อยากจะมาแชร์ประสบการณ์แก้จมูกที่เกาหลี เนื่องด้วยเป็นเคสที่หาดูรีวิวได้ยาก จะได้เป็นเคสกรณีศึกษาให้เพื่อนๆคะ
เคส
แก้จมูกเราที่ต้องเหลาแกนกระดูกหาดูรีวิวค่อนข้างยากและน้อยจึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆคะ ที่ต้องเหลาเพราะจมูกเดิมก่อนมีซิลิโคน มันเป็นอย่างงี้คะ ดั้งมีความสูงอยู่แต่เมื่อดูด้านหน้ากลายเป็นแบนซะงั้น เพราะแกนมันกว้าง เป็นทรงป้าน
หลังจากนั้นเลยไปแก้ปัญหาผิดจุดโดยการเสริมซิลิโคนเข้าไปแปะอย่างเดียวการเหลาหรือการใช้กระดูกยังไม่ค่อยมีคนทำ ขอปลายหยดน้ำไปไม่ได้มาสักนิดเลยคะ ดั้งปลอมเราทำมาได้ 8 ปีแล้วคะ ยิ่งผอมลงยิ่งดูปลอม
ครั้งนี้เราอยากแก้ให้มันตรงจุดจริงๆ เพราะอยากอยู่กับมันทั้งชีวิตไม่อยากแก้อีกเลยเลือกไปทำที่เกาหลี
ตอนหาข้อมูลได้สอบถามกับทางรพ.และคลินิกที่เกาหลีหลายเจ้ามากๆทั้งส่งเมลล์ไปถามรพ.ที่เกาหลีโดยตรงเพื่อหาที่ที่เรารับราคาได้ไม่โดนฟันและที่สำคัญมาพร้อมกับคุณภาพหมอฝีมือดีบางที่ตีราคา 500k เลยคะจะเป็นลม 😞
สุดท้ายมาจบอยู่ที่การใช้เอเจนซี่. เพราะราคาที่เราได้กับทางรพ. ที่มีสาขาในไทยรวมถึงส่งเมลล์ไปถามรพ.ที่เกาหลีมันแพงกว่าเราได้ราคาจากเอเจนซี่
เอเจนซี่ที่เราเลือกคือ SR Surgery Review จะโควกับหลายรพ.มากสำหรับเราเลือกทำที่ Gyalumhan กับหมอ Ahn Tae Joo
ของเราไปเลือกจองที่พักเองใน Airbnb และไม่เอารถรับส่งเพื่อประหยัดงบไปโปะให้เรื่องช๊อป55555
สุดท้ายพอวันใกล้เดินทางพี่เอเจนซี่ทราบว่าเราไปคนเดียวแถมถึงดึกดื่นเลยจัดรถ Limousine มารับซะงั้นไม่คิดตังเพิ่มรถที่มารับประดุจว่ามาทั้งครอบครัวงงทำไมต้องจัดอลังหนูมาคนเดียวค่าตอนคุยในแชทยังคิดว่าคงเป็นรถยนต์ธรรมดาอันนี้เกรงใจพี่เอเจนมากเพราะราคาที่ได้เราถือว่าเราคุ้มแล้ว
สุดท้ายถึงที่พักแบบสะดวกสบายนอนหลับพักผ่อนเตรียมผ่าในวันรุ่งขึ้นกันไป
เรามีนัดเข้าปรึกษาหมอช่วงเช้าเป็นการเจอหมอครั้งแรกเพราะเราติดธุระตอนหมอบินมาไทยเลยไม่ได้เข้าปรึกษาก่อน
ตอนปรึกษาหมอก็วาดหน้าและอธิบายว่าสามารถทำออกมายังไงได้บ้างเรามีแบบจมูกที่อยากได้ไป
สรุปรายการละเอียดที่จะแก้จมูกเรามีดังนี้คะ
-เลาะซิลิโคนของเดิมออก
-เหลาแกนกระดูกจมูกทั้งสองข้างให้แคบลง
-เสริมซิลิโคนที่สัน/หรือเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
-แต่งปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
ตอนประเมินรู้สึกว่าหมอใจดีและเป็นคนใจเย็นมากแบบออกมาจากน้ำเสียง 5555 หมอถามว่าจมูกเราจะใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูทั้งหมดเลยหรือจะใช้ซิลิโคนที่ดั้งด้วย. ถ้าเป็นซิลิโคนจมูกเราจะสวยกว่าแต่ในระยะยาวสัก 15 ปีอาจจะต้องเปลี่ยน. แต่ถ้าเป็นกระดูดเราไปเลยก็จะอยู่ได้ตลอดชีวิตมันจะสวยน้อยกว่าแค่นิดเดียว
เราคิดหนักนะจะเอาสวยเป๊ะหรือจะเอาอยู่ตลอดชีวิตแต่สวยน้อยกว่าดี.
หมอบอกอีกว่า แนะนำแบบใช้กระดูกเราล้วนๆเพราะใจคนเป็นหมอยังไงอยากให้ใช้วัสดุที่มาจากร่างกายเราเองดีสำหรับตัวเราเองอยู่แล้วแต่เอาที่คนไข้ต้องการเลยเลือกอันไหนหมอก็ไม่คิดตังเพิ่มทั้งนั้นได้ยินดังนั้นเราก็เลือกแบบใช้กระดูกล้วนสิคะ
หมอใจมากๆคือเรารู้สึกว่าเขาจะให้เราใส่ซิลิโคนก็ได้เหลาง่ายดีประหยัดเวลาเขาด้วยไม่ต้องนั่งเรียงกระดูกอ่อนที่เอาออกมาแบบไม่เข้ารูป
ตามความคิดเรานะหมอจริงใจกับคนไข้มากเพราะไม่งั้นถ้าหมอให้เราใช้เป็นซิลิโคนโดยที่ไม่แนะนำเรื่องผลระยะยาวเค้าจะทำงานง่ายกว่ามากไม่ต้องยืนเหลาๆเรียงๆกระดูกอยู่ 3 ชม. ในห้องผ่าตัดแถมผลออกมาสวยคนไข้ก็ไม่รู้หรอกแต่อันนี้คืออยากให้คนไข้ได้ดีจริงๆประทับใจจุดนี้มากๆคิดว่าถ้าผลออกมาดีเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบแทนหมอและนั่นคืออีกหนึ่งที่มาของการรีวิวนี้ 😂
หลังจากนั้นเราเข้าผ่าประมาน 13.00 มีการฉีดยาลดบวมลดน้ำลายให้น้ำเกลือให้ก่อนเข้าห้องผ่า
ใช้เวลาผ่าตัดทั้งหมด 3 ชม. ขั้นตอนคือหมอจะฉีดยานอนหลับเข้าเส้นให้เราไม่รู้สึกตัวแค่ตอนเอากระดูกอ่อนออกจากหูพอเสร็จเราจะเริ่มรู้สึกตัวตอนมาแก้งานตรงบริเวรจมูกฟื้นจากยานอนหลับแต่สติยังไม่มาเต็มนะคะซึ่งตอนเหลากระดูกเราเราได้เสียงคลืดๆๆเลยคะความกลัวมันมีมาตลอดคิดอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเพิ่งผ่านไปข้างเดียว แต่สิ่งที่ทำให้เรายังนอนนิ่งไม่บ่นอะไรเลยไม่ถามด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่คือน้ำเสียงหมอที่สื่อสารกับพยาบาล. เราฟังไม่ออกหรอกว่าเค้าคุยอะไรกัน. แต่เป็นน้ำเสียงที่เย็นมากและตั้งใจมากคือที่เค้าจับๆที่เดิมเราอยู่นานเรารู้สึกว่าเค้าอยากให้มันออกมาดีจริงๆหลังทำเสร็จรู้สึกปวดนบริเวรจมูกโดยรอบนิดๆคะเดินกลับที่พักแบบอึนๆโชคดีไปกับเอเจนซี่เลยมีล่ามเดินไปเป็นเพื่อนถึงที่ตอนแรกที่คิดว่าจะลุยเดียวเพื่อนก็ไม่ต้องลางานมานะไม่จำเป็นนี่เราคิดอะไรอยู่ฟระ
แต่พอตกเย็นที่ปวดก็เริ่มหายกลายเป็นไม่เจ็บอะไรเลยคิดว่าคงเป็นเพราะยาที่เค้าฉีดให้ก่อนผ่ารวมถึงเช้าวันถัดมามันก็ไม่ได้บวมเบอร์ที่เราเคยเป็นตอนทำที่ไทย
เราอยู่เกาหลี 7 วันเผื่อรอตัดไหมมาฉีดยาฆ่าเชื้อ/ลดบวม,ล้างแผล, และฉายแสงลดบวมที่คลินิกทุกวันระหว่างนี้ได้เจอหมอเป็นระยะอีกอุ่นใจดีคะ
เรื่องอาการบวมของเราลดไวมาก ทั้งจากยาที่คลินิกฉีด และการฉายแสง
อันนี้รูปวันที่ 3 หลังแก้จมูก แววความสวยเริ่มมาแล้ว กำลังจะไปถอดเฝือกออกคะ
ตอนนี้ผ่าแก้จมูกมาครบเดือนแล้ว ยังไม่ได้เข้าที่เต็มร้อยแต่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแบบชัดดดดดเจนนนน
รูปเปรียบเทียบหลังแก้จมูก 6 สัปดาห์คะ
คิดไม่ผิดที่มาแก้จมูกที่เกาหลี
เพราะราคาหมอไทยที่เก่งๆตอนนี้หลักแสนเพิ่มอีกนิดเถอะถ้าย้อนได้เราอยากมาทำเกาหลีแต่แรกเพราะทั้งยา / วัสดุทางการแพทย์และทั้งเทคนิคเค้าแน่นกว่าหมอไทยค่อนข้างมากคือทำแล้วจบจริงทีดีอีกอย่างหมอที่เราเลือกรับประกันผลงานหากทำแล้วมีปัญหาแก้ให้ฟรีคะ
ใครที่กำลังจะไปเราขอแนะนำไม่ต้องพกโจ๊กจากไทยไปนะคะ ของเกาหลีตามซุปเปอร์ยังมีที่น่าลองอีกมากก เตรียมไปแค่ของวันแรกพอคะ ศัลยกรรมเกาหลีชิวกว่าที่เราคิด
ไม่ต้องพกยาลดบวม ยาจีนกินก่อนผ่าตัดอะไรทั้งนั้น. สำหรับเรามันไม่ช่วย หมอสั่งห้ามด้วย แค่ยาฉีดลดบวมที่หมอให้ก็เอาอยู่แล้ว. ถ้ายังไม่สะใจให้ไปร้านขายยา มีขายน้ำสมุนไพรลดบวม จัดเป็นชุดๆ เริ่ดด อย่างที่เห็น 5 วันหน้าไม่มีเขียวช้ำ
เรื่องการเดินทางถ้าใช้ Google map จะงงๆหน่อยนะคะ แนะนำให้โหลดแอ๊ป Naver map, หรือ Kakao metro ดูง่ายและถูกต้องมากกว่าจ้า
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์จริงและความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้เป็นม้าหรือรับค่าจ้างเขียนรีวิวแต่อย่างใดจ้า
[CR] แชร์ประสบการณ์แก้จมูกที่เกาหลี ทำดั้งปลอมมา 8 ปี (เคสเหลาแกนกระดูกหาดูรีวิวยาก)
เคสแก้จมูกเราที่ต้องเหลาแกนกระดูกหาดูรีวิวค่อนข้างยากและน้อยจึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆคะ ที่ต้องเหลาเพราะจมูกเดิมก่อนมีซิลิโคน มันเป็นอย่างงี้คะ ดั้งมีความสูงอยู่แต่เมื่อดูด้านหน้ากลายเป็นแบนซะงั้น เพราะแกนมันกว้าง เป็นทรงป้าน
หลังจากนั้นเลยไปแก้ปัญหาผิดจุดโดยการเสริมซิลิโคนเข้าไปแปะอย่างเดียวการเหลาหรือการใช้กระดูกยังไม่ค่อยมีคนทำ ขอปลายหยดน้ำไปไม่ได้มาสักนิดเลยคะ ดั้งปลอมเราทำมาได้ 8 ปีแล้วคะ ยิ่งผอมลงยิ่งดูปลอม
ครั้งนี้เราอยากแก้ให้มันตรงจุดจริงๆ เพราะอยากอยู่กับมันทั้งชีวิตไม่อยากแก้อีกเลยเลือกไปทำที่เกาหลี
ตอนหาข้อมูลได้สอบถามกับทางรพ.และคลินิกที่เกาหลีหลายเจ้ามากๆทั้งส่งเมลล์ไปถามรพ.ที่เกาหลีโดยตรงเพื่อหาที่ที่เรารับราคาได้ไม่โดนฟันและที่สำคัญมาพร้อมกับคุณภาพหมอฝีมือดีบางที่ตีราคา 500k เลยคะจะเป็นลม 😞
สุดท้ายมาจบอยู่ที่การใช้เอเจนซี่. เพราะราคาที่เราได้กับทางรพ. ที่มีสาขาในไทยรวมถึงส่งเมลล์ไปถามรพ.ที่เกาหลีมันแพงกว่าเราได้ราคาจากเอเจนซี่
เอเจนซี่ที่เราเลือกคือ SR Surgery Review จะโควกับหลายรพ.มากสำหรับเราเลือกทำที่ Gyalumhan กับหมอ Ahn Tae Joo
ของเราไปเลือกจองที่พักเองใน Airbnb และไม่เอารถรับส่งเพื่อประหยัดงบไปโปะให้เรื่องช๊อป55555
สุดท้ายพอวันใกล้เดินทางพี่เอเจนซี่ทราบว่าเราไปคนเดียวแถมถึงดึกดื่นเลยจัดรถ Limousine มารับซะงั้นไม่คิดตังเพิ่มรถที่มารับประดุจว่ามาทั้งครอบครัวงงทำไมต้องจัดอลังหนูมาคนเดียวค่าตอนคุยในแชทยังคิดว่าคงเป็นรถยนต์ธรรมดาอันนี้เกรงใจพี่เอเจนมากเพราะราคาที่ได้เราถือว่าเราคุ้มแล้ว
สุดท้ายถึงที่พักแบบสะดวกสบายนอนหลับพักผ่อนเตรียมผ่าในวันรุ่งขึ้นกันไป
เรามีนัดเข้าปรึกษาหมอช่วงเช้าเป็นการเจอหมอครั้งแรกเพราะเราติดธุระตอนหมอบินมาไทยเลยไม่ได้เข้าปรึกษาก่อน
ตอนปรึกษาหมอก็วาดหน้าและอธิบายว่าสามารถทำออกมายังไงได้บ้างเรามีแบบจมูกที่อยากได้ไป
สรุปรายการละเอียดที่จะแก้จมูกเรามีดังนี้คะ
-เลาะซิลิโคนของเดิมออก
-เหลาแกนกระดูกจมูกทั้งสองข้างให้แคบลง
-เสริมซิลิโคนที่สัน/หรือเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
-แต่งปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
ตอนประเมินรู้สึกว่าหมอใจดีและเป็นคนใจเย็นมากแบบออกมาจากน้ำเสียง 5555 หมอถามว่าจมูกเราจะใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูทั้งหมดเลยหรือจะใช้ซิลิโคนที่ดั้งด้วย. ถ้าเป็นซิลิโคนจมูกเราจะสวยกว่าแต่ในระยะยาวสัก 15 ปีอาจจะต้องเปลี่ยน. แต่ถ้าเป็นกระดูดเราไปเลยก็จะอยู่ได้ตลอดชีวิตมันจะสวยน้อยกว่าแค่นิดเดียว
เราคิดหนักนะจะเอาสวยเป๊ะหรือจะเอาอยู่ตลอดชีวิตแต่สวยน้อยกว่าดี.
หมอบอกอีกว่า แนะนำแบบใช้กระดูกเราล้วนๆเพราะใจคนเป็นหมอยังไงอยากให้ใช้วัสดุที่มาจากร่างกายเราเองดีสำหรับตัวเราเองอยู่แล้วแต่เอาที่คนไข้ต้องการเลยเลือกอันไหนหมอก็ไม่คิดตังเพิ่มทั้งนั้นได้ยินดังนั้นเราก็เลือกแบบใช้กระดูกล้วนสิคะ
หมอใจมากๆคือเรารู้สึกว่าเขาจะให้เราใส่ซิลิโคนก็ได้เหลาง่ายดีประหยัดเวลาเขาด้วยไม่ต้องนั่งเรียงกระดูกอ่อนที่เอาออกมาแบบไม่เข้ารูป
ตามความคิดเรานะหมอจริงใจกับคนไข้มากเพราะไม่งั้นถ้าหมอให้เราใช้เป็นซิลิโคนโดยที่ไม่แนะนำเรื่องผลระยะยาวเค้าจะทำงานง่ายกว่ามากไม่ต้องยืนเหลาๆเรียงๆกระดูกอยู่ 3 ชม. ในห้องผ่าตัดแถมผลออกมาสวยคนไข้ก็ไม่รู้หรอกแต่อันนี้คืออยากให้คนไข้ได้ดีจริงๆประทับใจจุดนี้มากๆคิดว่าถ้าผลออกมาดีเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบแทนหมอและนั่นคืออีกหนึ่งที่มาของการรีวิวนี้ 😂
หลังจากนั้นเราเข้าผ่าประมาน 13.00 มีการฉีดยาลดบวมลดน้ำลายให้น้ำเกลือให้ก่อนเข้าห้องผ่า
ใช้เวลาผ่าตัดทั้งหมด 3 ชม. ขั้นตอนคือหมอจะฉีดยานอนหลับเข้าเส้นให้เราไม่รู้สึกตัวแค่ตอนเอากระดูกอ่อนออกจากหูพอเสร็จเราจะเริ่มรู้สึกตัวตอนมาแก้งานตรงบริเวรจมูกฟื้นจากยานอนหลับแต่สติยังไม่มาเต็มนะคะซึ่งตอนเหลากระดูกเราเราได้เสียงคลืดๆๆเลยคะความกลัวมันมีมาตลอดคิดอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเพิ่งผ่านไปข้างเดียว แต่สิ่งที่ทำให้เรายังนอนนิ่งไม่บ่นอะไรเลยไม่ถามด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่คือน้ำเสียงหมอที่สื่อสารกับพยาบาล. เราฟังไม่ออกหรอกว่าเค้าคุยอะไรกัน. แต่เป็นน้ำเสียงที่เย็นมากและตั้งใจมากคือที่เค้าจับๆที่เดิมเราอยู่นานเรารู้สึกว่าเค้าอยากให้มันออกมาดีจริงๆหลังทำเสร็จรู้สึกปวดนบริเวรจมูกโดยรอบนิดๆคะเดินกลับที่พักแบบอึนๆโชคดีไปกับเอเจนซี่เลยมีล่ามเดินไปเป็นเพื่อนถึงที่ตอนแรกที่คิดว่าจะลุยเดียวเพื่อนก็ไม่ต้องลางานมานะไม่จำเป็นนี่เราคิดอะไรอยู่ฟระ
แต่พอตกเย็นที่ปวดก็เริ่มหายกลายเป็นไม่เจ็บอะไรเลยคิดว่าคงเป็นเพราะยาที่เค้าฉีดให้ก่อนผ่ารวมถึงเช้าวันถัดมามันก็ไม่ได้บวมเบอร์ที่เราเคยเป็นตอนทำที่ไทย
เราอยู่เกาหลี 7 วันเผื่อรอตัดไหมมาฉีดยาฆ่าเชื้อ/ลดบวม,ล้างแผล, และฉายแสงลดบวมที่คลินิกทุกวันระหว่างนี้ได้เจอหมอเป็นระยะอีกอุ่นใจดีคะ
เรื่องอาการบวมของเราลดไวมาก ทั้งจากยาที่คลินิกฉีด และการฉายแสง
อันนี้รูปวันที่ 3 หลังแก้จมูก แววความสวยเริ่มมาแล้ว กำลังจะไปถอดเฝือกออกคะ
ตอนนี้ผ่าแก้จมูกมาครบเดือนแล้ว ยังไม่ได้เข้าที่เต็มร้อยแต่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแบบชัดดดดดเจนนนน
รูปเปรียบเทียบหลังแก้จมูก 6 สัปดาห์คะ
คิดไม่ผิดที่มาแก้จมูกที่เกาหลี
เพราะราคาหมอไทยที่เก่งๆตอนนี้หลักแสนเพิ่มอีกนิดเถอะถ้าย้อนได้เราอยากมาทำเกาหลีแต่แรกเพราะทั้งยา / วัสดุทางการแพทย์และทั้งเทคนิคเค้าแน่นกว่าหมอไทยค่อนข้างมากคือทำแล้วจบจริงทีดีอีกอย่างหมอที่เราเลือกรับประกันผลงานหากทำแล้วมีปัญหาแก้ให้ฟรีคะ
ใครที่กำลังจะไปเราขอแนะนำไม่ต้องพกโจ๊กจากไทยไปนะคะ ของเกาหลีตามซุปเปอร์ยังมีที่น่าลองอีกมากก เตรียมไปแค่ของวันแรกพอคะ ศัลยกรรมเกาหลีชิวกว่าที่เราคิด
ไม่ต้องพกยาลดบวม ยาจีนกินก่อนผ่าตัดอะไรทั้งนั้น. สำหรับเรามันไม่ช่วย หมอสั่งห้ามด้วย แค่ยาฉีดลดบวมที่หมอให้ก็เอาอยู่แล้ว. ถ้ายังไม่สะใจให้ไปร้านขายยา มีขายน้ำสมุนไพรลดบวม จัดเป็นชุดๆ เริ่ดด อย่างที่เห็น 5 วันหน้าไม่มีเขียวช้ำ
เรื่องการเดินทางถ้าใช้ Google map จะงงๆหน่อยนะคะ แนะนำให้โหลดแอ๊ป Naver map, หรือ Kakao metro ดูง่ายและถูกต้องมากกว่าจ้า
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์จริงและความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้เป็นม้าหรือรับค่าจ้างเขียนรีวิวแต่อย่างใดจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้