วีรบุรุษสัตว์เลี้ยงที่ได้รับเหรียญกล้าหาญจากสงคราม

by  os.internship


ในระยะเวลา 100 ปีมานี้ ประวัติศาสตร์โลกได้จารึกสงครามต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งสงครามเหล่านั้นทำให้เกิดความขัดแย้งและความสูญเสียที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ในทางกลับกันสงครามได้สร้างวีรบุรุษผู้หาญกล้าจำนวนมากจนได้รับเหรียญกล้าหาญมากมาย ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่ได้รับเหรียญเหล่านี้ สัตว์เองก็เช่นกัน

 มีสัตว์จำนวนไม่น้อยที่เข้าร่วมสงคราม และได้ทำหน้าที่ของตนเองได้ดีเยี่ยมเทียบเท่าทหารนายหนึ่งในกองทัพ จนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษและกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ในบางตัวก็ไม่ได้กลับบ้าน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่ามีสัตว์อะไรบ้างที่ได้รับเหรียญกล้าหาญจากสงคราม




1. ซิวาช เป็ดแห่งกองทัพเรือ

ภาพจาก tarawaontheweb

เจ้า ซิวาช เป็นเป็ดทหารเรือตัวสีดำและมีสีขาวบริเวณคอโดยมียศทางทหารในต่ำแหน่งนายสิบเป็นเป็ดนักสู้ และรักการดื่มเบียร์เป็นชีวิตจิตใจ ชอบบุกตลุยไปในสนามรบแนวหน้าอย่างกล้าหาญ ซึ่งทหารเรือนายหนึ่งชนะเกมไพ่โป๊กเกอร์แล้วได้มันมาเป็นรางวัล จึงพามันขึ้นเรือ 

ซิวาช ได้รับบาดเจ็บในสมรภูมิ Battle of Tarawa ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้ว ด้วยเลือดนักสู้ที่เต็มเปี่ยมมันได้ต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายกับไก่ของกองทัพญี่ปุ่นตัวหนึ่ง ทำให้นายทหารในกองทัพมอบเหรียญตราชื่อ Purple Heart เพื่อเป็นเกียรติในความกล้าหาญที่ไม่กลัวตายของมัน

เรื่องตลกของซิวาชคือ ทหารเรือทุกนายคิดว่ามันเป็นตัวผู้มาตลอดในช่วงสงคราม จนกระทั่งมันถูกปลดเกษียณและย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์ลินคอร์นพาร์ค และตายด้วยโรคตับวายในปี 2497

KAPOOK.COM




2. จี.ไอ.โจ นกพิราบสื่อสารผู้กล้าหาญ




ภาพจาก ww2today 


          จีไอ โจ เป็นชื่อของนกพิราบสื่อสารตัวหนึ่ง ในหน่วยนกพิราบสื่อสารกองทัพสหรัฐอเมริกา ด้วยความกล้าหาญและวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของมันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มันเป็นสัตว์ตัวแรกซึ่งไม่ใช่สัตว์สัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ Dickin Medal จากกองทัพอังกฤษ

          เจ้าโจ ช่วยชาวบ้านในหมู่บ้าน Calvi Vecchia ประเทศอิตาลี และทหารในกองทัพอังกฤษหลายนายไว้ ด้วยการส่งสารเตือนให้ทุกคนรู้ก่อนจะเกิดการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้มันสามารถปกป้องความสูญเสียที่อาจเกิดไว้ได้มากมายเลยทีเดียว

          หลังจบสงคราม โจเกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตในบั้นปลายที่สวนอนุรักษ์สัตว์ป่ารัฐดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา และมันสิ้นลมหายใจเมื่อตอนอายุ 18 ปี ร่างของโจถูกสตาฟเอาไว้อย่างดี และถูกวางแสดงโชว์ที่ Fort Monmouth ซึ่งปิดตัวลงไปเมื่อปี 2554

KAPOOK.COM





3. ไซมอน แมวยอดนักสู้



 ไซมอน เป็นแมวสัญชาติญี่ปุ่น และยังเป็นแมวเพียงตัวเดียวในช่วงสงครามโลก ที่ได้รับรางวัลเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด เจ้าไซมอนได้รับรางวัลนี้ในปี 1949 จากการปฏิบัติหน้าที่บนเรือรบ เอชเอ็มเอส อเมธิสต์ ของกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งรบติดพันอยู่ในแม่น้ำแยงซีถึง 3 เดือน

ในช่วงสงครามกลางเมืองของจีน เจ้า ไซมอน ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงโจมตีเรือ เอชเอ็มเอส แต่ในขณะที่กำลังพักรักษาตัวอยู่เจ้า ไซมอน ก็ยังฝืนทำหน้าที่ของตัวเองในการกำจัดหนู เพื่อรักษาเสบียงอาหารอันมีค่าบนเรือ ทำให้ทหารหลายนายรอดชีวิต เพราะมีเสบียงอาหารที่เพียงพอในการรบ (ใครที่บอกว่าแมวขี้เกียจคงต้องคิดกันใหม่แล้วละ)

online-station.net




จ่าสตับบี้ สุนัขขาสั้นพันธ์อึด

ภาพจาก stubbydog

          สุนัขพันธุ์บูลเทอร์เรียผสม ขนสั้นเกรียนตัวนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษสงครามตัวจริง ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยความกล้าหาญไม่กลัวตาย และวีรกรรมอีกมากมายที่ช่วยชีวิตทหารได้นับร้อย

          ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าสตับบี้จะได้เป็นสุนัขสงคราม เพราะมันเป็นหมาพันธุ์ผสมตัวอ้วนเตี้ย และทหารนายหนึ่งที่ชื่อ โรเบิร์ต คอนรอย ได้บังเอิญไปพบมันเข้าระหว่างกำลังเดินหลงทาง จึงแอบเก็บมันมาซ่อนไว้ในกระเป๋าก่อนพาขึ้นเรือไปด้วยกัน ต่อมาสตับบี้ถูกจับได้ แต่มันก็กลายเป็นมาสคอตขวัญใจหน่วยอินฟราทรีที่ 102 และหน่วยแยงกี้ที่ 26

          สตับบี้เคยเหยียบกับระเบิดเข้าจัง ๆ จนได้รับบาดเจ็บที่ขา อีกทั้งยังเคยสูดแก๊สพิษเข้าเต็ม ๆ แต่ไม่ตาย นับจากนั้นมามันจึงกลายเป็นหมาดมกลิ่นระวังภัยแก๊สพิษไปโดยปริยาย

          นอกจากนี้ สตับบี้ยังมีหน้าที่ส่งเสบียงให้ทหารแนวหน้า ด้วยตัวขนาดเล็กของมันทำให้มันไม่ตกเป็นเป้าสายตา และยังลอดผ่านรั้วหนามที่มนุษย์ผ่านไปไม่ได้ รวมถึงยังเป็นหน่วยแพทย์ ที่ช่วยดมกลิ่นตามหาทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อีกทั้งหูของมันยังดีมาก ๆ จนสามารถได้ยินเสียงลูกระเบิดที่ลอยมา และเห่าเตือนเพื่อนร่วมหน่วยให้หาที่หลบภัยก่อนจะถูกแรงระเบิดฉีกร่างเป็นชิ้น ๆ

นอกจากนี้ สตับบี้ยังฉลาดอย่างเหลือเชื่อ ถ้ามันถูกสปายพาตัวไปเมื่อไร มันจะนิ่งและคอยฟังว่าสปายคนนั้นจะพูดภาษาอะไร หากเขาพูดภาษาเยอรมันแล้วละก็ มันจะพุ่งเข้างับขากางเกงแบบไม่ยอมปล่อย จนกว่าเพื่อน ๆ ทหารนายอื่นในหน่วยจะมาถึง

สตับบี้ได้รับเหรียญกล้าหาญมากมาย รวมถึงเหรียญตรา Purple Heart อีกด้วย สตับบี้ใช้ชีวิตหลังสงครามอยู่กับ โรเบิร์ต คอนรอย เจ้านายของมัน จนกระทั่งจากไปอย่างสงบในวัย 10 ปี ในอ้อมกอดของเจ้านายนั่นเอง

KAPOOK.COM

ลุกก้า สุนัข 3 ขาสุดห้าวหาญ




    ลุกก้า เป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด เจ้า ลุคก้า ได้ช่วยชีวิตทหารไปหลายหมื่นคนจาก 400 สมรภูมิ หน้าที่ของมันคือดมกลิ่นหาระเบิด และในทุกสมรภูมิที่เจ้า ลุคก้า ได้ปฏิบัติงานที่มันไปด้วย ไม่มีทหารแม้แต่นายเดียวที่เสียชีวิต 

ในทางกลับกันตัวของมันต้องสูญเสียขาหน้าไป เมื่อครั้งกำลังปฏิบัติหน้าที่ในสนามรบที่จังหวัดเฮลมานด์ ในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในเหตุการณ์นั้นเจ้าลุคก้าได้ดมกลิ่นเจอระเบิดลูกแรก แต่ทันใดนั้นระเบิดลูกที่ 2 อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มันได้รับบาดเจ็บและสูญเสียขาหน้าไปหนึ่งข้าง 

พันจ่าตรี วิลลิงแฮม ผู้เป็นเจ้าของได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้มันก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาที่ประเทศเยอรมนี และในเวลาต่อมา ลุกก้า ได้เข้าพิธีรับเหรียญกล้าหาญอย่างสมเกียรติ ณ ค่ายทหารเวลลิงตันในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ

9. ดีเซล สุนัขพลีชีพเพื่อเกียรติยศ



ดีเซล เป็นสุนัขพันธุ์เบลเจี่ยน มาลินอยส์ สังกัดหน่วยสุนัขตำรวจต่อต้านการก่อร้าย โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้น ดีเซล ได้รับภารกิจให้ทำการค้นหาผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในตึกแห่งหนึ่ง 

และในขณะที่มันกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเหตุทำให้เจ้า ดีเซล ถูกยิงหลายนัดและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งการตายของดีเซล ได้ช่วยชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยจู่โจมขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนี้ไว้ได้หลายนาย อีก 1 เดือนต่อมาเจ้า ดีเซล ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด





ธีโอ สุนัขอีโอดีผู้กล้าหาญ


ธีโอ สุนัขพันธุ์สปริงเกอร์ สเปเนี่ยล ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสุนัขค้นหาอาวุธและระเบิดในหน่วยสัตวแพทย์แห่งกองทัพบก ขณะประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน
หลังจากปฏิบัติภารกิจการบันทึกหมายเลขของระเบิดที่ติดตั้งไว้ 5 เดือน กับสิบตรีเลียม ทาสเกอร์ (ผู้ดูแลและคู่หูของเจ้าธีโอ)

พวกเขาก็ถูกกลุ่มกบฎตาลีบันลอบสังหาร ซึ่งสิบตรีทาสเกอร์เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุทันที ส่วนเจ้าธีโอเสียชีวิตจากการถูกทรมานหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเพียงไม่นาน เจ้าธีโอ "สุดยอดสุนัขที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่" ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญสูงสุด ในเดือนตุลาคม 2012

(ในภาพ) จ่าแมตธิว โจนส์ แห่งกองทัพบกอังกฤษ และเจ้าเกรซ สุนัขค้นหาแห่งกองทัพบก ถ่ายรูปคู่กันพร้อมกับเหรียญกล้าหาญของเจ้าธีโอ




อพอลโล สุนัขค้นหาและช่วยเหลือสุดแกร่งจากหน่วย เค 9

อพอลโล เป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันแชพเพิร์ด ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วย เค 9 ของกรมตำรวจนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา อพอลโล ได้รับหน้าที่เป็นสุนัขค้นหาและช่วยเหลือในเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเจ้า อพอลโล เป็นสุนัขตำรวจตัวแรกที่มาถึงในที่เกิดเหตุและเกือบตายจากเศษซากอาคารที่ร่วงลงมา ด้วยความกล้าหาญในครั้งนั้นทำให้ อพอลโลได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด ในเดือนมีนาคม 2002 ในนามของสุนัขกู้ภัย ณ กราวด์ ซีโร่ และ เพนตากอน




วอร์ริเออร์ ม้าเหล็กฆ่าไม่ตาย


วอร์ริเออร์ เป็นม้าในกองทัพแคนนาดาที่ได้รับการขนานนามว่า ม้าที่เยอรมันฆ่าไม่ตาย วอร์ริเออร์ ได้รับใช้กองพันทหารม้าของแคนาดาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่มันประจำการในสมรภูมิรบนั้น วอร์ริเออร์ สามารถเอาชีวิตรอดจากกระสุนปืนกล, ลูกกระสุนปืนใหญ่และระเบิดที่ถูกทิ้งลงจากเครื่องบินได้ตลอด 

และในปี 2014 ที่ผ่านมา เจ้าม้าตัวนี้ก็ได้รับรางวัลเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด ด้วยเวลาที่ผ่านไปถึง 1 ศตวรรษหลังจากที่ม้าตัวนี้ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิรบ เวสเทิร์น ฟรอนต์ กับนายพลแจ็ค ซีลี่ย์ ในปี 1914 (นานมาก) โดยรางวัลอันทรงเกียรติของม้าตัวนี้ ถูกรับมอบให้กับบราฟ สกอตต์ ซึ่งเป็นหลานชายของนายพลซีลี่ย์




ซาช่า สุนัขนักรบในแนวหน้า




 ซาช่า เป็นสุนัขพันธ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เพศเมีย ตำแหน่งสุนัขค้นหาของหน่วยสัตวแพทย์ของกองทัพบก ซาช่า ได้รับเหรียญกล้าหาญในปี 2014 6 ปีหลังจากที่เธอตายไป 

เหตุการณ์สุดสะเทือนใจเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2008 สิบตรีเคนเนธ โรว์ ได้ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศอัฟกานิสถาน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายสืบและค้นหาที่เก็บซ่อนกระสุนและวัตถุระเบิดของข้าศึก เจ้า ซาช่า จึงติดตามไปด้วยและระหว่างที่ออกการออกลาดตระเวนในวันที่ 24 กรกฎาคม 2008 ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่ซาช่าจะได้กลับบ้าน 

สิบตรีโรว์กับเจ้าซาช่า ต้องเสียชีวิตจากการลอบสังหาร ด้วยการระดมยิงปืน ค.อาร์พีจี โดยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธตาลีบัน



เรียบเรียงจาก
wikipedia.org/wiki/Equine_recipients_of_the_Dickin_Medal#Olga
.wikipedia.org/wiki/Dickin_Medal
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อย่าลืมวีรบุรุษของเรา  เอ็กซ์..นักรบสี่ขา..สู้เพื่อนาย..ตายเพื่อชาติ
          เอ็กซ์เป็นสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดสีดำเหลืองเพศผู้ ซึ่งเข้าประจำการในปี พ.ศ. 2513 เมื่ออายุประมาณ 6 ปี โดยมีผู้ควบคุมชื่อสิบตำรวจโท ศักดา มาลา ผู้บังคับการหมู่งานสายตรวจ  ที่ต่อมาได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจปราบปราม ขจก.ที่เคลื่อนไหวใน 4 จังหวัดภาคใต้ เมื่อ 26 ก.ย.2517
          กระทั่ง 19 ต.ค.2517 ทั้งสองได้ร่วมภารกิจกับ สภ.จว.ยะลา ในการออกลาดตระเวนจนไปพบที่พักแรมของคนร้ายที่เพิ่งรื้อถอน จึงได้ให้เอ็กซ์ดมกลิ่นเสื้อผ้าที่คนร้ายได้ทิ้งไว้ แล้วเดินเข้าป่าสวนยางเชิงเขาลึกประมาณ 1 กม. ทว่าเอ็กซ์กลับหยุดเดินแล้วเงยหน้า หูตั้ง หางตั้ง และปากหุบ เป็นการเตือนให้ ส.ต.ท.ศักดารู้แล้วว่ามีคนร้ายแอบซุ่มอยู่ ไม่รอช้า ส.ต.ท.ศักดารีบส่งสัญญาณให้กำลังพลที่เหลือเข้าที่กำบัง พลันมีเสียงปืนดังขึ้น และเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที ทำให้เจ้าเอ็กซ์ถูกยิงจนสิ้นใจ สร้างความเสียใจแก่ ส.ต.ท.ผู้ควบคุมยิ่งนัก  ส่วนคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่เล็ดรอดหลบหนีไปได้
          วีรกรรมที่ได้กระทำอย่างซื่อสัตย์จนสิ้นชีพของเจ้าเอ็กซ์ ได้ช่วยชีวิตเจ้าหน้าที่ทุกนายให้รอดพ้นภยันตรายจากการถูกซุ่มโจมตี นับเป็นเรื่องสมควรยกย่อง ด้วยเหตุนี้ กองกำกับการสุนัขตำรวจ (กองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจในปัจจุบัน) จึงได้สร้างรูปปั้นสดุดีเจ้าเอ็กซ์ไว้ ณ ที่หน้าตึกบัญชาการ ไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของเจ้าเอ็กซ์ แต่เนื่องจากสมัยนั้นมิได้มีการแต่งตั้งชั้นยศให้แก่สุนัขตำรวจ เจ้าเอ็กซ์จึงได้รับการขนานนามให้เป็น วีรบุรุษสุนัขตำรวจ  ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งยศให้แก่สุนัขตำรวจเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2546

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่