ความท้าทายคือส่วนเกินของชีวิต เห็นคุณค่าของหัวใจที่เต้นช้ามากกว่าถี่รัว รักผิวพรรณที่ผุดผ่องมากกว่าร่องรอยของประสบการณ์ ถ้าคุณคิดเช่นนั้น กดข้ามกระทู้นี้ได้เลย
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเดินและรู้ซึ้งถึงชีวิตของลูกผู้ชายผู้พิทักษ์ผืนป่าโดยแท้จริง ที่นี่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อ. บ้านคา จ. ราชบุรี ผืนป่าแห่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติเตรียมประกาศ
เว้นว่างจากงานประจำ 3 วัน ขอสัมผัสแหล่งกำเนิดของชีวิตนับไม่ถ้วนในป่าต้นน้ำผืนนี้หน่อยนะ เส้นทางที่พวกเราได้มีโอกาสลาดตระเวนด้วย คือ จากหน่วยพิทักษ์ป่าแอ่งกะลา ถึง หน่วยพิทักษ์ป่าพุน้ำร้อน
ผู้ร่วมชะตากรรม บอกเลยว่าร่วมชะตากรรมของจริงนะ ลุงสนิท พี่อับดุลย์ พี่เบล พี่แอมป์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั้งสี่ และพวกเราทั้งแปด พี่รมย์ คนสวน พี่สาคู หมอ ครูแป้ง น้องพิมพ์ โชคโชค และเราเอง
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยหัวใจถี่ระรัว ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร ไม่รู้ว่าระยะทางใกล้ไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าระดับความชันนั้นเท่าไร รู้แต่ว่าจะไม่ประมาทเด็ดขาด
จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ต้องใช้รถ 4WD ขับเข้าไปยังแอ่งกะลา ผ่านลำห้วย 32 ห้วย เนินชันนับไม่ถ้วน แต่มีเนินนึงแบบ อย่างชัน คือชันเกินไป รถขึ้นไม่ไหว ยึกยักอยู่นานพอสมควร พวกเราจึงถือโอกาสให้สมยานามเนินแห่งนี้ว่า "เนินติดตะโปก" เรื่องความหมายก็ข้ามผ่านไปเลยแล้วกันนะ กว่าจะถึงก็ไม่ง่ายเลย มีจังหวะที่ต้องหยุดเพื่อเคลียร์สิ่งกีดขวางอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เบื่อเลย นั่งขำไก่ป่าวิ่งนำหน้ารถ ดุ๊ก ดุ๊ก ดุ๊ก ดุ๊ก ไม่ยอมไปวิ่งข้างทางด้วยนะเอาซี๊ ที่สำคัญนะ ทุกห้วยจะมีโพรงผีเสื้อเวลารถผ่านมันก็บินกันให้ว่อนเลย สวยประทับใจมาก ลืมไปเลยว่าก้นกำลังช้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า
ถึงหน่วยแล้ว มันเป็นสถานที่ที่วิเศษมาก ๆ ผีเสื้อนานาพันธุ์อาศัยครอบคลุมอาณาบริเวณ รู้สึกว่านี่ขนาดยังไม่เข้าป่าเลยนะมาแค่นี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว การได้จิบชาอุ่น ๆ กับคุกกี้ข้าวโอ้ต และวิ่งเล่นกับผีเสื้อและแมลงต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหญิงอย่างเดียวแล้วนะ พวกเราคนป่าก็มีโอกาสเห็นไหม? พวกเรากินข้าวกลางวัน แบ่งสัมภาระกองกลางและเสบียงกันที่นี่ ระหว่างนั้นเองฝนเทลงมาเล็กน้อย เราพูดคุยกันถึงข้อปฏิบัติต่าง ๆ ข้อห้าม และการดูและตัวเอง รวมถึงทริคอื่น ๆ ได้เวลาแล้ว ไปลุยกัน
เนินแรก
ไม่มีจังหวะให้หายใจหายคอ เงยหน้าปุ๊บคือทางชันตรงหน้า เอาวะ ขอถ่ายรูปรวมยืดเวลาทำใจแป๊ป แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่เนินสุดท้าย เรารู้อย่างนั้น ถึงที่สุดแล้ว ชีวิตยาก ๆ ก็มอบรางวัลให้กับเรา คือประสบการณ์ล้ำค่าที่เราจะได้รับในวินาทีต่อจากนี้ ความง่ายไม่เคยพิสูจน์คน
ความเหนื่อยล้าโรยแรงทำให้เราเริ่มก้าวเข้าสู่ตัวเองอย่างช้า ๆ คงไม่แปลกอะไรหากเสียงพูดคุยค่อย ๆ จางไป เหลือเพียงเสียงจังหวะของการก้าวเท้าและฟันฝ่าสิ่งกีดขวางเพื่อการก้าวไปข้างหน้า จังหวะที่มือถือมีอิทธิพลต่อตัวเราค่อย ๆ ลดน้อยลง และหมดความสำคัญไป ความสุขละมุนเกิดขึ้นจากการเอนหลังมองเงาไม้และหยิบใบไม้แห้งมาหมุนเล่นบนมือ มีเวลายิ้ม มีเวลาหัวเราะ ไม่ยุ่งเหยิงหัวฟูจนลืมความสุขไปง่าย ๆ ขอบคุณโลกใบนี้ที่มอบของขวัญให้กับเราเสมอ
เนินแรกผ่านไป ฝนกระหน่ำเทลงมา ฟ้ามืดครึ้ม พวกเราอยู่ในป่าซึ่งไม่คุ้นเคย ไม่มีทางเดิน และไม่ได้มีศาลาหลบฝน มองไปรอบ ๆ ดูสิ เพื่อนร่วมทางมีความหมายมากแค่ไหน สิ่งที่เราเคยถวิลหาไม่มีความหมายเลย ความสวย ความฉลาด รายได้ อะไรคือสิ่งที่เราต้องการกันแน่?
พวกเรามุดตัวกันอยู่ใต้ผ้าใบพอไม่ให้สัมภาระที่จำเป็นเปียกไปหมดเสียก่อน จากนั้นก็จัดการตัวเอง ใส่ชุดกันฝน คลุม Rain cover ให้เป้สุดรัก เตรียมตัวไปต่อ ฝนค่อย ๆ เบาบาง ลำธารไหลเย็นตรงนี้ก็น่าจดจำไม่น้อย เก็บภาพความทรงจำตรงนี้สักหน่อยแล้วกัน แชะ แชะ ระหว่างนั้นเองไม้พุ่มขนาดความสูงไม่ถึงเมตรแผลงฤทธิ์กับพี่รมย์คนเถื่อน ในจังหวะที่กำลังตั้งคำถามว่ามันคือต้นอะไรมือก็ได้สัมผัสขยี้มันไปเต็ม ๆ "มอญสลัดหาบ" คือชื่อที่ใช้เรียกกัน พี่รมย์เล่าความรู้สึกหน้าตาเฉยว่าเหมือนเข็มทิ่มจึกจึกไปทั่วบริเวณ ไม่ใช่ความคันแบบทั่วไป ล้างน้ำออกก็พอบรรเทาได้บ้าง และพวกเราทุกคน ก็เลยไม่กล้าโดนอะไรอีกเลย
พวกเราก้าวเท้าต่อไปเพื่อหาบริเวณที่พอเหมาะจะเป็นค่ายพักแรมและที่สำคัญต้องมีแหล่งน้ำด้วย อ่อนล้าแล้วนะ แต่ก็ต้องไปต่อ ฮึบบบบบ สิ่งสำคัญอีกเรื่อง ไม่เชื่อก็ไม่ลบหลู่ ของเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่ต้องเตรียมมาคือเหล้าขาวพวกเราขนกันมา 2 ขวด เพราะนอน 2 คืน เมื่อเดินถึงจุดที่พอจะตั้งแคมป์ได้ในเวลาเย็นมากแล้วเช่นนี้ก็คงต้องพักแล้วล่ะ
บริเวณนี้ถึงแม้จะชันแต่ก็มีพื้นที่ให้พอปักหลักกางเต็นท์และผูกเปลได้บ้าง คิดเสียว่า เรานอนกันคนละชั้นแล้วกันเนาะ สร้างบ้านของตัวเองกันเรียบร้อย ก็ช่วยกันหาฟืน หุงข้าว ปรุงอาหาร เตรียมน้ำดื่ม ส่วนผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็สำรวจบริเวณโดยรอบและจุดเทียนเล่มใหญ่มากในจุดที่ห่างพวกเราไปประมาณ 5 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่า
ความเหนื่อยล้าทำให้สิ่งธรรมดากลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เยลลี่และลูกอมที่พกมาด้วยมันช่างอร่อยเหลือเชื่อ ความเหนื่อยยากทำให้มิตรภาพระหว่างทางเกิดขึ้นง่าย พวกเราทุกคน Enjoy กับบทสนทนาของกันและกันในมื้อเย็น เราสลับกันไปทำภารกิจส่วนตัว สองมือได้จุ่มลงน้ำใสและกวักมาลูบหน้าและแปรงฟัน เท้าเริ่มบอบช้ำกับความลาดชันไม่คุ้นเคย มองถึงวันพรุ่งนี้ก็พบว่าต้องเผชิญกับทุกอย่างไม่ต่างจากวันนี้ เมื่อเหนื่อยอย่างวันนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพักผ่อนอีกแล้ว ว่าไหม?
เช้าที่ไม่ถูกปลุกด้วยนาฬิกา เสียงกาเหว่าค่อย ๆ ปลุกให้ตื่นอย่างช้า ๆ เราเปิดหน้าต่างเต็นท์และนอนฟังมันอย่างนั้น อื้มสบายดีจัง พลันเสียงนกเงือกก็ร้องแผดและบินฉับ ๆ ดังลั่น เราตื่นเต้นและออกมองตามต้นเสียงนั้น เจ้านกเงือกคู่รัก ปีกของเจ้าไม่ได้มีไว้กางในรังเล็กหรือเพียงขยับขึ้นลงในกรงเหล็ก เจ้าช่างคู่ควรกับการโผบินสุดเหยียดเช่นนั้น
เรามองไปที่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ มองเห็นทุกการปฏิบัติงานนั้นแสนจะลำบาก โดยเฉพาะการลาดตระเวนแต่ละครั้งต้องเผชิญกับอุปสรรคนับไม่ถ้วน เช่นการลาดตระเวนในเส้นทางที่ไม่เคยใช้มาหลายปีครั้งนี้ ต้องเก็บพิกัด GPS และสำรวจร่องรอยต่าง ๆ มีทั้งความยากของการเดิน อันตรายจากสัตว์ป่า นักล่าสัตว์ป่า และพวกลักลอบตัดไม้ เสี่ยงจากการปะทะและซุ่มทำร้าย แบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวงคือการรักษาผืนป่า รวมถึงสัตว์น้อยใหญ่ ให้คงอยู่ต่อไป เพราะป่าคือแหล่งกำเนิดของน้ำ ไม่มีป่า ไม่มีน้ำ ก็ไม่มีมนุษย์ รู้สึกขอบคุณที่มีเขาเหล่านี้
เนื่องจากเส้นทางไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด เราตั้งแคมป์สองก่อนถึงเป้าหมายเพราะค่ำเสียก่อน แคมป์นี้มีทากน้อยกลอยใจเสียด้วย เป็นมื้อเย็นที่สนุกสุด ๆ ไปเลยงื่อออออออ รีบไปนอนกันเถอะ
เช้านี้เป็นเช้าที่เซอร์ไพรส์จริง ๆ ไม่มีนกเงือกเหมือนวันก่อน แต่มีคำบอกเล่าถึงเช้ามืดวันนี้เรื่องกระทิงจากผู้พิทักษ์และพี่รมย์คนหูดี ตื่นเต้นสุด ๆ บวกกับกลัวด้วย ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ก็ต้องการน้ำ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกมันถึงมาบริเวณนี้
ไปต่อกันเถอะ ทางวันสุดท้ายนี้มันโหดแสนจะโหด อย่าเรียกว่าทางชัน โปรดเรียกมันว่าทางดิ่ง นี่คือเนินที่ความสูงเก้าร้อยเมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางและผู้พิทักษ์เองก็ไม่เคยขึ้นมาก่อน ขึ้นจนสุดทาง ลงจนสุดเหว หลงจนสุดตัว กระหายน้ำจนสุดใจ
ทางที่ซับซ้อน ชันจนต้องโหนกันเป็นลิง บวกกับความรกทึบ ยากที่การทิ้งห่างเพียงห้าเมตรจะทำให้เรามองเห็นกัน
ช็อตนี้จากน้องพิมพ์
คือตอนนั้นพิมเดินละท้ายกับพี่หมอ กับบทสนทนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราเดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบ เดินไปหยุดไป เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อีพี่หมอเกือบตกเขาจ้าาา ดีที่เกาะเถาวัลย์ไว้ ตอนนั้นใจหายวูบมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย😂ภาพนั้นยังติดตา แล้วคืออยู่กัน 2 คน แล้วมันก็ใกล้มืดมองไปทางไหนก็ป่า ลองเดินไปทางก็ตัน ตัน ตัน ตันหมดเลย ไม่เหลือร่องรอยให้น้องเลย55555555 ตอนนั้นคือใจคอไม่ดีเลย คิดในใจกูหลงแน่ ตะโกนเรียกใครไม่มีเสียงตอบกลับ มันเคว้งคว้งไปหมดเลย😂 (แอบงอนคนข้างหน้า) แง เดินไม่รอเลย งอนมากกก ปวดขี้ด้วย คือแบบตอนนั้นอารมณ์บ่จอยเลย เดินไปบ่นไป หงุดหงิดอะ แง จนพี่แอมป์(เจ้าหน้าที่)เดินมารับ ตอนนั้นน้ำตาจะไหล คิดในใจกูรอดตายแล้วเว้ย555555 ขอกราบพี่แอมป์ที่เดินกลับมารับน้อง จนเดินไปเจอพี่เม่น พี่เม่น ก็อุ่นใจขึ้นมา เพราะพี่เม่นก็หลงอยู่เหมือนกัน😂 เรา 2 คนบ่นกันใหญ่เลย55555 งอนคนข้างหน้า!!! แต่พอเดินมาเจอพี่ๆที่นั่งรอ ก็เลยอ๋ออออ เขาไม่ได้ทิ้งเรานี่นาาา เขาก็รอ(แต่มารอไกลไปหน่อย!5555) ก็เข้าใจแหละคนข้างหน้าก็เหนื่อยเหมือนเรา เจอทางเหมือนเรามาเช่นกัน ก็เลยไม่งอนแล้ว เย้ 555555 5555
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้คนต้องเดินทาง เพื่อก้าวข้ามสิ่งที่ไม่คิดว่าจะก้าวผ่าน เพื่ออดทนต่อสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทนได้ เพื่อค้นพบใจที่ยิ่งใหญ่ของตัวเราเอง ที่นี่ กาลครั้งหนึ่ง
ตอบคำถามล่วงหน้า
Q: ขอเข้าพื้นที่อย่างไร?
ตอบ
Q: การจัดเสบียงของพวกเราเป็นแบบไหน?
ตอบ
เมนู
Day 1
(-)มื้อเช้ากินที่ร้าน
(-)กลางวันข้าวห่อร้านที่กินเมื่อเช้า
(-)เย็น สุกี้, ยำหมูยอ,
Day 2
(-)เช้า หมูทอด, ผัดกระหล่ำ
(-)กลางวัน หมูทอด, ไก่กระเทียม
(-)เย็น ต้มยำปลากระป๋อง, ไข่พะโล้, หมูทอด
Day 3
(-)เช้า ข้าวต้ม, ผักกาดดอง, กุนเชียง
(-)ออกให้ทัน แล้วกินข้างนอก
*** day 3 กลางวัน อยากให้เตรียมขนมปัง หรือยูโร หรืออาหารให้พลังงาน เช่น แครกเกอร์ ซีเรียล เป็นต้น
****น้ำดื่ม แบกเองเท่าที่ไหว เราเอาไป 2L
*****ขนม น้ำหวาน ลูกอม แล้วแต่ (ควรมี)
ปล. มีโอวัลติน 3 in 1 ติดไป 14 ซอง
Q: ระดับความยากและความเหนื่อยล่ะให้เท่าไร?
ตอบ ยากให้สิบ แต่เหนื่อยให้เท่ากันหมด หนูถามพี่รมย์ว่าให้คะแนนความเหนื่อยของป่านี้เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับป่าอื่น พี่รมย์ตอบว่า
'มันก็เหนื่อยเหมือนกับป่าอื่น ๆ นั่นแหละ แต่พอหยุดพักได้เห็นวิวสวย ๆ ความเหนื่อยนั้นก็หายไป'
Never let go of your dreams.
เส้นทางผู้พิทักษ์ไพร | แอ่งกะลา - พุน้ำร้อน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
ความท้าทายคือส่วนเกินของชีวิต เห็นคุณค่าของหัวใจที่เต้นช้ามากกว่าถี่รัว รักผิวพรรณที่ผุดผ่องมากกว่าร่องรอยของประสบการณ์ ถ้าคุณคิดเช่นนั้น กดข้ามกระทู้นี้ได้เลย
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเดินและรู้ซึ้งถึงชีวิตของลูกผู้ชายผู้พิทักษ์ผืนป่าโดยแท้จริง ที่นี่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อ. บ้านคา จ. ราชบุรี ผืนป่าแห่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติเตรียมประกาศ
เว้นว่างจากงานประจำ 3 วัน ขอสัมผัสแหล่งกำเนิดของชีวิตนับไม่ถ้วนในป่าต้นน้ำผืนนี้หน่อยนะ เส้นทางที่พวกเราได้มีโอกาสลาดตระเวนด้วย คือ จากหน่วยพิทักษ์ป่าแอ่งกะลา ถึง หน่วยพิทักษ์ป่าพุน้ำร้อน
ผู้ร่วมชะตากรรม บอกเลยว่าร่วมชะตากรรมของจริงนะ ลุงสนิท พี่อับดุลย์ พี่เบล พี่แอมป์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั้งสี่ และพวกเราทั้งแปด พี่รมย์ คนสวน พี่สาคู หมอ ครูแป้ง น้องพิมพ์ โชคโชค และเราเอง
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยหัวใจถี่ระรัว ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร ไม่รู้ว่าระยะทางใกล้ไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าระดับความชันนั้นเท่าไร รู้แต่ว่าจะไม่ประมาทเด็ดขาด
จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ต้องใช้รถ 4WD ขับเข้าไปยังแอ่งกะลา ผ่านลำห้วย 32 ห้วย เนินชันนับไม่ถ้วน แต่มีเนินนึงแบบ อย่างชัน คือชันเกินไป รถขึ้นไม่ไหว ยึกยักอยู่นานพอสมควร พวกเราจึงถือโอกาสให้สมยานามเนินแห่งนี้ว่า "เนินติดตะโปก" เรื่องความหมายก็ข้ามผ่านไปเลยแล้วกันนะ กว่าจะถึงก็ไม่ง่ายเลย มีจังหวะที่ต้องหยุดเพื่อเคลียร์สิ่งกีดขวางอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เบื่อเลย นั่งขำไก่ป่าวิ่งนำหน้ารถ ดุ๊ก ดุ๊ก ดุ๊ก ดุ๊ก ไม่ยอมไปวิ่งข้างทางด้วยนะเอาซี๊ ที่สำคัญนะ ทุกห้วยจะมีโพรงผีเสื้อเวลารถผ่านมันก็บินกันให้ว่อนเลย สวยประทับใจมาก ลืมไปเลยว่าก้นกำลังช้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า
ถึงหน่วยแล้ว มันเป็นสถานที่ที่วิเศษมาก ๆ ผีเสื้อนานาพันธุ์อาศัยครอบคลุมอาณาบริเวณ รู้สึกว่านี่ขนาดยังไม่เข้าป่าเลยนะมาแค่นี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว การได้จิบชาอุ่น ๆ กับคุกกี้ข้าวโอ้ต และวิ่งเล่นกับผีเสื้อและแมลงต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหญิงอย่างเดียวแล้วนะ พวกเราคนป่าก็มีโอกาสเห็นไหม? พวกเรากินข้าวกลางวัน แบ่งสัมภาระกองกลางและเสบียงกันที่นี่ ระหว่างนั้นเองฝนเทลงมาเล็กน้อย เราพูดคุยกันถึงข้อปฏิบัติต่าง ๆ ข้อห้าม และการดูและตัวเอง รวมถึงทริคอื่น ๆ ได้เวลาแล้ว ไปลุยกัน
เนินแรก
ไม่มีจังหวะให้หายใจหายคอ เงยหน้าปุ๊บคือทางชันตรงหน้า เอาวะ ขอถ่ายรูปรวมยืดเวลาทำใจแป๊ป แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่เนินสุดท้าย เรารู้อย่างนั้น ถึงที่สุดแล้ว ชีวิตยาก ๆ ก็มอบรางวัลให้กับเรา คือประสบการณ์ล้ำค่าที่เราจะได้รับในวินาทีต่อจากนี้ ความง่ายไม่เคยพิสูจน์คน
ความเหนื่อยล้าโรยแรงทำให้เราเริ่มก้าวเข้าสู่ตัวเองอย่างช้า ๆ คงไม่แปลกอะไรหากเสียงพูดคุยค่อย ๆ จางไป เหลือเพียงเสียงจังหวะของการก้าวเท้าและฟันฝ่าสิ่งกีดขวางเพื่อการก้าวไปข้างหน้า จังหวะที่มือถือมีอิทธิพลต่อตัวเราค่อย ๆ ลดน้อยลง และหมดความสำคัญไป ความสุขละมุนเกิดขึ้นจากการเอนหลังมองเงาไม้และหยิบใบไม้แห้งมาหมุนเล่นบนมือ มีเวลายิ้ม มีเวลาหัวเราะ ไม่ยุ่งเหยิงหัวฟูจนลืมความสุขไปง่าย ๆ ขอบคุณโลกใบนี้ที่มอบของขวัญให้กับเราเสมอ
เนินแรกผ่านไป ฝนกระหน่ำเทลงมา ฟ้ามืดครึ้ม พวกเราอยู่ในป่าซึ่งไม่คุ้นเคย ไม่มีทางเดิน และไม่ได้มีศาลาหลบฝน มองไปรอบ ๆ ดูสิ เพื่อนร่วมทางมีความหมายมากแค่ไหน สิ่งที่เราเคยถวิลหาไม่มีความหมายเลย ความสวย ความฉลาด รายได้ อะไรคือสิ่งที่เราต้องการกันแน่?
พวกเรามุดตัวกันอยู่ใต้ผ้าใบพอไม่ให้สัมภาระที่จำเป็นเปียกไปหมดเสียก่อน จากนั้นก็จัดการตัวเอง ใส่ชุดกันฝน คลุม Rain cover ให้เป้สุดรัก เตรียมตัวไปต่อ ฝนค่อย ๆ เบาบาง ลำธารไหลเย็นตรงนี้ก็น่าจดจำไม่น้อย เก็บภาพความทรงจำตรงนี้สักหน่อยแล้วกัน แชะ แชะ ระหว่างนั้นเองไม้พุ่มขนาดความสูงไม่ถึงเมตรแผลงฤทธิ์กับพี่รมย์คนเถื่อน ในจังหวะที่กำลังตั้งคำถามว่ามันคือต้นอะไรมือก็ได้สัมผัสขยี้มันไปเต็ม ๆ "มอญสลัดหาบ" คือชื่อที่ใช้เรียกกัน พี่รมย์เล่าความรู้สึกหน้าตาเฉยว่าเหมือนเข็มทิ่มจึกจึกไปทั่วบริเวณ ไม่ใช่ความคันแบบทั่วไป ล้างน้ำออกก็พอบรรเทาได้บ้าง และพวกเราทุกคน ก็เลยไม่กล้าโดนอะไรอีกเลย
พวกเราก้าวเท้าต่อไปเพื่อหาบริเวณที่พอเหมาะจะเป็นค่ายพักแรมและที่สำคัญต้องมีแหล่งน้ำด้วย อ่อนล้าแล้วนะ แต่ก็ต้องไปต่อ ฮึบบบบบ สิ่งสำคัญอีกเรื่อง ไม่เชื่อก็ไม่ลบหลู่ ของเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่ต้องเตรียมมาคือเหล้าขาวพวกเราขนกันมา 2 ขวด เพราะนอน 2 คืน เมื่อเดินถึงจุดที่พอจะตั้งแคมป์ได้ในเวลาเย็นมากแล้วเช่นนี้ก็คงต้องพักแล้วล่ะ
บริเวณนี้ถึงแม้จะชันแต่ก็มีพื้นที่ให้พอปักหลักกางเต็นท์และผูกเปลได้บ้าง คิดเสียว่า เรานอนกันคนละชั้นแล้วกันเนาะ สร้างบ้านของตัวเองกันเรียบร้อย ก็ช่วยกันหาฟืน หุงข้าว ปรุงอาหาร เตรียมน้ำดื่ม ส่วนผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็สำรวจบริเวณโดยรอบและจุดเทียนเล่มใหญ่มากในจุดที่ห่างพวกเราไปประมาณ 5 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่า
ความเหนื่อยล้าทำให้สิ่งธรรมดากลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เยลลี่และลูกอมที่พกมาด้วยมันช่างอร่อยเหลือเชื่อ ความเหนื่อยยากทำให้มิตรภาพระหว่างทางเกิดขึ้นง่าย พวกเราทุกคน Enjoy กับบทสนทนาของกันและกันในมื้อเย็น เราสลับกันไปทำภารกิจส่วนตัว สองมือได้จุ่มลงน้ำใสและกวักมาลูบหน้าและแปรงฟัน เท้าเริ่มบอบช้ำกับความลาดชันไม่คุ้นเคย มองถึงวันพรุ่งนี้ก็พบว่าต้องเผชิญกับทุกอย่างไม่ต่างจากวันนี้ เมื่อเหนื่อยอย่างวันนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพักผ่อนอีกแล้ว ว่าไหม?
เช้าที่ไม่ถูกปลุกด้วยนาฬิกา เสียงกาเหว่าค่อย ๆ ปลุกให้ตื่นอย่างช้า ๆ เราเปิดหน้าต่างเต็นท์และนอนฟังมันอย่างนั้น อื้มสบายดีจัง พลันเสียงนกเงือกก็ร้องแผดและบินฉับ ๆ ดังลั่น เราตื่นเต้นและออกมองตามต้นเสียงนั้น เจ้านกเงือกคู่รัก ปีกของเจ้าไม่ได้มีไว้กางในรังเล็กหรือเพียงขยับขึ้นลงในกรงเหล็ก เจ้าช่างคู่ควรกับการโผบินสุดเหยียดเช่นนั้น
เรามองไปที่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ มองเห็นทุกการปฏิบัติงานนั้นแสนจะลำบาก โดยเฉพาะการลาดตระเวนแต่ละครั้งต้องเผชิญกับอุปสรรคนับไม่ถ้วน เช่นการลาดตระเวนในเส้นทางที่ไม่เคยใช้มาหลายปีครั้งนี้ ต้องเก็บพิกัด GPS และสำรวจร่องรอยต่าง ๆ มีทั้งความยากของการเดิน อันตรายจากสัตว์ป่า นักล่าสัตว์ป่า และพวกลักลอบตัดไม้ เสี่ยงจากการปะทะและซุ่มทำร้าย แบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวงคือการรักษาผืนป่า รวมถึงสัตว์น้อยใหญ่ ให้คงอยู่ต่อไป เพราะป่าคือแหล่งกำเนิดของน้ำ ไม่มีป่า ไม่มีน้ำ ก็ไม่มีมนุษย์ รู้สึกขอบคุณที่มีเขาเหล่านี้
เนื่องจากเส้นทางไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด เราตั้งแคมป์สองก่อนถึงเป้าหมายเพราะค่ำเสียก่อน แคมป์นี้มีทากน้อยกลอยใจเสียด้วย เป็นมื้อเย็นที่สนุกสุด ๆ ไปเลยงื่อออออออ รีบไปนอนกันเถอะ
เช้านี้เป็นเช้าที่เซอร์ไพรส์จริง ๆ ไม่มีนกเงือกเหมือนวันก่อน แต่มีคำบอกเล่าถึงเช้ามืดวันนี้เรื่องกระทิงจากผู้พิทักษ์และพี่รมย์คนหูดี ตื่นเต้นสุด ๆ บวกกับกลัวด้วย ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ก็ต้องการน้ำ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกมันถึงมาบริเวณนี้
ไปต่อกันเถอะ ทางวันสุดท้ายนี้มันโหดแสนจะโหด อย่าเรียกว่าทางชัน โปรดเรียกมันว่าทางดิ่ง นี่คือเนินที่ความสูงเก้าร้อยเมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางและผู้พิทักษ์เองก็ไม่เคยขึ้นมาก่อน ขึ้นจนสุดทาง ลงจนสุดเหว หลงจนสุดตัว กระหายน้ำจนสุดใจ
ทางที่ซับซ้อน ชันจนต้องโหนกันเป็นลิง บวกกับความรกทึบ ยากที่การทิ้งห่างเพียงห้าเมตรจะทำให้เรามองเห็นกัน
ช็อตนี้จากน้องพิมพ์
คือตอนนั้นพิมเดินละท้ายกับพี่หมอ กับบทสนทนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราเดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบ เดินไปหยุดไป เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อีพี่หมอเกือบตกเขาจ้าาา ดีที่เกาะเถาวัลย์ไว้ ตอนนั้นใจหายวูบมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย😂ภาพนั้นยังติดตา แล้วคืออยู่กัน 2 คน แล้วมันก็ใกล้มืดมองไปทางไหนก็ป่า ลองเดินไปทางก็ตัน ตัน ตัน ตันหมดเลย ไม่เหลือร่องรอยให้น้องเลย55555555 ตอนนั้นคือใจคอไม่ดีเลย คิดในใจกูหลงแน่ ตะโกนเรียกใครไม่มีเสียงตอบกลับ มันเคว้งคว้งไปหมดเลย😂 (แอบงอนคนข้างหน้า) แง เดินไม่รอเลย งอนมากกก ปวดขี้ด้วย คือแบบตอนนั้นอารมณ์บ่จอยเลย เดินไปบ่นไป หงุดหงิดอะ แง จนพี่แอมป์(เจ้าหน้าที่)เดินมารับ ตอนนั้นน้ำตาจะไหล คิดในใจกูรอดตายแล้วเว้ย555555 ขอกราบพี่แอมป์ที่เดินกลับมารับน้อง จนเดินไปเจอพี่เม่น พี่เม่น ก็อุ่นใจขึ้นมา เพราะพี่เม่นก็หลงอยู่เหมือนกัน😂 เรา 2 คนบ่นกันใหญ่เลย55555 งอนคนข้างหน้า!!! แต่พอเดินมาเจอพี่ๆที่นั่งรอ ก็เลยอ๋ออออ เขาไม่ได้ทิ้งเรานี่นาาา เขาก็รอ(แต่มารอไกลไปหน่อย!5555) ก็เข้าใจแหละคนข้างหน้าก็เหนื่อยเหมือนเรา เจอทางเหมือนเรามาเช่นกัน ก็เลยไม่งอนแล้ว เย้ 555555 5555
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้คนต้องเดินทาง เพื่อก้าวข้ามสิ่งที่ไม่คิดว่าจะก้าวผ่าน เพื่ออดทนต่อสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทนได้ เพื่อค้นพบใจที่ยิ่งใหญ่ของตัวเราเอง ที่นี่ กาลครั้งหนึ่ง
ตอบคำถามล่วงหน้า
Q: ขอเข้าพื้นที่อย่างไร?
ตอบ
Q: การจัดเสบียงของพวกเราเป็นแบบไหน?
ตอบ
เมนู
Day 1
(-)มื้อเช้ากินที่ร้าน
(-)กลางวันข้าวห่อร้านที่กินเมื่อเช้า
(-)เย็น สุกี้, ยำหมูยอ,
Day 2
(-)เช้า หมูทอด, ผัดกระหล่ำ
(-)กลางวัน หมูทอด, ไก่กระเทียม
(-)เย็น ต้มยำปลากระป๋อง, ไข่พะโล้, หมูทอด
Day 3
(-)เช้า ข้าวต้ม, ผักกาดดอง, กุนเชียง
(-)ออกให้ทัน แล้วกินข้างนอก
*** day 3 กลางวัน อยากให้เตรียมขนมปัง หรือยูโร หรืออาหารให้พลังงาน เช่น แครกเกอร์ ซีเรียล เป็นต้น
****น้ำดื่ม แบกเองเท่าที่ไหว เราเอาไป 2L
*****ขนม น้ำหวาน ลูกอม แล้วแต่ (ควรมี)
ปล. มีโอวัลติน 3 in 1 ติดไป 14 ซอง
Q: ระดับความยากและความเหนื่อยล่ะให้เท่าไร?
ตอบ ยากให้สิบ แต่เหนื่อยให้เท่ากันหมด หนูถามพี่รมย์ว่าให้คะแนนความเหนื่อยของป่านี้เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับป่าอื่น พี่รมย์ตอบว่า
'มันก็เหนื่อยเหมือนกับป่าอื่น ๆ นั่นแหละ แต่พอหยุดพักได้เห็นวิวสวย ๆ ความเหนื่อยนั้นก็หายไป'
Never let go of your dreams.