SINGER ขึ้นมาจาก 6 บาท เป็น 9 บาทรวดเดียว 50% ไม่พักเลย
ประเด็นน่าจะมาจากธุรกิจ Car 4 Cash(C4C) ตัวใหม่ที่บริษัทเริ่มทำมาได้ 2 ปี
ซึ่งพอร์ตหนี้รวม(C4C+Hire purchase)
มีอยู่ประมาณ 3400 ล้าน ตอนมัน 8.6 บาท Mkt cap ก็ประมาณ 3400 ล้านเรียบร้อย
ราคาหุ้นน่าจะเต็มมูลค่าเเล้วนะ
วันนี้ลากมา 9 บาท แสดงว่า คนคงหวังว่าจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อีกแน่ๆ
โดยใช้เงินจากที่เพิ่มทุนไป บวกกับ warrant และ หุ้นกู้ ซึ่งตรงนี้ถ้าตามที่บอกคือ
gearing 3:1 จะเพิ่มพอร์ตได้โตอีกเยอะมากๆเลยแหละ.
เอาจริงๆพอร์ตหนี้ตอนนี้
C4C นี้สัดส่วน 50/50 กับ ผลิตภัณฑ์ซิงเกอร์ดั้งเดิมเเล้ว
ในอนาคตสัดส่วน C4C น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน SINGER แทบจะไม่ใช่ซิงเกอร์แบบที่เราเคยรู้จักเเล้ว
(ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่จะเป็นแนวๆบริษัทปล่อยเงินกู้แบบ SAWAD, MTC ไรแบบนี้)
แต่ผมว่าคำถามสำคัญคือตอนนี้ปล่อยกู้กันอย่างสนุกสนานจะปล่อยได้อีกนานเท่าไหร่???
อย่างที่ผมเข้าใจคือคนที่ทำ C4C คือคนที่กู้แบงค์ไม่ได้แสดงว่าเงินน่าจะมีปัญหาการเงินระดับนึงอยู่เเล้ว
ผมกลัวว่า NPL จากที่ต่ำๆ อยู่พอมาถึงจุดนึง มันจะพุ่งขึ้นแบบจรวดเลยนี่สิ
SINGER ขึ้นแรงจริงๆ
ประเด็นน่าจะมาจากธุรกิจ Car 4 Cash(C4C) ตัวใหม่ที่บริษัทเริ่มทำมาได้ 2 ปี
ซึ่งพอร์ตหนี้รวม(C4C+Hire purchase)
มีอยู่ประมาณ 3400 ล้าน ตอนมัน 8.6 บาท Mkt cap ก็ประมาณ 3400 ล้านเรียบร้อย
ราคาหุ้นน่าจะเต็มมูลค่าเเล้วนะ
วันนี้ลากมา 9 บาท แสดงว่า คนคงหวังว่าจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อีกแน่ๆ
โดยใช้เงินจากที่เพิ่มทุนไป บวกกับ warrant และ หุ้นกู้ ซึ่งตรงนี้ถ้าตามที่บอกคือ
gearing 3:1 จะเพิ่มพอร์ตได้โตอีกเยอะมากๆเลยแหละ.
เอาจริงๆพอร์ตหนี้ตอนนี้
C4C นี้สัดส่วน 50/50 กับ ผลิตภัณฑ์ซิงเกอร์ดั้งเดิมเเล้ว
ในอนาคตสัดส่วน C4C น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน SINGER แทบจะไม่ใช่ซิงเกอร์แบบที่เราเคยรู้จักเเล้ว
(ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่จะเป็นแนวๆบริษัทปล่อยเงินกู้แบบ SAWAD, MTC ไรแบบนี้)
แต่ผมว่าคำถามสำคัญคือตอนนี้ปล่อยกู้กันอย่างสนุกสนานจะปล่อยได้อีกนานเท่าไหร่???
อย่างที่ผมเข้าใจคือคนที่ทำ C4C คือคนที่กู้แบงค์ไม่ได้แสดงว่าเงินน่าจะมีปัญหาการเงินระดับนึงอยู่เเล้ว
ผมกลัวว่า NPL จากที่ต่ำๆ อยู่พอมาถึงจุดนึง มันจะพุ่งขึ้นแบบจรวดเลยนี่สิ