ผิดไหม ที่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเด็ก

กระทู้คำถาม
เรากับแฟนแต่งงานกันมา3ปีพยายามมีลูกด้วยกันถึงขั้นไปปรึกษาแพทย์ก็ไม่สำเร็จ ผลตรวจแฟนมีภาวะหมัน 80% ซึ่งสร้างความสงสัยและสับสนกับเราสองคนมาก เพราะก่อนคบหากันแฟนเคยไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงขายบริการ3ครั้งทำไมมีลูกได้ง่ายจัง  ก่อนหน้านั้นแฟนเราเคยคบหามีสัมพันธ์กับแฟนเก่าตลอดระยะเวลา5ปีโดยไม่ป้องกันก็ไม่เคยท้องสักที เรากับแฟนเลยพากันกลับไปดูสมุดฉีดวัคซีนซึ่งมีประวัติการตั้งครรภ์พบว่าผู้หญิงคนนั้นท้อง3เดือนกว่าแล้ว เพื่อความมั่นใจเรากับแฟนพากันไปขอคำปรึกษากับพยาบาลและหมอที่รับฝากครรภ์และทำคลอดเด็ก ได้รับคำยืนยันว่าหากนับจากรอบเดือนกับวันที่แฟนเรามีสัมพันธ์ด้วย เด็กไม่ใช่ลูกแน่นอนแต่เพื่อความชัดเจนทางโรงพยาบาลแนะนำตรวจdna แฟนจึงโทรไปหายายของเด็กเนื่องจากไม่เคยติดต่อกับแม่ของเด็กให้ช่วยมาตรวจdnaร่วมกัน แต่แม่เด็กไม่ยินยอมอ้างเหตุสารพัดจนต้องร้องขอต่อศาลถึงได้ตรวจ แต่แม่เด็กยอมรับสารภาพในชั้นสอบสวนของเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯว่ารู้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่พ่อของเด็ก แต่ที่ให้ใส่ชื่อพ่อในสูติบัตรแฟนเรายินยอมเอง และในส่วนที่เคยรับรองบุตรแม่ของเด็กให้การเท็จอ้างว่าไม่เคยมีสัมพันธ์กับใครตอนหลังกลับคำให้การณ์ว่าไม่รู้ว่าเด็กเป็นลูกใครเพราะขายบริการไม่ต่ำกว่า3คนใน1วัน (ตอนแรกยายของเด็กข่มขู่เราสองคนมาก ทั้งทางโซเชียลและทางครอบครัวแฟน อ้างจะฟ้องว่าเรา2คนหมิ่นประมาทว่าดูถูกลูกเขาที่คิดว่าเด็กไม่ใช่ลูก สุดท้ายมาบอกแม่แฟนเราว่าถ้าตรวจแล้วใช่จะขอค่าเลี้ยงดู ถ้าไม่ใช่จะขอค่านอน3ครั้งนั้น) พอศาลนัดพิพากษาฟังผลตรวจปรากฎไม่ใช่ลูกของแฟนเราจริงๆ ศาลมีคำสั่งให้คัดชื่อออกจากการเป็นพ่อของเด็กและถูกถอนการรับรองบุตรแต่ไม่ถูกตั้งข้อหาใส่ชื่อบิดาเพราะถูกหลอก
  จริงๆ ตอนแรกก็สงสารเด็กนะ เพราะแรกๆที่เจอกันเด็กก็น่ารักนิสัยดี หลังๆ มายายของเด็กคงสอนให้เกียจชังต่อต้านแอบทำร้ายเราลับหลังแฟน นิสัยก้าวร้าวขึ้น  ตอนแรกแฟนเราไม่เชื่อ จนต้องแอบถ่ายคลิปให้แฟนดูถึงเชื่อเพราะเด็กจะก้าวร้าวใส่เราเวลาลับหลังแฟนเท่านั้น  แฟนตัดสินใจไปบอกยายของเด็กว่าอย่าสอนแบบนั้น เราเองก็ไม่สามารถรับนิสัยแบบนั้นได้  แฟนมาพูดกับเราว่าพ่อแฟนขอให้เรารับเด็กเป็นลูกบุญธรรม เราเลยให้เงื่อนไขไปว่าจะรับก็ต่อเมื่อแม่และยายออกจากชีวิตเด็กไปและเซ็นสัญญาไว้ด้วย หากวันไหนคิดเอาคืนต้องคืนเงินทั้งหมดที่เราได้จ่ายเลี้ยงดูเด็กคนนี้มา แล้วเราจะเลี้ยงเยี่ยงลูกเรา  เรากับแฟนจะยกเลิกการทำเด็กหลอดแก้ว แต่ทางยายเด็กไม่ยินยอม งั้นเราก็ขอปฏิเสธเพราะเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร ต้องมีภาระดูแลครอบครัวกันอยู่ แฟนเงินเดือนแค่หมื่นสอง เราก็ยังต้องอาศัยเงินกงสีครอบครัวอยู่ ถ้ายกให้ทางครอบครัวเราก็ยินยอมจะช่วยจ่ายค่าเลี้ยงดูช่วย พ่อแฟนโกรธเรามาก เราเลือกที่จะนิ่งไม่สนใจ ซึ่งแฟนเราก็เข้าใจเราก็พอแล้ว เพราะก่อนตรวจเราได้ตกลงกันด้วยดีกับครอบครัวแฟนแล้วว่าถ้าใช่เรายินดีช่วยค่าเลี้ยงดูจนจบปริญญาตรี ถ้าไม่ใช่เรากับแฟนขอถอนตัว เรากับแฟนต้องเก็บเงินไปทำเด็กหลอดแก้วเพื่อทายาทของเราสองคนจริงๆ พ่อแฟนก็ยินยอม แต่สุดท้ายกลับคำสัญญา (หลังจบคดีนี้แม่ของเด็กก็คลอดลูกอีกคนก็ไปหลอกผู้ชายคนนั้นโดนเหมือนแฟนเราอีก)  

#แม่และยายของเด็กมีอาชีพไม่ต่างกัน ยายของเด็กจะทำหน้าที่บงการชีวิตแม่ของเด็ก แล้วคุณคิดว่าถ้าเด็กโตมาถูกแม่และยายสอนวิธีแบบเดียวกันจะเกิดอะไรขึ้น
 
#เราอยากแชร์ประสบการณ์ชีวิตจริงแย่ๆ เผื่อใครเจอแบบเราบ้าง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คือไม่ควรตั้งแต่ไปรับผิดชอบเด็กที่เกิดจากการซื้อบริการแล้วไหม
ทำงานบริการแต่ไม่ป้องกันตัวเองแล้วจะโทษใครได้อะ

แล้วพอตรวจมาแล้วว่าไม่ใช่ลูก ยังจะหาเรื่องใส่ตัวไปรับเป็นบุตรบุญธรรมอีก
งงกับตรรกะ คุณ แฟนคุณ และบ้านแฟนคุณมาก

สรุปเด็กคนนี้ "จำเป็น" ต้องมาอยู่ในชีวิตพวกคุณตรงไหนเรายังไม่เข้าใจเลย
รับรองว่าปัญหาจากแม่และยายเด็กตามมาอีกเพียบ
ถ้าอยากมีลูกมาก ไปขอเด็กจากสถานสงเคราะห์ที่ไร้ญาติขาดมิตรไปเลยจะดีกว่ามั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่