โจเซ่กำลังชิมอาหารของซาดาโกะในห้องครัว ซึ่งนี่ก็เป็นชามที่ 5 แล้ว
ที่กินจุแบบนี้เป็นเพราะเมื่อใช้ความสามารถในการใช้เวทรักษาแล้ว
ร่างกายจะเกิดการเผาผลาญอย่างหนักทำให้น้ำหนักลดลง จึงต้องคอยกินอาหารอยู่เรื่อยๆ

ระหว่างนั้นเองครูปินสกี้ก็ย่องเข้ามาหยอดนิดหน่อย แต่พอฮิคาริเข้ามาโจเซ่กลับเดินหนีในทันที


เช้าวันนี้ทุกคนได้กินอาหารโอราเซียที่ซาดาโกะทำ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีว่าอร่อยมาก
ไม่เพียงแต่อาหารโอราเซียเท่านั้น อาหารฟุโซเองก็ทำได้ดีมากด้วย
แต่มีเพียงโจเซ่ที่กินเสร็จและลุกออกไปก่อน


ฮิคาริกลับมาห้องพบว่ามีคนมาช่วยทำความสะอาดห้องให้อีกแล้ว พอไปดูห้องข้างๆถึงรู้ว่าโจเซ่เป็นคนทำให้
เนื่องจากที่บ้านเปิดเป็นหอพักก็เลยคิดว่าตัวเองน่าจะพอช่วยคนอื่นๆในการทำความสะอาดได้บ้าง



ฮิคาริไปเห็นชั้นหนังสือในห้องพบว่ามีหนังสืออยู่มากมาย จังหวะนั้นคันโนะเข้ามาพอดีแล้วก็โวยวายใหญ่ว่าเห็นอะไรไปแล้วบ้าง
พอรู้ว่าฮิคาริเห็นพวกหนังสือบนชั้นแล้วก็วิ่งไล่ทันที เป็นเพราะว่าคันโนะชอบอ่านพวกวรรณกรรมผู้หญิงซึ่งขัดต่อภาพลักษณ์เถื่อนๆของเธอ
เลยไม่อยากจะให้ฮิคาริรู้ พอวิ่งไล่กวดกันก็ไปชนชั้นหนังสือ คันโนะเลยหัวโนจากการที่โดนสันหนังสือตกใส่


โจเซ่ช่วยทำการรักษาให้คันโนะ ฮิคาริสังเกตเห็นว่าโจเซ่หน้าแดงมากเป็นเพราะร่างกายจะร้อนขึ้นเมื่อใช้เวทรักษา
หลังจากนั้นก็โจเซ่ก็หลบหน้าฮิคาริรีบออกจากห้องไปทันที
ฮิคาริก็เลยโดนคันโนะไล่ออกจากห้องตามไปด้วยเช่นกัน


ที่ห้องยุทธการ รอสมันน์ต้องการให้เพิ่มขอบเขตการลาดตระเวนไปถึงเปโตรซาวอดสค์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
คนที่ต้องทำภารกิจลาดตระเวนในวันนี้คือซาดาโกะและโจเซ่ รอสมันน์เลยให้ฮิคาริตามไปด้วยเพื่อเป็นการฝึกบินระยะไกลไปในตัว


ระหว่างการออกลาดตระเวน ฮิคาริคิดถึงเรื่องตอนที่ใช้ดวงตาเวทครั้งก่อนว่าทำได้ยังไง
เลยพยายามแกว่งแขนไปมาเพื่อพิสูจน์ดูว่าต้องสัมผัสเท่านั้นรึเปล่า

ซาดาโกะมาถามว่ากำลังทำอะไร แต่ฮิคาริต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเลยบอกไปว่าแค่กายบริหารเฉยๆ
ทั้งสองคนคุยกันได้สักพักซาดาโกะก็บอกว่าตัวเองไม่สามารถจัดการกับนิวรอยได้เลย ไม่เหมาะกับ 502 หรอก
แต่โจเซ่บอกว่าไม่ใช่สักหน่อย แล้วก็ขอให้กลับไปจดจ่ออยู่กับภารกิจ



พอเข้าตัวเมืองทุกคนรู้สึกแปลกๆและก็พบกว่าเมืองในเปโตรซาวอดสค์ถูกแช่แข็งหมดแล้ว
ซาดาโกะใช้ดวงตาเวทมองระยะไกลและก็เห็นมีนิวรอยอยู่เหนือเมฆ



โจเซ่พยายามติดต่อฐานแต่วิทยุใช้การไม่ได้ ซาดาโกะเลยตัดสินใจให้เข้าต่อสู้
แต่พอเข้าใกล้นิวรอยแล้วปืนของซาดาโกะและโจเซ่ก็ถูกแช่แข็ง
ฮิคาริที่ตามหลังมาเลยบุกเดี่ยวเข้าไปก็โดนแช่แข็งยูนิตเข้าและร่างกายบ้างส่วนก็โดนน้ำแข็งเกาะด้วยเลยหมดสติแล้วร่วงลงไป
โจเซ่และซาดาโกะที่ยูนิตโดนแช่แข็งเหมือนกันก็ร่วงตาม



ทั้งสองคนไม่เป็นไรแต่ฮิคาริหมดสติไป โจเซ่ดูอาการแล้วพบว่าตัวเย็นมากถ้าปล่อยไว้จะโดนความเย็นกัดเอาได้
เพราะร่างกายบางส่วนถูกแช่แข็งโดยตรง
ซึ่งอาการที่ถูกความเย็นกัด หรือ Frostbite เป็นอาการที่ผิวหนังถูกความเย็นจัด
ทำให้หลอดเลือดหดตัวและเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นได้
ในกรณีที่รุนแรงมากๆเซลล์ส่วนนั้นจะตายและกลายเป็นสีดำๆเหมือนรอยไหม้ครับ
ก็อาจทำให้ต้องตัดอวัยวะที่ตายแล้วทิ้งได้เลย



http://amott.tk/frostbite/

ซาดาโกะโทษตัวเองที่ดันทุรังสนใจแต่จะกำจัดนิวรอย โจเซ่เลยตบเพื่อเรียกสติว่าที่เราต้องทำตอนนี้คือช่วยฮิคาริก่อน

ซาดาโกะเลยพยายามขุดโพรงเพื่อเข้าไปหลบพายุหิมะ ขณะนั้นโจเซ่ก็คอยใช้เวทรักษาให้ความอบอุ่นกับฮิคาริไปด้วย


หลังจากที่ขาดการติดต่อไป 4 ชั่วโมง ที่ฐาน 502 กำลังจะออกไปตามหา แต่เพราะสภาพอากาศเลวร้ายจากพายุหิมะเลยต้องรอคำสั่งไปก่อน

ตรงช่วงนี้ถึงคันโนะจะบ่นที่ทั้งสามคนทำให้เป็นห่วงแต่นิป้าสวนมาว่าคันโนะนั่นแหละรีบมาสวมยูนิตเป็นคนแรกเลย


ฮิคาริตื่นขึ้นมาพบว่าทั้ง 3 คนเหลือแต่ชุดชั้นในเพื่อให้ร่างกายได้แบ่งปันความอบอุ่นให้กันได้โดยตรง และก็เพื่อไม่ให้อุณภูมิร่างกายลดลงจากการสวมเสื้อผ้าที่เปียกหิมะด้วย

ซึ่งตลอดทั้งคืนโจเซ่คอยใช้เวทรักษาให้ความอบอุ่นกับฮิคาริมาตลอดทำให้ฮิคาริรอดตายมาได้


โจเซ่เผยว่าเพราะก่อนหน้านี้ตัวเองช่วยรักษาทาคามิไม่ได้ก็เลยรู้สึกผิด อยากจะขอโทษฮิคาริแต่ก็ไม่กล้าพอเลยหลบหน้ามาตลอด
ตัวฮิคาริเองก็ขอบคุณโจเซ่เพราะถ้าไม่ได้โจเซ่ทาคามิคงตายไปแล้ว


ซาดาโกะใช้ดวงตาเวทออกมามองหาว่าบริเวณโดยรอบมีอะไรบ้าง
ฮิคาริถามโจเซ่ว่าเราจุดไฟกันไม่ได้เหรอ โจเซ่บอกเพราะไม่มีอะไรจะเอามาเป็นเชื้อไฟได้ (พวกเศษไม้เปียกหิมะกันหมด)


ซาดาโกะเจอปืนของฮิคาริแต่ว่าลำกล้องงอไปแล้วทำให้ยิงไม่ได้


แต่จากการที่ซาดาโกะออกไปค้นหาเมื่อกี้ก็เลยได้เจอกับรถถังของโอราเซียเข้า ทั้ง 3 เลยเข้าไปหลบข้างใน



ซาดาโกะทำการจุดไฟจากเปลือกต้นเบิร์ช เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ภายในเปลือกไม้ทำให้จุดไฟได้แม้จะเปียกก็ตาม
ที่ซาดาโกะรู้อะไรหลายๆอย่างเพราะมีพ่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ เมื่อก่อนตอนเข้าไปในห้องทดลองกับพ่อเลยได้หยิบจับและเรียนรู้อะไรหลายอย่าง

ระหว่างนั้นโจเซ่ก็ท้องร้องเพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแถมยังใช้พลังเวทไปเยอะด้วย แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีบิสกิตอยู่เลยเอามาแบ่งกันกิน


ที่ 502 ซึ่งขาดคนทำอาหารไปก็เลยให้ครูปินสกี้ทำแทนแต่กลับออกมารสชาติไม่ได้เรื่อง
โดยเจ้าตัวนำคาร์เวียของรอสมันน์มาปรุงซะเกลี้ยงจนเสียของหมด รอสมันน์เลยโมโหเรียกครูปินสกี้ว่าขุนนางกำมะลอ



*สำหรับชื่อเล่นของครูปินสกี้ที่ได้มาตั้งแต่ตอนอยู่ JG52 คือ เกรฟิน (Gräfin) ซึ่งเป็นคำเรียกผู้หญิงที่ได้บรรดาศักดิ์กราฟ (Graf) ตามแบบเยอรมันครับ
ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์เทียบเท่าเคานท์หรือเอิร์ล เพราะลักษณะท่าทางการพูดจาเลยทำให้ได้รับฉายานี้มาแต่ในความเป็นจริงเจ้าตัวไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น Gräfin แต่อย่างใด

เรื่องนี้นักบินต้นแบบอย่างวาลเตอร์ ครูปินสกี้เองก็เคยได้รับชื่อเล่นว่ากราฟ ปินสกี้เช่นกันครับ

http://ww2gravestone.com/people/skrupinski-walter-graf-punski/


ส่วนราลเห็นนิ่งๆแต่ถึงกับบอกว่ามะซุยเลยทีเดียว ซึ่งเป็นคำว่าไม่อร่อยในระดับที่ว่าห่วยจนกินไม่ลง



กลับมาที่กลุ่มฮิคาริ
ทั้ง 3 คุยกันเรื่องนิวรอยที่ทำให้เกิดพายุหิมะ เพราะนิวรอยปล่อยละอองเย็นจัดออกมา ไอน้ำต่างๆบนเมฆเลยเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็งและตกลงมาเป็นพายุหิมะ ซึ่งทุกคนไม่มีใครรู้มาก่อนว่านิวรอยทำอะไรแบบนี้ได้


เช้าวันรุ่งขึ้น พายุหิมะสงบแล้ว แต่เคลื่อนตัวไปยังปีเตอร์สเบิร์กพร้อมนิวรอยแทน
และคิดว่าทางปีเตอร์สเบิร์กเองก็ไม่น่าจะรู้ว่าเป็นฝีมือของนิวรอยด้วย ซาดาโกะเลยบอกว่ามีเพียงพวกเรากลุ่มเดียวที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นต้องจัดการนิวรอยซะก่อนที่จะบุกถึงฐาน