[กระทู้ตามรอยอนิเม] เดินทางลุยสองประเทศ ญี่ปุ่น-รัสเซีย หาฐานทัพ Brave Witches กองพัน 502 + ของแถมอีกนิดหน่อย

กระทู้ตามรอยประจำเดือนนี้ครับผม ^^


คราวนี้มีโอกาสได้ไปตามรอยอนิเมซึ่งฉากกว่าค่อนเรื่องไม่ใช่ญี่ปุ่นซะงั้น (ฮา) นั่นก็คือ Brave Witches สาวๆ กกน.บินได้แห่งกองพัน 502 ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีย์ Witches World ที่เติบโตต่อยอดมาจากผลงานของ อ.ชิมาดะ ฟุมิคาเนะ อย่าง Strike Witches ซึ่งกว่าจะเก็บภาพได้หมดนี่ใช้เวลาเกือบปีเต็ม บินไปญี่ปุ่นสองรอบ (เที่ยวคนเดียว 1 รอบ พาแม่เที่ยวอีก 1 รอบ) กับพาแม่เที่ยวยุโรปที่รัสเซียอีก 15 วัน งบทั้งสามทริปเลยบานปลายไป 6 หลักกลางๆ (แพงสุดของการตามรอยละมั้ง T_T)

ไม่พูดพร่ำทำเพลง โพสเลยละกันครับ

บทแรก ประเดิมด้วย เมืองซาเซโบะ ญี่ปุ่น ท่าเรือทางการทหารที่สำคัญในสมัยสงครามโลกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใน จ.นางาซากิในเกาะคิวชูครับ ข้อดีของเมืองนี้คือนอกจากอาหารทะเลสดและถูกแล้ว ยังมีภูมิทัศน์เป็นเขาสูงติดทะเล ทำให้มีจุดชมวิวสวยๆ อยู่เยอะมาก รวมถึงติดสวนสนุกชื่อดังอย่าง Huis Ten Bosch ด้วย

ไม่ได้เกี่ยวกับทริปคราวนี้ แต่ก็เคยไปเที่ยว Huis Ten Bosch ตอนปี 2014 ซึ่งมีแคมเปญเรือซันนี่ให้เราล่องเรือเล่นได้ มีแอบค้อนเล็กๆ ตอนที่คนญี่ปุ่นเดินมาชี้สแตนด์ลอว์แล้วถามว่านี่ใครอ่ะ? เอ็งเป็นคนญี่ปุ่นได้ยังไงฟระ!? - -*

เมื่อเดินทางมาสถานีรถไฟ JR Sasebo ปุ๊บ ก็จะพบกับเรือรบออกมาต้อนรับรอเราทันที แหม่...สมกับเป็นเมืองซาเซโบะจริงๆ

เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ล่ะ!!

*ทิปความรู้ #1*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มาประเดิมฉากแรก ด้วยจุดชมวิวเทนไคโฮครับ เดินทางด้วยรถบัสประมาณครึ่งชม.จากสถานี โดยที่นี่เราจะสามารถมองเห็น "เกาะ 99 เกาะ" วิวของดีขึ้นชื่อของซาเซโบะ ลมเย็น วิวสวย แทบไม่อยากไปไหนต่อเลย 5555

อยากกราบคนวาดฉากจริงๆ เหมือนเป๊ะ!!

บริเวณรอบของจุดชมวิว โดยถ้ามาเดือนกรกฎาคม สวนก็จะโกร๋นๆ หน่อย แต่ตอนมาแก้มือรอบเมษายนมีดอกนาโนะฮานะบานสวยมากๆ

ตัดฉากมาที่นางเอกของเรา คาริบุจิ ฮิคาริจัง เดินทางไปส่งข้าวกล่องให้พ่อซึ่งทำงานในศูนย์ส่งสัญญาณไร้สาย ส่งข้อมูลการสู้รบกับเนียรอยให้กองทัพ

เพราะว่าฉากในเรื่องเป็นมุมสูง เลยถ่ายได้ประมาณนี้ - -; แต่เสาก็ขนาดใหญ่ตามอนิเมเลยนะ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ชิดขนาดนี้

ศูนย์ส่งสัญญาณไร้สายนี้ปัจจุบันทำเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ เข้าชมฟรี แต่ก็เข้าไปในตัวอาคารไม่ได้ (คุณป้าเป็นอาสาสมัครใจดีมาก พอบอกว่ามาจากต่างประเทศ แกพยายามสปีกอิงลิชกันใหญ่ 5555 พูดญี่ปุ่นก็ได้คร้าบบบ) ส่วนเสานี่สามารถเปิดให้เข้าไปดูได้เพียงแค่เสาเดียว

ข้างในเสาจะเป็นท่อกลวงและมีโครงเหล็กขึ้นไปลึกๆ ตะโกนแล้วเสียงก้องเลย ส่วนข้างนอกนี่ซากุระสวยมาก (มาครั้งแรกนั่งรถบัสแล้วเดินเท้าเอา ปรากฎว่าหลงหาทางเข้าไม่เจอ มารอบสองนี่ขับรถวนจนเจอได้)

*ทิปความรู้ #2*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้างกันๆ นั้นขับรถไป 5 นาที (หรือเดินเอาก็ 30 นาที) ก็จะเป็นบ้านของฮิคาริจัง ต้นแบบก็คือบ้านเกิดของ ท่านคุสุโมโตะ ทันซัน ปราชญ์ลัทธิขงจื้อและนักวิชาการคนสำคัญที่ปฏิรูปการศึกษาให้กับซาเซโบะ เข้าชมฟรีเช่นกันครับ แต่ปรากฎว่าปีที่แล้วไปไม่ทันเวลา ปีนี้ไปแล้วปิดบูรณะยาวถึงปี 2022 ซะงั้น ฮืออออออ T_T

ยังไงก็ดี อ่างอาบน้ำข้างล่างนี่ยังสามารถยังมีระบบน้ำร้อน ใช้อาบได้จริงๆ อยู่นะ (ในอนิเมนี่บ้านกับเครื่องครัวเป็นรุ่นเก่าโบราณปกติธรรมดา แต่พอห้องน้ำนี่ติดกระเบื้องทันสมัยเชียว)

ตัดมาอีกฉากของจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งซึ่ง สามารถมองเห็นอู่ต่อเรือซาเซโบะ (SSK) ได้ชัดเจน และสวยติดอันดับแหล่งแนะนำในซาเซโบะ นั่นก็คือจุดชมวิวยูมิฮาริ

ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่จุดชมวิวจะมีสองส่วน แต่ละส่วนก็สวยกันคนละมุม มาถึงแล้วมีเวลาก็ชื่มชมลมเย็นๆ ซากุระงามๆ แล้วดื่มด่ำกับวิว 99 เกาะให้เต็มที่ 5555

วาร์ปมาส่วนตามรอยที่สุดท้าย นั่นคือบริเวณสะพานไซไก ศาลเจ้าที่ฮิคาริไปฝึกใช้เวทย์กระโดด คือศาลเจ้าชิจิโร่ อยู่ในโซนหมู่บ้านชาวประมง ปัจจุบันเป็นแหล่งตกปลาไปแล้ว

และเป็นจุดที่แข่งขันชิงตำแหน่งคนที่จะได้ประจำการที่ยุโรป จุดเด่นคือประภาคารเล็กๆ ซึ่งมองได้จากบนสะพานไซไก

*ทิปความรู้ #2*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หมดบทซาเซโบะใน 1 ตอนแค่นี้แล้วครับ ^^
บทหน้าเราจะนั่งเรือเครื่องบินไปปราบนิวรอยที่ยุโรปละ

*แปะของแถม #1*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

*แปะของแถม #2*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่