การกลับมาหลังจากห่างหายการนั่งรถไฟไทยไปนาน ครั้งนี้เดินทางกับรถไฟนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ กับมีน้องคนนึงบอกว่าอยากให้ผมทำรีวิว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมเองอาจจะยังไม่เคยทำ อย่างมากก็แค่เอารูปลงอัลบั้มไว้ แต่รอบนี้ลองเพิ่มคำบรรยายเข้าไปบ้าง พยายามอัพและเขียนให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่ตกหล่นหากเหมือนครั้งก่อนๆที่ดองไว้
รูปถ่ายเกือบทุกรูปในการเดินทางครั้งนี้ถ่ายด้วยกล้อง Gopro Hero 7 Black และไม่ได้มีผู้สนับสนุนแต่ประการใด ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้นำรูปไปใช้ในเชิงพาณิชย์
"สามเสน"
ผมเดินทางมารอการโดยสารที่สถานีรถไฟสามเสน
ที่สถานีสามเสนในยามเช้า เราจะเห็นผู้คนมากมายที่มารอรับคนรู้จักซึ่งเดินทางมาพร้อมกับขบวนรถขาเข้าที่ต่อคิวเข้าสถานีกรุงเทพ และคนที่กำลังรอการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กับขบวนรถไฟเที่ยวเช้า รวมถึงเราด้วย
"911"
ในเวลาประมาณหกโมงห้าสิบ รถนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ขบวนที่ 911 ที่เรามีตั๋วโดยสารก็มาถึงสถานีสามเสน
ซึ่งมันอาจจะช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย เนื่องจากวันนี้ขบวนรถไม่ได้พ่วงรวมกับรถนำเที่ยวอีกขบวนซึ่งมีปลายทางอยู่ที่น้ำตก จ.กาญจนบุรี
"Ticket"
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาแล้ว ผมกับเจ้ากล้อง Gopro7 ที่ผมเป็นเจ้าของมันมานานสักระยะ แต่ก็ยังไม่คุ้นเคย ก็เดินทางไปประจำตามที่นั่งบนขบวนรถที่ระบุไว้บนตั๋วโดยสาร ที่ซื้อมาในราคาไปกลับเพียง 240 บาท สำหรับรถปรับอากาศ (120 บาทสำหรับรถพัดลม) สามารถโทรจองได้ก่อนวันเดินทาง 5 วันที่หมายเลข 1690
ซึ่งการได้มาของตั๋วโดยสารรถนำเที่ยวนั้น บางครั้งมันก็ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ บางครั้งต้องใช้ดวง บางวันถูกจองเต็มล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
ความคิดผมมันจองได้ยากยิ่งกว่ารถไฟขบวนพิเศษยุฟุอิน โนโมริ ที่คิวชูประเทศญี่ปุ่นซะอีก
"ตู้รถไฟมือสอง"
รถที่ผมได้ใช้บริการในวันนี้เป็นรถนั่งปรับอากาศ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับต่อมาจากบริษัทรถไฟเจอาร์ ใประเทศญี่ปุ่น และนำมาปรับปรุงให้บริการ ถึงเบาะอาจจะนั่งไม่สบายสำหรับคนสูงวัย 180 อย่างผม แต่อย่าได้ดูถูกแอร์รถรุ่นนี้เชียวล่ะ ตู้เย็นแช่ปลาชัดๆ
"สถานีนครปฐม"
แปดโมงสิบนาที รถนำเที่ยวก็เดินทางมาถึงจุดแรกที่สถานีนครปฐม ซึ่งช้ากว่ากำหนดเวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง รถไฟจะหยุดให้เราได้ ไหว้พระปฐมฯ ดื่มนมเย็น เล่นหวย ซื้อกล้วยปิ้ง ช็อปปิ้งข้าวหลาม เดินตามผู้ชาย ฯลฯ ทั้งหมดนี้ภายในเวลา 40 นาทีเท่านั้น
"องค์พระปฐมเจดีย์"
วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีที่ผมได้เดินทางมากับรถไฟนำเที่ยว ที่ผมเดินมานมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ จากสถานีรถไฟเดินออกหน้าสถานีตรงมาระยะทางประมาณสามร้อยเมตร แต่สำหรับผู้สูงวัยสามารถใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์นุ่งสั้นรับจ้างหน้าสถานีได้นะครับ
"พระร่วงโรจนฤทธิ์"
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครปฐม
คนที่มากับขบวนรถนำเที่ยวควรสักการะเพียงแค่จุดนี้นะครับ ไม่ควรเข้าเดินวนรอบองค์พระ เพราะมันอาจจะทำให้กลับไปไม่ทันรถไฟและอาจจะได้เที่ยวนครปฐมทั้งวันก็เป็นได้😁
"Duo รถไฟนำเที่ยว"
ดีเซลรางนำเที่ยวสายน้ำตก กาญจนบุรีซึ่งนำหน้าขบวนรถที่ผมมา ปกติรถนำเที่ยวทั้งสองขบวนจะพ่วงรวมกันมาและกลับพร้อมกัน เพียงแต่วันนี้ใช้รถคนละแบบจึงต้องแยกกันเดินทาง
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศทะเลเป็นภูเขากับป่าแล้ง สามารถซื้อตั๋วเดินทางกับรถขบวนนี้ได้นะครับ
"รถหลังสวน"
เนื่องจากวันนี้ขบวนรถนำเที่ยวแยกกันเดินรถ อานิสงส์ความล่าช้าจึงแผ่ไปถึงรถธรรมดาหลังสวนด้วย เนื่องจากรอทางกัน และยังต้องหลีกให้รถด่วนดีเซลรางปรับอากาศสุราษฎร์ธานี (คนที่บ้านเรียกสปินเตอร์) แซงด้วย
รถธรรมดาธนบุรี-หลังสวน เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางไปหัวหิน ประจวบฯ ชุมพร ซึ่งมีการเดินรถทุกวันในราคาประหยัด
รีวิว 1 วัน นั่งรถไฟไปหัวหิน-สวนสนประดิพัทธ์
รูปถ่ายเกือบทุกรูปในการเดินทางครั้งนี้ถ่ายด้วยกล้อง Gopro Hero 7 Black และไม่ได้มีผู้สนับสนุนแต่ประการใด ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้นำรูปไปใช้ในเชิงพาณิชย์
"สามเสน"
ผมเดินทางมารอการโดยสารที่สถานีรถไฟสามเสน
ที่สถานีสามเสนในยามเช้า เราจะเห็นผู้คนมากมายที่มารอรับคนรู้จักซึ่งเดินทางมาพร้อมกับขบวนรถขาเข้าที่ต่อคิวเข้าสถานีกรุงเทพ และคนที่กำลังรอการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กับขบวนรถไฟเที่ยวเช้า รวมถึงเราด้วย
"911"
ในเวลาประมาณหกโมงห้าสิบ รถนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ขบวนที่ 911 ที่เรามีตั๋วโดยสารก็มาถึงสถานีสามเสน
ซึ่งมันอาจจะช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย เนื่องจากวันนี้ขบวนรถไม่ได้พ่วงรวมกับรถนำเที่ยวอีกขบวนซึ่งมีปลายทางอยู่ที่น้ำตก จ.กาญจนบุรี
"Ticket"
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาแล้ว ผมกับเจ้ากล้อง Gopro7 ที่ผมเป็นเจ้าของมันมานานสักระยะ แต่ก็ยังไม่คุ้นเคย ก็เดินทางไปประจำตามที่นั่งบนขบวนรถที่ระบุไว้บนตั๋วโดยสาร ที่ซื้อมาในราคาไปกลับเพียง 240 บาท สำหรับรถปรับอากาศ (120 บาทสำหรับรถพัดลม) สามารถโทรจองได้ก่อนวันเดินทาง 5 วันที่หมายเลข 1690
ซึ่งการได้มาของตั๋วโดยสารรถนำเที่ยวนั้น บางครั้งมันก็ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ บางครั้งต้องใช้ดวง บางวันถูกจองเต็มล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
ความคิดผมมันจองได้ยากยิ่งกว่ารถไฟขบวนพิเศษยุฟุอิน โนโมริ ที่คิวชูประเทศญี่ปุ่นซะอีก
"ตู้รถไฟมือสอง"
รถที่ผมได้ใช้บริการในวันนี้เป็นรถนั่งปรับอากาศ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับต่อมาจากบริษัทรถไฟเจอาร์ ใประเทศญี่ปุ่น และนำมาปรับปรุงให้บริการ ถึงเบาะอาจจะนั่งไม่สบายสำหรับคนสูงวัย 180 อย่างผม แต่อย่าได้ดูถูกแอร์รถรุ่นนี้เชียวล่ะ ตู้เย็นแช่ปลาชัดๆ
"สถานีนครปฐม"
แปดโมงสิบนาที รถนำเที่ยวก็เดินทางมาถึงจุดแรกที่สถานีนครปฐม ซึ่งช้ากว่ากำหนดเวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง รถไฟจะหยุดให้เราได้ ไหว้พระปฐมฯ ดื่มนมเย็น เล่นหวย ซื้อกล้วยปิ้ง ช็อปปิ้งข้าวหลาม เดินตามผู้ชาย ฯลฯ ทั้งหมดนี้ภายในเวลา 40 นาทีเท่านั้น
"องค์พระปฐมเจดีย์"
วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีที่ผมได้เดินทางมากับรถไฟนำเที่ยว ที่ผมเดินมานมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ จากสถานีรถไฟเดินออกหน้าสถานีตรงมาระยะทางประมาณสามร้อยเมตร แต่สำหรับผู้สูงวัยสามารถใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์นุ่งสั้นรับจ้างหน้าสถานีได้นะครับ
"พระร่วงโรจนฤทธิ์"
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครปฐม
คนที่มากับขบวนรถนำเที่ยวควรสักการะเพียงแค่จุดนี้นะครับ ไม่ควรเข้าเดินวนรอบองค์พระ เพราะมันอาจจะทำให้กลับไปไม่ทันรถไฟและอาจจะได้เที่ยวนครปฐมทั้งวันก็เป็นได้😁
"Duo รถไฟนำเที่ยว"
ดีเซลรางนำเที่ยวสายน้ำตก กาญจนบุรีซึ่งนำหน้าขบวนรถที่ผมมา ปกติรถนำเที่ยวทั้งสองขบวนจะพ่วงรวมกันมาและกลับพร้อมกัน เพียงแต่วันนี้ใช้รถคนละแบบจึงต้องแยกกันเดินทาง
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศทะเลเป็นภูเขากับป่าแล้ง สามารถซื้อตั๋วเดินทางกับรถขบวนนี้ได้นะครับ
"รถหลังสวน"
เนื่องจากวันนี้ขบวนรถนำเที่ยวแยกกันเดินรถ อานิสงส์ความล่าช้าจึงแผ่ไปถึงรถธรรมดาหลังสวนด้วย เนื่องจากรอทางกัน และยังต้องหลีกให้รถด่วนดีเซลรางปรับอากาศสุราษฎร์ธานี (คนที่บ้านเรียกสปินเตอร์) แซงด้วย
รถธรรมดาธนบุรี-หลังสวน เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางไปหัวหิน ประจวบฯ ชุมพร ซึ่งมีการเดินรถทุกวันในราคาประหยัด