1.
ทหารรวมตัวกันรอบ ๆ เปียโนที่ฐานทัพ Meade รัฐ Maryland
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สินค้าทุกชนิดที่ต้องใช้โลหะ เช่น
เหล็ก ทองแดงและทองเหลือง ถ้าไม่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
และไม่มีส่วนในการสนับสนุนการทำสงครามแล้ว จะถูกระงับการผลิตโดยรัฐบาลอเมริกัน
เพราะโลหะเหล่านี้จำเป็นต้องใช้มาก ในการผลิตปืน ปืนใหญ่ รถถังและกระสุน
ผู้ผลิตเครื่องดนตรีหลายโรงงาน ต่างได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบใหม่นี้
นั่นหมายความว่าโรงงานต้องผลิตสินค้า ชนิดที่กองทัพสามารถใช้งานในสงคราม
หรือรอให้สงครามสิ้นสุดก็ค่อยผลิตต่อ หรือถ้าให้ดีเลิกทำธุรกิจไปเลย
Steinway & Sons หนึ่งในผู้ผลิตเปียโนระดับยักษ์ใหญ่ ที่มีจำนวน 4 ราย
Bechstein Blüthner Bösendorfer และ Steinway ที่มา
http://bit.ly/2JuTgIp
Steinway & Sons สืบทอดการผลิตเปียโนมายาวนานถึง 90 ปี
ในเวลาที่เกิดสงครามในยุโรป ทุกโรงงานก็ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเรื่องนี้เช่นกัน
แต่แทนที่ Steinway & Sons จะปิดโรงงานเพื่อรอสงครามสงบไปก่อน
กลับตัดสินใจซื้อเวลาไปก่อน ด้วยการผลิตโลงศพ
และชิ้นส่วนสำหรับเครื่องร่อนขนส่งของทหาร
Baldwin Piano Company ผลิตปีกเครื่องบินทำจากไม้
Gibson Guitar Company ผลิตของเล่นไม้
สินค้าที่กิจการเหล่านี้ผลิตขึ้นมาแทบจะไม่มีกำไร
แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธุรกิจยังเดินหน้าการประกอบการพอมีรายได้บ้าง
แต่ความอดทนของ Steinway & Sons ก็ได้รับรางวัลตอบแทน
เพราะกองทัพสหรัฐได้อนุญาตให้โรงงานสร้างเปียโนทหาร
เพื่อให้หน่วยดุริยางค์ทหารใช้แสดงดนตรีในแนวหลังพื้นที่สนามรบ
ภายในเดือนมิถุนายน 1942 ผู้จัดการโรงงานของ Steinway & Sons
ได้ออกแบบเปียโนขนาดเล็กสูงไม่เกิน 40 นิ้วและหนัก 455 ปอนด์(206 กิโลกรัม)
มีขนาดเบาพอที่จะใช้ทหาร 4 นายจับยกเคลื่อนย้ายไปมา
เปียโนแต่ละหลังจะมีการใช้น้ำยากำจัด/ป้องกันปลวกและแมลง
พร้อมกับทากาวที่ทน/กันน้ำเพื่อป้องกันความชื้นทำลายสภาพกาว
ปุ่มงาช้าง(ที่ดีดเปียโน)ก็ทำมาจากเซลลูลอยด์สีขาว
เพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศในเขตร้อน/ร้อนชื้น
เพราะเปียโนจะต้องใช้ในภาคพื้นสนาม/ขนส่งไปมา
มากกว่าเปียโนที่โดยทั่วไปใช้งานในที่ร่ม/ภายในบ้านพัก
เปียโนรุ่นนี้มีการใช้ขดลวดสายเบสที่ผลิตขึ้นจากเหล็กอ่อนแทนทองแดง
ข้อสำคัญอย่างหนึ่งคือ เปียโนแต่หลังนี้
ใช้โลหะเพียง 33 ปอนด์ประมาณ 1/10 ของเปียโนทั่วไป
Victory Verticals หรือ G.I. pianos คือ ชื่อเปียโนเหล่านี้
ซึ่งจะบรรจุลงในลังไม้ขนาดใหญ่ และทิ้งลงจากเรือบินได้อย่างสะดวก
ด้วยการผูกกับร่มชูชีพพร้อมกับอุปกรณ์ปรับแต่งและเอกสารคำแนะนำในการติดตั้ง
เปียโนประมาณ 2,500 หลังถูกทิ้งให้ทหารอเมริกันในสนามรบถึง 3 ทวีป
2.
ดนตรี คือ เครื่องมือที่มหัศจรรย์และยอดเยี่ยมมาก
ในการป้องกันไม่ให้ทหารเกิดอาการต่าง ๆ
จากภัยสงครามที่น่ากลัวและการคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน
เปียโนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในหน้านี้อย่างยิ่ง
ช่วยหันเหความสนใจต่าง ๆ ของทหารได้นานหลายชั่วโมง
เช่น การศึกษา การบันเทิง การสวดมนตร์ภาวนา
และกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเรื่องนอกราวที่อาจผิดระเบียนทหาร
Kenneth Kranes พลทหารรายหนึ่งได้เขียนจดหมายถึงแม่ที่ New York ว่า
" สองคืนแล้ว ที่พวกเราต่างยินดีกับความบันเทิง
เมื่อรถจี๊ปได้ลากรถพ่วงอีกคันมาที่ค่าย
รถพ่วงคันนี้ติดตั้งระบบไฟฟ้า/แสงเสียง
และมีเปียโน Steinway pianna หนึ่งหลัง
ถ้าแม่เห็นแล้วแม่จะหัวเราะ เพราะรูปทรงและรูปร่าง
ไม่ได้เป็นแบบเปียโน Steinway ของลุง Jake
มันมีขนาดเล็กและทาสีเขียวมะกอกเหมือนรถจี๊ป
พวกเราทุกคนต่างออกมาร่วมสนุก และแน่นอนว่าสนุกสนาน
เพราะหลังมื้อค่ำ พวกเราต่างรวมตัวกันรอบ ๆ เปียโนเพื่อร้องเพลง
ผมนอนหลับทุกคืนพร้อมกับรอยยิ้ม และฮัมเพลงที่เคยร้องเมื่อคืนก่อน ๆ ในตอนกลางวัน "
จดหมายฉบับนี้ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 1943
แต่ Kenneth Kranes เสียชีวิตเพราะกระสุนรถถังนาซีเยอรมัน
Steinway & Sons ยังได้ส่งมอบเปียโนอีก 5,000 หลัง
แต่ไม่ใช่เพื่อกิจการทหารทั้งหมด โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นของกองทัพสหรัฐ
แต่เปียโนส่วนที่เหลือต่างถูกซื้อโดยองค์กรทางศาสนา สถาบันการศึกษา
โรงแรม และสถานที่สาธารณาะสำหรับชุมชนต่าง ๆ ใช้เพื่อการบันเทิง
หลังสงครามสิ้นสุดลงแล้ว
เปียโน Steinway ยังคงรับใช้กองทัพสหรัฐเป็นเวลายาวนานมาก
เมื่อเรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์
USS Thomas A. Edison ถูกสร้างขึ้นในปี 1961
เปียโน Steinway ยังมีการวางไว้ประจำที่รวมพลลูกเรือ
ทั้งนี้ ตามคำขอร้องของผู้บัญชาการเรือดำน้ำ
โดยเปียโน Steinway ได้ประจำการอยู่ในเรือดำน้ำ จนกระทั่งถูกปลดประจำการในปี 1983
ทุกวันนี้ เปียโน Steinway หลังนี้ยังอยู่ที่ศูนย์ประวัติศาสตร์กองทัพเรือ ใน Washington, D.C
เรียบเรียง/ที่มา
3.
เปียนโนที่คลังสินค้า Steinway & Sons.
4.
ร่วมร้องเพลงกับบรรดาทหารในแนวหน้าสนามรบพร้อมกับมือเล่นเปียนโน
5.
วงดนตรี Dance band รวมตัวกันเล่นที่ Philippines
6.
การบรรเลงจาก Music Self entertainment ที่กองพัน 19th Special Field Unit
กำลังเล่นดนตรีในสนามรบ Company of bivouac at Fort Huachuca, AR. June 10th 1943
7.
8.
Guadalcanal. T/4 William Kuehl จากกองพันที่ 10th Special Service Co.
กำลังปรับแต่ง GI pianos ในห้องช่างดนตรีที่ Guadalcanal
9.
Victory Vertical บรรจุในลังขนาดใหญ่พร้อมจะขนส่ง
10.
11/
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.
22.
23.
24.
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
สหรัฐทิ้งเปียนโนจากเรือบินให้ทหารในสนามรบ
เหล็ก ทองแดงและทองเหลือง ถ้าไม่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
และไม่มีส่วนในการสนับสนุนการทำสงครามแล้ว จะถูกระงับการผลิตโดยรัฐบาลอเมริกัน
เพราะโลหะเหล่านี้จำเป็นต้องใช้มาก ในการผลิตปืน ปืนใหญ่ รถถังและกระสุน
ผู้ผลิตเครื่องดนตรีหลายโรงงาน ต่างได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบใหม่นี้
นั่นหมายความว่าโรงงานต้องผลิตสินค้า ชนิดที่กองทัพสามารถใช้งานในสงคราม
หรือรอให้สงครามสิ้นสุดก็ค่อยผลิตต่อ หรือถ้าให้ดีเลิกทำธุรกิจไปเลย
Steinway & Sons หนึ่งในผู้ผลิตเปียโนระดับยักษ์ใหญ่ ที่มีจำนวน 4 ราย
Bechstein Blüthner Bösendorfer และ Steinway ที่มา http://bit.ly/2JuTgIp
Steinway & Sons สืบทอดการผลิตเปียโนมายาวนานถึง 90 ปี
ในเวลาที่เกิดสงครามในยุโรป ทุกโรงงานก็ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเรื่องนี้เช่นกัน
แต่แทนที่ Steinway & Sons จะปิดโรงงานเพื่อรอสงครามสงบไปก่อน
กลับตัดสินใจซื้อเวลาไปก่อน ด้วยการผลิตโลงศพ
และชิ้นส่วนสำหรับเครื่องร่อนขนส่งของทหาร
Baldwin Piano Company ผลิตปีกเครื่องบินทำจากไม้
Gibson Guitar Company ผลิตของเล่นไม้
สินค้าที่กิจการเหล่านี้ผลิตขึ้นมาแทบจะไม่มีกำไร
แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธุรกิจยังเดินหน้าการประกอบการพอมีรายได้บ้าง
แต่ความอดทนของ Steinway & Sons ก็ได้รับรางวัลตอบแทน
เพราะกองทัพสหรัฐได้อนุญาตให้โรงงานสร้างเปียโนทหาร
เพื่อให้หน่วยดุริยางค์ทหารใช้แสดงดนตรีในแนวหลังพื้นที่สนามรบ
ภายในเดือนมิถุนายน 1942 ผู้จัดการโรงงานของ Steinway & Sons
ได้ออกแบบเปียโนขนาดเล็กสูงไม่เกิน 40 นิ้วและหนัก 455 ปอนด์(206 กิโลกรัม)
มีขนาดเบาพอที่จะใช้ทหาร 4 นายจับยกเคลื่อนย้ายไปมา
เปียโนแต่ละหลังจะมีการใช้น้ำยากำจัด/ป้องกันปลวกและแมลง
พร้อมกับทากาวที่ทน/กันน้ำเพื่อป้องกันความชื้นทำลายสภาพกาว
ปุ่มงาช้าง(ที่ดีดเปียโน)ก็ทำมาจากเซลลูลอยด์สีขาว
เพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศในเขตร้อน/ร้อนชื้น
เพราะเปียโนจะต้องใช้ในภาคพื้นสนาม/ขนส่งไปมา
มากกว่าเปียโนที่โดยทั่วไปใช้งานในที่ร่ม/ภายในบ้านพัก
เปียโนรุ่นนี้มีการใช้ขดลวดสายเบสที่ผลิตขึ้นจากเหล็กอ่อนแทนทองแดง
ข้อสำคัญอย่างหนึ่งคือ เปียโนแต่หลังนี้
ใช้โลหะเพียง 33 ปอนด์ประมาณ 1/10 ของเปียโนทั่วไป
Victory Verticals หรือ G.I. pianos คือ ชื่อเปียโนเหล่านี้
ซึ่งจะบรรจุลงในลังไม้ขนาดใหญ่ และทิ้งลงจากเรือบินได้อย่างสะดวก
ด้วยการผูกกับร่มชูชีพพร้อมกับอุปกรณ์ปรับแต่งและเอกสารคำแนะนำในการติดตั้ง
เปียโนประมาณ 2,500 หลังถูกทิ้งให้ทหารอเมริกันในสนามรบถึง 3 ทวีป
ในการป้องกันไม่ให้ทหารเกิดอาการต่าง ๆ
จากภัยสงครามที่น่ากลัวและการคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน
เปียโนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในหน้านี้อย่างยิ่ง
ช่วยหันเหความสนใจต่าง ๆ ของทหารได้นานหลายชั่วโมง
เช่น การศึกษา การบันเทิง การสวดมนตร์ภาวนา
และกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเรื่องนอกราวที่อาจผิดระเบียนทหาร
Kenneth Kranes พลทหารรายหนึ่งได้เขียนจดหมายถึงแม่ที่ New York ว่า
" สองคืนแล้ว ที่พวกเราต่างยินดีกับความบันเทิง
เมื่อรถจี๊ปได้ลากรถพ่วงอีกคันมาที่ค่าย
รถพ่วงคันนี้ติดตั้งระบบไฟฟ้า/แสงเสียง
และมีเปียโน Steinway pianna หนึ่งหลัง
ถ้าแม่เห็นแล้วแม่จะหัวเราะ เพราะรูปทรงและรูปร่าง
ไม่ได้เป็นแบบเปียโน Steinway ของลุง Jake
มันมีขนาดเล็กและทาสีเขียวมะกอกเหมือนรถจี๊ป
พวกเราทุกคนต่างออกมาร่วมสนุก และแน่นอนว่าสนุกสนาน
เพราะหลังมื้อค่ำ พวกเราต่างรวมตัวกันรอบ ๆ เปียโนเพื่อร้องเพลง
ผมนอนหลับทุกคืนพร้อมกับรอยยิ้ม และฮัมเพลงที่เคยร้องเมื่อคืนก่อน ๆ ในตอนกลางวัน "
จดหมายฉบับนี้ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 1943
แต่ Kenneth Kranes เสียชีวิตเพราะกระสุนรถถังนาซีเยอรมัน
Steinway & Sons ยังได้ส่งมอบเปียโนอีก 5,000 หลัง
แต่ไม่ใช่เพื่อกิจการทหารทั้งหมด โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นของกองทัพสหรัฐ
แต่เปียโนส่วนที่เหลือต่างถูกซื้อโดยองค์กรทางศาสนา สถาบันการศึกษา
โรงแรม และสถานที่สาธารณาะสำหรับชุมชนต่าง ๆ ใช้เพื่อการบันเทิง
หลังสงครามสิ้นสุดลงแล้ว
เปียโน Steinway ยังคงรับใช้กองทัพสหรัฐเป็นเวลายาวนานมาก
เมื่อเรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ USS Thomas A. Edison ถูกสร้างขึ้นในปี 1961
เปียโน Steinway ยังมีการวางไว้ประจำที่รวมพลลูกเรือ
ทั้งนี้ ตามคำขอร้องของผู้บัญชาการเรือดำน้ำ
โดยเปียโน Steinway ได้ประจำการอยู่ในเรือดำน้ำ จนกระทั่งถูกปลดประจำการในปี 1983