MAYs Bangkok ชื่อนี้ไม่ค่อยคุ้นแฮะ เห็นจาก IG ของเพื่อนที่มีแฟนเป็น ฝ. คนหนึ่งที่มาทานที่นี่ เป็นร้านเปิดใหม่อยู่ในสุขุมวิทซอย 12 เป็นร้านอาหารไทยที่หน้าตาอาหารสวยอลังการเลยทีเดียว เลยหาข้อมูลร้านนี้ดู ประวัติร้านนี้ก็ไม่ธรรมดา เป็นเรื่องราวของคุณเมย์เจ้าของร้าน (ใครอยากรู้ไปค้นหาใน Google เอา) ปัจจุบันมีร้าน MAYs อยู่ทั่วเอเชียถึง 4 สาขา ที่โฮจิมิน์ 2 พัทยา 1 และสาขานี้เป็นร้านล่าสุดที่กรุงเทพครับ ไม่รอช้าแชทถามเพื่อนเลยว่าแพงไหม อะไรอร่อย ? เพื่อนว่าราคาเอาเรื่องอยู่ก็ตามทำเลร้าน แต่อาหารอร่อยเข้มข้นถึงใจมาก ดีขนาดนั้นเชียว ? (ราคาแพงไม่ว่าขอให้อร่อยจริงเถอะ) งั้นไปชิมที่ร้านกันเลยครับ เรียกได้ว่าเป็นร้านลับจริงๆ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 12 ก่อนสุดซอย เห็นป้ายสีม่วงใหญ่ๆแบบนี้ทางขวามือ แสดงว่าถึงแล้วครับ MAYs Bangkok Urban Thai Dine ไม่มีป้ายบอกหน้าปากซอยเลยว่ามีร้านอาหารอยู่ในนี้ด้วย ในซอยนี้มีแต่โรงแรมและนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ไม่แปลกใจที่รีวิวใน Facebook มีแต่ภาษา Eng. และทุกคนบอกว่าร้านนี้อร่อย ได้คะแนน 5 ดาวเต็ม ไม่ธรรมดาแฮะ เดินทางเข้ามาไม่ง่ายนะครับ ถ้าใครมาด้วย BTS ลงสถานีอโศกตรงข้าม Terminal 21 ต้องต่อวินหรือแท๊กซี่เข้ามาอีกที ไม่ก็เรียก Grab เข้ามารวดเดียวสะดวกกว่า ใครนำรถส่วนตัวมา สอบถามทางร้านดูนะครับ ไม่รู้จอดตรงไหนเหมือนกัน เพราะซอยค่อนข้างเล็กทีเดียว (ร้านอยู่ใต้โรงแรมน่าจะจอดด้านในมั้ง ? ไม่ชัวร์เหมือนกันครับ)
เปิดเมนูอาหารของที่ร้านดู ราคาอาหารที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ 140 ไปจนถึง 490 บาท (เมนู 490 บาทนี่คือได้ปลาทั้งตัวนะ) ดูแล้วก็ไม่ได้แพงเว่อร์นี่นา มีอาหารไทยให้เลือกค่อนข้างเยอะหลากหลายประเภท มีตั้งแต่อาหารธรรมดาไปจนถึงเมนูมังสวิรัติ ที่สำคัญในเล่มเมนูมีหลายภาษา เหมาะแก่การนำเพื่อนชาวต่างชาติมานั่งทาน แต่พอเหลือบตาลงมามองด้านล่าง มี Vat. และ Service Charge อีก 17% ราคาจะเอาเรื่องตรงนี้นี่แหละ ถ้าไม่มีตรงนี้จะดีมาก
มาตั้งแต่เปิดร้าน 11.00 น. ไม่มีลูกค้าในร้านสักคน ภายในร้านสวยมาก ! ตกแต่งบรรยากาศร้านเป็นสไตล์ Loft ประดับด้วยต้นไม้ที่ปลูกในบาตรพระ โคมไม้สาน ขนนกสีทอง ดูลงตัว ไม่เป็นไทยจ๋าจนเกินไป มีทั้งโซนนั่งทานอาหาร และเครื่องดื่มแยกกัน 2 ฝั่ง (เครื่องดื่มมีทั้ง Cocktail และ Mocktail) เหมือนเป็นร้านนั่งดื่มด้วยไปในตัว
มาถึงทางร้านก็เสิร์ฟ Welcome Drink ก่อนเลยครับ ด้วยผ้าเย็นและน้ำอะไรปั่นสักอย่างในขันสีทอง บอกเลยว่ารสชาติหอม อร่อย คล้ายกลิ่นดอกไม้ หวานกำลังดี มาเหนื่อยๆนี่สดชื่นเลยครับ แปลว่า Mocktail ที่นี่รสชาติไม่ธรรมดาแน่นอน เดี๋ยวสั่งมาชิมด้วยแล้วกัน ที่สำคัญที่ร้านใช้ใบไม้ดอกไม้เปลืองมาก ทั้งบนโต๊ะและในอาหาร แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อมสีทอง ดูแล้วใช้ของดี ถ้าราคาอาหารแพงก็ไม่แปลกใจเลยครับ ดูเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดจริงๆ
เมนูแรกเป็นการรวมเมนูของทานเล่นต่างๆภายในร้านหรือ Tapas แค่ยกออกมาก็อลังการแล้ว แต่เงื่อนไขคือต้องสั่งอย่างน้อย 4 อย่าง ทางร้านจึงจะจัดมาให้แบบนี้นะ ถามว่ารู้ได้ไง ? เพื่อนผมบอกมาครับว่าถ้าอยากถ่ายรูปสวยๆให้สั่งมา 4 อย่าง ไม่รู้ว่าอะไรอร่อยบ้าง เลยให้น้องพนักงานจัดมาให้ ในชุดนี้ประกอบด้วย ปอเปี๊ยะสด 250 ฿, คอหมูทอด 250฿ , กุ้งและมันฝรั่งผัดพริกเผา 170฿ , และทอดมันกุ้ง 170฿ แค่ชุดนี้ก็ราคาหลายบาทแล้วนะ
แต่พอได้ชิมแล้ว เฮ้ยรสชาติดีเกิดคาดแฮะ เมนูแรกปอเปี๊ยะสดยัดไส้กุ้งและผัก ที่เห็นจะเด่นสุดคือใส่ถั่วงอกกรอบๆลงไปด้วย น้ำจิ้มหวานมันถั่วลิลงเผ็ดนิดๆอร่อยดีครับ ตามมาด้วยคอหมูทอด เหมือนหมักใส่สมุนไพร เคี้ยวทีกลิ่นเครื่องเทศเต็มปาก ราดน้ำจิ้มแจ่วตามด้วยพริกแห้งทอด อร่อยแซ่บครับ กุ้งผัดพริกเผาใส่มันฝรั่ง ดูแล้วน่าจะเป็นเมนูธรรมดา แต่อร่อยมากครับ มันฝรั่งมีความนิ่มนวลเข้ากันได้ดีกับรสหวานหอมของน้ำพริกเผาและกุ้งเนื้อเด้ง อันนี้ประทับใจสุดในเซ็ตครับ และอย่างสุดท้ายทอดมันกุ้ง เนื้อแน่นแต่บดกุ้งละเอียดไปหน่อย ไม่ค่อยได้สัมผัสของเนื้อกุ้งเท่าที่ควร ราดด้วยน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยใส่ตะไคร้ อันนี้ดีเกินคาดแฮะ ความหอมของตะไคร้ทำให้การทานทอดมันกุ้งธรรมดาไม่รู้สึกมันเลี่ยนจนเกินไป เรียกได้ว่าอร่อยทุกจานครับ แต่ให้ปริมาณน้อยไปหน่อย ส่วนตัวเมนู Tapas เซ็ต นี้ ถ้าไม่ได้อยากถ่ายรูปรีวิวสวยๆคงไม่สั่งเมนูนี้แน่นอนครับ น่าจะเพิ่มปริมาณให้สมราคาอีกนิด จะน่าสั่งมากขึ้นครับ
เมนูต่อมาถูกเสิร์ฟมาในพานเงินยกสูง พร้อมตลับเงินอยู่ตรงกลาง มันคือ ยำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ราคาชุดนี้ 260 บาท ได้หอยแมลงภู่มา 5 ตัวใหญ่ๆ จัดเสิร์ฟอลังการเช่นเดิม จะทานเปล่าๆเลยก็ได้ รสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ดอ่อนๆ หอมกลิ่นน้ำพริกเผา และหอมมันกะทิเล็กน้อย อร่อยลงตัวดีครับ หรือจะเพิ่มความแซ่บ โดยราดน้ำยำลงไปอีกรอบ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยดีครับจานนี้ แทบไม่ผ็ดเลย แต่รสชาติเข้มข้นทุกๆคำ สมกับเป็นอาหารไทยครับ
เมนูถัดไป ยำส้มโอจานนี้ 190฿ เอง ปริมาณให้เยอะคุ้มอยู่ครับ เป็นส้มโอยำใส่กุ้ง กะทิและน้ำพริกเผา รสชาติเปรี้ยวหวานมันมีความเผ็ดอ่อนๆ มีขมส้มโอเล็กน้อย ห่อทานกับใบชะพลูเป็นคำ อร่อยลงตัวครับ จานนี้แนะนำเลย
ยำกุ้งแม่น้ำ ราคา 250฿ ได้กุ้งแม่น้ำมา 4 ตัว ก็โอเคนะ กุ้งเผาหัวมัน ย่างถ่านมาหอม ราดด้วยน้ำยำใส้กะทิและพริกเผา รสชาติเปรี้ยวหวาน เผ็ดอ่อนๆ ในน้ำยำใส่มะม่วงและเครื่องสมุนไพรไทย มีความอร่อยแซ่บ กลิ่นย่างถ่านของกุ้ง เข้ากันได้ดีกับน้ำยำ อร่อยครับจานนี้ เท่าที่ทานมารสชาติอาหารทุกจานเข้มข้นแต่ยังไม่มีจานไหนที่เผ็ดโดดสะใจเลย แต่ก็อร่อยดีครับ เป็นรสชาติแบบไทยๆ ที่ชาวต่างชาติน่าจะทานได้สบายๆไม่มีปัญหา ก็ดีไปอีกแบบ
สั่งยำไปหลายจานแล้ว สั่งแกงมาลองทานบ้าง น้องพนักงานแนะนำจานนี้ครับ เป็น Signature ของที่ร้านใครมาก็ต้องสั่ง แกงคั่วใบชะพลูปลากระพงทอด ราคา 490฿ ใส่ปลากระพงทั้งตัวมาในหม้อทองเหลือง ทอดมากรอบ เนื้อฉ่ำด้านใน ราดซอสแกงคั่วใบชะพลูรสชาติเข้มข้นสะใจ ถึงพริกแกงสุดๆ แต่ก็ไม่เผ็ดเช่นเคย การนำปลาไปชุบแป้งทอดก่อนมาราดด้วยแกง ทำให้ผิวสัมผัสแป้งกรอบๆรอบนอก ซึมซับรสชาติของแกงไว้อย่างเต็มที่ อร่อยมาก!!!
ส่วน Mocktail ของที่นี่วันนี้เราสั่งมา 3 อย่างครับ แก้วแรก Umbonggo เป็นน้ำเสารสผสมมะม่วงและแอป เปิ้ลเขียว รสชาติหวานเปรี้ยว สดชื่นดีครับ แต่ตอนดูดท้ายๆยากไปหน่อยเศษผลไม้นอนก้นเพียบ ต้องขอช้อนเล็กๆมาตักทาน ส่วนแก้วที่ 2 นี่ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไรครับ ให้น้องพนักงานจัดมา เป็นน้ำมะม่วงปั่นผสมสรอเบอรี่ รสหวานนวลๆจากเนื้อมะม่วง เปรี้ยวเล็กน้อยด้วยสตรอเบอรี่ รสชาติใช้ได้ครับ และอย่างสุดท้ายเป็น Signature ของที่ร้าน Funkky Mays เป็น Mocktail สมุนไพรไทย กลิ่นตะไคร้ใบมะกรูดมาเลย แต่มีความเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยสตรอเบอรี่ เฮ้ยแปลก แต่อร่อยลงตัวมากครับ ใครอยากทาน Mocktail แนะนำแก้วสุดท้ายเลยครับ อร่อยโดยใจมาก ส่วนราคานั้นก็เอาเรื่องเหมือนกัน 3 แก้วนี้ 540 บาท ขายราคาพอๆกับ Cocktail ปกติเลยแหละ ค่อนข้างแพงนะ
แต่ยังดีอย่างนึงที่นี่เติมข้าวได้ฟรี ! แหม่รู้แบบนี้สั่งแค่ 2-4 อย่างแล้วทานข้าวเยอะๆก็ได้นะเนี่ย เสิร์ฟมาร้อนๆในขันนาก สามารถขอเติมได้เรื่อยๆ พนักงานจะไปตักใหม่ให้ในครัวตลอด ข้าวที่ใช้เป็นข้าวหอมมะลิคุณภาพ รสชาติหอมหวาน มีความเคี้ยวหนึบ เข้ากันได้ดีกับแกงไทยรสชาติเข้มข้น เลือกใช้ข้าวดีอาหารก็อร่อยขึ้น ดูเอาใจใส่ดีครับ
อาหารอร่อย ข้าวดีแล้ว มาร้านอาหารไทยแบบนี้คนไทยที่ชอบความเผ็ดแบบผมขาดไม่ได้เลย พริกน้ำปลาสักถ้วยครับ ตอนเสิร์ฟมาตกใจ พริกน้ำปลาในขันทอง ไม่ได้สวยแค่หน้าตา ยังดองใส่มะนาวเป็นซีกเล็กๆมาด้วย จับราดลงบนแกง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยว่าพริกน้ำปลาเชสเตอร์ก็ไม่สู้ที่นี่ครับ อร่อยกลมกล่อม กัดโดนพริกสด กระเทียม และมะนาวซีก ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารในทุกคำ ใครเป็นสาวกพริกน้ำปลา ร้านนี้แนะนำครับ