เราเป็นเด็กบ้านนอกมาทำงานในกรุงเทพ เดินทางกลับบ้านบ่อยจากกทม.ไปจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ โดยรถทัวร์(ที่บ้านไม่มีสนามบิน)ใช้เวลาเดินทางประมาณ10 ชม. เดินทางตอนกลางคืนตลอดเพราะเป็นคนหลับง่ายตื่นแล้วถึงเลย และเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาเราจองตั๋ว(ไป-กลับ)บ้าน เมื่อถึงเวลากลับกทม. ทุกอย่างก็ปกติดี พ่อแม่มาส่งขึ้นรถเรากอดหอมแก้มไปคนละที แล้วบอกท่านว่าถึงแล้วจะโทรหานะ ท่านก็ตอบว่าขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ พอเราขึ้นรถนั่งไปซักพักรถก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลา เรามองวิวข้างทางจากหน้าต่างผ่านตัวเมืองไปเรื่อยๆ พอเริ่มผ่านหมู่บ้านเล็กๆไป พนักงานจึงค่อยๆปิดไฟในรถ ทุกอย่างเริ่มมืดเห็นเพียงต้นไม้ริมทางกับแสงดาวบนท้องฟ้าเท่านั้น เราค่อยๆพล็อยหลับไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แล้วจู่ๆเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น
เวลาเที่ยงคืนนิดๆเราต้องตกใจตื่น เพราะตัวรถสั่นอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังเหมือนล้อวิ่งบนหิน(ครึกๆๆๆ) พร้อมกับเสียงคนร้องกรี๊ด หัวใจเราเต้นรัวหน้าซีดเผือก ทุกอย่างมันมืดไปหมดภาพอุบัติเหตุตามข่าวผุดขึ้นมาในหัว ยอมรับว่ากลัวตายมาก ตอนนั้นเหตุเกิดเพียงไม่กี่วินาทีรถก็หยุด พร้อมผู้โดยสารกองระเนระนาด ทุกคนต่างตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความเงียบเริ่มคืบคลานในความมืด ด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราลองมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิดและเงียบสงัดพยายามมองให้ชัด ก็เห็นมือใครบางคนกำลังลูบกระจก เหมือนพยายามจะคว้าตัวเราจากด้านนอก เราได้แต่นั่งหลับตาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ บอกกับตัวเองว่าเราแค่กลัวแล้วคิดไปเองเท่านั้น ผ่านไปไม่นานพนักงานเปิดประตูไต่เข้ามา และค่อยๆทยอยพาผู้โดยสารทุกคนออกไปอย่างทุลักทุเลเพื่อรอเปลี่ยนรถไปกทม.”
หลังจากผ่านพ้นอุบัติเหตุรถตกตีนดอยในคืนนั้น เราก็ได้กลับบ้านโดยรถทัวร์อีก(ครั้งแรกหลังจากเกิดอุบัติเหตุ) แรกๆก็ปกติไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไรแต่พอหลับไปได้ซักพักต้องตกใจตื่น เพราะตัวรถสั่นเสียงจากล้อดังครึกๆๆๆ เรารีบหันมองออกไปนอกหน้าต่างก็มีแต่ความมืดเห็นเพียงต้นไม้กับดวงดาวและไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเราค่อยๆผล็อยหลับไปได้ซักพักก็มีเสียงดังครึกๆๆๆขึ้นอีก วนเวียนแบบนี้เกือบ20 ครั้งทำให้จากคนนอนง่ายกลายเป็นต้องตกใจตื่น เพราะรถสั่นจากการเหยียบก้อนหินเสียงดังครึกๆๆๆ จนเราเหนื่อยที่จะตกใจตื่นทั้งขาไปและขากลับ กว่าจะได้นอนก็ต้องถึงเขตปริมณฑลที่พื้นถนนเรียบๆ จึงอยากทราบว่า “มีวิธีไหนบ้างที่ทำให้กลับไปหลับสนิทขณะเดินทางเหมือนเดิมมั้ยคะ”
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
หลังจากเหตุการณ์นั้น ต้องตกใจตื่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงครึกๆๆๆ
เวลาเที่ยงคืนนิดๆเราต้องตกใจตื่น เพราะตัวรถสั่นอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังเหมือนล้อวิ่งบนหิน(ครึกๆๆๆ) พร้อมกับเสียงคนร้องกรี๊ด หัวใจเราเต้นรัวหน้าซีดเผือก ทุกอย่างมันมืดไปหมดภาพอุบัติเหตุตามข่าวผุดขึ้นมาในหัว ยอมรับว่ากลัวตายมาก ตอนนั้นเหตุเกิดเพียงไม่กี่วินาทีรถก็หยุด พร้อมผู้โดยสารกองระเนระนาด ทุกคนต่างตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความเงียบเริ่มคืบคลานในความมืด ด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราลองมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิดและเงียบสงัดพยายามมองให้ชัด ก็เห็นมือใครบางคนกำลังลูบกระจก เหมือนพยายามจะคว้าตัวเราจากด้านนอก เราได้แต่นั่งหลับตาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ บอกกับตัวเองว่าเราแค่กลัวแล้วคิดไปเองเท่านั้น ผ่านไปไม่นานพนักงานเปิดประตูไต่เข้ามา และค่อยๆทยอยพาผู้โดยสารทุกคนออกไปอย่างทุลักทุเลเพื่อรอเปลี่ยนรถไปกทม.”
หลังจากผ่านพ้นอุบัติเหตุรถตกตีนดอยในคืนนั้น เราก็ได้กลับบ้านโดยรถทัวร์อีก(ครั้งแรกหลังจากเกิดอุบัติเหตุ) แรกๆก็ปกติไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไรแต่พอหลับไปได้ซักพักต้องตกใจตื่น เพราะตัวรถสั่นเสียงจากล้อดังครึกๆๆๆ เรารีบหันมองออกไปนอกหน้าต่างก็มีแต่ความมืดเห็นเพียงต้นไม้กับดวงดาวและไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเราค่อยๆผล็อยหลับไปได้ซักพักก็มีเสียงดังครึกๆๆๆขึ้นอีก วนเวียนแบบนี้เกือบ20 ครั้งทำให้จากคนนอนง่ายกลายเป็นต้องตกใจตื่น เพราะรถสั่นจากการเหยียบก้อนหินเสียงดังครึกๆๆๆ จนเราเหนื่อยที่จะตกใจตื่นทั้งขาไปและขากลับ กว่าจะได้นอนก็ต้องถึงเขตปริมณฑลที่พื้นถนนเรียบๆ จึงอยากทราบว่า “มีวิธีไหนบ้างที่ทำให้กลับไปหลับสนิทขณะเดินทางเหมือนเดิมมั้ยคะ”
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ