ทริปนี้เริ่มต้นด้วยเพื่อนคนนึง อยากนั่งรถไฟเที่ยวก็เลยชวนเพื่อนๆในกลุ่มอีก13คนไปเที่ยว
และได้เสียงตอบรับที่ดีมา3คน อีก10คนไม่ว่างบ้าง ติดธุระบ้าง ไม่ตอบอะไรเลยบ้าง
จึงรวมกันได้ 4 คน และตกลงใจว่าจะนั่งรถไฟไปทะเล และได้เจอ "ขบวนรถไฟนำเที่ยว"
ดูดูไป ราคาถูกดี 240 กับ 120บาทเอง ตกลงไปไป ไป กรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์
ต่อมามีเพื่อนอีกคนที่มาจากบางสะพาน ไม่ได้เจอกันนาน จะขึ้นมาเจอกันที่ทะเล เย่!!!
สรุปแล้วรวมกันได้ 5 คน จัดการซื้อตั๋ว ได้ที่นั่งชั้น3 ราคา 120 บาท
เช้าวันที่ 24 พฤษภาคม 57 เวลา 06:10น ทั้ง 4 คนพร้อมกันที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง
ชานชลาที่11 มีสองขบวน คือรถไปน้ำตก กับ รถไปสวนสน ซึ่งในระยะแรกจะไปด้วยกัน
ถ้าไม่รู้จะไปขบวนไหน ตู้ไหน ที่นั่งอะไร ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย เจ้าหน้าที่ใจดีมากมากมาก
พอขึ้นไปนั่งแล้วก็รอเวลา ผู้ร่วมขบวนรถไฟชั้น3นั้นมีน้อย ส่วนชั้น2ถูกจองโดยคณะทัวร์อะไรสักอย่าง
ขบวนรถไฟไปน้ำตกนั้นดุท่าแล้วจะคนแน่นเลนทีเดียว แถมยังมีพระไปด้วย (เดินมาแต่ไกลๆคิดว่าท่านมาบิณฑบาตร)
รถไฟนำเที่ยวจะออกในเวลา06:30น ซึ่งออกตรงเวลาเป๊ะ มีผู้โดยสารตกรถหลายคน (เขาก็มีเวลารถออกบอกไว้นะ ทำไมไม่มาก่อนเวลา)
เจ้าหน้าที่ก็แนะนำสถานีต่อไปที่สามารถขึ้นรถทันให้กับเพื่อนๆผู้ตกรถ และ มีหลายคนไม่ได้ไปต่อ
หากคิดว่าขึ้นที่หัวลำโพงไม่ทันหรือเดินทางไม่สะดวก สามารถขึ้นที่สถานีอื่นๆได้ สอบถามได้ที่ 1690
ตอนนั่งรถไฟก็ไม่มีอะไรทำ นั่งคุยกันไปมา ลุ้นคนที่ตกรถว่าจะมาทันหรือไม่ มองออกไปนอกหน้าต่าง และก็ถ่ายรูปเล่นกัน
มาดูที่นั่งในขบวนกันดีกว่า
ที่นั่งแนวยาวนี้นอนสบาย
มีเลขที่นั่งบอกชัดเจน
มีราวสำหรับโหนได้ มีที่วางสัมภาระ
พร้อมด้วยพัดลม
ถ้าแดดออก สามารถเอาม่านลงมาได้ ตรงม่านนี่แหละเมื่อแดดส่องโพสท่าถ่ายรูปแล้วสวยมาก ธรรมชาติสุดๆ
ในที่สุดก็ถึงนครปฐม แวะไหว้พระ กินข้าว 40นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีเดินทางไม่ให้หลงไว้และให้ทันเวลา
สถานีรถไฟไม่ไกลกับองค์พระเลย เดินตรงตลอดๆ มีของกินขายเยอะแยะ
(ถ้าไม่รู้เดินทางไหน แหงนหน้ามองจะเห็นยอดองค์พระ ส่วนขากลับมองลงมาเดินตรงสุดตึกแถวคู่กัน)
เมื่อถึงสถานีหนองปลาดุก รถน้ำตก กับ รถสวนสน ต้องแยกกันที่นี่
ตื่นเต้นมากเลยที่ขบวนที่เรานั่งมาเป็นขบวนนำ(หัวแถว)
สังเกตได้จากมี ที่ทำการพนักงาน
ตลอดการเดินทางเจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับรถไฟที่เคยนั่งตอนเด็กๆ
รถไฟหยุดบ่อยเพราะต้องหลบขบวนอื่นให้วิ่งสวนกันไป ทำให้เวลาตามกำหนดล่าช้าไปบ้าง
พอรถหยุดตามสถานีก็จะมีของมาขาย ข้าวเป็นกระทง ก๋วยเตี๋ยวแห้งหรือผัดไท น้ำดื่ม
(ราคาถูก รสชาติไม่รู้ไม่ได้ลอง เห็นผู้โดยสารหลายคนที่ซื้อกิน ไม่ได้บ่นอะไร)
ส่วนเรา4คนก็ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ขณะเดินทางขาไป ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะไม่จอดให้ซื้อของฝาก
ถ้าต้องการของฝากให้สั่งได้ตามรายการที่กำหนด(ทางจนท มีเมนูมาให้ดู)และจ่ายเงินเลย
(จากการที่ซื้อกลับไปกิน พบว่าขนมไทย อร่อยดี หวานดี ห่อหมกก็อร่อย แต่น้อยไปหน่อย ก๋วยเตี่ยวราชบุรีก็งั้นๆ)
มารับชมวิวข้างทางกันเลย
ตลอดสองข้างทาง มีต้นนกยุง ออกดอกสีส้มเต็มต้น เย้ายวนให้หยิบกล้องมาถ่ายรูป
ถึงเพชรบุรีแล้ว (ดูจากต้นตาล)
เมื่อถึงสถานีชะอำ รถหยุดวิ่งให้ผู้โดยสารที่อยากเที่ยวชะอำลงไป พร้อมนัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ
เมื่อถึงสถานีหัวหิน รถหยุดวิ่งให้ผู้โดยสารที่อยากเที่ยวลงไป พร้อมนัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ
ถึงหัวหินแล้วก็ต้องถ่ายรูปป้ายซะหน่อย
เวลา 11:00น ในที่สุดรถไฟได้หยุดที่สถานีสวนสนประดิพัทธ์ เจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ และแจกเบอร์โทร
ย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องเวลา เพราะไม่อยากให้มีใครตกรถไฟ 5555
พร้อมทั้งแนะนำร้านอาหารให้ ร้านอาหารมีน้อยแต่เพียงพอกับนักท่องเที่ยว
ส่วนใหญ่จะเป็นร้านส้มตำ ข้าวตามสั่ง มีร้านอาหารทะเล1ร้าน(จนท บอกแตาเราหาไม่เจอ)
ตอนลงรถไฟ ต้องกดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด ไฟเขียวแสดงสถานะว่าประตูพร้อมเปิดติดจึงกดได้
ถึงแล้วสินะ ทะเล ต่อไปก็รอเพื่อนอีกคนที่มาจากบางสะพาน
ที่หาดสวนสนนั้น หันหน้าออกทะเล ทางซ้ายเป็นเขาตะเกียบ ทางขวาเขาเต่า
ที่นั่งริมหาดเลือกเป็นเช่าเก้าอี้ผ้าใบ หรือ ปูเสี่อ ตามสะดวก อาศัยนั่งหลบแดดตามแนวเงาสน
แอบคิดว่าเก้าอี้แพงนะตัวละ 20บาท ร่มชายหาด50บาท โต๊ะวางของ20บาท
มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาตลอด มีเด็กเล่นน้ำ มีห่วงยางให้เช่า
เพื่อนที่มาจากบางสะพานมาถึงในเวลา11:30น ด้วยรถไฟฟรี เดินทางมา2ชั่วโมงกว่า
ตลอดเวลาที่อยู่ที่หาด ร้อนแดด ลมพัดไอร้อนมาเป็นระยะ หาดทราย-น้ำทะเลยังร้อน
แต่สนุกมากได้เจอเพื่อน คุยกันถูกคอ ได้ถ่ายรูปสวยๆ ได้เสียงดังเหมือนสมัยเรียนด้วยกัน
ชอบหาดสวนสนตรงที่น้ำทะเลใส มีหอยมีปลา ธรรมชาติกว่าหาดหัวหิน
ใช้เวลา4ชั่วดมงกว่าได้คุ้มค่ามากๆ
เมื่อถึงเวลากลับ ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะมารอที่สถานีก่อนเวลาเพื่อมาถ่ายรูปกับรางรถไฟ
และแล้วรถไฟขบวนเดิมก็เดินทางมารับพวกเรากลับ ตรงตามเวลาที่เจ้าหน้าที่บอก
ลากันไปด้วยรูปของฝาก ขนมอร่อยดี รสชาติหากินที่กทมยาก
สุดท้ายสำหรับรีวิว รถไฟนำเที่ยวขบวน911 ได้ยินมาว่าถูกใช้มากว่า70ปี
ควรภูมิใจใช่มั้ยที่ได้นั่งบนรถขบวนเดียวกับบรรพบุรุษ 5555+
ขอบคุณที่อ่านจนจบรีวิวค่ะ
ฟ้าก็ฟ้าเดียวกัน
[CR] รีวิว ขบวนรถไฟท่องเที่ยวที่ 911 กรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์
และได้เสียงตอบรับที่ดีมา3คน อีก10คนไม่ว่างบ้าง ติดธุระบ้าง ไม่ตอบอะไรเลยบ้าง
จึงรวมกันได้ 4 คน และตกลงใจว่าจะนั่งรถไฟไปทะเล และได้เจอ "ขบวนรถไฟนำเที่ยว"
ดูดูไป ราคาถูกดี 240 กับ 120บาทเอง ตกลงไปไป ไป กรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์
ต่อมามีเพื่อนอีกคนที่มาจากบางสะพาน ไม่ได้เจอกันนาน จะขึ้นมาเจอกันที่ทะเล เย่!!!
สรุปแล้วรวมกันได้ 5 คน จัดการซื้อตั๋ว ได้ที่นั่งชั้น3 ราคา 120 บาท
เช้าวันที่ 24 พฤษภาคม 57 เวลา 06:10น ทั้ง 4 คนพร้อมกันที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง
ชานชลาที่11 มีสองขบวน คือรถไปน้ำตก กับ รถไปสวนสน ซึ่งในระยะแรกจะไปด้วยกัน
ถ้าไม่รู้จะไปขบวนไหน ตู้ไหน ที่นั่งอะไร ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย เจ้าหน้าที่ใจดีมากมากมาก
พอขึ้นไปนั่งแล้วก็รอเวลา ผู้ร่วมขบวนรถไฟชั้น3นั้นมีน้อย ส่วนชั้น2ถูกจองโดยคณะทัวร์อะไรสักอย่าง
ขบวนรถไฟไปน้ำตกนั้นดุท่าแล้วจะคนแน่นเลนทีเดียว แถมยังมีพระไปด้วย (เดินมาแต่ไกลๆคิดว่าท่านมาบิณฑบาตร)
รถไฟนำเที่ยวจะออกในเวลา06:30น ซึ่งออกตรงเวลาเป๊ะ มีผู้โดยสารตกรถหลายคน (เขาก็มีเวลารถออกบอกไว้นะ ทำไมไม่มาก่อนเวลา)
เจ้าหน้าที่ก็แนะนำสถานีต่อไปที่สามารถขึ้นรถทันให้กับเพื่อนๆผู้ตกรถ และ มีหลายคนไม่ได้ไปต่อ
หากคิดว่าขึ้นที่หัวลำโพงไม่ทันหรือเดินทางไม่สะดวก สามารถขึ้นที่สถานีอื่นๆได้ สอบถามได้ที่ 1690
ตอนนั่งรถไฟก็ไม่มีอะไรทำ นั่งคุยกันไปมา ลุ้นคนที่ตกรถว่าจะมาทันหรือไม่ มองออกไปนอกหน้าต่าง และก็ถ่ายรูปเล่นกัน
มาดูที่นั่งในขบวนกันดีกว่า
ที่นั่งแนวยาวนี้นอนสบาย
มีเลขที่นั่งบอกชัดเจน
มีราวสำหรับโหนได้ มีที่วางสัมภาระ
พร้อมด้วยพัดลม
ถ้าแดดออก สามารถเอาม่านลงมาได้ ตรงม่านนี่แหละเมื่อแดดส่องโพสท่าถ่ายรูปแล้วสวยมาก ธรรมชาติสุดๆ
ในที่สุดก็ถึงนครปฐม แวะไหว้พระ กินข้าว 40นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีเดินทางไม่ให้หลงไว้และให้ทันเวลา
สถานีรถไฟไม่ไกลกับองค์พระเลย เดินตรงตลอดๆ มีของกินขายเยอะแยะ
(ถ้าไม่รู้เดินทางไหน แหงนหน้ามองจะเห็นยอดองค์พระ ส่วนขากลับมองลงมาเดินตรงสุดตึกแถวคู่กัน)
เมื่อถึงสถานีหนองปลาดุก รถน้ำตก กับ รถสวนสน ต้องแยกกันที่นี่
ตื่นเต้นมากเลยที่ขบวนที่เรานั่งมาเป็นขบวนนำ(หัวแถว)
สังเกตได้จากมี ที่ทำการพนักงาน
ตลอดการเดินทางเจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับรถไฟที่เคยนั่งตอนเด็กๆ
รถไฟหยุดบ่อยเพราะต้องหลบขบวนอื่นให้วิ่งสวนกันไป ทำให้เวลาตามกำหนดล่าช้าไปบ้าง
พอรถหยุดตามสถานีก็จะมีของมาขาย ข้าวเป็นกระทง ก๋วยเตี๋ยวแห้งหรือผัดไท น้ำดื่ม
(ราคาถูก รสชาติไม่รู้ไม่ได้ลอง เห็นผู้โดยสารหลายคนที่ซื้อกิน ไม่ได้บ่นอะไร)
ส่วนเรา4คนก็ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ขณะเดินทางขาไป ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะไม่จอดให้ซื้อของฝาก
ถ้าต้องการของฝากให้สั่งได้ตามรายการที่กำหนด(ทางจนท มีเมนูมาให้ดู)และจ่ายเงินเลย
(จากการที่ซื้อกลับไปกิน พบว่าขนมไทย อร่อยดี หวานดี ห่อหมกก็อร่อย แต่น้อยไปหน่อย ก๋วยเตี่ยวราชบุรีก็งั้นๆ)
มารับชมวิวข้างทางกันเลย
ตลอดสองข้างทาง มีต้นนกยุง ออกดอกสีส้มเต็มต้น เย้ายวนให้หยิบกล้องมาถ่ายรูป
ถึงเพชรบุรีแล้ว (ดูจากต้นตาล)
เมื่อถึงสถานีชะอำ รถหยุดวิ่งให้ผู้โดยสารที่อยากเที่ยวชะอำลงไป พร้อมนัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ
เมื่อถึงสถานีหัวหิน รถหยุดวิ่งให้ผู้โดยสารที่อยากเที่ยวลงไป พร้อมนัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ
ถึงหัวหินแล้วก็ต้องถ่ายรูปป้ายซะหน่อย
เวลา 11:00น ในที่สุดรถไฟได้หยุดที่สถานีสวนสนประดิพัทธ์ เจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ และแจกเบอร์โทร
ย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องเวลา เพราะไม่อยากให้มีใครตกรถไฟ 5555
พร้อมทั้งแนะนำร้านอาหารให้ ร้านอาหารมีน้อยแต่เพียงพอกับนักท่องเที่ยว
ส่วนใหญ่จะเป็นร้านส้มตำ ข้าวตามสั่ง มีร้านอาหารทะเล1ร้าน(จนท บอกแตาเราหาไม่เจอ)
ตอนลงรถไฟ ต้องกดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด ไฟเขียวแสดงสถานะว่าประตูพร้อมเปิดติดจึงกดได้
ถึงแล้วสินะ ทะเล ต่อไปก็รอเพื่อนอีกคนที่มาจากบางสะพาน
ที่หาดสวนสนนั้น หันหน้าออกทะเล ทางซ้ายเป็นเขาตะเกียบ ทางขวาเขาเต่า
ที่นั่งริมหาดเลือกเป็นเช่าเก้าอี้ผ้าใบ หรือ ปูเสี่อ ตามสะดวก อาศัยนั่งหลบแดดตามแนวเงาสน
แอบคิดว่าเก้าอี้แพงนะตัวละ 20บาท ร่มชายหาด50บาท โต๊ะวางของ20บาท
มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาตลอด มีเด็กเล่นน้ำ มีห่วงยางให้เช่า
เพื่อนที่มาจากบางสะพานมาถึงในเวลา11:30น ด้วยรถไฟฟรี เดินทางมา2ชั่วโมงกว่า
ตลอดเวลาที่อยู่ที่หาด ร้อนแดด ลมพัดไอร้อนมาเป็นระยะ หาดทราย-น้ำทะเลยังร้อน
แต่สนุกมากได้เจอเพื่อน คุยกันถูกคอ ได้ถ่ายรูปสวยๆ ได้เสียงดังเหมือนสมัยเรียนด้วยกัน
ชอบหาดสวนสนตรงที่น้ำทะเลใส มีหอยมีปลา ธรรมชาติกว่าหาดหัวหิน
ใช้เวลา4ชั่วดมงกว่าได้คุ้มค่ามากๆ
เมื่อถึงเวลากลับ ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะมารอที่สถานีก่อนเวลาเพื่อมาถ่ายรูปกับรางรถไฟ
และแล้วรถไฟขบวนเดิมก็เดินทางมารับพวกเรากลับ ตรงตามเวลาที่เจ้าหน้าที่บอก
ลากันไปด้วยรูปของฝาก ขนมอร่อยดี รสชาติหากินที่กทมยาก
สุดท้ายสำหรับรีวิว รถไฟนำเที่ยวขบวน911 ได้ยินมาว่าถูกใช้มากว่า70ปี
ควรภูมิใจใช่มั้ยที่ได้นั่งบนรถขบวนเดียวกับบรรพบุรุษ 5555+
ขอบคุณที่อ่านจนจบรีวิวค่ะ
ฟ้าก็ฟ้าเดียวกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น