เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่นักเคลื่อนไหวกลุ่มไหน คนไหนที่ลงไป แต่ก็ขออยากเตือนสติกันสักหน่อยว่า ...
"ถ้าไม่อยากให้ประเทศไทยเป็น Fail State เหมือนประเทศเวเนซุเอลา" ก็ไม่ควรที่จะอาศัยจังหวะนี้เข้ามาตักตวงผลประโยชน์เพื่อตนเอง และเพื่อพวกพ้อง
ขอให้หยุดได้แล้ว เพราะถ้าพี่ๆ มัวแต่จะเข้ามาสร้างปัญหาเพิ่ม หัวชนฝาในความคิดของฝ่ายตนเพียงฝ่ายเดียว ในไม่ช้าประเทศไทยคงเป็น รัฐที่ล้มเหลว ในที่สุด
การที่พี่จะออกมาสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองอีกในช่วงนี้ คงไม่ใช่โอกาสอันดีสักเท่าไหร่ เพราะแค่สภาวะการเมืองไทยก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ถ้าพี่ยังออกมาซ้ำเติมให้เศรษฐกิจของประเทศ และความไม่รู้ของชาวบ้านนอกพื้นที่อีก Fail State ของชาติก็คงอยู่อีกไม่ไกลแล้ว
ขนาดประเทศเวเนซุเอลา เป็นประเทศที่มีการส่งออกน้ำมันร้อยละ 95 มีทรัพยากรน้ำมันจำนวนมาก ในระดับที่มากกว่าซาอุดิอาระเบีย ก็ยังสามารถทำให้ประเทศเกิดวิกฤตขาดแคลน จนทำให้เกิดเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับประเทศไทย
ถ้าหากยังไม่คิดจะหยุด ... ประเทศไทยอาจจะเป็นรายต่อไป !!!
จากกรณีที่
ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตโครงการยานยนต์ไฟฟ้า อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความ ตร. หลังพบมีป้ายต่อต้านผุดกลางพื้นที่โครงการ ชาวบ้านยันเป็นฝีมือนักเคลื่อนไหวไม่เอาอีอีซี ทั้งที่ชาวบ้านพื้นที่ต้องการให้ลูกหลานมีงานทำ
เนื่องจากมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการพัฒนาพื้นที่ในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เข้ามารบกวนสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว ด้วยการนำแผ่นป้ายข้อความต่อต้านและขับไล่เข้ามาติดตั้งภายในพื้นที่โครงการ จึงได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับคนงานของบริษัทฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยขณะทำการรื้อถอนแผ่นป้ายดังกล่าวออกจากพื้นที่
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า การนำป้ายต่อต้านเข้ามาติดในพื้นที่ของบริษัทดังกล่าว น่าจะเป็นการกระทำของคนนอกพื้นที่ที่มีอาชีพเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อต้องการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการ ในขณะที่ชาวบ้านเขาดินส่วนใหญ่ต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้มีงานทำใกล้บ้าน และยังจะทำให้พื้นที่ชุมชนมีการพัฒนา
หรืออย่างกรณีของชาวบ้าน อ.เขาดิน อ.บางปะกง ที่เคยเช่าที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นพื้นที่ทำกิน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วทางเจ้าของที่ดินได้ขายที่ให้กับนิคมบูลเทคซิตี้ ทางนิคมยังต้องมารับผิดชอบดูแลในการปลูกบ้านในที่ดินจัดสรรกว่า 50 แปลง ครอบครัวละ 50 ตารางเมตร
เพราะพวกพี่อาศัยความไม่รู้ของชาวบ้าน ออกมาให้ข้อมูลที่ผิดๆ จริงบางส่วน ผสมข้อมูลมั่วบางส่วน จนทำให้เกิดความสับสน ความเข้าใจผิด และความกลัว จนทำให้เอกชนหลายรายต้องตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น
บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ที่ปรึกษาโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ หรือกรณีของชาวบ้านโยธะกา ที่ถูกให้ข้อมูลมั่วว่า
"ซีพีจะนำที่ดินราชพัสดุที่อำเภอโยธะกา 4,000 ไร่ มาทำเป็น Smart City" จนทำให้คสช. จนถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือสำนักงานอีอีซี หรือแม้แต่ทางเอกชน บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพี ต่างก็ต้องออกมาชี้แจงกันเป็นแถวๆ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น
นักเคลื่อนไหวนอกพื้นที่ที่ไม่เอาอีอีซี ... "เค้าคือใคร ? "
ขอให้หยุดได้แล้ว เพราะถ้าพี่ๆ มัวแต่จะเข้ามาสร้างปัญหาเพิ่ม หัวชนฝาในความคิดของฝ่ายตนเพียงฝ่ายเดียว ในไม่ช้าประเทศไทยคงเป็น รัฐที่ล้มเหลว ในที่สุด
ขนาดประเทศเวเนซุเอลา เป็นประเทศที่มีการส่งออกน้ำมันร้อยละ 95 มีทรัพยากรน้ำมันจำนวนมาก ในระดับที่มากกว่าซาอุดิอาระเบีย ก็ยังสามารถทำให้ประเทศเกิดวิกฤตขาดแคลน จนทำให้เกิดเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับประเทศไทย
จากกรณีที่ ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตโครงการยานยนต์ไฟฟ้า อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความ ตร. หลังพบมีป้ายต่อต้านผุดกลางพื้นที่โครงการ ชาวบ้านยันเป็นฝีมือนักเคลื่อนไหวไม่เอาอีอีซี ทั้งที่ชาวบ้านพื้นที่ต้องการให้ลูกหลานมีงานทำ
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า การนำป้ายต่อต้านเข้ามาติดในพื้นที่ของบริษัทดังกล่าว น่าจะเป็นการกระทำของคนนอกพื้นที่ที่มีอาชีพเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อต้องการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการ ในขณะที่ชาวบ้านเขาดินส่วนใหญ่ต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้มีงานทำใกล้บ้าน และยังจะทำให้พื้นที่ชุมชนมีการพัฒนา
หรืออย่างกรณีของชาวบ้าน อ.เขาดิน อ.บางปะกง ที่เคยเช่าที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นพื้นที่ทำกิน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วทางเจ้าของที่ดินได้ขายที่ให้กับนิคมบูลเทคซิตี้ ทางนิคมยังต้องมารับผิดชอบดูแลในการปลูกบ้านในที่ดินจัดสรรกว่า 50 แปลง ครอบครัวละ 50 ตารางเมตร
เพราะพวกพี่อาศัยความไม่รู้ของชาวบ้าน ออกมาให้ข้อมูลที่ผิดๆ จริงบางส่วน ผสมข้อมูลมั่วบางส่วน จนทำให้เกิดความสับสน ความเข้าใจผิด และความกลัว จนทำให้เอกชนหลายรายต้องตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ที่ปรึกษาโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ หรือกรณีของชาวบ้านโยธะกา ที่ถูกให้ข้อมูลมั่วว่า "ซีพีจะนำที่ดินราชพัสดุที่อำเภอโยธะกา 4,000 ไร่ มาทำเป็น Smart City" จนทำให้คสช. จนถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือสำนักงานอีอีซี หรือแม้แต่ทางเอกชน บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพี ต่างก็ต้องออกมาชี้แจงกันเป็นแถวๆ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น