ห่างหายจากเว็บนี้ไปนาน จากการตั้งกระทู้ วันนี้อยากจะมารีวิวสนามวิ่ง งานเขาประทับช้าง 2019 เราได้ไปร่วมงานมาในระยะ 21 km. หรือเรียกในภาษาวงการวิ่งคือระยะฮาร์ฟมาราธอน แต่ไปวิ่งบนเขานะจ๊ะ ลองเสพอ่านดูคร๊า เราสนับสนุนงานวิ่งดีๆ และอยากให้เพื่อนๆเกิดการรักป่ามากขึ้น
สวัสดีทุกคนจบไปแล้วสำหรับงานวิ่งเขาประทับช้างเทรล 2019 เรียกได้ว่าเป็นงานเทรลงานดีมาก สนามไม่อันตรายไม่ยากและไม่ง่ายสำหรับมือใหม่ และการรีวิวสนามนี้ในมุมมองของฝนเองเท่านั้นมันไม่ใช่งานเทรลอนุบาลอย่างที่ทุกคนเคยรับรู้มา ฝนอยากให้ทุกคนคิดไว้เสมอว่าความยากง่ายของในมุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และ จุดรับความเสี่ยงของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นจะมาวิ่งเทรลให้เพื่อนๆทุกคนทำการบ้านก่อนถึงวันวิ่งจริง วางแผนการซ้อมให้ดี อุปกรณ์บังคับ อุปกรณ์แนะนำที่ผู้จัดแนะนำควรมีอะไรบาง และถ้าระยะไหนมีการให้ฟังบรีฟเส้นทางเราควรที่จะฟัง ไม่ใช่ฟังแต่คนอื่น เห็นคนอื่นไม่เอามาเราก็ไม่เอาไปตาม สิ่งที่เราไม่ควรลืมคือ ร่างกาย การซ้อม และประสบการณ์ในการลงสนามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตอนสมัครมือลั่น ใครๆก็เป็น เพื่อนลากลงบาง ไปอ่านรีวิวคนโน้นคนนี้มาบางเลยลงตามแต่ไม่เคยทำการบ้านก่อนวันวิ่งจริง พอวันวิ่งจริง บ่น และ ด่ากันระนาว แต่ไม่เคยมองที่ตัวเองเลยว่าทำการบ้านมาดีแล้วหรือยังเพียงพอมั้ยสำหรับการวิ่งเทรลที่นี้ ที่ฝนเขียนแบบนี้เพราะว่าฝนผ่านมาแล้ว คิดว่าซ้อมดีแล้ว ทำการบ้านมาอย่างดี แต่สุดท้ายคือประสบการณ์วิ่งเทรลน้อยมากและไปลงในระดับที่ยากมากสุดท้ายก็ DNF ฝนต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ทั้งหมดว่าเราซ้อมพอสำหรับสนามนี้หรือไม่ เพื่อนๆสามารถลองเข้าไปอ่านได้ที่ รีวิวสนามผาส้มเทรล งาน DNF แรก และ เป็นงานวิ่งที่ฝนทุ่มเทในการซ้อมปรับเปลี่ยนใหม่ทั่งหมดแต่สุดท้ายก็ไม่รอด พร่ำซะยาวเรามาที่บรรยากาศงานเขาประทับช้างกันดีกว่า …
ครั้งนี้ฝนเดินทางกับ #แพนด้าพาวิ่ง เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือไปรถตู้ 2 คันค่ะ นักวิ่ง 20 กว่าชีวิตที่เดินทางไปด้วยกันเป็นมิตรภาพเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นระหว่างทางวิ่ง พี่ติ๊กและพี่เต้ยได้นำพานักวิ่งทุกที่สถานที่จัดงานงานวิ่งเทรลเขาประทับช้างเรียกได้ว่าเป็นงานระดับจังหวัดก็ได้เพราะงานใหญ่มีรูปแบบที่ชัดเจน ซึ่งปีก่อนก็มีดราม่ากันแต่ทางผู้จัดได้ออกมาขอโทษทำให้นักวิ่งทุกคนค่อนข้างพอใจ และ มีระบบในการเช็คหมายเลขผู้สมัครที่ชัดเจน งานไม่วุ่นวาย มีหลายๆมุมที่จัดไว้ให้กับนักวิ่งถ่ายรุปเล่นกัน
มุมลงทะเบียนสำหรับเช็คชื่อ หมายเลขประจำตัวนักวิ่ง และ เสื้อวิ่ง
วิธีการรับหมายเลขประจำตัววิ่งก็เพียงแค่นำบัตรประชาชนยื่นให้กับเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ก็จะทำการเช็คชื่อปริ้นสลิปออกมาเป็นแบบนี้จากนั้นก็นำสลิปไปยื่นให้กับน้องๆที่คอยหยิบเสื้อและหมายเลขประตัววิ่งให้อีกทาง พอเราได้รับของเรียบร้อยแล้วเราก็เซ็นชื่อรับเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราได้รับมาเรียบร้อยแล้ว อยากจะบอกว่าทุกอย่างเป็นระบบและระเบียบเรียบร้อยมาก
บอร์ดนี้ไว้สำหรับนักวิ่งไว้ถ่ายรูปกัน มาสคอสก็ต้องให้เข้ากันกับชื่อของานซิเนอะ เขาประทับช้าง ก็ต้องมีช้างซินะจ๊ะ
มีร้านค้าหลายๆร้านมาออกมาร้านขายของกัน เรียกว่าดูดทรัพย์จากนักวิ่งกันไป 5555+ ฝนก็โดนทุกครั้งที่ไปวิ่งนั้น เพราะบางทีก็ไม่มีเวลาไปซื้อตามร้านก็ต้องอาศัยตรงนี้ละช่วยได้เยอะ แต่ที่สำคัญได้ลดเปอร์เซ็นต์ด้วย ไปที่ร้านโดยตรง ลดบางไม่ลดบาง
ก่อนที่เราจะเข้าที่พักกันก็ถ่ายรูปโชว์บิบ เพื่อประกาศกร้าวว่าเราจะลงวิ่งพรุ้งนี้ในระยะนี้นะเธอว์ และโพสลง FB ไป 55555+ ฝนว่าเป็นกันทุกคน ถ่ายรูปทีไรตาไม่เคยจะโตเหมือนกับคนอื่นๆเค้าเลยจริงๆ นะ ในการมาครั้งนี้ก็มีช่างภาพจากเพจ CUTOFF มาด้วยนะเอ่อ เห็นพี่ติ๊กว่าไปด้วยทุกทริปนั้นละ พี่ติ๊กและพี่เต้ยได้พาทุกคนเข้าที่พักเรียบร้อย พาไปทานข้าวเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่งหนักในวันพรุ้งนี้
ชุดสำหรับการวิ่งพร้อมมากค่ะ เป็นการบูชาหลายเลขบิบของนักวิ่ง 55555+ ฝนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน วิ่งทุกสนามถ่ายทุกสนามซิหน๊า รอบนี้ฝนลงวิ่งในระยะ 21 km. ไต่สะสมอยู่ที่ 200+ กว่านิดๆ ขึ้นภูเขาสองลูก ดูจากในแผนที่ชันพอเหนื่อย เห็นเสบียงไหมอย่างกับจะไปออกรบตั้งแค้มป์ที่ไหน ลูกอม + ช๊อกโกแลต+เจลพลังงาน 55555+ ถึงหลงป่าก็ยังอยู่ในป่าได้อีกวันกว่าๆ
แผนที่ที่เจ้าหน้าที่แจกมีประโยชน์นะคะ ไม่ใช่แค่เศษกระดาษโบว์ชัวร์ ในระยะของฝนไม่มีการบรีฟเส้นทางแต่ฝนใช้ดูจากโบว์ชัวร์แผ่นนี้ละจ๊ะ จากนั้นก็อาบน้ำนอนเพื่อเตรียมตัว จะมานั้งเมาส์มอยท์ไม่ได้เดี๋ยวไม่ได้นอนแล้วจะไปใจหวิวจะเป็นลมอีก นอนๆ
---- ตัดมาที่วัน 16/06/62 ----
ตื่นตี 3 ครึ่งเพื่อมาอาบน้ำเตรียมตัวเพราะนัดกันที่รถตอนตี 5 พี่เต้ยจะเป็นคนขับรถพานักวิ่งไปที่งานในรถคันนี้จะมีระยะ 21 km. และ ระยะ 32 km. ซึ่งระยะที่ 32 km. จะมีพี่เหมียวและพี่ติ๊กวิ่งในระยะนี้ ปล่อยตัวตอน 6 โมง และ ระยะ 21 km. ปล่อยตัว 6 โมงครึ่ง พี่ติ๊กกับพี่เหมียวได้ปล่อยตัวออกไปแล้วจากนั้นก็เป็นเวลาของระยะ 21 km. นักวิ่งในระยะนี้ก็มารวมตัวกันที่หน้าจุดสตาร์ท
นักวิ่งระยะ 21 km. ได้ทำการปล่อยตัวแล้ว นักวิ่งระยะ 21 km. ค่อนข้างเยอะ และฝนเชื่อว่ามีนักวิ่งบางคนคือเทรลแรก สำหรับฝนผ่านมาหลายเทรลแล้วยังไม่ค่อยพัฒนากับเค้าเลยต้องอกหักเมื่อต้นปีมา 5555+ วิ่งตามเส้นทางไปเรื่อยๆ
เส้นทางในการวิ่งช่วงแรกนั้นไม่ยากมีเนินขึ้นๆลงๆ พอสนุก ตลบไปด้วยฝุ่น เป็นป่าไผ่ซะส่วนมาก และ พื้นเป็นทราย ซึ่งทำให้วิ่งลำบากแต่ก็พอไปได้ มีพี่ตากล้องหลายๆค่ายดักถ่ายรูปเป็นช่วงๆ วิ่งไป ก็ค่อยดูเส้นริบบิ้น 21 km. ต้องดูริบบิ้น สีแดงห้ามดูสีอื่นนะ เดี๋ยวหลง ผู้จัดเค้าแบ่งเอาไว้แล้ว ก็มีช่วงวิ่งทางร่องน้ำบาง
ทางขึ้นก็มีอุปสรรคเล็กน้อยพอสนุกสนาน และ มันก็จะเละๆ หน่อยเพราะดินมันเปียก แต่มีเจ้าหน้าที่คอยซัพพอทดึงอยู่ไม่ให้ลื่นหลนลงไป
ในช่วง 10 กิโลแรกทางไม่ยากแทบจะหาหน่อไม้กินได้เลย 5555+ ไผ่มันจะเยอะไปไหน เราก็มีบ่นเหมือนว่าทำไมยังไม่เจอเขาสักที่ “ วันนึ่งฉันเดินหาหน่อไม้ในป่าไผ่ ” 55555+ และก็วิ่งต่อไปไม่เกิน 200 เมตร ค่ะ เจอเขาที่เราคิดถึงทันที่ซิหน๊า ไม้โพลที่พกมาได้ประกอบร่างพร้อมปักขึ้นไปบนเขา
นี้จ้าปีนขึ้นไปเลยจ้า ค่อยๆขึ้นไปกันช้าๆเพราะทางขึ้นจะทำความเร็วไม่ได้ ถ้าใครแกร่ง หรือ ขาแข็งแรงก็ดีดขึ้นไปเลย ส่วนเรานะหรอ เอาไม้โพลไม้ไผ่ปักไป ปักกันตามๆ ไป
อื่มๆ ดูแบบนี้ไม่ค่อยจะชันเท่าไหร่เนาะ แต่ช้าก่อน มันยังขึ้นไม่จบ จงขึ้นกันต่อไปนักวิ่ง 21 km. ทั้งหลาย พอให้ได้เหนื่อยได้หอบกันบาง และ ช่วงนี้ละที่เราเจอคุณป้าที่อยากจะ DNF และบอกว่าไหนบอกว่าเป็นเทรลอนุบาล ทำให้เรารู้สึกจุก พอเราได้ยินเลยบอกให้คุณป้าพักให้หายเหนื่อยก่อน แล้วค่อยๆก้าวขึ้นไป อย่าก้าวยาวๆ เพราะก้าวยาวหัวใจมันก็จะดีดและก็จะเหนื่อย ประโยคที่เราบอกกับคุณป้าไปเป็นประโยคที่เราลุงเบนเพจ DNF 6+ บอกเราตอนที่เราไปวิ่งที่ผาส้มเทรลเมื่อต้นปี พอเราไต่ขึ้นไปก็หันไปบอกให้คุณป้าสู้ๆ นะคะ ไปปีนขึ้นไปได้สักพักก็วิ่งได้แต่ไม่เร็วมาก จากนั้นก็ถึงทางลง
คนติดนิดหน่อยเพราะมันเป็นทางที่ลงได้ที่ละคน ต้องค่อยๆไป
มีรอดกระบอกไม้ไผ่ด้วย ป่าไผ่สมชื่อจริงอะไรจริง รอดๆ ไปค่ะ ไม้ไผ่ไม่ตกลงมาหรอก ดูแล้วแข็งแรง
ลงกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนถือไม้ไผ่ที่ทางผู้จัดเตรียมเอาไว้ให้ แทบทุกคน
ต่อแถวลงไปนาจา ระวังลืนกันเด้อ จำนวนนักวิ่งเยอะ เลยต้องค่อยๆลง ถ้าขาแรงมาและระยะ 50 มา พวกเราระยะ 21 km. จะทำการหลบให้เพราะถ้าไม่หลบจะทำให้ระยะ 50 ที่ทำเวลาช้าไปด้วย
พอลงมาจากเขาก็เป็นทางราบแล้ว แบบนี้ก็ต้องรีบสับซิ รออะไร นี้กินไป 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว รีบๆ ช่วงนี้ก็เป็นทางราบวิ่งกันต่อไป แต่แดดก็เริ่มร้อนและแสบแล้วหนา ในทางราบตรงนี้ทำให้ทุกคนประมาทคือทิ้งไม้ไผ่เอาไว้แล้วก็เดินๆวิ่งๆกันตัวเปล่า ส่วนเรานะหรอยังคงถือไม้โพลไปสักพักและก็ทำการเก็บ และ ถามน้องเจ้าหน้าที่ว่ายังมีเขาอยู่อีกมั้ย และ น้องก็บอกว่ามีครับพี่ เราคิดนั้นไง ตามแผนที่บอกและมันเป็นลูกสุดท้ายแต่มันจะไปโผล่ตรงไหน 5555+ ตอนนั้นมันเหนื่อยจนจำรายละเอียด map ไม่ได้จริงๆ
ยินดีตอนรับเข้าสู่สวนสัตว์ราชบุรีนะคะ คนกรุงเทพและชาวราชบุรีสามารถพาบุตรหลานของท่านไปเที่ยวได้ ส่วนเรานั้นวิ่งเข้าไปเช็คพอยท์ ซิรออะไร เดินเป็นวงกลม ๆ ไปเราหันไปคุยกับนักวิ่งด้วยกันว่าเจ้าหน้าที่ให้เรามาเที่ยวสวนสัตว์ด้วย ... แล้วก็ขำกัน 5555+ ในใจเราได้แต่คิดว่าไหนเขาอีกลูกมันอยู่ตรงไหน เอาเช็คพอยท์แล้วก็วิ่งเลี้ยวไปอีกทางเจอกรง ข้างแว่นและหมีขอ พูดแซวๆเล่น ก็มีเจ้าหน้าที่ทำมือให้ไปทางหลังกรงหมีขอแล้วบอกว่า ผมขอเชิญพี่ขึ้นเขาในกิโลที่สุดท้ายครับ โอ้ย น้องสุภาพมากแต่กิโลสุดท้ายขึ้นเขาเนี้ยนะ คิดได้ยังไง ได้แต่คิดในใจ จากนั้นประกอบไม้โพลและปักขึ้นไป โชคดีมันเป็นบันไดหินเลยขึ้นไม่ยาก แต่ก็เหนื่อยนั้นละ เพราะว่ามันก็ชันในระดับนึ่ง
ปีนกันขึ้นมาค่ะ เรานี้ได้ถ่ายรูป ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ยื่นพักเหนื่อยและหอบอยู่ 5555+
ทางเป็นพงไผ่ทั้ง 2 ข้างทางเลย ลุยไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงเส้นชัยแล้วละ ไปๆค่ะ ลุยๆ
ถึงทางลง ก็เป็นบันไดที่ก้าวลงแล้วหาทางหยุดไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจ บันไดตรงนี้มีนักวิ่ง 50 ขาแรงลงไป กระโดดเป็นจิงโจ้เลย เห็นแล้วอยากโดดตามดึงๆ 5555+ แต่เราคงทำไม่ได้ ถ้าทำตามนักวิ่งขาแรงส์ไปเรานี้คงกลิ้งไปหมูตกบันได ทางลงตรงนี้ไม่ต้องใช้ไม่โพลก็ได้ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจก็ก็ค่อยๆปักไป ลงไปเรื่อยๆ ถึงทางราบก็รีบสับไปให้ถึงเส้นชัย วิ่งไปเรื่อยก็จะเห็นทางบล็อกที่ทางผู้จัดทำไว้ให้สำหรับระยะ 21 km.
เราวิ่งเข้าเส้นชัยมาด้วยเวลาตามรูปเลยค่ะ รีบๆขาก็จะลอยๆ แบบนี้ละ คิดท่ามาแล้ว ( นี้มาวิ่งนะไม่ใช่มาเดินแคทวอก) แค่คิดในใจ จากนั้นก็ไปรับเหรียญรับเสื้อตามที่ทางจัดเอาไว้ให้
ต่อที่คอมเม้นนะคะ
[CR] [CR] รีวิวสนามวิ่ง งานวิ่งเขาประทับช้างเทรล 2019
สวัสดีทุกคนจบไปแล้วสำหรับงานวิ่งเขาประทับช้างเทรล 2019 เรียกได้ว่าเป็นงานเทรลงานดีมาก สนามไม่อันตรายไม่ยากและไม่ง่ายสำหรับมือใหม่ และการรีวิวสนามนี้ในมุมมองของฝนเองเท่านั้นมันไม่ใช่งานเทรลอนุบาลอย่างที่ทุกคนเคยรับรู้มา ฝนอยากให้ทุกคนคิดไว้เสมอว่าความยากง่ายของในมุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และ จุดรับความเสี่ยงของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นจะมาวิ่งเทรลให้เพื่อนๆทุกคนทำการบ้านก่อนถึงวันวิ่งจริง วางแผนการซ้อมให้ดี อุปกรณ์บังคับ อุปกรณ์แนะนำที่ผู้จัดแนะนำควรมีอะไรบาง และถ้าระยะไหนมีการให้ฟังบรีฟเส้นทางเราควรที่จะฟัง ไม่ใช่ฟังแต่คนอื่น เห็นคนอื่นไม่เอามาเราก็ไม่เอาไปตาม สิ่งที่เราไม่ควรลืมคือ ร่างกาย การซ้อม และประสบการณ์ในการลงสนามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตอนสมัครมือลั่น ใครๆก็เป็น เพื่อนลากลงบาง ไปอ่านรีวิวคนโน้นคนนี้มาบางเลยลงตามแต่ไม่เคยทำการบ้านก่อนวันวิ่งจริง พอวันวิ่งจริง บ่น และ ด่ากันระนาว แต่ไม่เคยมองที่ตัวเองเลยว่าทำการบ้านมาดีแล้วหรือยังเพียงพอมั้ยสำหรับการวิ่งเทรลที่นี้ ที่ฝนเขียนแบบนี้เพราะว่าฝนผ่านมาแล้ว คิดว่าซ้อมดีแล้ว ทำการบ้านมาอย่างดี แต่สุดท้ายคือประสบการณ์วิ่งเทรลน้อยมากและไปลงในระดับที่ยากมากสุดท้ายก็ DNF ฝนต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ทั้งหมดว่าเราซ้อมพอสำหรับสนามนี้หรือไม่ เพื่อนๆสามารถลองเข้าไปอ่านได้ที่ รีวิวสนามผาส้มเทรล งาน DNF แรก และ เป็นงานวิ่งที่ฝนทุ่มเทในการซ้อมปรับเปลี่ยนใหม่ทั่งหมดแต่สุดท้ายก็ไม่รอด พร่ำซะยาวเรามาที่บรรยากาศงานเขาประทับช้างกันดีกว่า …
ครั้งนี้ฝนเดินทางกับ #แพนด้าพาวิ่ง เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือไปรถตู้ 2 คันค่ะ นักวิ่ง 20 กว่าชีวิตที่เดินทางไปด้วยกันเป็นมิตรภาพเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นระหว่างทางวิ่ง พี่ติ๊กและพี่เต้ยได้นำพานักวิ่งทุกที่สถานที่จัดงานงานวิ่งเทรลเขาประทับช้างเรียกได้ว่าเป็นงานระดับจังหวัดก็ได้เพราะงานใหญ่มีรูปแบบที่ชัดเจน ซึ่งปีก่อนก็มีดราม่ากันแต่ทางผู้จัดได้ออกมาขอโทษทำให้นักวิ่งทุกคนค่อนข้างพอใจ และ มีระบบในการเช็คหมายเลขผู้สมัครที่ชัดเจน งานไม่วุ่นวาย มีหลายๆมุมที่จัดไว้ให้กับนักวิ่งถ่ายรุปเล่นกัน
มุมลงทะเบียนสำหรับเช็คชื่อ หมายเลขประจำตัวนักวิ่ง และ เสื้อวิ่ง
วิธีการรับหมายเลขประจำตัววิ่งก็เพียงแค่นำบัตรประชาชนยื่นให้กับเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ก็จะทำการเช็คชื่อปริ้นสลิปออกมาเป็นแบบนี้จากนั้นก็นำสลิปไปยื่นให้กับน้องๆที่คอยหยิบเสื้อและหมายเลขประตัววิ่งให้อีกทาง พอเราได้รับของเรียบร้อยแล้วเราก็เซ็นชื่อรับเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราได้รับมาเรียบร้อยแล้ว อยากจะบอกว่าทุกอย่างเป็นระบบและระเบียบเรียบร้อยมาก
บอร์ดนี้ไว้สำหรับนักวิ่งไว้ถ่ายรูปกัน มาสคอสก็ต้องให้เข้ากันกับชื่อของานซิเนอะ เขาประทับช้าง ก็ต้องมีช้างซินะจ๊ะ
มีร้านค้าหลายๆร้านมาออกมาร้านขายของกัน เรียกว่าดูดทรัพย์จากนักวิ่งกันไป 5555+ ฝนก็โดนทุกครั้งที่ไปวิ่งนั้น เพราะบางทีก็ไม่มีเวลาไปซื้อตามร้านก็ต้องอาศัยตรงนี้ละช่วยได้เยอะ แต่ที่สำคัญได้ลดเปอร์เซ็นต์ด้วย ไปที่ร้านโดยตรง ลดบางไม่ลดบาง
ก่อนที่เราจะเข้าที่พักกันก็ถ่ายรูปโชว์บิบ เพื่อประกาศกร้าวว่าเราจะลงวิ่งพรุ้งนี้ในระยะนี้นะเธอว์ และโพสลง FB ไป 55555+ ฝนว่าเป็นกันทุกคน ถ่ายรูปทีไรตาไม่เคยจะโตเหมือนกับคนอื่นๆเค้าเลยจริงๆ นะ ในการมาครั้งนี้ก็มีช่างภาพจากเพจ CUTOFF มาด้วยนะเอ่อ เห็นพี่ติ๊กว่าไปด้วยทุกทริปนั้นละ พี่ติ๊กและพี่เต้ยได้พาทุกคนเข้าที่พักเรียบร้อย พาไปทานข้าวเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการวิ่งหนักในวันพรุ้งนี้
ชุดสำหรับการวิ่งพร้อมมากค่ะ เป็นการบูชาหลายเลขบิบของนักวิ่ง 55555+ ฝนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน วิ่งทุกสนามถ่ายทุกสนามซิหน๊า รอบนี้ฝนลงวิ่งในระยะ 21 km. ไต่สะสมอยู่ที่ 200+ กว่านิดๆ ขึ้นภูเขาสองลูก ดูจากในแผนที่ชันพอเหนื่อย เห็นเสบียงไหมอย่างกับจะไปออกรบตั้งแค้มป์ที่ไหน ลูกอม + ช๊อกโกแลต+เจลพลังงาน 55555+ ถึงหลงป่าก็ยังอยู่ในป่าได้อีกวันกว่าๆ
แผนที่ที่เจ้าหน้าที่แจกมีประโยชน์นะคะ ไม่ใช่แค่เศษกระดาษโบว์ชัวร์ ในระยะของฝนไม่มีการบรีฟเส้นทางแต่ฝนใช้ดูจากโบว์ชัวร์แผ่นนี้ละจ๊ะ จากนั้นก็อาบน้ำนอนเพื่อเตรียมตัว จะมานั้งเมาส์มอยท์ไม่ได้เดี๋ยวไม่ได้นอนแล้วจะไปใจหวิวจะเป็นลมอีก นอนๆ
---- ตัดมาที่วัน 16/06/62 ----
ตื่นตี 3 ครึ่งเพื่อมาอาบน้ำเตรียมตัวเพราะนัดกันที่รถตอนตี 5 พี่เต้ยจะเป็นคนขับรถพานักวิ่งไปที่งานในรถคันนี้จะมีระยะ 21 km. และ ระยะ 32 km. ซึ่งระยะที่ 32 km. จะมีพี่เหมียวและพี่ติ๊กวิ่งในระยะนี้ ปล่อยตัวตอน 6 โมง และ ระยะ 21 km. ปล่อยตัว 6 โมงครึ่ง พี่ติ๊กกับพี่เหมียวได้ปล่อยตัวออกไปแล้วจากนั้นก็เป็นเวลาของระยะ 21 km. นักวิ่งในระยะนี้ก็มารวมตัวกันที่หน้าจุดสตาร์ท
นักวิ่งระยะ 21 km. ได้ทำการปล่อยตัวแล้ว นักวิ่งระยะ 21 km. ค่อนข้างเยอะ และฝนเชื่อว่ามีนักวิ่งบางคนคือเทรลแรก สำหรับฝนผ่านมาหลายเทรลแล้วยังไม่ค่อยพัฒนากับเค้าเลยต้องอกหักเมื่อต้นปีมา 5555+ วิ่งตามเส้นทางไปเรื่อยๆ
เส้นทางในการวิ่งช่วงแรกนั้นไม่ยากมีเนินขึ้นๆลงๆ พอสนุก ตลบไปด้วยฝุ่น เป็นป่าไผ่ซะส่วนมาก และ พื้นเป็นทราย ซึ่งทำให้วิ่งลำบากแต่ก็พอไปได้ มีพี่ตากล้องหลายๆค่ายดักถ่ายรูปเป็นช่วงๆ วิ่งไป ก็ค่อยดูเส้นริบบิ้น 21 km. ต้องดูริบบิ้น สีแดงห้ามดูสีอื่นนะ เดี๋ยวหลง ผู้จัดเค้าแบ่งเอาไว้แล้ว ก็มีช่วงวิ่งทางร่องน้ำบาง
ทางขึ้นก็มีอุปสรรคเล็กน้อยพอสนุกสนาน และ มันก็จะเละๆ หน่อยเพราะดินมันเปียก แต่มีเจ้าหน้าที่คอยซัพพอทดึงอยู่ไม่ให้ลื่นหลนลงไป
ในช่วง 10 กิโลแรกทางไม่ยากแทบจะหาหน่อไม้กินได้เลย 5555+ ไผ่มันจะเยอะไปไหน เราก็มีบ่นเหมือนว่าทำไมยังไม่เจอเขาสักที่ “ วันนึ่งฉันเดินหาหน่อไม้ในป่าไผ่ ” 55555+ และก็วิ่งต่อไปไม่เกิน 200 เมตร ค่ะ เจอเขาที่เราคิดถึงทันที่ซิหน๊า ไม้โพลที่พกมาได้ประกอบร่างพร้อมปักขึ้นไปบนเขา
นี้จ้าปีนขึ้นไปเลยจ้า ค่อยๆขึ้นไปกันช้าๆเพราะทางขึ้นจะทำความเร็วไม่ได้ ถ้าใครแกร่ง หรือ ขาแข็งแรงก็ดีดขึ้นไปเลย ส่วนเรานะหรอ เอาไม้โพลไม้ไผ่ปักไป ปักกันตามๆ ไป
อื่มๆ ดูแบบนี้ไม่ค่อยจะชันเท่าไหร่เนาะ แต่ช้าก่อน มันยังขึ้นไม่จบ จงขึ้นกันต่อไปนักวิ่ง 21 km. ทั้งหลาย พอให้ได้เหนื่อยได้หอบกันบาง และ ช่วงนี้ละที่เราเจอคุณป้าที่อยากจะ DNF และบอกว่าไหนบอกว่าเป็นเทรลอนุบาล ทำให้เรารู้สึกจุก พอเราได้ยินเลยบอกให้คุณป้าพักให้หายเหนื่อยก่อน แล้วค่อยๆก้าวขึ้นไป อย่าก้าวยาวๆ เพราะก้าวยาวหัวใจมันก็จะดีดและก็จะเหนื่อย ประโยคที่เราบอกกับคุณป้าไปเป็นประโยคที่เราลุงเบนเพจ DNF 6+ บอกเราตอนที่เราไปวิ่งที่ผาส้มเทรลเมื่อต้นปี พอเราไต่ขึ้นไปก็หันไปบอกให้คุณป้าสู้ๆ นะคะ ไปปีนขึ้นไปได้สักพักก็วิ่งได้แต่ไม่เร็วมาก จากนั้นก็ถึงทางลง
คนติดนิดหน่อยเพราะมันเป็นทางที่ลงได้ที่ละคน ต้องค่อยๆไป
มีรอดกระบอกไม้ไผ่ด้วย ป่าไผ่สมชื่อจริงอะไรจริง รอดๆ ไปค่ะ ไม้ไผ่ไม่ตกลงมาหรอก ดูแล้วแข็งแรง
ลงกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนถือไม้ไผ่ที่ทางผู้จัดเตรียมเอาไว้ให้ แทบทุกคน
ต่อแถวลงไปนาจา ระวังลืนกันเด้อ จำนวนนักวิ่งเยอะ เลยต้องค่อยๆลง ถ้าขาแรงมาและระยะ 50 มา พวกเราระยะ 21 km. จะทำการหลบให้เพราะถ้าไม่หลบจะทำให้ระยะ 50 ที่ทำเวลาช้าไปด้วย
พอลงมาจากเขาก็เป็นทางราบแล้ว แบบนี้ก็ต้องรีบสับซิ รออะไร นี้กินไป 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว รีบๆ ช่วงนี้ก็เป็นทางราบวิ่งกันต่อไป แต่แดดก็เริ่มร้อนและแสบแล้วหนา ในทางราบตรงนี้ทำให้ทุกคนประมาทคือทิ้งไม้ไผ่เอาไว้แล้วก็เดินๆวิ่งๆกันตัวเปล่า ส่วนเรานะหรอยังคงถือไม้โพลไปสักพักและก็ทำการเก็บ และ ถามน้องเจ้าหน้าที่ว่ายังมีเขาอยู่อีกมั้ย และ น้องก็บอกว่ามีครับพี่ เราคิดนั้นไง ตามแผนที่บอกและมันเป็นลูกสุดท้ายแต่มันจะไปโผล่ตรงไหน 5555+ ตอนนั้นมันเหนื่อยจนจำรายละเอียด map ไม่ได้จริงๆ
ยินดีตอนรับเข้าสู่สวนสัตว์ราชบุรีนะคะ คนกรุงเทพและชาวราชบุรีสามารถพาบุตรหลานของท่านไปเที่ยวได้ ส่วนเรานั้นวิ่งเข้าไปเช็คพอยท์ ซิรออะไร เดินเป็นวงกลม ๆ ไปเราหันไปคุยกับนักวิ่งด้วยกันว่าเจ้าหน้าที่ให้เรามาเที่ยวสวนสัตว์ด้วย ... แล้วก็ขำกัน 5555+ ในใจเราได้แต่คิดว่าไหนเขาอีกลูกมันอยู่ตรงไหน เอาเช็คพอยท์แล้วก็วิ่งเลี้ยวไปอีกทางเจอกรง ข้างแว่นและหมีขอ พูดแซวๆเล่น ก็มีเจ้าหน้าที่ทำมือให้ไปทางหลังกรงหมีขอแล้วบอกว่า ผมขอเชิญพี่ขึ้นเขาในกิโลที่สุดท้ายครับ โอ้ย น้องสุภาพมากแต่กิโลสุดท้ายขึ้นเขาเนี้ยนะ คิดได้ยังไง ได้แต่คิดในใจ จากนั้นประกอบไม้โพลและปักขึ้นไป โชคดีมันเป็นบันไดหินเลยขึ้นไม่ยาก แต่ก็เหนื่อยนั้นละ เพราะว่ามันก็ชันในระดับนึ่ง
ปีนกันขึ้นมาค่ะ เรานี้ได้ถ่ายรูป ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ยื่นพักเหนื่อยและหอบอยู่ 5555+
ทางเป็นพงไผ่ทั้ง 2 ข้างทางเลย ลุยไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงเส้นชัยแล้วละ ไปๆค่ะ ลุยๆ
ถึงทางลง ก็เป็นบันไดที่ก้าวลงแล้วหาทางหยุดไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจ บันไดตรงนี้มีนักวิ่ง 50 ขาแรงลงไป กระโดดเป็นจิงโจ้เลย เห็นแล้วอยากโดดตามดึงๆ 5555+ แต่เราคงทำไม่ได้ ถ้าทำตามนักวิ่งขาแรงส์ไปเรานี้คงกลิ้งไปหมูตกบันได ทางลงตรงนี้ไม่ต้องใช้ไม่โพลก็ได้ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจก็ก็ค่อยๆปักไป ลงไปเรื่อยๆ ถึงทางราบก็รีบสับไปให้ถึงเส้นชัย วิ่งไปเรื่อยก็จะเห็นทางบล็อกที่ทางผู้จัดทำไว้ให้สำหรับระยะ 21 km.
เราวิ่งเข้าเส้นชัยมาด้วยเวลาตามรูปเลยค่ะ รีบๆขาก็จะลอยๆ แบบนี้ละ คิดท่ามาแล้ว ( นี้มาวิ่งนะไม่ใช่มาเดินแคทวอก) แค่คิดในใจ จากนั้นก็ไปรับเหรียญรับเสื้อตามที่ทางจัดเอาไว้ให้
ต่อที่คอมเม้นนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้