"กุยบุรีที่ไม่ได้มีแค่ช้าง" .....


วันนี้จะมารีวิวทริปแบกเป้ไปดูช้างป่าที่กุยบุรีค่ะ
เรากับเพื่อนคุยกันว่าอยากไปเที่ยวป่าแบบใกล้ๆกรุงเทพฯ แบบ 2 วัน 1 คืนพอ
แต่โจทย์คือไม่ขับรถไปนะ อยากแบกเป้ไป ไม่เอาเขาใหญ่เพราะเบื่อแล้ว เขาค้อก็ไกลไป
พะเนินทุ่งไม่มีรถก็ไปลำบาก คุยไปคุยมาก็มาลงตัวที่กุยบุรีค่ะ รู้แค่ว่ามีช้าง
มีป่า โอเค ปิดดีล ไปดูช้างที่กุยบุรีกัน !
.
.
เราโทรไปถามพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯมา คือสามารถนั่งรถตู้ประจวบฯ
ไปลงที่แยกกุยบุรีได้ แล้วนั่งวินมอเตอร์ไซค์จากสี่แยกขึ้นไปที่อุทยาน
แล้วก็ไปจ้างรถไกด์ท้องถิ่นชมสัตว์ป่า กางเต้นท์นอนที่อุทยานได้เลย ...
ข้อมูลแน่นมาก พร้อม !
.
.
เอาล่ะ ถึงวันเดินทาง นัดเจอกัน 6 โมงเช้าที่อนุสาวรีย์ฯ
.............. โอ้โห รถตู้มันเลิกวิ่งเข้าอนุสาวรีย์ไปเป็นปีแล้วมั้ย !!!!!!!!!!! 
ยังไม่ทันไปไหนทริปก็ทำท่าจะล่มแล้วแม่ !!!!
บึ่งแท็กซี่จากอนุสาวรีย์ไปสายใต้ใหม่ทันรถตู้รอบ  7 โมงพอดี ค่ารถตู้คนละ 250 บาทค่ะ
นั่งมาลงแยกกุยบุรี บอกพี่คนขับตั้งแต่ขึ้นรถ พี่เค้าจะจอดให้เราตรงสี่แยกพอดี
เราใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงกุยบุรีค่ะ  เพราะพี่แกแวะทุกครึ่งชั่วโมง

(ส่วนขากลับสามารถโทรจองล่วงหน้ากับพี่คันเดิมได้เลยนะคะ
เดี๋ยวเค้าจะบอกเราเองว่ารถเราทะเบียนอะไร)
.
.

ถ้าตามแพลนที่วางไว้เราก็จะนั่งวินมอเตอร์ไซค์จากตรงนั้นขึ้นไปได้เลยใช่มั้ยคะ

............. แต่ Plan Is No Plan อ่ะค่ะ รถมอเตอร์ไซค์ไม่ไปค่ะ !!!!!!!!!!!

ชิ_หายแล้ว !!!

.
.

 โอ้โหหห

เดือดร้อนต้องโทรเข้าอุทยานฯอีกรอบ

แล้วประเด็นคือพี่คนที่คุยกับเราวันก่อนไม่อยู่ด้วยค่า งานเข้าแล้วมั้ย
เรากับเพื่อนเลยต้องให้พี่ที่อุทยานฯ เค้าช่วยหารถลงมารับเรากับเพื่อน
สรุปคือมีพี่ที่เค้าออกเวรพอดี เค้าเลยอาสาลงมารับ ก็เลยช่วยค่าน้ำมันพี่เค้าไป
.
.

เชื่อมั้ยคะว่าจากแยกกุยบุรีเข้าไปตัวอุทยานฯอ่ะ
ไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไกลจนเข้าใจเลยว่าทำไมพี่วินมอเตอร์ไซค์ไม่วิ่ง
นั่งรถไปเกือบชั่วโมงอ่ะค่ะกว่าจะถึง 
.
.
.
แต่ในที่สุดก็มาถึงจนได้ค่ะ