ทุกคนขาาา ใครที่กำลังจะเสริมจมูก ถ้าไม่แกร่งจริงอย่าบอกหมอว่า “ขอทรงธรรมชาติ” นะคะ 555555 เราว่าธรรมชาติของหมอกับของเราคือคนละความหมายเด้อ อย่างจมูกแรกของเราก็คือธรรมชาติกลั่นแกล้งมาเลย เสริมเหมือนไม่ได้เสริม ดั้งไม่โด่ง ไม่พุ่ง ไม่อะไรทั้งนั้น ปลายก็ทื่อๆ ทำให้หน้าดูแข็ง จนสุดท้ายก็ต้องตัดสินใจแก้อยู่ดี ทีนี้ล่ะค่ะ.. โล่งงง

ครั้งสองนี่คือไปคลินิกที่พี่ๆ เพื่อนๆ แนะนำ เพราะพวกชีทำมาก่อนแล้วโอเค เลยไม่ได้เอารูปอะไรไปให้หมอดูค่ะ เน้นบอกว่าเอาให้เห็นว่าเสริม แต่ไม่แข็งเป็นแท่ง ขอเป็นฟิลละมุนๆ รับกับรูปหน้า นี่ก็คือปรึกษาวันนั้นแล้วทำวันนั้นเลย รีบบบ 5555 (ระหว่างนั่งรอคิว แอบมีตื่นเต้นบ้าง แต่ก็ยังเบาใจที่เลือกออฟชั่นยานอนหลับไว้)

ครั้งนี้ใช้ซิลิโคน USA นะคะ เป็นเทคนิคแบบที่คุณหมอจะเหลาซิลิโคนเอง บวกกับรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อกระดูกก้นกบ เพราะคุณหมอบอกว่ามันปลอดภัยที่สุดแล้ว และก็มีความหนากำลังดี ข้อเสียก็แค่จะมีแผลสองที่นิดนึง แต่ก็ไม่ได้ดูแลยากมากมายอะไรค่ะ
วันแรกๆ หน้าบวมบ้างแต่ไม่ช้ำเลย งงมากกก แล้วพอครบวันถอดเฝือกยิ่ง อร๊ายยย ทรงจมูกสวยจัด ชอบมากก สโปลปลายพุ่งละมุนๆ แบบนี้แหละที่ต้องการ 

เผลอๆ ก็ครบวันนัดตัดไหม รู้สึกว่าตัวเองหน้าเปลี่ยนจริงจัง

แอบลุ้นอยู่ว่ายิ่งนานไป ทรงจมูกจะยุบไปมากกว่านี้มั้ยน๊า มันจะพุ่งสวยเหมือนช่วงเดือนแรกๆ มั้ยเนี่ย สรุปว่าสวยยาวๆ ค่าาา ตอนนี้ก็ปีกว่าแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย




ใครอยากได้จมูกละมุนๆ ออกแนวธรรชาติ ก็อย่าลืมคุยกับคุณหมอให้เคลียร์นะคะ 5555 ส่วนตัวเราว่าเลือกคลินิกศัลยกรรมที่มีหมอเก่งๆ ใช้เทคนิคแบบเหลาซิลิโคนเองจะดีกว่า เพราะเราจะได้ทรงที่เหมาะกับรูปหน้ามากที่สุด อ้อ.. แล้วก็เลือกที่มีประกันอย่างต่ำสัก 6 เดือนนะคะ เผื่อมีปัญหาอะไรเค้าจะได้แก้ไขให้เรา อย่างคลินิกที่เราแก้จมูกก็ 6 เดือนค่ะ + มี After Care ที่พี่พนักงานจะไลน์มาติดตามอาการเรื่อยๆ ด้วย  สรุปว่าแก้จมูกครั้งนี้คือพอใจม๊ากมากค่า