ทำไมชีวิตต้องเจอสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น

สวัสค่ะทุกคน หนูชื่อเลซี่ อายุ18ปี นี่คือการตั้งกระทู้ครั้งแรกของหนู รบกวนเสียเวลานิดนึงนะคะ หนูมีปัญหาที่ไม่สามารถคิด หรือแก้ไขเองได้ในตอนนี้ ทุกคนอาจจะให้คำตอบหรือคำแนะนำดีๆกับหนูได้ วันนี้หนูเลยอยากจะเล่าเกี่ยวกับชีวิตของหนูให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนึงค่ะ สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ หนูกำลังจะขึ้นปี2ค่ะ งงกันใช่มั้ยล่ะ ทำไม18ปีทำไมเรียนอยู่ปี2? หนูเกิดปี44 เรียนพร้อมรุ่นที่เกิดปี42ค่ะ บางคนก็พูดว่า เด็กคนนี้เก่งจัง เรียนเก่งอ่ะดิสอบเทียบได้เนี่ย หึหึ ไม่ใช่เลยค่ะ หนูไม่ได้สอบเทียบอะไรทั้งนั้น ที่หนูได้เรียนพร้อมปี42 เพราะหนูร้องไห้ขึ้นชั้นป.1ค่ะ เป็นไงล่ะคะ ปีนเกียวสุดๆ มันก็เลยเป็นปมหนูมาจนถึงทุกวันนี้ เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ ลืมบอกไปว่ามีน้องสาวด้วยคนนึง ห่างกับหนู5ปี ตอนเด็กๆหนูอยู่กับปู่ย่าแล้วก็อา ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่หนูเรียกอาว่าแม่กับพ่อ ซึ่งในตอนเด็กสมัยนั้นเรียกได้ว่าจะแย่แต่ก็ไม่แย่ เป็นเด็กที่อยู่ในกรอบตลอด ไม่เถลไถล ไม่มีเวลาเล่นกับเพื่อน กลับบ้านมาทำการบ้าน ทำงานบ้าน มีเวลาเล่นกับเพื่อนแค่ตอนอยู่โรงเรียน ได้เงินไปโรงเรียนวันละ3บาท สมัยนั้นพอดีขึ้นหน่อยอย่างน้อยก็ต้อง5-10บาทแหละ แต่หนูได้ไป3บาท ถามว่าน้อยใจมั้ย ก็แอบคิดนะ หวานเย็นก็ถุงละบาทและ โซ่หมากเก็บก็ถุงละ5บาท แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เขาคงอยากให้เรารู้จักประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย แล้วหนูจะโดนตีบ่อยมาก บางครั้งก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร แต่พอเมื่อน้องคนเล็กเริ่มเข้าโรงเรียน พ่อกับแม่เลยตัดสินใจกลับมาตั้งถิ่นฐานที่บ้าน สักประมาณตอนอยู่ป.5 ความรู้สึกนั้นดีใจมาก พ่อกับแม่ทำงานรับเหมาก่อสร้าง จนตอนนั้นต้องยอมรับจริงๆว่าพ่อกับแม่สู้มาก จนสร้างบ้านได้เป็นหลังขนาดนี้ ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่ได้กลับมาสักพัก แล้วได้อยู่ที่บ้านย่าซึ่งก็มีแม่(อา)กับพ่อ(อา) 2คนนี้คือคนที่อยู่บ้านกับย่า ซึ่งพูดง่ายๆก็เป็นลูกรักแหละ ตอนนั้นพอพ่อกับแม่กลับมาอยู่ได้สักพัก พ่อกับแม่(อา)ก็ทะเลาะกัน ซึ่งสุดท้าย ย่าไล่พ่อกับแม่หนูและน้อง 4คนออกจากบ้าน ด้วยเหตุผลที่แม่(อา)บอกว่า ถ้ามันไม่ไปเขาจะไปเอง เรา4คนพ่อแม่ลูก ต้องไปนอนที่เถียงนาของปู่ จุดเทียนเล่มนึง นอนในมุ้งข้างคอกวัว ได้สักอาทิตย์นึง พ่อกับแม่ตัดสินใจ ขายทองที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อไปสร้างบ้าน กะว่าค่อยๆเป็นค่อยๆไปเอาได้พออยู่ได้ จากอิฐบล็อกก่อเป็นบ้าน ไม่ได้ฉาบ หน้าต่างใช้สังกะสีปิด ทำมาเรื่อยๆจนทุกอย่างดี เป็นบ้านที่พ่อรักและภูมิใจ ซึ่งครอบครัวหนูก็ยังไปมาหาสู่กับบ้านย่ากับแม่(อา)เป็นประจำ ก็มีทะเลาะกัน แต่ก็อย่างว่าทะเลาะกันให้ตาย พี่น้องก็ตัดกันไม่ขาด พออยู่มาเรื่อยๆ ตอนม.3 ย่าก็ได้จากไป ซึ่งต้องมีประเด็นแหละ เรื่องทรัพย์สินสมบัติของย่าท่าน แต่ทางพ่อ พ่อไม่ต้องการอะไร แค่ที่ที่ย่าให้ทำบ้านอยู่กับที่ดินทำกินเล็กน้อยก็พอแล้ว ย่าท่านมีลูก7คน พ่อเป็นคนที่4 แทบจะไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหยิบยื่นอะไรจากครอบครัวเขาเลย แม้กระทั่งพ่อใช้หนี้ให้อาน้องคนสุดท้ายของพ่อ ติดหนี้หวย ติดค่าแชร์ พ่อไปกู้เงินเขามาโดยเอาโฉนดบ้านไปจำนอง แล้วก็หาตังใช้หนี้จนได้โฉนดบ้านคืนมา พ่อสู้มาด้วยตัวของพ่อเองจนถึงทุกวันนี้ พ่อมีเราสองคนพี่น้องเป็นนางฟ้า เป็นความสุขของเขา ทุกวันนี้พ่อสู้ก็เพื่อพวกเรา พ่อรักและหวังในตัวหนูมาก เพราะหนูเป็นพี่คนโต เป็นเสาหลัก พ่อกับแม่ตามใจแทบจะทุกอย่าง มีสิ่งที่พ่อขอคืออย่าทำให้เขาผิดหวัง เพราะเขาหวังกับเราเยอะ แต่สิ่งที่หนูทำนั้น เรื่องเรียนหนูไม่มีปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่มีเรื่องที่หนูมีปัญหาคือเที่ยว และเรื่องดื่ม เริ่มเที่ยวตอนอายุ15 อยู่ม.5 ปิดเทอมเข้ามาทำงานในเมือง ร้านก๋วยเตี๋ยว งานที่หนูทำมันเหนื่อยมาก เป็นทุกอย่างของร้านเลยก็ว่าได้ ก็ไปบางครั้ง ไม่ได้ไปบ่อย อีกอย่างก็กลัวด้วย เพราะอายุไม่ถึง พอจบม.6 ก็ได้เข้ามาทำงานที่เดิม รอเข้ามหาลัย มันจึงเป็นจุดเริ่มต้น ได้เที่ยวบ่อยขึ้น ถึงทำงานจะเหนื่อยหน่อย ก็เริ่มรู้จักคนมากขึ้น เที่ยวบ่อยขึ้น จนเป็นลูกค้าประจำของคลับใหญ่ในจังหวัดก็ว่าได้ หนูก็เป็นคนน่าตาดีอยู่ประมาณนึงค่ะ แต่หนูไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้ ถามว่าที่บ้านรู้มั้ย ก็รู้ค่ะ ขนาดที่พ่อหาหอพักที่ไม่ผ่านด่านแน่นอน 55555555 ก็งี้แหละเพราะหนูจะเป็นคนพูดบอกตลอด เพราะเราก็เซปเราด้วย เผื่อเกิดเรื่องอะไร นี่แหละค่ะ หนูเป็นคนที่กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ เป็นคนตรงๆคิดอะไรก็พูดออกมายังงั้น ไม่ค่อยแคร์อะไร แต่เชื่อเถอะค่ะ การที่ไปเที่ยวแทบจะทุกวัน ไม่ใช่ว่าจะรอดเสมอไป โดนเป่าเมื่อปีที่แล้ว17ปี เรื่องพึ่งเสร็จไปเมษานี้เอง เมามากเป่าขึ้น157จำขึ้นใจเลย ร้องไห้หนักมาก ถึงจะเป็นหลานมาเฟียก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยจ้าา ไม่เอาแล้ว ไม่กินแล้ว ตอนแรกที่โดนจับโทรหาพ่อ(อา)ก่อน เพราะหนูกลัวพ่อด่ามาก สุดท้ายก็ยังไง พ่อก็ช่วยค่ะ น้ำตาไหลริน ตอนลงรถแล้วเจอแม่กับแม่(อา)มาด้วยกันไม่เจอพ่อ ช่วงนั้นแม่คือซูบแล้วผอมลงมาก แต่พ่อก็คอยพาไปศาลรับส่งทุกครั้ง รู้สึกผิดมาก แต่พ่อก็ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร เริ่มต้นใหม่กัน ใช่ว่าหนูจะเลิกเที่ยวนะ แต่ก็ไปเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ถี่เหมือนแต่ก่อน พอมาปีนี้หนูอายุ18ปีแล้ว เรื่องหรือคดีเสร็จแล้ว เลิกกังวล ไม่มีอะไรให้ห่วง เหลือแค่ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น 17เมษายน2562 หนูได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งมีงานรับสอนพิเศษภาษาที่โรงเรียนพิเศษแห่งนึง ตอนที่บอกที่บ้าน พ่อกับแม่ดีใจมาก แล้วในขณะเดียวกันนั้น หนูได้ให้พี่พาไปเอารถที่บ้านเพื่อน ซึ่งเป็นชุมชนหมู่บ้านจัดสรรในเมือง ในระหว่างทางตอนที่ออกมานั้น หนูได้ขับรถนำพี่มาก่อน หนูรถล้มเพราะแมววิ่งมาแล้วเบรกไม่อยู่ เหยียบแมวเสียหลักล้มเอง ทำให้คางแตก กรามหัก แผลถลอกที่ขาอันนี้ธรรมดา ตอนนั้นคนที่อยู่แถวนั้นเข้ามาช่วย จนหนูลุกขึ้นแล้วพี่ที่มาด้วยกันพึ่งถึง หนูโทรบอกที่บ้านก่อนตอนแรก แล้วให้เพื่อนไปโรงบาลเป็นเพื่อน ตอนนั้นหนูก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรมาก จนต้องผ่าตัด บวมอยู่เป็นเดือน มัดฟันตามสเต็ป ทุกคนบอกเดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็กลับมาสวยนะคนเก่ง หนูก็ดีใจ กำลังใจดี คิดบวกตลอด จนกระทั่ง มาพบหมอตามนัด ถอดลวดมัดฟัน ไปX-ray สรุปว่า กรามหนูข้างที่หัก มันผิดรูป ทำให้หน้าไม่เท่ากัน แล้วพอไปหาหมอจัดฟัน หมอบอกว่า ขากรรไกรเลื่อนมานิดนึง อาจจะเบี้ยว ในอนาคตได้ หนูผิดหวังมากแล้วพยายามยอมรับให้ได้มากที่สุด อยู่บ้าน ครอบครัวกำลังใจดีมาก แต่หนูกลับมีความคิดที่เปลี่ยนไป จากเด็กที่เคยสดใส เป็นทุกอย่าง เป็นรอยยิ้มของครอบครัว ทุกวันนี้ดูหม่นหมอง หนูไม่มีเป้าหมายในชีวิต หนูหมดหนทางทุกอย่าง จนหนูอยากจะไปพบจิตแพทย์ อารมณ์เหมือนไบโพล่าห์ หนูมีความคิดที่ไม่อยากจะอยู่เป็นภาระของครอบครัว ทำไมชีวิตหนูถึงมีแต่ปัญหา มีแต่เรื่อง เวรกรรมอะไรของหนู ทำไมหนูต้องมาเจอมันต้องมาเกิดขึ้นกับหนูด้วย หนูไม่รู้ว่าหนูจะเอายังไงต่อไป จะเริ่มต้นยังไง หนูอยากเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังสักที #ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านกันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่