คือเพื่อนสนิทคนนี้คบมาตั้งแต่ ม.4ค่ะ จนตอนนี้ก็คบกันมา15ปีแล้ว เรารักเพื่อนคนนี้มาก ทนมาตลอด15ปีที่โดนเพื่อนคนนี้พูดจาดูถูกเราในทุกๆด้าน
จนบ้าง หุ่นไม่ดีบ้าง ซื่อบื้อบ้าง ขนาดเราเอ็นท์ติด นางยังบอก "นอกจากเรื่องวิชาการ เมิงโง่ทุกเรื่อง" ทั้งเยาะเย้ยว่า ยังโหนรถเมล์ลำบาก ถ้าเลือกผู้ชายเป็นคงไม่ลำบากขนาดแบบนี้ เราก็ทนมาตลอดเพราะรักเพื่อนคนนี้ที่สุด แต่หลายครั้งอยากเลิกคบเพราะนางไม่เคยเปลี่ยนนิสัยเลยตั้งแต่ ม.4 เคยเลิกคบไปแล้วครั้งนึง ก็ให้อภัยนางไปและบอกข้อเสียให้ปรับปรุง แต่ก็เป็นเหมือนเดิมมาตลอด ..จนครั้งสุดท้ายที่หมดความอดทนคือ นางพาเพื่อนที่ทำงานมางานเลี้ยง แล้วเดินรั้งท้ายเราพร้อมนินทาหุ่นเราหัวเราะตามหลังเรา เราทนไม่ไหว บอกนางว่า จากนี้ไปเลิกคบนะ พอแค่นี้ นางถึงกับด่าเรากลับประมาณว่า "แกรู้มั้ยว่าแกเป็นเพื่อนที่ชั้นรักมาก เอาเรื่องแค่นี้มาเลิกคบกับเพื่อน สักวันชั้นก็จะลืมแกได้เหมือนกัน" หรือเราจะตัดสินใจผิดที่เลิกคบกับเค้า แต่ยอมรับว่าพอได้เลิกคบแล้วสบายใจโล่งใจ รู้สึกเหมือนตัวเองกลับมามีค่าความเป็นคน
เลิกคบเพื่อนที่พูดดูถูกเรามาตลอด 10กว่าปี แต่เพื่อนพูดว่า"แกเป็นเพื่อนที่ชั้นรักมากนะ"
จนบ้าง หุ่นไม่ดีบ้าง ซื่อบื้อบ้าง ขนาดเราเอ็นท์ติด นางยังบอก "นอกจากเรื่องวิชาการ เมิงโง่ทุกเรื่อง" ทั้งเยาะเย้ยว่า ยังโหนรถเมล์ลำบาก ถ้าเลือกผู้ชายเป็นคงไม่ลำบากขนาดแบบนี้ เราก็ทนมาตลอดเพราะรักเพื่อนคนนี้ที่สุด แต่หลายครั้งอยากเลิกคบเพราะนางไม่เคยเปลี่ยนนิสัยเลยตั้งแต่ ม.4 เคยเลิกคบไปแล้วครั้งนึง ก็ให้อภัยนางไปและบอกข้อเสียให้ปรับปรุง แต่ก็เป็นเหมือนเดิมมาตลอด ..จนครั้งสุดท้ายที่หมดความอดทนคือ นางพาเพื่อนที่ทำงานมางานเลี้ยง แล้วเดินรั้งท้ายเราพร้อมนินทาหุ่นเราหัวเราะตามหลังเรา เราทนไม่ไหว บอกนางว่า จากนี้ไปเลิกคบนะ พอแค่นี้ นางถึงกับด่าเรากลับประมาณว่า "แกรู้มั้ยว่าแกเป็นเพื่อนที่ชั้นรักมาก เอาเรื่องแค่นี้มาเลิกคบกับเพื่อน สักวันชั้นก็จะลืมแกได้เหมือนกัน" หรือเราจะตัดสินใจผิดที่เลิกคบกับเค้า แต่ยอมรับว่าพอได้เลิกคบแล้วสบายใจโล่งใจ รู้สึกเหมือนตัวเองกลับมามีค่าความเป็นคน