เครดิตที่มาของข่าว
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
https://globthailand.com/singapore_0041/
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2562 สํานักพิมพ์ The Straits Times ลงบทความ “S’pore reclaims top spot in Competitive economy ranking” รายงานการจัดอันดับของ IMD
ซึ่งเป็นโรงเรียนด้านธุรกิจของสวิสเซอร์แลนด์
โดย IMD ระบุว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ในปี 2562 ซึ่งขึ้นมาจากอับดับที่ 3 จากเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่สหรัฐฯ จากปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 1 ในปีนี้มาอยู่ที่อันดับที่ 3 ในขนะที่ฮ่องกงยังคงอยู่ในอันดับที่ 2
โดยการจัดอันดับนี้ ถูกประเมินจากความสามารถของสิ่งแวดล้อมภายในประเทศที่จะทําให้ กลุ่มธุรกิจสามารถมีการเติบโตที่ยั่งยืน มีการสร้างงาน และสร้างสวัสดิการที่ดีให้แก่ประเทศ ซึ่งในปีนี้การที่สิงคโปร์ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 นั่น เนื่องจากปัจจัยหลายด้าน ได้แก่ (1) มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขั้นสูง (2) มีแรงงานที่มีทักษะสูง (3) มีกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นประโยชน์ และ (4) มีมาตรการอํานวยความสะดวกในการตั้งธุรกิจใหม่
ทั้งนี้ IMD ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 และประเมินระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ จํานวน 63 เขตเศรษฐกิจ ใน 4 ด้าน ได้แก่ (1) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2) โครงสร้างพื้นฐาน (3)ประสิทธิภาพของรัฐบาล และ(4) ขีดความสามารถของธุรกิจ
ศาสตราจารย์ Arturo Bris ผู้อำนวยการ IMD World Competitiveness Centre ตั้งข้อสังเกตว่าสิงคโปร์เป็นประเทศ ที่มีการวางแผนนโยบายแบบระยะยาว ซึ่งส่งผลให้สิงคโปร์ได้อันดับที่ 1 โดยในอนาคตสิงคโปร์จะต้องพยายามทําให้ธุรกิจ ขยายขนาดขึ้น เสริมสร้างทักษะให้กับแรงงานให้มีทักษะขั้นสูงขึ้นไปอีก และสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ และต่างชาติ เพื่อหาลู่ทางเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ
อนึ่ง สิงคโปร์ได้เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2553 โดยหลังจากนั้นได้อยู่ในอันดับที่ 3 หรือ 4 มาโดยตลอด ทั้งนี้ สําหรับประเทศไทย ในปีนี้มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและมีผลผลิตสูงขึ้นทําให้ขึ้นมาอยู่ที่ อันดับที่ 25 โดยขึ้นมา 5 อันดับจากปี 2561
IMD จัดสิงคโปร์มีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 1 ของโลก
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
https://globthailand.com/singapore_0041/
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2562 สํานักพิมพ์ The Straits Times ลงบทความ “S’pore reclaims top spot in Competitive economy ranking” รายงานการจัดอันดับของ IMD ซึ่งเป็นโรงเรียนด้านธุรกิจของสวิสเซอร์แลนด์
โดย IMD ระบุว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ในปี 2562 ซึ่งขึ้นมาจากอับดับที่ 3 จากเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่สหรัฐฯ จากปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 1 ในปีนี้มาอยู่ที่อันดับที่ 3 ในขนะที่ฮ่องกงยังคงอยู่ในอันดับที่ 2
โดยการจัดอันดับนี้ ถูกประเมินจากความสามารถของสิ่งแวดล้อมภายในประเทศที่จะทําให้ กลุ่มธุรกิจสามารถมีการเติบโตที่ยั่งยืน มีการสร้างงาน และสร้างสวัสดิการที่ดีให้แก่ประเทศ ซึ่งในปีนี้การที่สิงคโปร์ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 นั่น เนื่องจากปัจจัยหลายด้าน ได้แก่ (1) มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขั้นสูง (2) มีแรงงานที่มีทักษะสูง (3) มีกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นประโยชน์ และ (4) มีมาตรการอํานวยความสะดวกในการตั้งธุรกิจใหม่
ทั้งนี้ IMD ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 และประเมินระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ จํานวน 63 เขตเศรษฐกิจ ใน 4 ด้าน ได้แก่ (1) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2) โครงสร้างพื้นฐาน (3)ประสิทธิภาพของรัฐบาล และ(4) ขีดความสามารถของธุรกิจ
ศาสตราจารย์ Arturo Bris ผู้อำนวยการ IMD World Competitiveness Centre ตั้งข้อสังเกตว่าสิงคโปร์เป็นประเทศ ที่มีการวางแผนนโยบายแบบระยะยาว ซึ่งส่งผลให้สิงคโปร์ได้อันดับที่ 1 โดยในอนาคตสิงคโปร์จะต้องพยายามทําให้ธุรกิจ ขยายขนาดขึ้น เสริมสร้างทักษะให้กับแรงงานให้มีทักษะขั้นสูงขึ้นไปอีก และสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ และต่างชาติ เพื่อหาลู่ทางเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ
อนึ่ง สิงคโปร์ได้เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2553 โดยหลังจากนั้นได้อยู่ในอันดับที่ 3 หรือ 4 มาโดยตลอด ทั้งนี้ สําหรับประเทศไทย ในปีนี้มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและมีผลผลิตสูงขึ้นทําให้ขึ้นมาอยู่ที่ อันดับที่ 25 โดยขึ้นมา 5 อันดับจากปี 2561