☁︎ HUAHIN : 10 ที่เที่ยววิวธรรมชาติสวยๆ รอบหัวหิน



นอกจากหัวหินจะมีทะเลที่สวยมากแล้วอย่างที่เคยรวบรวมไว้ใน เปรียบเทียบทะเลหัวหิน 12 เดือน
รอบๆ หัวหินยังมีที่เที่ยววิวธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งมีภูเขาให้ปีน มีป่าเขียวๆ ให้ส่องสัตว์ มีวาฬในทะเล มีบึง มีนา มีดอกไม้ พริมสะสมที่เที่ยวรอบๆ ไว้เยอะเพราะแวะไปนู่นนี่ทุกครั้งที่ไปหัวหิน แต่ขอคัดแค่ 10 ที่ที่ประทับใจที่สุดเอามาแนะนำในบทความนี้นะคะ บางที่ทุกคนอาจจะเคยไป แต่คิดว่าการไปต่างช่วงเวลากันก็อาจให้ภาพที่แตกต่างได้

บทความนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการไปเที่ยวหัวหินให้หลากหลายขึ้น หรือคนที่กำลังเบื่อเวลาเพื่อนชวนไปเพราะรู้สึกไม่เห็นมีอะไรเที่ยวเลย ต่อจากนี้จะมีแล้วนะคะ หลายสถานที่อยู่นอกหัวหินก็จริง แต่สามารถไปแล้วกลับมานอนหัวหินได้สบายเหมือนเป็น one day trip ตัวพริมเองก็เลือกนอนหัวหินตลอด เพราะตอนกลางคืนคึกคัก มีอาหารให้เลือกหลากหลายดี

1. เขาแดง สามร้อยยอด
2. ดูวาฬ ดูนา แหลมผักเบี้ย
3. ซาฟารีในป่ากุยบุรี
4. เขื่อนปราณบุรี
5. บึงบัว ทุ่งสามร้อยยอด
6. วนอุทยานปราณบุรี
7. วนอุทยานท้าวโกษา
8. เขาหินเหล็กไฟ
9. วานานาวาสกาย จุดชมวิวที่สวยและสูงที่สุดในหัวหิน** 
10. หาดหัวหินที่สวยตลอดปี**

**เนื้อหาหลักของบทความนี้ คือการแนะนำแบ่งปันสถานที่ที่คัดมาแล้ว ไม่ใช่การรีวิวรายที่แบบละเอียด โดยพริมเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว รวมถึงค่าที่พักในหลายๆคืนเองทั้งหมด ยกเว้น 2 ข้อสุดท้ายที่เป็นวิวจากที่พักที่ได้รับการสนับสนุนมาอีกทีค่ะ (SR) แต่เอามารวมเพราะวิวสวยจริง เดี๋ยวจะแยกลิ้งรีวิวแบบเต็มๆของ InterContinental Huahin และ Holiday Inn Vana Nava Huahin เพื่อให้ในนี้เน้นวิวเป็นหลัก

  
 

 


1. เขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด

 
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาแถวเขาแดงแล้วเห็นแอ่งน้ำสีฟ้าๆ แดงๆ ท่ามกลางพื้นดินที่แห้งแตก 
ไม่รู้เพราะมีแร่ธาตุอะไรบางอย่างแบบน้ำที่ฟลามิงโก้ชอบอยู่รึเปล่า 
 
เมื่อขับต่อมาอีกนิดก็จะถึงเขาแดง หรือภูเขาหินสีเทาเข้มที่ตั้งตรงหน้าจะดูสูงชันจนไม่น่าเชื่อว่าจะเดินขึ้นไปได้ แต่ทางเดินจริงๆ ไม่ยาก มีแค่บางช่วงจะงงๆ หน่อยเพราะป้ายบอกทางปักห่างกัน เมื่อเดินถึงจุดที่มีเชือกให้ไต่เกาะนั่นคือเพิ่ง 1/4 ของทางขึ้นนะคะ ช่วงไหนหินก้อนสูงใหญ่เราก็อาศัยจับต้นไม้โหนขึ้นลงช่วยทุ่นแรงได้ ส่วนตอนลงช่วงที่ชัน พริมก็นั่งถัดๆ ลงมาเพราะมันเร็วกว่า ปรากฏกางเกงขาดเป็นรูเท่ากำปั้น 😳 แสดงว่าวิธีนี้ไม่ควรทำ 55

ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้นก็ขึ้นไปถึงด้านบนได้สำเร็จ บนนี้ไม่มีต้นไม้สูงพอจะให้ร่มเงาได้อีกแล้ว ความร้อนอบอ้าวและแดดเที่ยงเล่นเอาตาพร่าจนเกือบเป็นลม สุดท้ายจึงต้องขยับลงมานอนพักใต้ต้นไม้ให้หายดีแล้วขึ้นไปใหม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือกลางฤดูฝนจริงๆ ดินรอบตัวที่พริมนอนอยู่แห้งจนแตก ใบไม้ที่แห้งกรอบที่อยู่รอบๆ นิ่งสนิท ไม่มีแม้ลม ถึงว่าตอนเที่ยงไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย 😅
จากจุดชมวิวบนยอดเขาแดงนี้ วิวแรกที่เห็นคือทะเลค่ะ และเมื่อเดินอ้อมพุ่มไม้ลอดไปด้านหลัง ก็จะเจอกับแนวเขาหลายร้อยยอด มีทั้งที่อยู่ใกล้และไกล ไล่ต่ำลงมาก็จะเป็นบล็อคนากุ้ง แต่ละหลุมสีฟ้าคนละเฉดสวยดี แล้วล่างสุดเป็นกลุ่มหมู่บ้านชาวประมงที่ดูเล็กจิ๋วไปเลยเมื่อเทียบกับธรรมชาติ
       🚗  :  เขาแดง 60 กม.จากหัวหิน ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
       📆  :  เที่ยวได้ทั้งปี เปิด 8.00-15.30 ช่วงสวยสุดคือตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก อยู่นอกเวลาทำการ แต่ขึ้นได้ถ้าติดต่อเจ้าหน้าที่มาล่วงหน้า
       ⏰  :  ใช้เวลาเดินขึ้นลงไปกลับรวม 1 ชั่วโมง
       💰  :  ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท ใช้ได้ทุกที่ทั้งวัน ต้องจ่ายที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่เยื้องไปก่อนเดินขึ้น
 
 
 
 
 

2. แหลมผักเบี้ย ดูวาฬ ดูนา

 
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปดูวาฬบรูด้า (Bryde) ที่สมุทรสงคราม เพราะขับรถเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพเท่านั้น แต่มารู้ทีหลังว่าเรือจากที่นี่ต้องเหมาทั้งลำ แต่ถ้าไปขึ้นที่แหลมผักเบี้ย เพชรบุรี สามารถจ่ายเป็นรายหัวได้ ทริปนี้จึงขับรถยาวไปแหลมผักเบี้ยแทนค่ะ ห่างจากหัวหินชั่วโมงเดียว สามารถแวะดูวาฬแล้วตรงต่อไปเที่ยวหัวหินได้เลย ระหว่างทางยังได้เที่ยว สวนตาล และทุ่งนาด้วย

อากาศยามเช้าบนเรือค่อนข้างหนาว ยิ่งเรือแล่นเร็วๆ จนน้ำทะเลสาดขึ้นมาเปียกไปทั้งตัวก็ยิ่งหนาวใหญ่ 
เมื่อมีเรือลำไหนเจอวาฬก่อน เค้าก็จะส่งสัญญาณบอกพิกัดให้กัน จึงไม่ยากเลยที่ทุกลำจะได้เห็นบรูด้า เดี๋ยวดำตรงนู้น ไปโผล่ตรงนั้น เรือเป็นสิบลำก็ได้แต่แล่นตามวนไปวนมา มีครั้งนึงที่กำลังหาๆ กันอยู่ว่าหายไปไหนแล้ว มันกลับโผล่ขึ้นมาข้างเรือที่พริมนั่ง เพิ่งจะเข้าใจว่าอาการตกใจจนหงายหลังมันเป็นแบบนี้นี่เอง 55 ตัวใหญ่กว่าเรืออีก 

       🚗  :  ท่าเรือแหลมผักเบี้ย 60 กิโลเมตรจากหัวหิน  ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
       📆  :  ปีนึงดูวาฬได้แค่ 4 เดือนสุดท้ายของปี คือกันยายน-ธันวาคม เรือออก 8 โมงเช้า
       ⏰  :  ปกติใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่เจอวาฬก็จะพาหาไปเรื่อยๆ ของพริมไป 7 ชั่วโมง
       💰  :  ค่าเรือพร้อมอาหารเช้าเที่ยงคนละ 800 บาท หรือเหมาลำไม่รวมอาหาร 5300 บาท


จริงๆ ตั้งใจจะถ่ายรูปวาฬมาลงในนี้ให้เป็น 1 ใน 10 ที่เที่ยววิวสวย แต่เพราะวันนั้นคลื่นลมแรง พวกมันเลยโผล่ขึ้นมาแค่หลัง ไม่มีแม้แต่รูปวาฬอ้าปากกินลูกปลา ข้อนี้เลยขอแถมวิวจากทุ่งนาที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือเข้าไปด้วย พริมขับรถผ่านไปตอนเช้าแล้วประทับใจมาก ทุ่งนาเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียวอ่อน ดูสดชื่นภายใต้ท้องฟ้าและหมอกสีส้มอ่อน ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะพินจุดมาบอกยังไงดี เพราะตัวเองก็แวะตามรายทาง จนบังเอิญขับผ่านร้านกาแฟริมทุ่งนาเข้าพอดี คือ นาตาชม และนาตามี รวมถึงสวนตาลลุงถนอมด้วยค่ะ

แนะนำขับรถเที่ยวชมทุ่งนายามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วพอ 8 โมงเช้าร้านเปิดค่อยแวะไป ไปแต่เช้าจะได้ไม่ต้องเจอนักท่องเที่ยวคนอื่น เงียบสงบดี ถ้าเลือกไปได้ที่เดียว ส่วนตัวจะเลือกนาตาชมค่ะ 
- นาตาชม : ขนาดเล็กกว่าและไม่ได้โล่งกว้างเท่า เพราะมีต้นตาลขึ้นแซม แต่มันดูเป็นเพชรบุรีดี สถานที่กะทัดรัดจัดสรรสวยกว่าด้วย
- นาตามี : ทุ่งนากว้างขวาง มีศาลาให้นั่งปลูกเรียงรายอยู่โดยรอบ แต่ตามคันนาและศาลามีขยะจากลูกค้าเมื่อคืนทิ้งไว้เละเขละไปนิด 
       🚗  :  นาตาชมและนาตามี  70 กิโลเมตรจากหัวหิน  ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
       📆  :  เที่ยวได้ทั้งปี แต่นาข้าวจะเขียวสวยช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน (หากปีนั้นทำนาปรังต้นปีก็จะเขียวอีกที) เปิด 8:00-18:00 
       ⏰  :  อย่างน้อยน่าจะซัก 30 นาที
       💰  :  ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ

 
 

 

3. ซาฟารีส่องสัตว์ในป่ากุยบุรี

 
มากุยบุรีทีไรก็เจอสัตว์ใหญ่ในป่าทุกที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผืนป่ากุยรีค่อนข้างเล็ก สัตว์กินพืชอย่าง ช้าง กระทิง จึงขยายเอาๆ  พริมมาที่นี่ 3-4 ครั้งแล้วก็ยังประทับใจและยังอยากกลับมาอีก ได้เจอสัตว์หลายตัวและได้ความรู้ใหม่ๆ จากสมาชิกบนรถด้วย ไม่ว่าจะมาหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว ป่ากุยบุรีก็ยังเป็นสีเขียวสดใสและเห็นสัตว์ป่าได้เสมอ
  
ครั้งล่าสุดพริมไปคนเดียวเลยนั่งรอหาคนหารอยู่ข้างหน้าตั้งแต่บ่าย เพราะเคยมาเย็นแล้วไม่มีคนให้หาร ระหว่างรอก็คุยกับน้องเจ้าหน้าที่ไปพลางๆ จึงได้รู้ว่าไกด์และคนขับเป็นชาวบ้านในบริเวณนี้ที่เคยเจอปัญหาสัตว์ป่าบุกรุกพื้นที่ไร่สวนมาก่อน แต่เมื่อได้มารวมกลุ่มกันเป็นชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี เลยเหมือนได้เข้าใจสัตว์ป่ามากขึ้น ได้รายได้จากการพานักท่องเที่ยวเข้าไปด้วย ปัญหาระหว่างสัตว์ป่าและชาวบ้านเลยลดลง น้องเจ้าหน้าบอกด้วยว่าป่านี้มีช้างอยู่ราว 300 ตัว กระทิงประมาณ 250 ตัว วัวแดงที่ชอบรวมฝูงกับกระทิงอีก 7 ตัว เสือก็มีบ้างแต่ชอบข้ามออกไปหากินฝั่งพม่า ส่วนช้างกระทิงไม่ย้ายไปไหนเพราะอาหารการกินยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่ พริมลองถามว่าช้างลดลงมั้ย เพราะชอบได้ยินข่าวเรื่องสัตว์ป่าเหลือน้อยบ่อยๆ แต่กลายเป็นว่าช้างป่าในกุยบุรีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยซ้ำ ในอีกไม่ถึงสิบปีอาจเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ปัญหาใหญ่สุดตอนนี้เลยเป็นเรื่องเลือดชิดค่ะ นี่ก็ไม่คิดเลยว่าเย็นวันนั้นเมื่อเข้าป่าไปก็จะได้เห็นผลพวงนี้กับตา
  
เราจะเข้าป่าไปยาวๆ อยู่จนถึง 5-6 โมงเย็นที่เค้าปิดก็ได้ หรือจะดูชั่วโมงเดียวแล้วกลับเลยก็แล้วแต่ รถซาฟารีหรือรถกระบะที่มีไม้พาดให้นั่งพาเราวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อไปยังจุดชมวิวหลัก 3 จุด แต่ถ้าระหว่างทางเจอสัตว์ก็บอกให้คนขับช่วยหยุดได้ เมื่อเข้ามาได้สักพักก็เจอกับช้างหนุ่มตัวใหญ่ออกมาเดินอยู่ริมทาง รวมถึงกระทิงฝูงใหญ่กว่า 50-60 ตัวพร้อมลูกเล็กและวัวแดงออกมากินหญ้า แถมยังเจอกระทิงโทน เก้ง รวมถึงจิ้งจอกทองระหว่างทางด้วย
  
ที่แปลกสุดคือเจอลูกช้างเดินอยู่กลางป่าตัวเดียวทั้งที่ปกติช้างเด็กแบบนี้จะอยู่รวมฝูง พ่อแม่ไม่มีทางทิ้งให้เผชิญโลกตามลำพังเด็ดขาด แต่เห็นหลังมันดูคดๆ จึงเป็นไปได้ว่าคงป่วยหรือพิการเลยเดินตามฝูงไม่ทัน ทำให้ถูกปล่อยหลงอยู่ตัวเดียว สงสาร ฟังแล้วคำว่าโอฮาน่าของสติทช์ในแอนิเมชั่นเรื่องโปรด Lilo & Stitch ลอยเข้าหัวเลยค่ะ... "Ohana means family. Family means nobody gets left behind or forgotten."
    
นี่แหละคือผลพวงของปัญหาเลือดชิด ป่ากุยบุรีมีขนาดเล็ก แถมยังถูก เมือง หมู่บ้าน และถนนตัดกั้นไปหมดแล้ว ไม่ได้ใหญ่โตเชื่อมกับป่าอื่นๆ มากมายอย่างทางทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้งหรือเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ช้างกุยบุรึจึงได้แต่ผสมพันธุ์วนกันเองอยู่ในนี้ด้วยสายเลือดที่ใกล้ชิด (inbreeding) จึงมีโอกาสสูงให้อาการผิดปกติออกมาได้ง่าย ป่วยง่าย ไม่แข็งแรง เมื่อโตมาช้างกุยบุรีก็จะดูตัวเล็กและไม่ถึกทนเท่าช้างทางป่าใหญ่ ซึ่งปัญหานี้ต่อไปคงจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แค่บ่ายวันนี้วันเดียวยังเจอลูกช้างไม่แข็งแรงถูกครอบครัวทิ้งไว้ข้างหลังถึงสองตัว 
 
       🚗  :  ซาฟารีกุยบุรี 88 กิโลเมตรจากหัวหิน  ขับรถ 1 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ
       📆  :  เที่ยวได้ทั้งปี เปิด 14:00-18:00 เค้าว่าช่วงเย็นสัตว์จะออกมาเยอะกว่า
       ⏰  :  อยู่นานแค่ไหนก็ได้แล้วแต่เรา โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
       💰  :  ค่าเหมารถ 900 บาท ค่าเข้าคนละ 40 บาท
     
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่