คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน พร้อมเปิดตัวแบรนด์ CBT Thailand (Internal Launch Event) และมอบรางวัลผู้ชนะเลิศการประกวดตราสัญลักษณ์ภายใต้แนวคิด "ท่องเที่ยววิถีไทย สุขใจวิถีชุมชน" กับรูปแบบดอกบานไม่รู้โรย สื่อความหมายการรวมตัวของชุมชน ภาคี และนักท่องเที่ยว ตอกย้ำสู่การเป็นตราการันตีที่น่าเชื่อถือ
คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ได้ดำเนินโครงการวางแผนการสื่อสารแบรนด์ CBT Thailand เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมองเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนไปในทิศทางเดียวกัน และภูมิใจในตัวแบรนด์ที่ผู้แทนหน่วยงาน ทุกภาคส่วนทางด้านการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและที่สำคัญที่สุดคือ ภาคประชาชน ทั้ง 23 หน่วยงาน มีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจมาโดยตลอด
ต่อจากนี้ ทั้ง 24 หน่วยงานในคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน จะร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ CBT Thailand เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว เพราะผลลัพธ์ของการพัฒนาถือเป็นความสำเร็จของชุมชนและประเทศไทย และถือเป็นก้าวใหม่ที่ CBT Thailand จะสร้างตัวตนที่ชัดเจน ในฐานะผู้การันตี “ประสบการณ์ที่มีมาตรฐานในการท่องเที่ยววิถีชุมชน” เพื่อเป็นการรับรองชุมชนต่างๆ ที่ได้มาตรฐานตามกระบวนการ CBT Thailand ให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่จะคืนประโยชน์กลับสู่ชุมชนอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น CBT Thailand ยังเห็นคุณค่าและความสำคัญในการพัฒนาตัวเองของชุมชน จึงต่อยอดเป็นรางวัล CBT Thailand Star awards ครั้งที่ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนทุกความมุ่งมั่นและพยายามในการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่งของทุกชุมชน จนเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน
นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน กล่าวว่า “กิจกรรมสร้างการรับรู้ภายในของแบรนด์ CBT Thailand ในวันนี้ นับเป็นย่างก้าวที่สำคัญ ที่พวกเราได้มารับรู้แนวทางการพัฒนาภายใต้แบรนด์ CBT Thailand ร่วมกัน ภาคภูมิใจร่วมกัน สมัครสมานสามัคคี ทำงานเป็นทีมและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ขอเน้นย้ำว่า CBT Thailand คือ ตราสัญลักษณ์ที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน ในการผลักดัน รักษาและต่อยอด เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและรู้จักในการท่องเที่ยว ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป”
คำกล่าวแถลงวิสัยทัศน์แบรนด์
กิจกรรมแถลงข่าวเพื่อสร้างการรับรู้ภายใน แบรนด์ CBT Thailand
(Internal Launch Event)
โดย นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
" อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า รายได้ของประเทศไทยลำดับต้นๆ นั้น คือรายได้จากการท่องเที่ยว ทำให้รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมและขับเคลื่อนนโยบายด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้กระจายครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระจายประโยชน์จากการท่องเที่ยวให้ไปถึงชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึงมากที่สุด อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพและความสุขให้กับคนในชุมชน โดยชุมชนนั้นจะต้องมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ตั้งแต่การกำหนดแผนร่วมกัน พูดคุยกัน แบ่งบทบาทหน้าที่ในการเป็นเจ้าบ้านต้อนรับ นำพานักท่องเที่ยวให้รู้จักวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง
การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนนั้น ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการลงมือทำของหน่วยงานใดหน่วยงานเดียวได้ เพราะการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนนั้นจำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ที่หลากหลายในการพัฒนาชุมชนอย่างครบถ้วนทุกมิติ ดังนั้น ความสำเร็จอย่างหนึ่งของการทำงานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน คือ การบูรณาการภาคส่วนต่างๆ ที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างและหลากหลายมาทำงานร่วมกัน ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน ทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน อันประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานทุกภาคส่วนทางด้านการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและที่สำคัญที่สุดคือ ภาคประชาชน เพื่อบูรณาการการพัฒนาร่วมกัน ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ คือการประเมินศักยภาพคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมต่อการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน กระบวนการกลางน้ำโดยการใช้องค์ความรู้ความถนัดเฉพาะด้านของแต่ละหน่วยงานเป็นองค์กรพี่เลี้ยงในการพัฒนาเพิ่มศักยภาพความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงกระบวนการปลายน้ำในการยกระดับศักยภาพของชุมชนท่องเที่ยวสู่ภาคการตลาดและส่งเสริมเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยมีเครื่องมือ “การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย” เป็นเครื่องมือในการพัฒนาร่วมกันผ่านกระบวนการหนุนเสริม และติดตามประเมินผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นับเป็นก้าวย่างเข้าสู่ปีที่สามแห่งการบูรณาการการพัฒนา คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ได้ร่วมกันเติมเต็ม พัฒนากระบวนการ เครื่องมือการพัฒนา ฐานข้อมูลชุมชน องค์ความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ไปจนถึงเครือข่ายหน่วยงานและเครือข่ายชุมชนทั่วประเทศ จนเกิดกลไกและกระบวนการพัฒนาในการขับเคลื่อนการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำสู่ปลายน้ำ จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าและยกระดับประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่เหนือกว่าของชุมชนที่เข้ารับการพัฒนาภายใต้ คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งต่อไปนี้เราจะร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ CBT Thailand เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะผลลัพธ์ของการพัฒนา ถือเป็นความสำเร็จของชุมชนและประเทศไทย ไม่ใช่ความสำเร็จของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะทำท่องเที่ยวเราเก่งคนเดียวไม่ได้
ในวันนี้ ผมมีความมุ่งหวัง ให้คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชนทุกภาคส่วน มีเป้าหมายในการทำงานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้แบรนด์ CBT Thailand เป็นหนึ่งเดียวกัน คือ “เป็นต้นแบบที่ดีในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและภาคประชาชน มุ่งสู่เป้าหมายสร้างความเข้มแข็ง ความอยู่ดีมีสุข และความยั่งยืนให้แก่ชุมชน โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ” ซึ่งเป็นที่มาของการสื่อสารแบรนด์ CBT Thailand ให้กับทุกท่านได้รับทราบในวันนี้ ก็เกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้ง ๒๔ หน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ได้ทำงานร่วมกัน ในการนำจุดเด่น ความเชี่ยวชาญของแต่ละภาคส่วนมาร่วมกันทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อชุมชนอย่างแท้จริง มาจนถึงทุกวันนี้
กระบวนการอันยั่งยืนของ CBT Thailand ได้พิสูจน์ตัวตนมาเป็นเวลาหลายปี มีภาพความสำเร็จมากมาย ดังจะเห็นได้จากชุมชนที่ยกระดับตัวเองจนกลายเป็นชุมชนท่องเที่ยว ที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อยอดสู่การคว้ารางวัลในระดับนานาชาติ เช่น รางวัล CBT ASEAN รางวัล PATA Awards นำมาซึ่งชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังมีชุมชนอีกหลายแห่งภายใต้การพัฒนาจากทั้ง ๒๔ หน่วยงาน ภายใต้ CBT Thailand ได้รับมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน จนสามารถประกาศเป็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือชุมชน จากกรมการท่องเที่ยว อันสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวของชุมชนเอง โดยมีภาคส่วนต่างๆ เป็นแรงเสริม
ปีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญ ที่ CBT Thailand จะสร้างตัวตนให้ชัดเจน ในฐานะตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน “ประสบการณ์ที่มีมาตรฐานในการท่องเที่ยววิถีชุมชน” ที่เมื่อใด ได้เห็นตราสัญลักษณ์นี้ จะยืนยันได้ว่า นี่คือการท่องเที่ยวที่จะส่งผลประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนอย่างแท้จริง อันจะเห็นได้ว่า ความหมายที่ซ่อนอยู่ในตราสัญลักษณ์ใหม่นี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างอันหลากหลาย แต่ทุกความแตกต่างล้วนมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อชุมชน ซึ่งคือพลังที่แท้จริงของการบูรณาการไปสู่ความยั่งยืน
นอกจากการรับรองมาตรฐานชุมชนต่างๆ ที่ได้มาตรฐานตามกระบวนการ CBT Thailand แล้ว ผมยังเล็งเห็นถึงคุณค่าในการลงแรง ลงใจของชุมชนเพื่อพัฒนาตนเองจนเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จัก จึงมีการต่อยอดการรับรองมาตรฐานขึ้นอีกระดับหนึ่ง เป็นรางวัล CBT Thailand Star awards ครั้งที่ ๑ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อส่งมอบความพิเศษให้กับชุมชนที่ไม่ใช่เพียงแค่ได้มาตรฐาน แต่เป็นการแสดงถึงชุมชนที่มีมาตรฐานและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการท่องเที่ยววิถีชุมชนได้ เพื่อเป็นการตอบแทนทุกความมุ่งมั่นและพยายามในการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่งของทุกชุมชนจนเกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของพวกเรา ชาว CBT Thailand เช่นกัน
ผม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ต้องขอขอบคุณ คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากทุกหน่วยงาน ทั้ง ๒๔ หน่วยงาน ที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจ ผลักดันนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้การบูรณาการจากทุกภาคส่วน จนสามารถสร้างชุมชนแห่งความเข้มแข็งและความสุข ส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ให้กับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นได้อย่างน่าสนใจ และขอขอบคุณ อพท. ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่ได้ประสานทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน และขอขอบคุณมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ให้ความกรุณาเป็นเจ้าภาพในการจัดประกวดตราสัญลักษณ์ CBT Thailand ร่วมกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งพวกเราก็จะได้ร่วมแสดงความยินดีกับเยาวชนผู้ชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้อีกด้วย
กิจกรรมสร้างการรับรู้ภายในของแบรนด์ CBT Thailand ในวันนี้ จึงนับเป็นย่างก้าวที่สำคัญ ที่พวกเราได้มารับรู้แนวทางการพัฒนาภายใต้แบรนด์ CBT Thailand ร่วมกัน ภาคภูมิใจร่วมกัน สมัครสมานสามัคคี ทำงานเป็นทีมและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ผมขอเน้นย้ำว่า CBT Thailand คือ ตราสัญลักษณ์ที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน ในการผลักดัน รักษาและต่อยอดการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับและรู้จักในการท่องเที่ยว ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป"
เปิดตัวแบรนด์ใหม่ CBT Thailand "ท่องเที่ยววิถีไทย สุขใจวิถีชุมชน"