คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จะเห็นว่า คำ “สาธิกํ” นี้มีความหมายตรงกับ เท่ากับ หรือในจำพวกเดียวกับ “สาติเรก” (มีส่วนเกิน) “ปโร” (กว่า) “อุตฺตรึ” (เพิ่มขึ้นไป) บางทีมาด้วยกันดังเป็นชุด บางทีก็ใช้อธิบายกัน
“สาธิกํ” คือ “สห+อธิก” แปลว่า พร้อมด้วยส่วนที่เกิน มีข้อที่มากขึ้นไป หรือมีเศษ
บาลีพุทธวจนะตรงนี้จึงแปลว่า “สิกขาบท 150 กับทั้งที่เกินออกไป นี้” หรือแปลสั้นๆ ว่า “สิกขาบท 150 มีเศษ นี้”
อรรถกถาถึงจะไม่อธิบายศัพท์ “สาธิกํ” ก็อธิบายความต่อไปว่า (องฺ.อ.2/239) “ที่ตรัสไว้ดังนี้ ทรงหมายถึงสิกขาบทที่ได้ทรงบัญญัติแล้ว
ในเวลา (ที่พระวัชชีบุตรทูลถาม) นั้น” แล้วฎีกายังบอกต่อไปอีกว่า
(ม.ฏี.2/300) “พุทธพจน์นี้ ตรัสตามจำนวนสิกขาบทที่ได้ทรงบัญญัติแล้ว
ในเวลาที่ทรงแสดงพระสูตรนั้น แต่หลังจากนั้น มีสิกขาบท 200 มีเศษ
‘สาธิกานิ ทฺเวสตานิ’
ท่านผู้ใดไม่ฟังอรรถกถา-ฎีกา ก็ไม่เป็นไร เพราะตัวคำศัพท์ในบาลีพุทธวจนะนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ก็เป็นอันว่า พระไตรปิฎกภาษาไทยแปลบาลีพุทธพจน์ตรงนี้พลาด หรือพลั้งเผลอไป
ที่มา: http://www.alittlebuddha.com/html/Special%20Event/Buddhavajana.html
“สาธิกํ” คือ “สห+อธิก” แปลว่า พร้อมด้วยส่วนที่เกิน มีข้อที่มากขึ้นไป หรือมีเศษ
บาลีพุทธวจนะตรงนี้จึงแปลว่า “สิกขาบท 150 กับทั้งที่เกินออกไป นี้” หรือแปลสั้นๆ ว่า “สิกขาบท 150 มีเศษ นี้”
อรรถกถาถึงจะไม่อธิบายศัพท์ “สาธิกํ” ก็อธิบายความต่อไปว่า (องฺ.อ.2/239) “ที่ตรัสไว้ดังนี้ ทรงหมายถึงสิกขาบทที่ได้ทรงบัญญัติแล้ว
ในเวลา (ที่พระวัชชีบุตรทูลถาม) นั้น” แล้วฎีกายังบอกต่อไปอีกว่า
(ม.ฏี.2/300) “พุทธพจน์นี้ ตรัสตามจำนวนสิกขาบทที่ได้ทรงบัญญัติแล้ว
ในเวลาที่ทรงแสดงพระสูตรนั้น แต่หลังจากนั้น มีสิกขาบท 200 มีเศษ
‘สาธิกานิ ทฺเวสตานิ’
ท่านผู้ใดไม่ฟังอรรถกถา-ฎีกา ก็ไม่เป็นไร เพราะตัวคำศัพท์ในบาลีพุทธวจนะนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ก็เป็นอันว่า พระไตรปิฎกภาษาไทยแปลบาลีพุทธพจน์ตรงนี้พลาด หรือพลั้งเผลอไป
ที่มา: http://www.alittlebuddha.com/html/Special%20Event/Buddhavajana.html
แสดงความคิดเห็น
พระคึกฤทธิ์สวดปาติโมกข์ 150...ไม่ใช่ตัวจริงของเดิมในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ
ที่มา: http://www.alittlebuddha.com/html/Special%20Event/Buddhavajana.html