คือผมไปมาหลายรอบแล้ว เลยขอลงไว้เป็นกรณีศึกษาแนวทางของคนที่อยากไป ใครจะหาว่าเรียกวิวช่องยูทูปก็ยอมเพราะถ้าผมไม่ลงก็น่าเสียดายเพราะผมไปมาหลายครั้งจนชำนาญอยากให้คนอื่นได้ไปบ้าง

เริ่มต้นกันเลยนะครับ

1. ก่อนไปซักสัปดาห์นึงให้เข้าไปที่หัวลำโพงครับ แล้วซื้อตั๋วไปสวนสนประดิพัทธ์ (สะกดยากมากครับเพราะไม่คุ้น)
และเนื่องจากเราจะนอนค้างคืน ให้ซื้อตั๋ว 2 วันเลยครับ คือวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั๋วจะเป็นแบบไป-กลับ แต่วันเสาร์ซึ่งเป็นวันออกเดินทางเราจะใช้เฉพาะเที่ยวไปและลงชะอำ ราคาตั๋วคือ 120 เป็นแบบระบุเลขที่นั่ง เราซื้อทั้งเสาร์และอาทิตย์ก็เป็นเงิน 240 บาทครับ   ส่วนวันอาทิตย์เราจะไปรอรถไฟเที่ยวกลับที่สถานีชะอำ เวลาประมาณ บ่าย3โมงครึ่ง รถไฟจะถึงเกือบ 4 โมงเย็น แนะนำให้ไปรอก่อนและเช็คเวลาดีๆ เพราะรถไฟขากลับนี้เค้าจอดสถานีชะอำแป๊บเดียวจริงๆ


2. กลับมาที่วันออกเดินทางกันครับ  วันออกเดินทางเราก็ไปที่หัวลำโพงเช้าๆหน่อยครับ รถไฟเค้าออก 6:30 เราก็กะให้ไปถึงหัวลำโพงซักตี 5:45 ดีกว่าครับเพื่อหากาแฟกินกับขนมรองท้องไว้ ไปหาที่นั่งบนรถไฟสบายๆ  ดีกว่าไปวิ่งตื่นเต้นตอนรถไฟใกล้ออกแล้วมาเกือบไม่ทัน



3. พอรถไฟออกก็นั่งไปเรื่อยๆเลยครับ  ตอนแรกรถไฟจะดูโล่งๆครับ แต่ว่าไม่ต้องดีใจไปครับ เดี๋ยวคนก็ค่อยๆทยอยขึ้นมาตามสถานีต่างๆตลอดเส้นทางแหละครับ ไม่ได้นั่งสบายๆคนเดียวหรอกครับ ยกเว้นจองหมดทั้ง 4 ที่นั่ง

4. พอซักประมาณ 7โมง -7:30  ก็จะใกล้ถึงจุดที่เค้าให้แวะพักครับ ก็คือพระปฐมเจดีย์ ก่อนจะถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟนำเที่ยวนี้มาแนะนำว่า ให้เวลากี่นาทีในการไปเดินเล่นซื้อของกิน หรือเข้าไปไหว้พระปฐมเจดีย์  ซึ่งเวลาที่เค้าให้น้อยครับ ถ้าใครเดินช้าๆแนะนำว่าไม่ต้องเข้าไปถึงเจดีย์นะครับ เดี๋ยวจะตกรถไฟได้ แต่ถ้าใครเดินเร็วหรือไม่แวะซื้อของกินก็เดินไปถึงพระปฐมเจดีย์ได้ครับ ผมก็เคยทั้งเดินเข้าไปถึงห้องน้ำที่พระปฐมเจดีย์แวะซื้อของกินก็ยังทัน แต่ผมเป็นคนเดินเร็วนะครับ

แนะนำให้ซื้อข้าวเหนียวหมูข้าวเหนียวเนื้อ แถวๆหน้าสถานีรถไฟกิน แล้วไปซื้อน้ำในเซเว่นดื่มดีกว่าครับ ง่ายๆดี

ที่แถวสถานีรถไฟนครปฐมนี้  จะมีเสียงดนตรีแนวเต้นๆดังอยู่ นั่นเพราะมีเฮียคนนึงครับ จะเต้นอยู่แถวๆนั้น ไม่ต้องตกใจครับ เฮียเค้าใจดีไปถ่ายรูปได้เลย  


ต่อจากนั้นเราจะกินข้าวเหนียวหมูข้าวเหนียวเนื้อ ที่ม้านั่งของสถานี หรือเอาขึ้นไปกินบนรถไฟก็ได้ครับ
ห้องน้ำที่สถานีรถไฟมีครับเสียเงินนิดหน่อย



5. ต่อจากนั้นพอออกจากสถานีนครปฐมครับ ซักพักเจ้าหน้าที่รถไฟก็จะมาแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรวมถึงให้เราสั่งอาหารมีเส้นเล็กลูกชิ้นแห้งราชบุรี และของฝากพวกขนมหม้อแกง ซึ่งเราก็ฟังๆไว้ครับ แต่เราลงชะอำ แถมวันเสาร์นี้เราไปอย่างเดียวด้วยไม่ได้กลับ ก็ไม่ต้องไปสั่งของสั่งอาหารกับพี่เค้านะครับ

แต่ ตรงนี้ย้ำนะครับ  ควรจดเบอร์เมมเบอร์มือถือของพี่เจ้าหน้าที่ท่านนี้ไว้ด้วย ซึ่งเค้าจะประกาศให้จดเลยไปทุกรอบประกาศทุกรอบ เล่นมุกเหมือนเดิมทุกรอบครับ

ทำไมเบอร์นี้สำคัญ เพราะถ้าเกิดมีเหตุผิดพลาดอะไรคุณจะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านนี้ได้ เช่น ถ้าคุณเปลี่ยนใจจะกลับบ้านวันเสาร์ ไม่ค้างละชะอำ ก็อาจจะโทรหาเค้าว่า เดี๋ยวผมจะขึ้นรถไฟเที่ยวกลับที่ชะอำนะครับ เค้าก็จะแนะนำคุณหรือคอยประสานงานตอนคุณขึ้นรถไฟขากลับที่ชะอำได้(รถไฟจะวิ่งผ่านชะอำประมาณเกือบๆ 4 โมงเย็นแต่บางทีก็ถึงก่อนหรือถึงหลังก็มีนะครับ)

แต่สำหรับผมเคยโทรไปหาเค้าในวันอาทิตย์ ก่อนเที่ยงครับ  ตอนนั้นเราก็ยังอยู่ที่ชะอำ เราสามารถโทรไปบอกพี่เค้าว่า ขอสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งราชบุรี หรืออื่นๆได้ เพราะตอนเรากลับช่วงเย็นๆก๋วยเตี๋ยวและของฝากจะถูกแจก  ถ้าเราหิวเราก็ต้องนั่งดูเค้ากิน แต่เราโทรไปสั่งเราก็จะได้ของเหมือนกัน เงินค่อยจ่ายบนรถไฟได้ 

เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ ไปทานข้าวแป๊บครับ

มาต่อแล้วครับ

พอออกจากสถานีนครปฐมเสร็จ เจ้าหน้าที่บรรยายสถานที่ท่องเที่ยว มีลงได้ที่ชะอำ  หัวหิน สวนสนประดิพัทธ์



กระทู้นี้จะขอลงชะอำนะครับ เพราะเป็นที่เดียวที่ผมลงและค้างคืน  แต่เลยไปลงที่หัวหินผมก็เคยลงไปเที่ยวแล้วก็แวะที่ชายหาดหัวหิน รอให้รถไฟกลับมารับในตอนบ่ายแล้วผมก็ขอแวะลงชะอำไปค้างที่ชะอำได้เหมือนกัน  สวนสนประดิพัทธ์ผมก็เคยลงไปเที่ยวแล้วซึ่งก็ดีนะครับแต่ผมจะไม่นำมาเล่าในกระทู้นี้ เพราะอันนี้เน้นชะอำ

พอรถไฟแล่นออกจากสถานีนครปฐม ก็จะผ่านสถานีหลักๆ ก็มี สถานี บ้านโป่ง  โพธาราม  ราชบุรี ก็ยังไม่ต้องตื่นเต้นหรือกลัวว่าจะลงชะอำไม่ถูกนะครับยังอีกไกล

แต่เพื่อลดความตื่นเต้นลงซักหน่อย ตอนที่เจ้าหน้าที่เดินมาตรวจตั๋ว ก็บอกเค้าซักหน่อยครับ ว่าเราลงชะอำ แล้วบอกเค้าไปด้วยเลยครับว่า เราไม่กลับนะครับ 

จากสถานีราชบุรี ก็ จะผ่าน สถานีเพชรบุรี  ก็ยังอีกไกลครับ นั่งไปเรื่อยๆ จำได้ว่าช่วงประมาณ9โมงครึ่ง - 10 โมงเช้านี่แหละครับถึงจะถึงชะอำครับ เวลาถึงนี่ไม่ค่อยแน่ใจ(นี่ขนาดผมไปบ่อยแล้วนะครับ 555)

แต่ดูง่ายๆครับ ก่อนจะถึงชะอำ ก็จะถึงสถานีหนองจอก  สถานีหนองศาลา  แล้วก็ชะอำ   พอถึงสถานีชะอำเค้าจะจอดอยู่แล้วครับ และมีเสียงประกาศด้วยว่าที่นี่สถานีชะอำ   แต่ถ้าเกิดว่าเกิดเหตุเลวร้ายจริงๆลงไม่ได้ก็ไม่ต้องเสี่ยงกระโดดลงนะครับ ไปลงหัวหินก็ได้ครับ แล้วพอช่วงบ่าย 3 ค่อยนั่งรถขากลับมาลงชะอำก็ได้ครับ

6. พอลงจากรถไฟที่สถานีชะอำก็จะโล่งๆครับ ไม่ค่อยมีใครลงตามเรามาหรอกครับ  มองไปฝั่งโน้นก็จะเห็นมอเตอร์ไซด์รับจ้างครับ  เราต้องนั่งมอเตอร์ไซด์เข้าไปที่หน้าหาดครับ   อย่าคิดเดินครับ เพราะผมเคยเดินแล้วไกลมากและร้อนสุดๆ อีกอย่างเรามีของด้วย มันไม่เหมาะที่เราจะเดินหรือวิ่ง ชิวๆ
ก็ต้องขึ้นมอเตอร์ไซด์ไปครับ  ถ้าเราไป 2 คน โดยปกติแล้วเค้าจะให้ซ้อนกันคันเดียวเลยครับ  ถึงแม้เราจะขอไปคนละคันเค้าก็ไม่ยอมครับ
ราคาปกติคิดเป็นคนครับคนละ 50 บาทอาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ได้เสมอครับ ผมเคยนั่ง 80 บาทก็เคยครับเพราะ 4 แยกชะอำปิดมอเตอร์ไซด์ต้องขับอ้อม  แล้วปกติมอเตอร์ไซด์ทุกคันพูดจาและบริการดีครับ

ให้เราบอกมอเตอร์ไซด์ว่าไปหน้าหาด ถ้าเรายังไม่ได้จองที่พัก แต่เวลานั่งมอเตอร์ไซด์ไปเค้าก็อาจจะขอพาไปที่พักให้เพราะเค้าจะได้ส่วนแบ่งจากที่พักครับ จะขอคำแนะนำเค้าก็ได้ครับ หรือถ้าจองที่พักไว้บอกชื่อที่พักไปเลยครับ

7. การจองที่พักที่พักที่ชะอำนี้ที่ผมชอบสุดก็ เมธาวลัยครับ  แต่อันนี้มีข้อเสียคือถ้าเราออกไปนั่งชาดหาดจะร้อนกว่าอีกที่นึงครับ



แต่ถ้าใครอยากประหยัด อีกที่นึงที่ ผมขอแนะนำที่นี่ครับ บ้านเคียงทะเลชะอำ เพราะที่นี่ราคาห้องแพงสุด 800-900 บาทและอยู่ในทิศที่แดดไม่ร้อนครับ 


บ้านเคียงทะเลนี่นอกจากห้องจะไม่ร้อนแล้ว ให้เลือกห้องมีระเบียงนะครับ จะมองเห็นทะเลทางขวามือแบบนิดๆแต่ก็มองเห็นครับ  

นอกจากห้องจะไม่ร้อนแล้วเดินไปที่หาดครับ เตียงผ้าใบโซนนี้นั่งไม่ร้อนด้วยครับ  คือไม่ค่อยโดนแดด ผิดกับตรงเมธาวลัยเหมือนโดนแดดมากกว่า

ส่วนที่พักอื่นๆก็มีอีกเยอะเลยครับ ผมเคยเดินไล่ถ่ายไว้จำนวนนึง



ในกรณีเที่ยวครั้งนี้ผมจะขอเล่าจากการที่ผมพักบ้านพักเคียงทะเลนะครับ เพราะผมไปมาบ่อยสุด (ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ และไม่ได้รู้จักกันด้วยครับ)

8. พอลงจากมอเตอร์ไซด์ครับ ถ้าคิดว่าคนขับบริการเราดี ก็ขอเบอร์ไว้เลยครับ บอกว่าพรุ่งนี้มารับได้มั้ย เพราะเราต้องนั่งมอเตอร์ไซด์กลับไปที่สถานีรถไฟชะอำครับ  และเช่นเคยครับ อย่าเดินไปนะครับ ผมเคยเดินไปแล้วครับ ไกลมากและร้อนมาก สุดท้ายต้องโบกมอเตอร์ไซด์ให้ไปส่งอยู่ดี  
มอเตอร์ไซด์ตรงหน้าหาดก็มีครับ แต่อาจจะคิดเราแพงกว่าคันที่เรานั่งมาจากสถานีรถไฟก็ได้ครับ

9. เข้าที่พักครับ เนื่องจากเราไปถึงเช้า ยังไม่ 11 โมงเลย บางทีพักก็อาจจะไม่ให้เราเข้า บอกว่าแขกเมื่อคืนยังไม่ออกหรือห้องกำลังทำความสะอาดอยู่  เราก็ขอฝากกระเป๋าครับ แล้วไปนั่งที่หาดเลยครับ  เตียงผ้าใบราคาไม่แพงหรอกครับ ตัวละ 30 บาท แต่บ้างจุดเค้าก็ให้เหมา 120 เอาไป4ตัว
มาเที่ยวก็ไม่คิดมากครับจ่ายไป 120 บาท

10. อาหารกลางวัน  จะสั่งจากคนที่ถือเมนูมาก็ได้นะครับ กรณีที่อยู่แถวปากซอยบ้านพักเคียงทะเล เค้าเรียกว่าซอยรถทัวร์ครับ  

อาหารก็ไม่แพงครับ แต่ปกติผมก็ไม่สั่งหละครับ น้ำผมก็ไม่สั่ง  เพราะมีเซเว่นอยู่ใกล้ๆ  ก็บอกเค้าไปครับว่าไม่สั่งได้มั้ยครับ เค้าก็จะบอกว่าได้ครับ

ผมทำแบบนี้ประจำไม่เห็นเค้าว่าอะไร แค่เราจ่ายค่าเตียงผ้าใบเค้าก็โอเคแล้ว  

จากนั้นเราก็ไปซื้อเครื่องดิ่มที่เซเว่นครับ มีหมดทุกอย่าง น้ำแข็งก็ซื้อได้ แก้วก็แก้วพลาสติกใส 

ส่วนอาหารนั้นที่นี่มีเมนูเด็ดครับ  คือยำไข่แมงดาทะเลครับ  เดี๋ยวจะมีคนหาบมาขายครับ ราคาก็แพงหน่อยครับ 180 - 230 ขึ้นอยู่กับตัวเล็กหรือใหญ่ เรามาเที่ยวก็ไม่คิดมากครับจ่ายๆไป



อาหารอย่างอื่นก็อยู่ด้านขวาของเซเว่นมองๆไปก็เห็นครับ พวกไก่ย่าง ลาบน้ำตกส้มตำ  บอกเค้าว่าซื้อไปนั่งกินริมหาด บางเจ้าบอกไปนั่งรอเดี๋ยวเดินไปส่งให้ก็มีครับ

แนะนำปูด้วยนะครับ สั่งกินไปเถอะครับ สวนใหญ่จะสดรสชาติดีครับ เพราะผมสั่งทุกครั้งอยู่ในหาบเดียวกับแมงดาทะเลนั่นแหละครับ

หลังจากนั้นเราก็นั่งดื่มด่ำกับธรรมชาติชายหาดทะเลสายลมสองเราและเพลิดเพลินกับรสชาติของยำไข่แมงดาทะเล และปู และเครื่องดื่มเพลินๆไปครับ

สบายและมีความสุขครับ

11. เข้าที่พักครับที่พักถ้าเป็นบ้านพักเคียงทะเล ก็จะมีมัดจำกุญแจ แล้วก็จ่ายเงินไปปกติก็ประมาณ 800- 1000 นึงนี่แหละครับ

แล้วเราก็เข้าที่พักอาบน้ำนอนเล่นดูทีวี ออกไปที่ระเบียง นั่งเล่นนอนเล่นสบายครับ

12. ตอนเย็นวิ่งออกกำลังไปทางขวามือ ถ้าหันหน้าออกไปทางทะเล  ก็คือเราไปทางชะอำใต้ครับ  ใครจะเช่าจักรยานก็ได้ครับมีให้บริการหลายเจ้าเลย

ถ้าเราไปทางขวามือจนสุดจะเจอชิงช้าครับ และเจอมุมสวยๆให้ถ่ายรูปครับ แต่ก็ไกลพอสมควรครับ เหมาะกับการออกกำลังกายด้วยเดินหรือวิ่ง หรือจักรยาน

ควรไปนะครับ 



จากนั้นขากลับเราก็ค่อยกลับมาครับ มีของขายตลอดทางแหละครับ จะซื้อกินซื้อกลับบ้านก็ได้ครับ 

13. มื้อเย็นหรือหัวค่ำครับ  ผมชอบร้านนี้ครับ  เพราะราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ ชื่อร้านน้องทีม ครับ อยู่ตรงปากซอยรถทัวร์นั่นแหละครับ



พอทานมื้อเย็นเสร็จ ใครจะไปเดินเล่นริมหาดฟังเสียงคลื่นก็ได้  หรือจะซื้อโรตีใส่กล้วยใส่ไข่ไปกินที่ห้องก็ได้ครับ ดูทีวีไปเปิดแอร์เย็นๆฟินเลย



แล้วเราก็นอนหลับไปครับ

14. ตื่นมาตอนเช้าแต่เช้าครับ  ก็ชงกาแฟดื่มสิครับ ในห้องมีกาน้ำร้อนให้อยู่แล้วสบายเลย



หลังจากจิบกาแฟเสร็จครับ แนะนำให้วิ่งไปทางซ้ายมือของหาดครับ ถ้าหันหน้าออกไปทางทะเลนะครับ หรือไปทางชะอำเหนือครับ



ซึ่งเราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลยนะครับ ถ้าเราออกไปแต่เช้าครับ  ให้เราวิ่งไปจนสุดเลยครับ เราจะเจอสะพานครับ และจะมีวิวสวยๆเลยครับ

ขากลับเราก็ค่อยๆเดินกลับมาเจอ ไข่กระทะ ริมหาดแวะทานได้ครับ อร่อยเลย แต่บางเจ้าแพงบ้างเจ้าถูกราคาไม่เท่ากันครับ

ถ้าเจอรถเข็นขายไก่ทอดก็ซื้อได้ครับ อร่อยดีเหมือนกันครับ



จากนั้นเราก็กลับมาพักผ่อนที่ๆพักครับ รอเวลาเกือบๆเที่ยงครับ