บริการระบบขนส่งเสริม หรือ Feeder System (ฟีดเดอร์) เป็นการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในการเชื่อมการเดินทางในพื้นที่ ให้สามารถป้อนผู้โดยสารเข้าสู่สถานีรถไฟความเร็วสูงได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ทั้งรถเมล์ รถสองแถว หรือรถตู้, โมโนเรล และการขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ดังนั้น เมื่อมีระบบฟีดเดอร์ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้ามาใช้ระบบรถไฟความเร็วสูง จะทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการมีตัวเลือกที่จะเดินทางมายังสถานี และเมื่อคำนึงถึงความประหยัดเวลา ก็จะยิ่งทำให้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยิ่งได้รับความนิยมในการเดินทาง และมีโอกาสเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มากขึ้นไปด้วย
"สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้กำหนดให้ผู้ชนะประมูลเป็นผู้กำหนดที่ตั้งสถานีสถานีรถไฟความเร็วสูง ตั้งแต่สถานีฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาและศรีราชา ส่วนสถานีต้นทางจากดอนเมือง-สุวรรณภูมิใช้โครงสร้างของแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ อยู่แล้ว
การกำหนดให้เอกชนเป็นผู้เลือกที่ตั้งสถานีเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งเอกชนจะเลือกที่ตั้งสถานีที่ใกล้ชุมชนเป็นหลัก แต่ประชาชนในชุมชนที่รถไฟความเร็วสูงต้องเข้าถึงได้ ซึ่งกำหนดให้มีระบบฟีดเดอร์เป็นระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อขนคนเข้าสู่ระบบรถไฟความเร็วสูง โดยมีการกำหนดไว้หลายรูปแบบ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้าโมโนเรล รถไฟฟ้ารางเบาระดับพื้นดิน (แทรม) และหลังจากนี้จะมากำหนดรูปแบบว่าใครจะเป็นผู้ลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรอง"
•
ข้อเสนอจากเมืองพัทยา ให้มีการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลหรือแทรมเป็นระบบขนส่งรอง เพื่อเชื่อมตัวเมืองพัทยากับสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา
•
ข้อเสนอจากเมืองระยอง ให้มีการลงทุนรถไฟฟ้าโมโนเรล จากสถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภาเข้าไปตัวเมืองระยอง ระยะทาง 20-30 กิโลเมตร กำหนดสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรลไว้ 4 สถานี
ทั้งนี้ ภาครัฐประเมินว่าระบบขนส่งมวลชนรองจะใช้งบประมาณไม่มาก เพราะเทคโนโลยีการก่อสร้างรถไฟฟ้ามีความก้าวหน้ามาก โดยบริษัท BYD ที่สนใจมาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย และเป็นบริษัทที่เข้าไปลงทุนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในหลายประเทศ และมีการประเมินต้นทุนการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลขณะนี้ถูกกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินถึง 3 เท่า
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
EEC - Feeder System เชื่อมรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน
ดังนั้น เมื่อมีระบบฟีดเดอร์ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้ามาใช้ระบบรถไฟความเร็วสูง จะทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการมีตัวเลือกที่จะเดินทางมายังสถานี และเมื่อคำนึงถึงความประหยัดเวลา ก็จะยิ่งทำให้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยิ่งได้รับความนิยมในการเดินทาง และมีโอกาสเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มากขึ้นไปด้วย
การกำหนดให้เอกชนเป็นผู้เลือกที่ตั้งสถานีเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งเอกชนจะเลือกที่ตั้งสถานีที่ใกล้ชุมชนเป็นหลัก แต่ประชาชนในชุมชนที่รถไฟความเร็วสูงต้องเข้าถึงได้ ซึ่งกำหนดให้มีระบบฟีดเดอร์เป็นระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อขนคนเข้าสู่ระบบรถไฟความเร็วสูง โดยมีการกำหนดไว้หลายรูปแบบ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้าโมโนเรล รถไฟฟ้ารางเบาระดับพื้นดิน (แทรม) และหลังจากนี้จะมากำหนดรูปแบบว่าใครจะเป็นผู้ลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรอง"
• ข้อเสนอจากเมืองพัทยา ให้มีการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลหรือแทรมเป็นระบบขนส่งรอง เพื่อเชื่อมตัวเมืองพัทยากับสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา
• ข้อเสนอจากเมืองระยอง ให้มีการลงทุนรถไฟฟ้าโมโนเรล จากสถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภาเข้าไปตัวเมืองระยอง ระยะทาง 20-30 กิโลเมตร กำหนดสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรลไว้ 4 สถานี
ทั้งนี้ ภาครัฐประเมินว่าระบบขนส่งมวลชนรองจะใช้งบประมาณไม่มาก เพราะเทคโนโลยีการก่อสร้างรถไฟฟ้ามีความก้าวหน้ามาก โดยบริษัท BYD ที่สนใจมาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย และเป็นบริษัทที่เข้าไปลงทุนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในหลายประเทศ และมีการประเมินต้นทุนการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลขณะนี้ถูกกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินถึง 3 เท่า
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ