกินน้ำสมุนไพรช่วยระบายคนละครึ่งแก้ว เพราะแม่ท้องผูก ปรากฎว่ากลางคืนยันเช้า แม่ลูกเวียนกันเข้าห้องน้ำกันคนละ 3-4 รอบ เข็ดมากๆเพราะมันระบายแบบมวนท้องนี่สิ ถ้าระบายเฉยๆยังรับได้ วันหลังจะไม่กินอีกแล้ว เข็ดขยาดสุดๆ แทนที่จะได้นอนหลับยาวๆ นี่เดี๋ยวปวดท้องลุกเข้าห้องน้ำหลายรอบเลย
รูปจากเพจ be my guest อุบล
วันที่ 3
ออกจากที่พัก 6.30 น.
15.กินข้าวเช้าที่สามชัยกาแฟสาขาตลาดสันติสุข (รู้สึกร้านนี้จะมี 3 สาขา แต่สาขานี้ใกล้ที่พักที่สุด)
ไข่กะทะกับขนมปัง = 40 ฿
ช้าวต้มปลา = 45 ฿
ในตลาดสันติสุข บรรยากาศคึกคัก ของขายเยอะ คนก็มาซื้อเยอะ
16.ขัวน้อยบ้านชีทวน
ห่างไป 20 กว่าโลแต่ในเมืองมีแต่วัดเลยออกไปเลาะตามขอบนอกก่อน ที่นี่จะเป็นสะพานคอนกรีต และยาวกว่าขัวฮักขัวแพง พอเดินจากจุดจอดรถข้ามสะพานไปถึงถนนอีกฝั่งหนึ่งแล้วปรากฏว่ากว้างกว่าฝั่งที่เราจอดเยอะเลย รู้งี้เอารถมาจอดฝั่งนี้ดีกว่า
17.สวนพฤกษศาสตร์ดงฟ้าห่วน (ป่าในเมือง)
อันนี้ไม่ได้แพลนไว้แต่เห็นป้ายตอนระหว่างไปบ้านชีทวน และขากลับต้องผ่านทางนี้ เลยขอจัดซักหน่อย อากู๋ไม่รู้จัก ต้องขับไปตามป้าย "ป่าในเมือง"
เล่นชิงช้าย้อนวัยเด็กสนุก ลมเย็นดี
รถจี๊ปรุ่นเก๋ากึ้กสมัยเริ่มบุกเบิกทำสวนใหม่ๆ
บรรยากาศร่มรื่นดี ไม่มีคนเลย จนท.บอกคนจะมาออกกำลังกายตอนเย็นกัน
18.วัดพระธาตุหนองบัว
ช่างกำลังแกะสลักเทียนพรรษาพอดี เราไปก่อนงานไม่กี่วัน
ที่วัดให้ลองทำเทียนเองด้วย ตอนจุ่มน้ำให้เทียนหลุดออกจากแม่พิมพ์ต้องเขย่าๆ หมุนๆ แรงๆถึงจะหลุด
[img]https://f.ptcdn.info/008/065/000/puobe7faiMeESf3Jx1
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้