.
.
.
หลังจากอ่านหนังสือ sapiens จบ แล้วชอบเรื่องประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาก จริงๆแล้ว ฮารารีผู้เขียนเป็นนักประวัติศาสตร์แต่ก็อธิบายแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์ได้ดี อ่านรวดเดียวก็จบเลย แม้หนังสือจะเล่มใหญ่ จริงๆแล้วมี 3 เล่ม คือ

1. Sapiens: A Brief History of Humankind  2014 ชื่อฉบับแปลไทยว่า  เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ
2. Homo Deus: A Brief History of Tomorrow 2016 ยังไม่มีแปลไทย น่าจะออกปลายปี 2019 นี้
3. 21 Lessons for the 21st Century  2018 ชื่อฉบับแปลไทยว่า 21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21
.
.
.

.
.
.

.
.
.
เลยคิดว่าประวัติศาสตร์มันสนุกมาก มนุษย์กว่าจะมาถึงยุคนี้ต้องลำบากฝ่าฟันเหตุการณ์ต่างๆมามากมาย มันสนุกยิ่งกว่านวนิยายการผจญภัยของทอม ซอเยอโดยมาร์ค ทเวนเสียอีก ดราม่ากว่านวนิยายของ John Green  มีเริ่องหักมุม แข่งขัน ต่อสู้กันมากมาย ยิ่งกว่า นวนิยายกำลังภายใน กิมย้ง โก้วเล้ง หวงอี้

ฉะนั้นเลยจะมาเขียน คัดเลือกเหตุการณ์ 10 อันดับการการปฏิวัติที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์มนุษยชาติโดยอาจจะเอนเอียงไปทางด้านวิทยาศาสตร์มากกว่าด้านรัฐศาสตร์

ใครสนใจตามมาอ่านกันได้เลยครับ โดยขอเรียงลำดับตามปีที่เกิดเหตุการณ์นะครับครับ

1.การปฎิวัติเกษตรกรรมครั้งที่ 1 ประมาณหนึ่งหมื่นปีก่อนคริสตกาล
.
.
.

.
.
การเปลี่ยนมาจากสังคมล่าสัตว์เก็บของป่า มาเป็นเริ่มมีการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูก มันคือการปฎิวัติครั้งสำคัญที่สุด ทำให้เกิดสังคมชุมชนขึ้น ประชากรเพิ่มจำนวนขึ้น อาหารมีเหลือเก็บไว้ทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร คนเริ่มมีเก็บได้มากได้น้อย เริ่มสะสมสิ่งต่างๆ ปักหลัก คนรวยจนก็เริ่มมีตอนยุคนี้ เกิดการแบ่งงานกันทำและเกิดการชำนาญเฉพาะด้าน การปฎิวัติเกษตรกรรมเริ่มต้นที่บริเวณพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ในตะวันออกกลางและเทือกเขาซาโกร (Zagros Mountains) ปัจจุบันคือบริเวณประเทศอิหร่าน อิรัก และตุรกี  และแผ่ขยายไปลุ่มแม่น้ำไนล์ การปฎิวัติเกษตรกรรมเกิดขึ้นอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1750 ที่อังกฤษ โดยมีการนำเทคโนโลยี เครื่องจักรมาใช้ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก

ถ้าอ่านดูใน Sapiens พบการการปฎิวัติครั้งนี้ทำให้คนอ่อนแอลงในตอนแรกเพราะกินอาหารไม่หลากหลายเหมือนเดิม การปฎิวัติเกษตรกรรมยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่สวยหรูอย่างที่คิดเรียกว่าหักมุมคิดไม่ถึงเลย ลองอ่านดูใน sapiens บท history's biggest fraud
.
.
.
2.การปฎิวัติเอเทนส์ 508 ปีก่อนคริสตกาล
.
.
.

.
.
การปฎิวัติทางการเมืองครั้งสำคัญ นำไปสู่ประชาธิปไตยแห่งแรกบนโลก ผู้สร้างประชาธิปไตยคนแรกคือ คลิสเทเนส (Cleisthenes) ผู้โค่นอำนาจของทรราช Isagoras ที่พยายามควบคุมเอเธนส์โดยอาศัยกำลังทหารของสปาร์ตาลงโดยความช่วยเหลือของประชาชน และเมื่อ คลิสเทเนสได้เห็น "พลัง" ของประชาชน จึงตัดสินใจ "เอาประชาชนมาเป็นพาร์ทเนอร์" ในการปกครองประเทศ สร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นเป็นครั้งแรกในตะวันตก โดยทำการแก้ไขกฎหมายให้เป็นธรรมมากขึ้น โดยมีสภา 500 คนโดยสมาชิกแต่งตั้งโดยประชากรของเมืองต่างๆที่มีกว่า 10 เผ่า 

กรีกนั้นนับเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมตะวันตก อโครโพลิสนั้นเปรียบดังสัญลักษณ์ของอารยธรรมตะวันตก ในยุคกรีกนี้ ปรัชญาต่างๆเกิดขึ้นมาก ฝึกให้คนใช้เหตุผล ถกเถียงกัน แม้จะอธิบายผิด แต่การพยายามอธิบายเหตุผลต่างๆโดยไม่ต้องพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาติ นับเป็นก้าวสำคัญของสังคมมนุษย์ เวลาเราเรียนวิชาอะไร ตอนช่วงเนื้อหาประวัติศาสตร์ก็มักจะเริ่มจากยุคกรีกนี้เสมอ
.
.
.
3. การปฎิวัติดินปืน ประมาณปี ค.ศ. 1300
.
.
.

.
.
ดินปืน มีส่วนผสมประกอบด้วย ซัลเฟอร์ ดินประสิว และถ่าน ถูกคิดค้นครั้งแรกในจีนประมาณศตวรรษที่ 10 และใช้ในด้านการรบประมาณ ปี ค.ศ. 1200 ยุโรปรู้จักการใช้ดินปืนผ่านทางชาวอาหรับ ในยุโรปเริ่มมีการใช้ดินปืนในสนามรบช่วงต้น ศตวรรษที่ 14 ช่วงแรกใช้ปืนใหญ่ก่อน ต่อมาก็เริ่มมีการใช้ปืนยาวภายหลัง มันเปลี่ยนพลิกโฉมการรบไปเลย ทั้งการบุกยึดป้อมปราการและการรบในสนามรบ คิดถึงตอนใช้มีดไล่ฟันกันในสนามรบแล้วน่ากลัวมาก ฟันถูกภายนอกบาดเจ็บ แต่อวัยวะสำคัญยังไม่เสียหาย  ถ้าไม่ตายเลยคงบาดเจ็บและทรมานมาก รบกันด้วยปืน เล็งดีๆตู้มเดียวจบ ทรมานน้อยกว่ากันเยอะ ดินปืนเข้ามาเปลี่ยนแปลงสนามรบไปตลอดกาล จนถึงปัจจุบันนี้ การบด้วยดินปืนก็ยังสำคัญอยู่มาก 
.
.
.
4. การปฎิวัติด้านการพิมพ์ ค.ศ. 1460
.
.
.
.
.
.
เกิดขึ้นในRhine valley เยอรมนี เครื่องพิมพ์ชนิดเคลื่อนไหวได้สามารถกอปปี้ข้อความในกระดาษได้อย่างรวดเร็วและถูก เทคโนโลยีนี้คิดค้นโดยกูเตนเบิกเริ่มต้นในช่วงปี ค.ศ. 1440 ในปี ค.ศ. 1460 เทคโนโลยีนี้ได้แพร่ไปทั่วบริเวณ Rhine และอื่นๆ การพิมพ์นี้ช่วยเผยแพร่ไอเดีย ความรู้ และความเห็นของผู้คน สื่อก็ไม่ถูกจำกัดอยู่เฉพาะผู้นำทางการเมืองและศาสนาอีกต่อไป ใครคิดอะไรได้ก็สามารถแลกเปลี่ยนความรู้กัน ถึงแม้ทุกวันนี้เราสามารถอ่านในคอม สมาทโฟน ไอแพด คินเดิล แต่การอ่านหนังสือก็ยังมีเสน่ห์ ได้สัมผัส ได้ดมกลิ่นกระดาษ หยิบมาอ่านได้เลยเห็นชัดไม่ได้ซ่อนอยู่ในโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ ร้านหนังสือยังมีอยู่ทั่วทุกเมืองใหญ่ เพราะสังคมที่ซับซ้อนนี้จะดำเนินไปได้ต้องมีตัวเก็บข้อมูลต่างๆซึ่งก็คือข้อมูลในหนังสือ ที่อยู๋ในร้านหนังสือ หอสมุดหรือแม้แต่ในเซอเวอร์ สังคมที่ซับซ้อนจะอยู่ไม่ได้เลยหากมีแต่ข้อมูลทางพันธุกรรมที่เก็บในดีเอนเอ แต่ข้อมูล ประสบการณ์ ความรู้ต่างๆจากรุ่นสู่รุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เราไม่ต้องไปทดลองซ้ำเดิม ผิดซ้ำเดิม เพราะเราสามารถเรียนรู้ได้จากหนังสือ หนังสือคือสุดยอดสิ่งของของมนุษย์เรา นักปรัชญาบอกว่าถ้ามีตังเขาจะไปซื้อหนังสือก่อน ตังที่เหลือค่อยไปซื้อเสื้อผ้าและอาหาร
.
.
.
5. การปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์ ค.ศ. 1650
.
.
.
.
.
.
เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องหนุนกันมา ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่มีความพร้อม คือการมีสังคม ชุมชน มีเวลาว่าง มีห้องอันเงียบสงบคิดงานได้สบาย มีหนังสืออ่านความรู้พื้นฐานของคนเก่าก่อน การปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์ เป็นการพัฒนาทางปัญญาของความรู้อันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ทั้งระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การคิดค้นสมการคณิตศาสตร์เพื่อมาบรรยายสิ่งต่างๆและมันสอดคล้องกับความจริง กุญแจสำคัญสามดอกคือ แนวคิดของฟรานซิส เบคอนวิธีการทดลองหาเหตุผลแบบเชิงประจักษ์ในปี ค.ศ.1620    การให้เหตุผลของเดกาตปี ค.ศ. 1637 และคณิตศาสตร์ของนิวตันในการบรรยายแบบจำลองของเอกภพ ปี ค.ศ. 1687 การปฎิวัติครั้งนี้สำคัญมากมันคือ point of no return ถ้ามนุษย์เข้าใจธรรมชาติ จะไปดวงจันทร์ จะสร้างคอมพิวเตอร์ จะสร้างหุ่นยนต์ก็ล้วนทำได้ 
.
.
.
----------------------------------------------------------------
.
.
.
เดี๋ยวมาเขียนต่อให้จบอีก 5 ข้อ 
ทุกท่านเชิญมาแสดงความเห็นกันได้
เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ ถ้าชอบช่วยกดบวก กดถูกใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
- จขกท. สุดหล่อ
.
.
.
.
.
.